สวัสดีค่ะ
เรากำลังกลัวตัวเอง ว่าจะทำอะไรที่ผิดพลาดลงไป
เราเกิดในครอบครัวที่มีพ่อแม่และพี่ชายหนึ่งคน พ่อแม่รักเรามาเพราะเราเป็นลูกคนเล็ก แต่เรากลับไม่มีความสุข เพราะพ่อกับแม่ทะเลาะกันแทบทุกวัน
ตอนเด็กเราโตมาในชุมชนที่เต็มไปด้วยอบายมุข พ่อแม่จึงห้ามเรายุ่งเกี่ยวกับคนในหมู่บ้าน เราจึงเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว เงียบ และไม่กล้าแสดงออก และด้วยความที่เราไม่ยุ่งกับใคร ทั้งชีวิตเราจึงมีแต่พ่อและแม่ แต่เราก็ต้องเห็นพวกเขาทะเลาะกันทุกวัน
เรากลายเป็นคนระแวง พ่อพูดดังหน่อยเราก็ตกใจคิดว่าพ่อจะดุด่าอะไรอีก แม่เราเคยมีคนอื่นจนบ้านเกือบแตก เราก็ระแวงอีกว่าแม่จะมีคนอื่นอีกไหม
เรายอมรับว่าเราเป็นคนอ่อนแอมาก เรารับเรื่องแรงๆไม่ค่อยไหว การตะคอกกันดังๆ ถือมีดจี้คอเราก็เคยเห็นมา จนเรารู้สึกว่าเราควบคุมความคิดตัวเองไม่ได้แล้ว
เราเชื่อเรื่องกรรม และรู้ว่าการฆ่าตัวตายมันบาป รู้ว่าการทำให้พ่อแม่เสียใจก็บาป เราอยากประชด อยากกลายเป็นเด็กใจแตก อยากเที่ยวทุวันไม่อยากอยู่บ้าน อยากทำทุกๆอย่างที่มันเลวให้พ่อแม่ได้รู้ว่า เพราะพวกเขาน่ะทำให้เราเป็นแบบนี้
ตั้งแต่เด็กมาเราอยู่ในโอวาทมาตลอด เราไม่เคยได้ไปไหนไกลพ่อแม่ไม่อนุญาต เราเเหมือนนกที่ถูกจังอยู่ในกรง แม้แต่จะไปซื้อขนมข้างบ้านแม่ยังต้องไปส่ง เราไม่เคยได้ขับรถออกถนนใหญ่ ไม่เคยไปไหนโดยที่ไม่มีพ่อแม่ ไปโรงเรียนต้องให้พ่อแม่ไปส่ง แม้แต่ไปมหาลัยแม่ยังตามไปเฝ้า
เราอยากบอกว่าเราอึดอัด เราคุยกับแม่หลายครั้งว่าเราอยากได้อิสระ เราแทบบ้าที่ต้องถูกจังแบบนี้ แต่แม่ไม่ฟังเราเลย แม่รักเราเกินไป จนบางครั้งเราก็คิดว่า เราไม่น่าเกิดมาในครอบครัวนี้เลย
การถูกตำกัดอิสระ ทั้งร่างกาย หรือแม้แต่ความคิดพ่อกับแม่ก็ยังบังคับเรา เราเป็นคนเงียบๆเราชอบอยู่อย่างสงบๆ พ่อกับแม่ก็บังคับให้เราไปปาร์ตี้ ไปพบญาติ และบังคับให้เราพูดมากๆ อย่าเงียบ แต่มันไม่ใช่นิสัยเราที่ชอบพูด เราไม่เจ้าใจ
จนมาวันนี้พ่อกับแม่ทะเลาะกันอีก แค่เรื่องเงินในกระเป๋าเล็กๆน้อยๆที่แม่เอาจากเราไปใช้ พ่อก็ซักว่าเอาไหนมาใครให้ ไม่เชื่อในสิ่งที่ใครพูดเลย ตะคอกเสียงดัง เราเสียใจที่วันนี้เราตะคอกกลับ เราเห็นตัวเราเองก้าวร้าวมาก เราด่าคำหยาบอย่างที่ไม่เคยเป็น เราร้องไห้เหมือยกับใครตาย มันอาจไม่หนักสำหรับคนอื่น แต่เรารับมันไม่ไหวแล้ว มัยเหมือนระเบิดเวลา สะสมไว้นานจนมันใกล้ถึงวันแตก
เรารู้ว่าถ้ามีอะไรมาสะกิดเราอีกนิดเดียว นิดเดียวเรานั้นเราคงอยู่ปกติอย่างนี้ไม่ได้ เราอาจจะหนีออกจากบ้าน หรือไม่ก็กลายเป็นบ้านั่งร้องไห้หัวเราะทั้งวัน เราคงไม่สนใจอะไรอีกแล้วนั่งเฉยๆ หรือไม่ก็เราอาจจะหนีไปบวชไปเลยโดยไม่สนว่าวันจันทร์นี้เราจะต้องฝึกงาน
เราเครียด เราเหนื่อย เราเบื่อ และรำคาญ เราไม่เคยมีอิสระ ไม่เคยได้ไปไหน มีลูกคนไหนไหมที่ทนได้กับการถูกขังแบบเรา แต่เราทน แล้วยังไง ไม่ให้เราไปไหนไม่ให้มีเพื่อนมีแต่พ่อแม่ แต่ก็ทะเลาะกันทุกวัน ตะคอกขึ้นเสียงทุกวัน แล้วจะให้เราเป็นเด็กร่าเริงมีความสุขเหมือนคนอื่นได้ยังไง เราพูดได้เต็มปากเลยว่า ชีวิตเรา ไม่มีความสุขเลย ถ้าฆ่าตัวตายแล้วไม่บาป เราคงตายไปตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบขวบ
แม้แต่เราเสียใจและร้องไห้เงียบๆ แม่เห็นแล้วว่าเราอ่อนแอ เราบอกว่าขออยู่คนเดียวได้ไหมแม่ออกไปก่อน แม่ก็ยังดึงดันจะอยู่แล้วบอกว่าอย่ามาร้องไห้ให้เห็น เราพยายามควบคุมอารมณ์แล้วพูดซ้ำอีกครั้งให้ออกไป แม่ไม่ไป เราพูดซ้ำอีก จออยู่คนเดียวออกไปก่อน ก็ไม่ออกไป มันทำให้เราขาดสติ ตะคอกเสียงดังลั่นบ้าน บอกว่าออกไป!!
เหนื่อยแล้ว เราไม่อยากรับรู้ เราอยากอยู่คนเดียว อีกนิดเดียวจริงๆเราอาจจะทำอะไรบ้าๆ ชีวิตแบบเราไม่เคยมีความสุขเลยจริงๆ
กลัวตัวเองจะเป็นบ้า
เรากำลังกลัวตัวเอง ว่าจะทำอะไรที่ผิดพลาดลงไป
เราเกิดในครอบครัวที่มีพ่อแม่และพี่ชายหนึ่งคน พ่อแม่รักเรามาเพราะเราเป็นลูกคนเล็ก แต่เรากลับไม่มีความสุข เพราะพ่อกับแม่ทะเลาะกันแทบทุกวัน
ตอนเด็กเราโตมาในชุมชนที่เต็มไปด้วยอบายมุข พ่อแม่จึงห้ามเรายุ่งเกี่ยวกับคนในหมู่บ้าน เราจึงเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว เงียบ และไม่กล้าแสดงออก และด้วยความที่เราไม่ยุ่งกับใคร ทั้งชีวิตเราจึงมีแต่พ่อและแม่ แต่เราก็ต้องเห็นพวกเขาทะเลาะกันทุกวัน
เรากลายเป็นคนระแวง พ่อพูดดังหน่อยเราก็ตกใจคิดว่าพ่อจะดุด่าอะไรอีก แม่เราเคยมีคนอื่นจนบ้านเกือบแตก เราก็ระแวงอีกว่าแม่จะมีคนอื่นอีกไหม
เรายอมรับว่าเราเป็นคนอ่อนแอมาก เรารับเรื่องแรงๆไม่ค่อยไหว การตะคอกกันดังๆ ถือมีดจี้คอเราก็เคยเห็นมา จนเรารู้สึกว่าเราควบคุมความคิดตัวเองไม่ได้แล้ว
เราเชื่อเรื่องกรรม และรู้ว่าการฆ่าตัวตายมันบาป รู้ว่าการทำให้พ่อแม่เสียใจก็บาป เราอยากประชด อยากกลายเป็นเด็กใจแตก อยากเที่ยวทุวันไม่อยากอยู่บ้าน อยากทำทุกๆอย่างที่มันเลวให้พ่อแม่ได้รู้ว่า เพราะพวกเขาน่ะทำให้เราเป็นแบบนี้
ตั้งแต่เด็กมาเราอยู่ในโอวาทมาตลอด เราไม่เคยได้ไปไหนไกลพ่อแม่ไม่อนุญาต เราเเหมือนนกที่ถูกจังอยู่ในกรง แม้แต่จะไปซื้อขนมข้างบ้านแม่ยังต้องไปส่ง เราไม่เคยได้ขับรถออกถนนใหญ่ ไม่เคยไปไหนโดยที่ไม่มีพ่อแม่ ไปโรงเรียนต้องให้พ่อแม่ไปส่ง แม้แต่ไปมหาลัยแม่ยังตามไปเฝ้า
เราอยากบอกว่าเราอึดอัด เราคุยกับแม่หลายครั้งว่าเราอยากได้อิสระ เราแทบบ้าที่ต้องถูกจังแบบนี้ แต่แม่ไม่ฟังเราเลย แม่รักเราเกินไป จนบางครั้งเราก็คิดว่า เราไม่น่าเกิดมาในครอบครัวนี้เลย
การถูกตำกัดอิสระ ทั้งร่างกาย หรือแม้แต่ความคิดพ่อกับแม่ก็ยังบังคับเรา เราเป็นคนเงียบๆเราชอบอยู่อย่างสงบๆ พ่อกับแม่ก็บังคับให้เราไปปาร์ตี้ ไปพบญาติ และบังคับให้เราพูดมากๆ อย่าเงียบ แต่มันไม่ใช่นิสัยเราที่ชอบพูด เราไม่เจ้าใจ
จนมาวันนี้พ่อกับแม่ทะเลาะกันอีก แค่เรื่องเงินในกระเป๋าเล็กๆน้อยๆที่แม่เอาจากเราไปใช้ พ่อก็ซักว่าเอาไหนมาใครให้ ไม่เชื่อในสิ่งที่ใครพูดเลย ตะคอกเสียงดัง เราเสียใจที่วันนี้เราตะคอกกลับ เราเห็นตัวเราเองก้าวร้าวมาก เราด่าคำหยาบอย่างที่ไม่เคยเป็น เราร้องไห้เหมือยกับใครตาย มันอาจไม่หนักสำหรับคนอื่น แต่เรารับมันไม่ไหวแล้ว มัยเหมือนระเบิดเวลา สะสมไว้นานจนมันใกล้ถึงวันแตก
เรารู้ว่าถ้ามีอะไรมาสะกิดเราอีกนิดเดียว นิดเดียวเรานั้นเราคงอยู่ปกติอย่างนี้ไม่ได้ เราอาจจะหนีออกจากบ้าน หรือไม่ก็กลายเป็นบ้านั่งร้องไห้หัวเราะทั้งวัน เราคงไม่สนใจอะไรอีกแล้วนั่งเฉยๆ หรือไม่ก็เราอาจจะหนีไปบวชไปเลยโดยไม่สนว่าวันจันทร์นี้เราจะต้องฝึกงาน
เราเครียด เราเหนื่อย เราเบื่อ และรำคาญ เราไม่เคยมีอิสระ ไม่เคยได้ไปไหน มีลูกคนไหนไหมที่ทนได้กับการถูกขังแบบเรา แต่เราทน แล้วยังไง ไม่ให้เราไปไหนไม่ให้มีเพื่อนมีแต่พ่อแม่ แต่ก็ทะเลาะกันทุกวัน ตะคอกขึ้นเสียงทุกวัน แล้วจะให้เราเป็นเด็กร่าเริงมีความสุขเหมือนคนอื่นได้ยังไง เราพูดได้เต็มปากเลยว่า ชีวิตเรา ไม่มีความสุขเลย ถ้าฆ่าตัวตายแล้วไม่บาป เราคงตายไปตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบขวบ
แม้แต่เราเสียใจและร้องไห้เงียบๆ แม่เห็นแล้วว่าเราอ่อนแอ เราบอกว่าขออยู่คนเดียวได้ไหมแม่ออกไปก่อน แม่ก็ยังดึงดันจะอยู่แล้วบอกว่าอย่ามาร้องไห้ให้เห็น เราพยายามควบคุมอารมณ์แล้วพูดซ้ำอีกครั้งให้ออกไป แม่ไม่ไป เราพูดซ้ำอีก จออยู่คนเดียวออกไปก่อน ก็ไม่ออกไป มันทำให้เราขาดสติ ตะคอกเสียงดังลั่นบ้าน บอกว่าออกไป!!
เหนื่อยแล้ว เราไม่อยากรับรู้ เราอยากอยู่คนเดียว อีกนิดเดียวจริงๆเราอาจจะทำอะไรบ้าๆ ชีวิตแบบเราไม่เคยมีความสุขเลยจริงๆ