ผมบอกเลิกแฟนเพราะเบื่อเค้า แต่สุดท้ายผมทำทุกอย่างเพื่อให้เค้ากลับมา...

สวัสดีครับทุกคน ผมเพิ่งตั้งกระทู้ครั้งที่ 3 เอง แถมก่อนหน้านี้ก็ตั้งไปนานมากแล้วด้วย เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักทั้งนั้น T T เอาเป็นว่าเข้าเรื่องละกันเนาะ ผมจะเล่าตาม timeline จริงๆ คือไม่แทรกเหตุการณ์ไรเพิ่มเท่าไหร่ อะไรที่เพิ่งรู้ทีหลังก็จะพิมไว้ตามเรื่องจริงเลย

เรากับแฟนคบกันมา 3 ปี 4 เดือน 16 วัน (นับจนถึงวันที่โพส) เป็นแฟนคนแรกและคนเดียวของผมเลย ที่ผ่านมาก็ตามสเต็ปแหละครับ มีหวาน มีขม มีทะเลาะ มีเลิก ของคนรักกันเหมือนคนทั่วไป เราคบกันตั้งแต่ ม.5 จนตอนนี้ จะขึ้นปี 3 แล้วครับ ผมเคยพูดกับเค้าไว้ว่า อย่าทิ้งกันไปไหนนะ เค้ารักผมมากๆ ทำทุกอย่างเพื่อผม จนถึงขนาดยอมทิ้ง สิ่งที่ชอบที่เมืองกรุง มาเรียนที่เดียวกับผมแต่คนละคณะกัน ตอนนั้นซึ้งและรักเค้ามากที่สุดแล้ว ไม่เคยคิดเลยซักนิดว่า เลิกแล้วจะเป็นยังไง เวลาผ่านมาเรื่อยๆ สันดานผู้ชายออกครับ ผมเริ่มเบื่อ เริ่มรำคาญ ไม่สนใจ ไม่ไปหา ไม่นัดเจอไม่กินข้าวด้วยกันทั้งนั้น นานๆจะมีซักที แล้วถึงได้เจอกันก็มักจบด้วยการทะเลาะกัน งอนกัน แต่ยังอยู่ในระดับที่ยังพอง้อได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอีก ความไม่เข้าใจ ความเสียใจที่ทำไว้กับเค้ามันสะสมและมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนผมก็ถึงจุดพีคของสันดานแล้ว คือทำตัวเหมือนโสด เพื่อนชวนไปไหนผมไปหมด ไม่ส่งข้อความหาเค้า ไม่ทำอะไรให้กันเหมือนเมื่อก่อนเลย สุดท้ายผมนี่แหละไปบอกเลิกเค้า ระบายทุกอย่างที่ผมคิดไปหมด โดยไม่สนคำของเค้าเลยซักนิด ประโยคหลักๆคือ ผมรักเค้านะ แต่ผมรักตัวเองมากกว่า ผมเหนื่อย ผมไม่ไหสที่ต้องมาทะเลาะตลอด ต้องหาเวลามาเจอ หาเวลาทำโน่นนี่กัน ทั้งๆที่ผมรู้ว่าจะต้องทะเลาะกันอยู่ดี ผมไม่อยากทนอะไรแบบนี้อีกแล้ว ด่าเค้าจนเสียหมาเลย เค้ายื้อผมนะ ง้อว่า ขอโทษ จะไม่ทำแล้ว บลาๆ เท่าที่จะรั้งผมไว้ได้ สุดท้ายผมไม่แคร์ แล้วจากไป...

เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ ผมใช้ชีวิตแบบที่เคยทำตามปกติ อยู่กับเพื่อน สนุกกับเพื่อน เล่นเกมส์ ดูหนังฟังเพลง ล่าสุดก็ออกไปกินเหล้าหลังจากไม่ได้กินแบบนี้มา 2 ปีแล้ว เป็นชีวิตที่สนุก เฮฮาดี ไม่ได้เจอแบบนี้นานแล้ว แต่พอความสนุกหมดลง เหลือแต่ความเงียบกับตัวผมเอง คืนวันที่ 10/5/60 หน้าเฟสผมไม่มีอะไรจะดู รีเฟสก็ไม่มีไรน่าอ่านแล้ว นอนไม่หลับ มันรู้สึกเหงาแปลกๆ เลยย้อนคิดดู ถ้าเกิดเป็นเมื่อก่อน เราคงจะนั่งคุยแชทกับเค้าอยู่ล่ะมั้ง คงจะหยอกล้อ กวนตีนกัน โม้ทีมฟุตบอลกัน แมนยูของเค้าโน่นนี่ บาซ่าของผมโน่นนี่ เออว่ะ เค้าทำไรอยู่ไหนนะ สงสัยจัง ก็เลยลองหาดู แต่มันคงยากหน่อยเพราะ เค้าบล๊อคผมหมดทุกทาง ทั้ง Facebook Line IG Wechat เห้ยทำไมหัวใจมันเต้นเร็วก็ไม่รู้ เริ่มเหนื่อย กระวนกระวาย ที่เราหาเค้าไม่เจอเลย สุดท้ายความคิดถึงมันก็มาหาครับ ยิ่งหมกมุ่นกับเรื่องของเค้า มันก็ยิ่งคิดถึงมากขึ้นๆเรื่อยๆ ผมเสียใจมาก ที่ 2 อาทิตย์นั้น ผมไม่เคยนึกถึงเค้าเลย ผมนึกไม่ออกว่า 2 อาทิตย์นั้นเค้าอยู่ยังไง ร้องไห้เสียใจมากยังไง ที่เค้ารั้งหรือยื้อผมแล้ว ผมก็ยังทำร้ายเค้าได้ลงคอ สุดท้ายผมก็อยากจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับมารักกันเหมือนเดิม ได้มีเค้าอยู่ในชีวิตผม ไม่ผลักไสไล่ส่งเค้าอีกแล้ว หลาบจำมากที่สุดแล้ว ผมก็เปลี่ยนเป็นอีกคนไปเลยจากก่อนหน้านั้น เมื่อ ชม.ก่อน สถานการณ์ตอนนั้นนะครับ คณะของเค้ากำลังจะไปเรียนซัมเมอร์ที่จีน 2 เดือน กระจายแยกกันไปตามแต่ละเมืองที่ นศ.เลือก ผมกลัวว่าเมืองที่เค้าจะไปจะเดินทางกันแล้ว ผมเลยไปถามเพื่อนของเค้าที่ไม่ชอบหน้าผม ผมก็โดนด่า โดนบ่น บอกให้เลิกทำ ไม่ต้องตามหาเค้า เลยรู้ว่าแฟนผมบอกเพื่อนหมดว่าผมเป็นยังไง เพื่อนเลยไม่ชอบหน้า แต่สุดท้ายก็ได้ข้อมูลว่า เมืองที่เค้าจะไป เดินทางเช้ามืดวันที่ 12/5/60 ตอนที่ผมรู้คือ ตี 1 ของวันที่ 11/2/60 หมายความว่าผมมีเวลาที่จะไปหาเค้าแค่วันนั้นเท่านั้น ยังกับนิยายมั้ยล่ะ มารู้เอาก็ตอนเหลือแค่วันสุดท้าย ผมโทรไปหาเค้าตอนตี
1 นั่นแหละ บางคืนเค้าก็ยังไม่นอนเลยคิดว่าอาจจะรับ สุดท้ายก็รับครับ แต่พอรู้ว่าเป็นผมก็ตัดสายเลย ผมโทรไปอีกก็บล๊อคเบอร์ผมแล้ว ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่เสียใจมากเลยวางแผนทุกอย่างทั้งคืน จะง้ออะไรยังไง เช้าวันที่ 11 ผมมีสอบวิชานึงตอนบ่าย ผมไม่ได้อ่านเรื่องที่จะสอบเลย สนใจแต่เรื่องของเค้า ผมจะเล่าอีก story นึงที่จะมาเชื่อมเรื่องนี้นะครับ ผมคบกับเค้าได้รู้จักรุ่นพี่ผู้ชายคนนึง เป็นคนที่เค้าสนิทมาก มีอะไรก็จะปรึกษาตลอด ผมเป็นแฟนเค้า พี่เค้าก็รักผมเหมือนน้องชายคนนึง เป็นสามพี่น้องที่ดูแลกันมาตลอด อยู่คุยหยอกล้อกันน่ารัก พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ผมรู้ดีว่า เค้าจะต้องไปคุยกับพี่คนนี้แน่นอน คืนวันที่ 11 ตอนตี 2-3 ผมก็ไปถามพี่เค้าว่าแฟนผมเค้าว่าไงมั่ง แกก็ตอบประมาณนึงแต่ไม่ได้ช่วยไรเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ผมรู้อยู่แล้ว ด้วยความหัวร้อนจึงขอร้องพี่เขา ขอรหัสเฟสเขามาดูแชทย้อนหลังว่าคุยอะไรกัน ซึ่งกว่าแกจะให้ก็นานอ่ะ 555 ไม่แปลกหรอก แต่สิ่งที่เข้าไปเจอนั้นมันทำให้ผมเสียใจมากที่สุดในชีวิตแล้ว... ย้อนแชทไปนานๆตอนยังไม่เลิกกันที เค้าคุยกันว่า ทนไม่ไหวแล้ว อยากเลิกกับผม ระบาย ร้องไห้ สารพัด แล้วแชทก็เงียบหายไปหลายวัน กลับมาคุยใหม่ มาบอกรุ่นพี่คนนี้ว่า ไปเที่ยวกับ ผช มา พี่เค้าก็งง แล้วถามว่าแฟนใหม่หรอ เค้าก็บอกว่าไม่ๆ คบเล่นๆ คุยเสร็จเค้าก็หายไปหลายวัน แชทวันนี้ทำผมใจสลายสุดๆเลยที่รู้ว่ามีคนใหม่จริงๆ ทรมานมากๆหน้าอกเหมือนกำลังบีบตัวเองให้ค่อยๆตาย ใจสั่นมากเหมือนคนกินกาแฟหรือ M150 ตอนกลางคืนอ่ะครับ ทีนี้ผมเก็บเฟสของพี่คนนี้ไว้ใช้ในกรณีร้ายแรง เช่นผมติดต่อ หาข้อมูลเองไม่ได้จริงๆ จะใช้เฟสพี่คนนี้ เข้าไปดูว่าออนเฟสล่าสุดตอนไหน โพสอะไรไรงี้อ่ะครับ แล้วหลังจากนั้น ผมก็คิดแผนทั้งคืนจนเช้า เตรียมตัวไปอ่านนส.ตอนเช้าเพื่อสอบบ่าย แน่นอนวาฝ่าข้ามเรื่องสอบไป ผมไม่รู้เรื่องเลยซักนิด ทำได้เขียน short note ไปบอกขอโทษอาจารย์ที่ทำไม่ได้ ไม่ตั้งใจวิชาแก 555 พอสอบเสร็จบ่าย 3 ได้ ผมก็ทำตามที่คิดไว้คือไปหาเค้าที่บ้าน อย่างน้อยแค่ได้เห็นหน้าก่อนไปจีน 2 เดือนก็ยังดีกว่าปล่อยหายไปเฉยๆ บ้านเค้าอยู่ไกลมาก จาก มอ ไปบ้านเค้ายังไกล บ้านผมไปบ้านเค้านี่คนละฟากจังหวัดเลย แต่ก็ไป ผมพาเพื่อนไปด้วยคนนึง เพื่อนคนนี้ยินดีจะช่วย ผมแค่ถามว่า ไปกับผมได้มั้ย เผื่อมีอะไรผิดคาดหรือไม่ไหวจริงๆจะได้ช่วยกัน เพื่อนก็โอเค ไปกันขึ้นเขาลงเชากันไปกว่าจะถึง ฝนตกหนักราวกับพายุเข้าเลยครับภูเขาที่เห็นอยู่ไกลๆโดนฝนกับหมอกบังจนหายไปทั้งลูกเลย ตกแบบมองทางไม่เห็นเท่าไหร่เลย แถมขึ้นเขาอีก ไม่รู้จะมีพาดหัวข่าว 2 นศ.มอดังล้มรถ scoopyi ตายบนเขามั้ย แต่ก็ไปจนถึง ผมยังใส่ชุดนศ.เต็มยศอยู่เลยครับ ให้เรียบร้อยที่สุดจะได้เข้าห้องสอบได้ เพื่อนผมอยู่หอในเลยเปลี่ยนชุดเป็นชุดธรรมดาแล้ว กว่าจะถึง เปียกเหมือนกระโดดลงบ่อน้ำเลย พอไปถึงบ้านก็ไปจอดหน้าบ้าน เล่าก่อนนะครับว่า ตอนที่คบกันดี ผมเคยไปหาเค้าที่บ้าน ไปง้อเค้าที่บ้าน แล้วเค้าจะมีบ้าน 2 หลังอยู่ติดกันคือบ้านของยายกับน้องๆแล้วก็ญาติเค้า ส่วนอีกหลังคือเป็นหลังของเค้าที่อยู่กับพ่อแม่พี่ในครอบครัว ผมสามารถไปหาเค้าที่บ้านญาติได้เพราะก่อนหน้านี้เคยมาบ่อย น้องๆเค้าชอบผม ยายกับตาก็เอ็นดูผมเหมือนลูกหลาน ส่วนบ้านเค้าจริงๆ ผมไปไม่ได้ แม่เค้าไม่ค่อยชอบให้มารบกวนอะไรที่บ้าน พ่อของเค้าป่วยไม่ค่อยสบายแล้วก็ไม่รู้จักผม ไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามา ผมเลยคิดว่าจะไปรอเค้าที่บ้านญาติแล้วติดต่อไป พอคุยกับยายกับตาแล้วก็หยอกน้องตามมารยาทก็ถึงเวลาเข้าเรื่องคือโทรไปบอกว่าอยู่ที่บ้านยายนะ อยากเจอหน่อยได้มั้ย โทรไปโดยใช้เบอร์เพื่อน เพราะของผมโดนบล๊อคไปแล้ส สายแรกรับ แต่ก็ไล่กลับ ด่าๆ แล้วก็วาง สายสองก็ยังรับด่านานขึ้น ไล่หนักขึ้นแล้วก็วาง สายสามนี่ผมคิดนานที่สุด คือถ้าเค้าไม่เอาแล้วจริงๆคงตัดสายอยู่แล้ว ไม่ก็บล๊อคเบอร์ทิ้ง ซึ่งผมจะหมดโอกาสแล้วจริงๆ เอาวะตัดสินใจโทร เรียบเรียงคำพูดแล้วพอโทรไปสายสาม โดนด่าไป 5 วิแล้วตัดสายเลย เงิบรับประทาน ตอนนั้นหัวร้อนมาก เลยโทรไปสายสี่ทนทีเลย ซึ่งยังยังรับแต่ก็บ่นด่า รำคาญเหมือนเดิม แต่นานกว่าสายแรก สุดท้ายพอสายสี่ตัดไป ผมร้องไห้แล้วบอกเพื่อนว่า ไม่กล้าโทรไปแล้ว ไม่มีหน้าจะโทรแล้ว คงต้องโดนบล๊อคเบอร์แล้วแน่นอน ผมนั่งร้องไห้สักพักคิดว่าจะทำยังไงดีให้อย่างน้อยเขาได้รู้ ได้ฟังความคิดของผม ไม่เคยคิดเลยว่าปี 2017 แล้วผมจะใช้วิธีเขียนจดหมายหาเค้า ขนาดอยู่บ้านข้างๆแท้ๆ 55 จะฝากให้น้องเค้าเอาไปให้ หยิบกระดาษจากในกระเป๋าขึ้นมาก็นะ เปียกทั้งใบ ชีทในแฟ้มก็เปียกหมด กระดาษที่ดีที่สุดคืออีกหน้าที่เหลือของการบ้านวิชาบัญชีที่เปียกแค่ขอบ หยิบปากกากับกระดาษมา กำลังนึกคำจะเขียน ตอนนั้นนึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่ามาเหตุการณ์แบบนี้ต้องเขียนยังไง ยังไม่ทันได้เริ่มหัวกระดาษผมเห็นคนเดินมาทางหลังบ้าน นึกว่าน้องหรือยาย แต่ไม่ใช่เลย แต่เป็นแฟนผมนั่นแหละ ทันทีที่สายตาสั้นๆของผมเห็นว่าเป็นเค้า ผมวางปากกาแล้วก้มหน้าร้องไห้กับโต๊ะทันที เพื่อนผมถึงกับงง ว่าผมเป็นอะไร ช็อคหรือเปล่า คือประตูหลังบ้านอยู่หลังเพื่อนผม มันเลยมองไม่เห็น 555 ด้วยความที่ว่า อย่างร้อยเห็นหน้าก็ยังดี ตอนนี้เค้ามาอยู่ข้างหน้าผมแล้ว หลังจากนี้จะเป็นยังไงก็อีกเรื่องแต่ได้เจอเค้าก่อนหายไป 2 เดือนแล้ว ผมบอกไป ดีใจจัง นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว เค้าก็ทำเสียงห้วนๆสวนกลับมาว่า ไม่อ่ะ กุจะมาเอากระเป๋าที่บ้านน้อง ._. แล้วก็นั่งลงที่โต๊ะอาหารบ้านยายที่ผมนั่งอยู่กับเพื่อน  เค้าก็ถามไหนมีไรมาถึงที่แล้วเนี่ย ผมก็พูดทุกอย่างที่ในหัวตอนนั้นจะนึกได้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็น ขอโทษทุกอย่างทำผิดไป สำนึกแล้ว เข้าใจแล้วจริงๆว่าเค้าต้องทรมานต้องเสียใจมากขนาดไหน วันนี้ถึงได้มาหาที่บ้านก่อนเธอจะหายไปอีก 2 เดือน ซึ่งกลับมาก็ไม่รู้ว่าเค้าจะเป็นแบบไหนแล้ว จะคุยกับคนใหม่ทุกวันจนหวานสุดๆ แล้วกลับมาเที่ยวกัน มาเริ่มใหม่กันจริงจัง ผมก็ไม่รู้ แต่ผมทนให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ ให้ผมตายดีกว่า เค้าปฏิเสธท่าเดียวเลย แล้วก็ด่าๆบ่นๆยาวเลย เสียหมาโชว์เพื่อน แต่ผมไม่แคร์อยู่ละ เพื่อนก็ไม่อะไรอยู่แล้ว มันเข้าใจ ช่วยเสริมบ้างว่า ผมทรมานมากนะ ผมเป็นยังไงบ้างเพื่อนก็เล่าให้ฟัง แต่คำตอบคือไม่ๆทั้งนั้น พอเหมือนบรรยากาศจะเดือดหน่อยๆ น้องของเค้าก็เริ่มมาเดินวนเวียนแถวนั้น ถึงเวลาอาหารเย็นของบ้านเค้า ตายายจะมากินข้าว น้องๆก็ทำกับข้าวให้ยายกิน บรรยากาศเลยเบาลงแล้วก็ย้อนวันเก่าๆบ้าง พอน้องเอากับข้าวมาตั้ง แฟนผมเค้าก็กินเปล่า ชวนน้องคุยบ้าง ผมก็เลยคุยหยอกน้องบ้างว่า วันนี้ทำกับข้าวอะไร ทำอร่อยมั้ย กินได้รึป่าว ซึ่งเด็กก็ดีด้วย ตอบยิ้มๆ ดูเป็นกันเองอบอุ่นๆดี แฟนผมมันก็ด่าแล้วก็บอกน้องว่า ไม่ต้องไปคุยกับมันมันบ้าไรงี้ ผมก็คิดว่าบรรยากาศมันพอจะคุยกันสนุกๆ หยอกกัน ย้อนวันเวลาเดิมๆ ให้คิดถึงกัน ประมาณว่า หัวเหม่งเหมือนเดิมนะ ผมก็หยิกเหมือนเดิม ไว้จอนเหมือนทองกวาวแบบเดิมเลย ผมหน้าตาเหมือนยีราฟ กินน้อยกินยากเหมือนเดิม น้องเค้าก็เห็นวฝบรรยากาศสนุกๆเลยหยิบหนังสือคำถามกวนใจมาอ่าน ทายกันสนุกดรอยู่สักแปปนึง ยายก็ลงมากินข้าว ผมเห็นว่าผมเริ่มนั่งนานแล้ว เริ่มรบกวนเค้าแล้ว ฝนก็หยุดตก เสื้อผ้าเริ่มแห้งเลยคิดว่า ควรกลัยได้ปล้ว ทั้งที่ใจจริงๆอยากอยู่นี่ให้นานที่สุด ก็ร่ำลาตายายกับน้องๆแล้วมาคุยต่อที่หลังบ้าน ผมก็บอกให้เพื่อนไปรอพี่รถ ผมก็คุยกับเค้ากันสองต่อสอง ตอนนี้เป็นอะไรที่เสียใจแล้วก็ทรมานที่สุดแล้ว ที่ต้องลาเค้าแบบที่ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะเจอกันอีกมั้ย เค้าสารภาพเรื่องคนใหม่ บอกข้อมูลมานิดหน่อย ผมคุกเข่าลงบนน้ำเลยกางเกงเปียกอีกรอบ ร้องไห้หนักมากที่สุด ที่ต้องเจอกับอะไรแบบนี้ในชีวิต เขาก็บอกว่า พอเถอะ เราไม่กลับไปหาเธอแล้ว เป็นแบบที่เธอต้องการมาตลอดหนิ ไม่มีเราในชีวิตแล้วเธอบอกเธอมีความสุย เราออกมาแล้วเราก็มีความสุขเหมือนกัน อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ขอให้เจอคนใหม่ที่ดีกว่าเรา ผมก็ร้องไห้อยู่ตรงนั้นท่ามกลางฝนที่ตกลงมาใหม่ เค้าบอก มา ให้กอดทีนึง ผมก็กอดเค้าทันที กอดทั้งทรมานและก็เสียใจ กอดแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยากน้อยมันคงช่วยให้เค้าคิดถึงวันเก่าๆกับผมบ้าง พอกอดเสร็จก็เดินไปที่รถ เค้ายืนรอส่งผมกับเพื่อน แล้วหยอกเพื่อนผมซักแปป ถึงเวลาที่ต้องไปจริงๆแล้ว มีต่อในเม้นนะครับ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่