ขอแก้ไข และใส่ดอกจันกับกระทู้ของตัวเองหน่อยนะคะ ***
แม้ว่า กระทู้นี้จะเป็นกระทู้แนวอบอุ่นหวานละมุน
แต่ดิฉันเพิ่งทราบจากความเห็นข้างล่าง (คห.ที่ 33) เกี่ยวกับข่าวลือในอดีตที่ไม่ดีของปู่ทวดเคิร์กที่พูดกันหนาหูมาก
เพราะงั้นขอแสดงความรับผิดชอบนิดนึง ด้วยการใส่ดอกจันไว้ตัวโต ๆ หน้าหัวกระทู้นะคะว่า
"พิจารณารอบ ๆ ด้านนะคะ สำหรับเนื้อหา "
ได้อ่านบทความเรื่อง The love letters that finally tamed serial seducer จากเว็บหนังสือพิมพ์ dailymail ที่ส่งมาทางฟีดหน้าเฟซ
ซึ่งเป็นเรื่องของคุณทวดชาย เคิร์ก ดักลาส (เรียกคุณทวดได้แล้วมังคะ ท่านปีนี้ อายุร้อยปีแล้ว) ที่อยู่กินกันกับคุณทวดหญิง แอน (อายุ 98) มาถึง 63 ปีแล้ว
คิดว่าน่าสนใจ และมีประเด็นอะไรหลาย ๆ อย่างให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้เยอะแยะมากมาย
เลยจะขอเก็บความมาเม้าธ์ มาเล่า มาแชร์กันในวงพันทิปซะหน่อยนะคะ
ใครอยากอ่านเต็ม ๆ ไปตามลิ้งค์นี้ได้เลย
http://www.dailymail.co.uk/news/article-4500990/The-love-letters-tamed-serial-seducer-Kirk-Douglas.html
Brimming with passion, the love letters that finally tamed serial seducer Kirk Douglas and led to a marriage still going strong after 63 years
• Kirk Douglas, 100, has been together with his wife Anne, 98, for 63 years
• But when they met, Kirk was in love with another woman, and Anne was married to the man who helped her to escape from the Nazis during World War II
• Their lasting relationship is revealed in Kirk And Anne, a collection of letters
By Christopher Stevens for the Daily Mail
Published: 22:03 BST, 12 May 2017 | Updated: 01:03 BST, 13 May 2017
คุณทวดเคิร์กดักลาส เป็นคุณพ่อของนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง ไมเคิล ดักลาส ตัวเคิร์กเอง ก็เป็นดาราดังที่คนในสมัยคุณปู่คุณย่าเรารู้จักกันดี หนังคลาสสิคหลาย ๆ เรื่องอย่าง Spartacus ก็มีทวดเคิร์กนี่ล่ะค่า เป็นพระเอก
ด้วยความเคารพ สำหรับ กระทู้นี้ ดิฉันจะขอเรียกสั้น ๆ ว่า เคิร์ก กับ แอน แล้วกันนะคะ เล่าเรื่องย้อนเวลาไปสมัยท่านยังหนุ่มยังสาว คำก็ทวด สองคำก็ทวด ฟังแล้วตะเตือนไตไม่สดใสซาบซ่าน
เคิร์ก ดักลาส ปีนี้ อายุ 100 ปี อยู่กินกับแอน (อายุ 98) มาถึง 63 ปี ถือว่า เป็นไม้เท้ายอดทอดกระบองยอดเพชรในฮอลลีวูดก็ว่าได้ทีเดียว
อะ ลงรูปให้ดูว่า เค้าหล่อจริงไรจริงนะเนี่ย รูปนี้เป็นรูปเคิร์กกับแอนถ่ายในปี 1965 ที่บ้านในฮาวายอินะคะ
เบื้องลึกเบื้องหลังความอร่อย เอ้ย...ความสัมพันธ์ของเคิร์กและแอน อยู่ในคอลเลคชั่นของจดหมายรักที่ทั้งสองเขียนให้กันตลอดระยะเวลาที่อยู่กินกันมา
ก่อนที่ทั้งสองจะร่วมหอลงโรงกันนั้น เคิร์กเป็นบุรุษรูปงาม เนื้อหอม เป็นพระเอกดังในฮอลลีวูด มีรอยบุ๋มลักยิ้มใต้คางเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ใครต่อใครจดจำรูปลักษณ์เปี่ยมเสน่ห์ของเขาได้
เคิร์กแต่งงานแล้ว หย่าแล้ว มีลูกติดคือ ไมเคิล ดักลาส และกำลังอินเลิฟร้อนแรงกับดาราสาวน้อยวัยขบเผาะแสนสวย Pier Angeli อายุเพียง 21 ปี อ่อนกว่าเขาถึง 16 ปี
ส่วนแอน แต่งงานแล้วกับผู้ชายคนหนึ่งที่ช่วยเธอให้หลบหนีนาซีออกมาระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การแต่งงานกับเขาจึงเสมือนการแทนคุณที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้
แต่ท้ายที่สุด ทั้งสองก็ได้มาเจอกัน และมารักกัน
จดหมายรักตลอดระยะเวลายาวนานที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันและได้เขียนถึงกัน เผยให้เห็นถึงเรื่องน่าประทับใจ ความหวานชื่น แต่ก็ชี้ให้เห็นว่า ทั้งสองมีมุมมองต่อเรื่องเดียวกันที่แตกต่างกันมากมายเมื่อมองย้อนกลับไปในเหตุการณ์ ณ ขณะนั้น ๆ
เคิร์ก พบแอนในปี 1953 ตอนที่ แอนทำงานเป็นล่ามและผู้ฝึกสอนด้านภาษาให้กับเคิร์กที่ประเทศฝรั่งเศส เขากล้าฟันธงไปเลยว่า หลังจากที่ได้คุยกัน ... แอนก็หลงคารมและตกหลุมรักเขาในช่วงนั้น
เคิร์กเล่าว่า
“คุณตกหลุมรักผมในบ่ายวันหนึ่งในกรุงปารีส ในอพาร์ทเมนต์ผมใกล้ ๆ บัวส์เดอ บูโลญจน์ ขณะที่ผมกำลังคุย
ผมเกือบจะพูดอยู่คนเดียวทั้งหมด และคุณก็ฟัง ผมรู้สึกว่า บางส่วนในใจคุณที่ปิดตายอยู่เป็นเวลานานได้เริ่มเปิดออก กระทั่งผมเห็นว่าคุณเปิดรับผมในทุกขุมขน ... ทุกส่วนของคุณพร้อมที่จะรับผมอย่างเต็มที่”
ฟังดูคุย ๆ ใช่ไหมคะท่านผู้โช้ม....
แต่พระเอกของเราแกมั่นใจในสเน่ห์ตัวเองค่ะ ... ถึงจะเป็นพ่อหม้ายหย่าเมีย ... แต่เคิร์กก็เป็นที่รู้จักกันในวงการจอเงินว่าเป็น เสือผู้หญิงตัวพ่อ
แอนขอค้านค่ะ ...
เธอจำได้ว่า เธอในตอนนั้น คิดว่า เป็นเรื่องอันตรายที่จะตกหลุมรักพ่อขุนแผนเมืองลุงแซมคนนี้นะคะ
แอนเล่าว่า
“ฉันได้เห็นผู้หญิงสาว ๆ จำนวนมากมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับพวกดาราที่มาถ่ายหนัง --- ดีน มาร์ตินเอย มาร์ลอน แบรนโดเอย แครี แกรนท์เอย ... หลังจากถ่ายหนังจบ หนุ่ม ๆ พวกนี้ก็กลับบ้านไปหาภรรยาและครอบครัว”
เห็นไหมคะ
เรื่องเดียวกัน ... ก็ยังรำลึกกันได้คนละมุมมอง ...
มาต่อค่ะ
อ้าว... แล้วไปตกหลุมรักเค้าตอนไหนล่ะ
ตอนงานกาล่าดินเนอร์แห่งหนึ่งค่ะ สองคนนี้ได้รับเชิญไปร่วมงานด้วยกัน มีช่วงงานที่เป็นโชว์ละครสัตว์ฤดูหนาวในปารีสด้วย
เคิร์กได้รับเชิญให้เข้าร่วมแสดง --- ก่อนหน้านั้น เคิร์กเคยแสดงในบทบาทเล่นกายกรรมในหนังมาก่อน มาคราวนี้ ก็เลยได้รับเชิญให้ไปร่วมแจมสดบนเวที ... เอาล่ะซี ไม่ได้เตรียมมาก่อน จะให้ทำไงเนี่ย ...
พระเอกของเราในชุดทักซีโด้อย่างหล่อโก้ เนี้ยบกริบแห่งฮอลลีวูดของเรา ไม่ได้เตรียมมาก่อนจะให้ทำไงล่ะค้าบ... คนคุมเวทีก็ปล่อยช้างเข้าเวทีมาแล้วด้วย ... ลงเอย ด้วยการที่คนหล่อของเราได้แต่ถือปุ้งกี๋กับไม้กวาดอันใหญ่ยักแย่ยักยันเป็นตัวตลกอยู่บนเวที
แอนเล่าต่อว่า “ฉันจะอดไม่รัก ผู้ชายคนที่จะหัวเราะให้ตัวเองได้หรือ” เราไปที่ที่พักเขาดื่มอะไรก่อนนอน ซึ่งก็ได้กลับกลายเป็นอะไรที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น
ตอนนั้น แอนเองก็ยังไม่พร้อมสำหรับสัมพันธภาพที่จริงจัง ส่วนเคิร์กเองก็ยังหมั้นกับดาราสาวน้อยวัย 21 พีเอ แองเจลี ซึ่งอายุน้อยกว่าเขาถึง 16 ปี
ลงรูปให้ดูนะคะ
พีเอ เป็นสาวน้อยพรหมจารีที่ร่วมแสดงหนังกับเคิร์ก ...ไปเที่ยวไหนกับเคิร์กก็ต้องมีแม่คอยไปด้วยเป็นพี่เลี้ยง เคิร์กตาบอดกับความรักหลงครั้งนี้มาก จนไม่ได้เหลือบตาดูเรื่องซุบซิบทางหน้านิตยสารเลยว่า พีเอเธอก็ยัง “คุย “ กับหนุ่ม ๆ คนอื่นเยอะแยะไปหมด
หลังจากเคิร์กหย่ากับไดแอน แม่ของไมเคิล ในปี 1951 เขาก็มีความสัมพันธ์กับสาว ๆ ทั่วไปหมด ทั้งนางเอกตัวแม่อย่าง จีน เทียร์นีย์ หรือ ทายาทเศรษฐีน้ำมัน ไอรีน ไรท์สแมน ซึ่งเคิร์กเลิกกับเธอ เพราะวันหนึ่ง เกิดกลับบ้านเร็ว ไปเห็นตำตาว่าไอรีนอยู่บนเตียงกับ ซิดนีย์ ... น้องชายของชาร์ลี แชปลิน
ตอนพีเอ แองเจลีไม่อยู่ เคิร์กก็ใช้เวลาเที่ยวกับแอนแถวทางใต้ของฝรั่งเศสและอิตาลี เคิร์กเขียนเล่าไว้ว่า
“เรามีช่วงวันหยุดที่โรแมนติคสุดอัศจรรย์ด้วยกัน ... ในช่วงอาทิตย์นั้น ผมกับแอนก็จะออกไปแจวเรือกัน เธอแจว ส่วนผมร้องเพลงรักภาษาอิตาเลียน ... เราต่างมีความสุขกับกันและกันมาก”
“แต่ห้ามลืมนะ ... “ ผมเตือนแอนอย่างอ่อนโยน “ยังไงผมก็จะต้องแต่งงานกับพีเอ”
ต่อมาเคิร์กกล่าวว่า “ผมไม่อยากเชื่อว่า ผมจะไม่คำนึงถึงจิตใจเธอขนาดนั้น ... ผมยังขอให้แอนมาที่ร้านบุลการี ช่วยเลือกแหวนหมั้นที่ผมจะเอาไปหมั้นพีเอให้ด้วย”
ร้ายไหมล่ะคะ ?
ถามว่าทีนี้แอนทำไง ... ทีเด็ดของแอนอยู่ตรงนี้เลยค่ะ ... เธอฉลาดพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
และนี่คือกุญแจสู่ความลับว่า ทำไมเธอถึงเอาเพลย์บอยตัวพ่ออยู่
แอนสงบนิ่ง และรู้ด้วยสัญชาตญาณว่า ถ้าเธอพยายามที่จะหยุดความโลดโผนโจนทะยานในเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของเคิร์ก ... เขาจะหายหัวไปแน่นอน ...
พ่อหนุ่มหล่อคนนี้ มีผู้หญิงหลายคนที่เต็มใจจะรักเขา ... แต่เขาต้องการคนที่พร้อมจะรักเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
หลังจากที่แอนกับเคิร์กสนิทสนมกับมากขึ้น เคิร์กก็เริ่มเล่าเรื่องตอนเด็ก ๆ ของเขาให้แอนฟัง ตั้งแต่ การโตมาในย่านคนจนในนิวยอร์ค แม่เคิร์คหนีจากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในรัสเซียมาอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษ และแม่ยังไม่เคยลืมความน่าสะพรึงกลัวที่เห็นพี่ชายถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา
พ่อเคิร์กเป็นขี้เหล้าและทิ้งครอบครัวไป ตอนเด็ก ๆ ครอบครัวเคิร์กหิวโหยตลอด แม่เคิร์กเล่าว่า เคิร์กถูกส่งลงมาจากสวรรค์ตอนเด็ก ๆ ในกล่องทองคำ แม่คืนกล่องทองคำไป เพราะแม่ต้องการเพียงเคิร์กเท่านั้น
ตอนนั้น เคิร์กอายุประมาณ 30 ปลาย ๆ แล้ว ตอนเขาพบแอน แต่เคิร์กก็ยังเป็นคนที่เสาะแสวงหาความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดและเป็นความรักที่พร้อมจะให้อภัยตลอดเวลา แอนรู้ดีว่า เคิร์กไม่มีทางได้สิ่งนั้นจาก พีเอ แองเจลีแน่ ๆ
แอน เธอใจกว้างเรื่องพวกนี้ เธอบอกว่า
เคิร์กไม่เคยปิดเรื่องเจ้าชู้กุ๊กกิ๊กกับเธอเลย เขาจะเล่าให้เธอฟังเพราะไม่ต้องการให้เธอไปอ่านเอาจากพวกซุบซิบกระจิบข่าว
แอนเองก็ใจกว้างราวแม่น้ำ เธอบอกว่า
“ในฐานะที่ดิฉันเป็นคนยุโรป ดิฉันเข้าใจว่า การหวังเอาความซื่อสัตย์ทั้งหมดทุกเรื่องเป็นการคาดหวังที่เหนือจริง”
ด้วยความที่ชีวิตผ่านอะไรมามาก แอนจึงเป็นคนมองขาดเรื่องความสัมพันธ์
แอนเกิดในปี 1918 ที่ฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมัน ในครอบครัวชาวยิวฐานะดีครอบครัวหนึ่ง เธอเอาตัวรอดหลบหนีออกมาจากยุโรปได้ และถูกบีบให้ต้องแต่งกับอัลเบิร์ต บายเดน ผู้พาเธอหนีออกมา ตอนนั้น แอนคิดว่า เธอจะขอหย่าได้ภายใน 1 ปี แต่บายเดน ขอให้แอนต้องชดใช้ ซึ่งเธอไม่มีเงินจ่าย
ช่วงทศวรรษที่ 50 แอนจึงต้องเป็นเมียเก็บของนักอุตสาหกรรมผู้ร่ำรวยคนหนึ่ง ... เป็นการแต่งงานที่ปราศจากความรัก ...
โดยพื้นฐานเช่นนี้เอง แอนจึงมองเกมส์ขาดว่า ความลุ่มหลงของเคิร์กที่มีต่อแองเจลีไม่ช้าก็จะดับมอดลง ...
มื้อดินเนอร์ที่ภัตตาคาร ลาทูร์ ดาร์ชอง ในคืนปีใหม่ที่ปารีสปีหนึ่ง
แองเจลี มาดินเนอร์กับเคิร์กตามลำพัง แม่ไม่ได้ตามมาด้วย ... และเช่นกัน ไม่มีความพิศวาสระหว่างทั้งสองอีกต่อไป ไม่มีเคมีระหว่างทั้งคู่ ไม่มีความวาบหวาม แองเจลีคืนแหวนให้เคิร์ก
เคิร์กแทบรอที่จะบอกแอนไม่ได้เลย
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็แต่งงานกันใช่ไหมคะ ?
ยังก่อนค่ะ ยังไม่แต่ง ...
อีกหนึ่งปีผ่านไป ยังไม่มีคำขอแต่งงานจากเคิร์ก ...
แอนตัดสินใจ ยื่นคำขาด ... เธอบอกว่า
“ฉันจะตัดคุณออกจากชีวิต ฉันเป็นผู้หญิง ไม่ใช่เด็กสาวน้อย ฉันอนุญาตให้คุณปั่นหัวเล่นมาแล้ว ถ้าฉันไม่อยากเจ็บปวดตลอดไป ฉันจะต้องหยุดไว้แค่นี้ หนึ่งบวกหนึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องได้สอง ... มันอาจจะไม่ได้อะไรเลยก็ได้”
‘
I will take you out of my life,’ she warned. ‘I am a woman — not a little girl ... I allowed you to push me around emotionally, and if I don’t want to get hurt for good, I have to stop.
‘One and one does not always make two. It can also make nothing.’
“จดหมายรัก” ที่ปราบเสือผู้หญิงตัวพ่อ --- เรื่องเล่าจากเพลย์บอยวัยทวด
แม้ว่า กระทู้นี้จะเป็นกระทู้แนวอบอุ่นหวานละมุน
แต่ดิฉันเพิ่งทราบจากความเห็นข้างล่าง (คห.ที่ 33) เกี่ยวกับข่าวลือในอดีตที่ไม่ดีของปู่ทวดเคิร์กที่พูดกันหนาหูมาก
เพราะงั้นขอแสดงความรับผิดชอบนิดนึง ด้วยการใส่ดอกจันไว้ตัวโต ๆ หน้าหัวกระทู้นะคะว่า
"พิจารณารอบ ๆ ด้านนะคะ สำหรับเนื้อหา "
ได้อ่านบทความเรื่อง The love letters that finally tamed serial seducer จากเว็บหนังสือพิมพ์ dailymail ที่ส่งมาทางฟีดหน้าเฟซ
ซึ่งเป็นเรื่องของคุณทวดชาย เคิร์ก ดักลาส (เรียกคุณทวดได้แล้วมังคะ ท่านปีนี้ อายุร้อยปีแล้ว) ที่อยู่กินกันกับคุณทวดหญิง แอน (อายุ 98) มาถึง 63 ปีแล้ว
คิดว่าน่าสนใจ และมีประเด็นอะไรหลาย ๆ อย่างให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้เยอะแยะมากมาย
เลยจะขอเก็บความมาเม้าธ์ มาเล่า มาแชร์กันในวงพันทิปซะหน่อยนะคะ
ใครอยากอ่านเต็ม ๆ ไปตามลิ้งค์นี้ได้เลย
http://www.dailymail.co.uk/news/article-4500990/The-love-letters-tamed-serial-seducer-Kirk-Douglas.html
Brimming with passion, the love letters that finally tamed serial seducer Kirk Douglas and led to a marriage still going strong after 63 years
• Kirk Douglas, 100, has been together with his wife Anne, 98, for 63 years
• But when they met, Kirk was in love with another woman, and Anne was married to the man who helped her to escape from the Nazis during World War II
• Their lasting relationship is revealed in Kirk And Anne, a collection of letters
By Christopher Stevens for the Daily Mail
Published: 22:03 BST, 12 May 2017 | Updated: 01:03 BST, 13 May 2017
คุณทวดเคิร์กดักลาส เป็นคุณพ่อของนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง ไมเคิล ดักลาส ตัวเคิร์กเอง ก็เป็นดาราดังที่คนในสมัยคุณปู่คุณย่าเรารู้จักกันดี หนังคลาสสิคหลาย ๆ เรื่องอย่าง Spartacus ก็มีทวดเคิร์กนี่ล่ะค่า เป็นพระเอก
ด้วยความเคารพ สำหรับ กระทู้นี้ ดิฉันจะขอเรียกสั้น ๆ ว่า เคิร์ก กับ แอน แล้วกันนะคะ เล่าเรื่องย้อนเวลาไปสมัยท่านยังหนุ่มยังสาว คำก็ทวด สองคำก็ทวด ฟังแล้วตะเตือนไตไม่สดใสซาบซ่าน
เคิร์ก ดักลาส ปีนี้ อายุ 100 ปี อยู่กินกับแอน (อายุ 98) มาถึง 63 ปี ถือว่า เป็นไม้เท้ายอดทอดกระบองยอดเพชรในฮอลลีวูดก็ว่าได้ทีเดียว
อะ ลงรูปให้ดูว่า เค้าหล่อจริงไรจริงนะเนี่ย รูปนี้เป็นรูปเคิร์กกับแอนถ่ายในปี 1965 ที่บ้านในฮาวายอินะคะ
เบื้องลึกเบื้องหลังความอร่อย เอ้ย...ความสัมพันธ์ของเคิร์กและแอน อยู่ในคอลเลคชั่นของจดหมายรักที่ทั้งสองเขียนให้กันตลอดระยะเวลาที่อยู่กินกันมา
ก่อนที่ทั้งสองจะร่วมหอลงโรงกันนั้น เคิร์กเป็นบุรุษรูปงาม เนื้อหอม เป็นพระเอกดังในฮอลลีวูด มีรอยบุ๋มลักยิ้มใต้คางเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ใครต่อใครจดจำรูปลักษณ์เปี่ยมเสน่ห์ของเขาได้
เคิร์กแต่งงานแล้ว หย่าแล้ว มีลูกติดคือ ไมเคิล ดักลาส และกำลังอินเลิฟร้อนแรงกับดาราสาวน้อยวัยขบเผาะแสนสวย Pier Angeli อายุเพียง 21 ปี อ่อนกว่าเขาถึง 16 ปี
ส่วนแอน แต่งงานแล้วกับผู้ชายคนหนึ่งที่ช่วยเธอให้หลบหนีนาซีออกมาระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การแต่งงานกับเขาจึงเสมือนการแทนคุณที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้
แต่ท้ายที่สุด ทั้งสองก็ได้มาเจอกัน และมารักกัน
จดหมายรักตลอดระยะเวลายาวนานที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันและได้เขียนถึงกัน เผยให้เห็นถึงเรื่องน่าประทับใจ ความหวานชื่น แต่ก็ชี้ให้เห็นว่า ทั้งสองมีมุมมองต่อเรื่องเดียวกันที่แตกต่างกันมากมายเมื่อมองย้อนกลับไปในเหตุการณ์ ณ ขณะนั้น ๆ
เคิร์ก พบแอนในปี 1953 ตอนที่ แอนทำงานเป็นล่ามและผู้ฝึกสอนด้านภาษาให้กับเคิร์กที่ประเทศฝรั่งเศส เขากล้าฟันธงไปเลยว่า หลังจากที่ได้คุยกัน ... แอนก็หลงคารมและตกหลุมรักเขาในช่วงนั้น
เคิร์กเล่าว่า
“คุณตกหลุมรักผมในบ่ายวันหนึ่งในกรุงปารีส ในอพาร์ทเมนต์ผมใกล้ ๆ บัวส์เดอ บูโลญจน์ ขณะที่ผมกำลังคุย
ผมเกือบจะพูดอยู่คนเดียวทั้งหมด และคุณก็ฟัง ผมรู้สึกว่า บางส่วนในใจคุณที่ปิดตายอยู่เป็นเวลานานได้เริ่มเปิดออก กระทั่งผมเห็นว่าคุณเปิดรับผมในทุกขุมขน ... ทุกส่วนของคุณพร้อมที่จะรับผมอย่างเต็มที่”
ฟังดูคุย ๆ ใช่ไหมคะท่านผู้โช้ม....
แต่พระเอกของเราแกมั่นใจในสเน่ห์ตัวเองค่ะ ... ถึงจะเป็นพ่อหม้ายหย่าเมีย ... แต่เคิร์กก็เป็นที่รู้จักกันในวงการจอเงินว่าเป็น เสือผู้หญิงตัวพ่อ
แอนขอค้านค่ะ ...
เธอจำได้ว่า เธอในตอนนั้น คิดว่า เป็นเรื่องอันตรายที่จะตกหลุมรักพ่อขุนแผนเมืองลุงแซมคนนี้นะคะ
แอนเล่าว่า
“ฉันได้เห็นผู้หญิงสาว ๆ จำนวนมากมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับพวกดาราที่มาถ่ายหนัง --- ดีน มาร์ตินเอย มาร์ลอน แบรนโดเอย แครี แกรนท์เอย ... หลังจากถ่ายหนังจบ หนุ่ม ๆ พวกนี้ก็กลับบ้านไปหาภรรยาและครอบครัว”
เห็นไหมคะ เรื่องเดียวกัน ... ก็ยังรำลึกกันได้คนละมุมมอง ...
มาต่อค่ะ
อ้าว... แล้วไปตกหลุมรักเค้าตอนไหนล่ะ
ตอนงานกาล่าดินเนอร์แห่งหนึ่งค่ะ สองคนนี้ได้รับเชิญไปร่วมงานด้วยกัน มีช่วงงานที่เป็นโชว์ละครสัตว์ฤดูหนาวในปารีสด้วย
เคิร์กได้รับเชิญให้เข้าร่วมแสดง --- ก่อนหน้านั้น เคิร์กเคยแสดงในบทบาทเล่นกายกรรมในหนังมาก่อน มาคราวนี้ ก็เลยได้รับเชิญให้ไปร่วมแจมสดบนเวที ... เอาล่ะซี ไม่ได้เตรียมมาก่อน จะให้ทำไงเนี่ย ...
พระเอกของเราในชุดทักซีโด้อย่างหล่อโก้ เนี้ยบกริบแห่งฮอลลีวูดของเรา ไม่ได้เตรียมมาก่อนจะให้ทำไงล่ะค้าบ... คนคุมเวทีก็ปล่อยช้างเข้าเวทีมาแล้วด้วย ... ลงเอย ด้วยการที่คนหล่อของเราได้แต่ถือปุ้งกี๋กับไม้กวาดอันใหญ่ยักแย่ยักยันเป็นตัวตลกอยู่บนเวที
แอนเล่าต่อว่า “ฉันจะอดไม่รัก ผู้ชายคนที่จะหัวเราะให้ตัวเองได้หรือ” เราไปที่ที่พักเขาดื่มอะไรก่อนนอน ซึ่งก็ได้กลับกลายเป็นอะไรที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น
ตอนนั้น แอนเองก็ยังไม่พร้อมสำหรับสัมพันธภาพที่จริงจัง ส่วนเคิร์กเองก็ยังหมั้นกับดาราสาวน้อยวัย 21 พีเอ แองเจลี ซึ่งอายุน้อยกว่าเขาถึง 16 ปี
ลงรูปให้ดูนะคะ
พีเอ เป็นสาวน้อยพรหมจารีที่ร่วมแสดงหนังกับเคิร์ก ...ไปเที่ยวไหนกับเคิร์กก็ต้องมีแม่คอยไปด้วยเป็นพี่เลี้ยง เคิร์กตาบอดกับความรักหลงครั้งนี้มาก จนไม่ได้เหลือบตาดูเรื่องซุบซิบทางหน้านิตยสารเลยว่า พีเอเธอก็ยัง “คุย “ กับหนุ่ม ๆ คนอื่นเยอะแยะไปหมด
หลังจากเคิร์กหย่ากับไดแอน แม่ของไมเคิล ในปี 1951 เขาก็มีความสัมพันธ์กับสาว ๆ ทั่วไปหมด ทั้งนางเอกตัวแม่อย่าง จีน เทียร์นีย์ หรือ ทายาทเศรษฐีน้ำมัน ไอรีน ไรท์สแมน ซึ่งเคิร์กเลิกกับเธอ เพราะวันหนึ่ง เกิดกลับบ้านเร็ว ไปเห็นตำตาว่าไอรีนอยู่บนเตียงกับ ซิดนีย์ ... น้องชายของชาร์ลี แชปลิน
ตอนพีเอ แองเจลีไม่อยู่ เคิร์กก็ใช้เวลาเที่ยวกับแอนแถวทางใต้ของฝรั่งเศสและอิตาลี เคิร์กเขียนเล่าไว้ว่า
“เรามีช่วงวันหยุดที่โรแมนติคสุดอัศจรรย์ด้วยกัน ... ในช่วงอาทิตย์นั้น ผมกับแอนก็จะออกไปแจวเรือกัน เธอแจว ส่วนผมร้องเพลงรักภาษาอิตาเลียน ... เราต่างมีความสุขกับกันและกันมาก”
“แต่ห้ามลืมนะ ... “ ผมเตือนแอนอย่างอ่อนโยน “ยังไงผมก็จะต้องแต่งงานกับพีเอ”
ต่อมาเคิร์กกล่าวว่า “ผมไม่อยากเชื่อว่า ผมจะไม่คำนึงถึงจิตใจเธอขนาดนั้น ... ผมยังขอให้แอนมาที่ร้านบุลการี ช่วยเลือกแหวนหมั้นที่ผมจะเอาไปหมั้นพีเอให้ด้วย”
ร้ายไหมล่ะคะ ?
ถามว่าทีนี้แอนทำไง ... ทีเด็ดของแอนอยู่ตรงนี้เลยค่ะ ... เธอฉลาดพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
และนี่คือกุญแจสู่ความลับว่า ทำไมเธอถึงเอาเพลย์บอยตัวพ่ออยู่
แอนสงบนิ่ง และรู้ด้วยสัญชาตญาณว่า ถ้าเธอพยายามที่จะหยุดความโลดโผนโจนทะยานในเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของเคิร์ก ... เขาจะหายหัวไปแน่นอน ...
พ่อหนุ่มหล่อคนนี้ มีผู้หญิงหลายคนที่เต็มใจจะรักเขา ... แต่เขาต้องการคนที่พร้อมจะรักเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
หลังจากที่แอนกับเคิร์กสนิทสนมกับมากขึ้น เคิร์กก็เริ่มเล่าเรื่องตอนเด็ก ๆ ของเขาให้แอนฟัง ตั้งแต่ การโตมาในย่านคนจนในนิวยอร์ค แม่เคิร์คหนีจากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในรัสเซียมาอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษ และแม่ยังไม่เคยลืมความน่าสะพรึงกลัวที่เห็นพี่ชายถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา
พ่อเคิร์กเป็นขี้เหล้าและทิ้งครอบครัวไป ตอนเด็ก ๆ ครอบครัวเคิร์กหิวโหยตลอด แม่เคิร์กเล่าว่า เคิร์กถูกส่งลงมาจากสวรรค์ตอนเด็ก ๆ ในกล่องทองคำ แม่คืนกล่องทองคำไป เพราะแม่ต้องการเพียงเคิร์กเท่านั้น
ตอนนั้น เคิร์กอายุประมาณ 30 ปลาย ๆ แล้ว ตอนเขาพบแอน แต่เคิร์กก็ยังเป็นคนที่เสาะแสวงหาความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดและเป็นความรักที่พร้อมจะให้อภัยตลอดเวลา แอนรู้ดีว่า เคิร์กไม่มีทางได้สิ่งนั้นจาก พีเอ แองเจลีแน่ ๆ
แอน เธอใจกว้างเรื่องพวกนี้ เธอบอกว่า
เคิร์กไม่เคยปิดเรื่องเจ้าชู้กุ๊กกิ๊กกับเธอเลย เขาจะเล่าให้เธอฟังเพราะไม่ต้องการให้เธอไปอ่านเอาจากพวกซุบซิบกระจิบข่าว
แอนเองก็ใจกว้างราวแม่น้ำ เธอบอกว่า
“ในฐานะที่ดิฉันเป็นคนยุโรป ดิฉันเข้าใจว่า การหวังเอาความซื่อสัตย์ทั้งหมดทุกเรื่องเป็นการคาดหวังที่เหนือจริง”
ด้วยความที่ชีวิตผ่านอะไรมามาก แอนจึงเป็นคนมองขาดเรื่องความสัมพันธ์
แอนเกิดในปี 1918 ที่ฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมัน ในครอบครัวชาวยิวฐานะดีครอบครัวหนึ่ง เธอเอาตัวรอดหลบหนีออกมาจากยุโรปได้ และถูกบีบให้ต้องแต่งกับอัลเบิร์ต บายเดน ผู้พาเธอหนีออกมา ตอนนั้น แอนคิดว่า เธอจะขอหย่าได้ภายใน 1 ปี แต่บายเดน ขอให้แอนต้องชดใช้ ซึ่งเธอไม่มีเงินจ่าย
ช่วงทศวรรษที่ 50 แอนจึงต้องเป็นเมียเก็บของนักอุตสาหกรรมผู้ร่ำรวยคนหนึ่ง ... เป็นการแต่งงานที่ปราศจากความรัก ...
โดยพื้นฐานเช่นนี้เอง แอนจึงมองเกมส์ขาดว่า ความลุ่มหลงของเคิร์กที่มีต่อแองเจลีไม่ช้าก็จะดับมอดลง ...
มื้อดินเนอร์ที่ภัตตาคาร ลาทูร์ ดาร์ชอง ในคืนปีใหม่ที่ปารีสปีหนึ่ง
แองเจลี มาดินเนอร์กับเคิร์กตามลำพัง แม่ไม่ได้ตามมาด้วย ... และเช่นกัน ไม่มีความพิศวาสระหว่างทั้งสองอีกต่อไป ไม่มีเคมีระหว่างทั้งคู่ ไม่มีความวาบหวาม แองเจลีคืนแหวนให้เคิร์ก
เคิร์กแทบรอที่จะบอกแอนไม่ได้เลย
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็แต่งงานกันใช่ไหมคะ ?
ยังก่อนค่ะ ยังไม่แต่ง ...
อีกหนึ่งปีผ่านไป ยังไม่มีคำขอแต่งงานจากเคิร์ก ...
แอนตัดสินใจ ยื่นคำขาด ... เธอบอกว่า
“ฉันจะตัดคุณออกจากชีวิต ฉันเป็นผู้หญิง ไม่ใช่เด็กสาวน้อย ฉันอนุญาตให้คุณปั่นหัวเล่นมาแล้ว ถ้าฉันไม่อยากเจ็บปวดตลอดไป ฉันจะต้องหยุดไว้แค่นี้ หนึ่งบวกหนึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องได้สอง ... มันอาจจะไม่ได้อะไรเลยก็ได้”
‘I will take you out of my life,’ she warned. ‘I am a woman — not a little girl ... I allowed you to push me around emotionally, and if I don’t want to get hurt for good, I have to stop.
‘One and one does not always make two. It can also make nothing.’