[CR] พาครอบครัว (คนแก่) เที่ยวสิรินธร

นี่เป็นกระทู้แรกค่ะ อมยิ้ม01
ตอนจะพาครอบครัวไปเที่ยว หารีวิวยากมาก ! ก็เลยคิดว่าอยากจะทำรีวิว เผื่อจะมีประโยชน์กับใครบ้าง

ครอบครัวเรามีข้อจำกัดหลายอย่างในการเดินทาง เพราะคุณแม่เดินไม่สะดวก แล้วก็น้ำหนักตัวเยอะ (เหยียบ 100 ค่ะ) บวกกับมีเจ้าเหมียว 2 ตัว ร่วมเดินทางไปด้วย เลยทำให้เราเน้นเดินทางแบบสบาย ๆ ชิว ๆ เอาที่ใกล้ ๆ ไม่ได้ไปหลายที่ ไม่ได้ไปหรู หรือมีกิจกรรมอะไร แค่อยากพาคุณพ่อ-คุณแม่ ออกจากบ้าน
หัวเราะ

เราออกเดินทางจากบ้าน (ศรีสะเกษ) ช่วงสาย ๆ ประมาณ 10 โมงค่ะ แวะเติมน้ำมันแล้วก็ขับเรื่อย ๆ ชิว ๆ เจ้าเหมียวก็นอนยาวไป

ถึงที่พัก ภูทองรีสอร์ท ประมาณเที่ยงกว่า ๆ ค่ะ ที่พักเราอยู่ในพัทยาน้อยเลี้ยวเข้าไปในพัทยาน้อยตามปกติ รีสอร์ทจะอยู่เกือบสุดซอยทางขวามือ หาง่ายมากค่ะ ที่นี่เป็นบ้านดิน เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว (พอดีเราไปกันวันศุกร์ เลยไม่มีแขกคนอื่นค่ะ มีมาเข้าพักตอนดึก ๆ อีกหลัง ตอนเช้าก็ไม่เจอกันแล้ว) มีสวนให้ได้เดินออกกำลังกายด้วยนะคะ เราจองบ้านดิน 9 เอาไว้ พักได้ 4 คน แล้วก็มีค่าบริการเจ้าเหมียวอีกตัวละ 50 บาท รวมค่าที่พัก 1200 + (50*2) = 1300 บาท
https://www.facebook.com/pg/phuthongresort/photos/?tab=album&album_id=997457856966961

ถึงที่พักก็สำรวจกันนิดหน่อย ก่อนที่เด็กสองตัวนางจะวิ่งปรู๊ดไปนอนใต้เตียง (เวลานอนกลางวัน) แล้วก็ไม่สนใจใด ๆ ในโลกนี้อีก

หลังจากเช็กอิน เก็บกระเป๋าและสำรวจที่พักกันเรียบร้อย โดยปล่อยเจ้าสองแมวนอนกลางวันตากแอร์อยู่ในห้อง เรา 4 คน พ่อ-แม่ ลูก ก็เดินทางกันต่อ ไปรับทานอาหารกลางวันกันที่ ร้านอาหารในเขื่อนสิรินธร ชื่อร้านเรือนโดมน้อย เรือนลำโดม หรือลำโดมอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ จำไม่ได้ อมยิ้ม07 การเดินทางมาก็แสนง่ายค่ะ จากพัทยาน้อยเราก็เลี้ยวขวาออกมา ขับตรงไปทางไปช่องเม็ก เขื่อนสิรินธรจะอยู่ทางขวามือ เลี้ยวเข้าไปในเขื่อนเลยค่ะ ที่หน้าประตูจะมีเจ้าหน้าที่ให้บัตรผ่าน เราจอดรับแล้วก็เข้าไปได้เลยค่ะ (อารมณ์ประมาณเข้าแมคโครค่ะ อมยิ้ม16) ขับตามป้ายร้านอาหารไป ไม่ไกล และไม่หลงค่ะ ร้านนี้ก็แสนจะเงียบสงบอีกเช่นกัน บรรยากาศดี กินลมชมวิวเขื่อนกันไป วันนี้มีเราเป็นลูกค้าแค่โต๊ะเดียวค่ะ ระหว่างรออาหารเรา (คนเดียว 55) ก็วิ่งลงไปดูที่ให้อาหารปลาด้วย แต่เห็นมีอาหารเม็ดลอยอยู่ แล้วก็มีปลาตัวเล็ก ๆ ว่ายตอดอาหารไปมา เลยคิดว่า สงสัยปลาจะอิ่ม เลยไม่ได้ซื้ออาหารมาให้นาง (ที่นี่เค้ามีอาหารปลาจำหน่ายนะคะ ด้านบนร้านอาหารนั่นแหละ) กลับขึ้นมารออาหารไม่นานค่ะ วันนี้ฝากท้องไว้กับ ยำรวมมิตร ทอดมันปลา ส้มตำปู ตำไทย ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน ข้าวผัดกุ้ง (ใส่ผงกะหรี่ด้วย ก็แปลกดี เพิ่งเคยกิน) และก็ต้มยำรวมมิตร (มันแซ่บตรงที่ รวมทั้งบกทั้งทะเลมาด้วยกัน กุ้งก็มี ไก่ก็มา ...แปลกได้อี๊ก 555)

ทานอาหารเสร็จก็ต่อด้วยไอศกรีมแท่ง ทางร้านมีตู้ไอศกรีมไว้บริการ (มีขนมขบเคี้ยวแล้วก็เครื่องดื่มด้วยนะคะ ^^) คุณพ่อคุณแม่จัดกะทิเผือกไป ส่วนพี่ชายยกธงขาว 555

อิ่มแล้ว ก็ชมวิวกันสักหน่อย เพื่อเป็นการพักพุงก่อนออกเดินทาง

โดยรวมแล้วทานอาหารที่นี่โอเคนะคะ พนักงานน่ารัก วิวดี แต่วันที่เราไปบังเอิญตอนเย็นจะมีงานเลี้ยงต่อ เค้าเลยจัดสถานที่กัน แล้วเราเลือกนั่งโต๊ะติดเวที เพราะมันใกล้ทางขึ้น ไม่อยากให้คุณแม่เดินไกล ก็ดันอยู่ตรงเค้าจัดสถานที่กันพอดี ! กำลังทานข้าวกินบรรยากาศชิว ๆ อยู่ ฝ่ายสถานที่มา ก็ยกลังเครื่องดื่มปึง ๆ ปัง ๆ ปูผ้ากันไป รู้สึกเหมือนโดนไล่ (แต่เค้าก็ไม่ได้ไล่หรอกนะคะ รู้สึกไปเอง 555) ก็เลยเกิดอารมณ์รีบกินรีบลุก นั่งไม่สนุกละ ,,, มื้อนี้หมดไป 1010 บาท (มั้ง จำไม่ได้ ราว ๆ นี้แหละค่ะ พี่ชายเป็นคนจ่าย) ,,, ยังไงใครไม่เคยไปก็แนะนำให้ลองเข้าไปนะคะ  อมยิ้ม36

หลังออกจากร้าน และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกแล้ว สี่คนพ่อแม่ลูกก็ขับรถชมวิวเขื่อนค่ะ ไปดูโซนที่พัก (ซึ่งตอนแรกกะว่าจะพักที่นี่ค่ะ แต่เต็มซะก่อน อันนี่เบอร์โทรศัพท์ที่เราติดต่อที่พัก 045366085 เผื่อใครสนใจ) เรื่อยไปจนถึงสนามกอล์ฟเลยค่ะ ที่นี่เค้าก็มีสวน มีพระพุทธรูป ให้ได้เดินชม เดินออกกำลังกาย เดินถ่ายภาพชิว ๆ นะคะ แต่เราเน้นสบายเป็นที่ตั้ง ไม่เดินค่ะ นั่งรถชมแล้วก็กลับออกมา
หัวเราะ

ออกจากเขื่อนประมาณบ่ายสาม ก็ขับรถชมวิวกลับมาพักผ่อนที่รีสอร์ทกัน กลัวคุณแม่เหนื่อย (ใครที่ยังบู๊ไหว จะไปต่อช่องเม็กก็ได้นะคะ ไม่ไกล แต่ตามคอนเสปเราเน้นสบาย ดังนั้น การไปตะลุยช้อปท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผานี่เซย์กื้ดบายค่ะ)

กลับมาถึงที่พักเจ้าเด็กสองตัวก็ยังไม่ตื่น ตอนแรกคุยกับพี่ชายว่าเราจะไปเล่นน้ำกัน นัดแนะให้คุณพ่อเตรียมชุดเผื่อเล่นน้ำไปด้วยนะคะ แต่... แดดแรงเกินไปค่ะ สู้ไม่ไหว อีกอย่าง ในพัทยาน้อยถ้าจะลงเล่นน้ำแบบสะดวก ๆ นี่ต้องขึ้นแพค่ะ สั่งอาหารขึ้นไปนั่งแพ แล้วก็จะมีเอเรียของตัวเองไว้เล่นน้ำ เราอิ่มมาก ตัวกำลังจะแตก รับอะไรอีกไม่ได้แล้วค่า แต่ตอนขับรถกลับเข้ามาก็เห็นบางครอบครัว แล้วก็กลุ่มเด็ก ๆ วัยรุ่น เอารถเทียบข้างถนนแล้วก็ไต่ลงมาเล่นน้ำนะคะ ทางลาดชันหน่อย จอดรถข้างถนนอันตรายนิดหน่อย แต่ก็ไม่ต้องเสียตังค์ (ถ้าเป็นคนในพื้นที่อิฉันก็อาจจะลองปีนบ้างนะคะ รู้สึกเฟี้ยวฟ้าวดี 5555)

เนื่องจากไม่ได้เล่นน้ำ ก็พักผ่อนกันไป ดูโทรทัศน์ไป หาคลื่น wifi ไป ซึ่งพบว่า ใช้ไม่ได้ =3= แล้วก็เลยได้มาสนใจผ้าม่าน บ้านหลังนี้จะมีสองห้อง ห้องใหญ่เปิดเข้ามาเจอเลย แล้วก็จะมีห้องเล็กแยกย่อยออกมา ซึ่งสองห้องนี้จะมีผ้าม่านแตกต่างกัน ห้องใหญ่จะสไตล์หวาน ๆ ส่วนห้องเล็กมาแนวคลาสสิก คุณแม่บอก อ้าวทำไมผ้าม่านไม่เหมือนกัน (ขี้สงสัยไปอีกแม่ฉัน 555) ลูกได้แต่บอกว่า ไม่รู้ค่า...

พักผ่อนกันไปจนประมาณ 4 โมงกว่า ๆ 5 โมง (ซึ่งสองแมวก็ยังไม่ตื่น) พวกเราก็ออกเดินทางอีกครั้ง จุดหมายปลายทางก็คือ วัดภูพร้าว หรือที่หลายคนรู้จักในนาม วัดเรืองแสง ซึ่งวัดนี้ตั้งอยู่ระหว่างทางไปช่องเม็กค่ะ เลยเขื่อนสิรินธรไปพอสมควร วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ จะมีป้ายบอกชื่อ วัดสิรินธรวราราม ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยค่ะ ขับรถตรงไปตามทาง จะมีขึ้นเนินนิดหน่อยค่ะ แป๊บเดียวถึง ไม่ลำบาก เหมือนสองข้างทางจะมีจุดแวะชมความงามธรรมชาติ บ่อน้ำรึอะไรไม่แน่ใจ ไม่ได้แวะ ขึ้นมาถึงบันไดทางขึ้นเราลุ้นมากค่ะ ว่าคุณแม่จะขึ้นได้ไหม นี่คิดเรื่องนี้ตั้งแต่วางแผนว่าจะมา ถึงขนาดคิดแผนสำรองว่า ถ้าคุณแม่ขึ้นไม่ได้ เราจะอยู่กับคุณแม่ที่ด้านล่าง ให้พี่ชายกับคุณพ่อขึ้นไปกัน เพราะเราเคยมาแล้ว แต่... คุณแม่ขึ้นได้ค่ะ ! อมยิ้ม21

ต้องบอกว่า แม่เก่งมาก เพราะแม่ใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินค่ะ เดินใกล้ ๆ ไม่ใช้ไม้เท้าได้ แต่เดินไกล ๆ หน่อยนี่ไม้เท้าต้องมา... ก็ช่วยกันดัน ช่วยกันพยุง สุดท้ายก็ขึ้นมากันได้ เราดีใจ แม่ก็ดีใจนะ นางยิ้มแป้นเลย อมยิ้ม22

ก็ค่อย ๆ เดินกันไปนั่งกันไปสุดทาง ให้พี่ชายกับคุณพ่อขึ้นไปกราบพระ สวนเรากับคุณแม่ นั่งธุจ้าอยู่ข้างนอกก็พอ

ชื่นชมความงามและบรรยากาศกันไป

เดินเรื่อย ๆ ไปทางด้านหลัง เป็นจุดชมวิว เจอพระอาจารย์ท่านกวาดลานวัดอยู่ ท่านบอกว่ามีรถเข็นบริการนะทางด้านนู้น (เดินขึ้นบันไดไปรถเข็นและน้ำดื่มจะบริการอยู่ด้านซ้ายของโบสถ์ แต่เราขึ้นไปได้ก็เดินไปข้างขวาเลยค่ะ 555) แต่คุณแม่สู้ค่ะ คุณแม่บอกเดินไหว (เก่งใช่ไหมล่า ^0^) ก็เดินเรื่อย ๆ กันไปจนถึงจุดชมวิว

ต้นโพธิ์หลังโบสถ์ นับเป็นหนึ่งในไฮไลท์ เพราะว่ามันงามนัก วันนี้ขอนำเสนอในมุมข้าง (เพราะมุมตรง ๆ หาโอกาสถ่ายยากเหลือเกิน 555)

นั่งดื่มน้ำ กินลมชมวิว ชมวัด ชมคน ชมตากล้อง ชมโดรนกันไป ต้องบอกว่าคนมาเยอะมากค่ะ ทัวร์มาลงเยอะ ตอนเรามาถึงมีรถทัวร์สองคันจอดอยู่ แต่ระหว่างที่เราใช้เวลาอยู่ที่วัด ไม่รู้ว่ามีทัวร์มาอีกกี่คัน นั่งอยู่สักพัก ก็ 6 โมงครึ่ง ดวงอาทิตย์เริ่มไป แสงเริ่มหมด

ทัวร์กลับไปหมดแล้ว แต่คนที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวเริ่มมา เพราะว่าวัดเริ่มจะเรืองแสงแล้ว อมยิ้ม17
พวกเราก็เตรียมออกเดินทางแล้วเหมือนกัน เพราะนัดรีสอร์ทตั้งอาหารเย็นตอน 1 ทุ่ม เดี๋ยวจะมืดเกินไป
ตอนเดินออกแวะปิดทองลูกนิมิตรท่ามกลางความสลัวสักหน่อย

ทางเดินเรืองแสง ชอบมาก ประทับใจสุด ๆ อยากมีแบบนี้ที่บ้าน >////<

เดินวนกลับมาถึงหน้าวัดแล้ว

แล้วก็ค่อย ๆ พยุง ค่อย ๆ ดึง ค่อย ๆ เดินกันไป ลงบันไดได้สำเร็จ เย่เย่

เป็นวัดที่สร้างความประทับใจให้ในทุกครั้งที่มาเยิ่ยมชมค่ะ งดงามและมีชีวิตชีวาทั้งกลางวันกลางคืน บอกเลยว่า เป็นวัดที่ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ ใครมีโอกาสแนะนำว่าอย่าพลาดนะคะ เยี่ยม
วัดภูพร้าวนี่รีวิวเยอะแยะมากมาย ดังนั้น สามารถหาข้อมูลได้ตามอัธยาศัยนะคะ 555

เสร็จจากภูพร้าวเราก็กลับมาที่รีสอร์ทค่ะ ทุ่มกว่า ๆ อาหารตั้งโต๊ะพอดี เราทานอาหารที่โรงอาหารนะคะ เป็นโซนรับประทานอาหารที่ทางรีสอร์ทจัดเอาไว้ อยู่ตรงข้ามกับห้องพักของพวกเราพอดี สามารถจัดปาร์ตี้ ร้องเพลงคาราโอเกะได้ด้วย

อาหารของเรามื้อนี้ สั่งเอาไว้ตั้งแต่จองห้องพักค่ะ มี กุ้งแม่น้ำอบเกลือ กุ้งอบวุ้นเส้น ไก่ทอดซีพี กุ้งชุบแป้งทอด (อันนี้ไม่ได้) ยำรวมมิตร ยำไส้ตัน ข้าวผัดทะเลจานใหญ่ ต้มปลาเนื้ออ่อนใส่ผักกะแยง (ซึ่งต้มนี้คุณแม่บ่นอุบ เพราะนางต้องการให้ต้มผักใส่ไปด้วย แต่ทางรีสอร์ทแยกผักเอาไว้ให้โรยใส่หม้อตอนจะทานแทน) ต้องบอกว่า แต่ละจาน จานใหญ่มาก ! ค่ะ เห็นแล้วแบบ โหย... จะรอดไหมเนี่ยฉัน โชคดีที่เค้าลืมกุ้งชุบแป้งทอดนะเนี่ย

ถ้าพูดถึงรสชาติอาหารของเมื่อกลางวัน (ทานที่เขื่อน) กับที่รีสอร์ท ของรีสอร์ทจะรสจัดกว่าค่ะ แซ่บกว่า และจานใหญ่กว่ามาก คิดว่าจานเล็ก ๆ เหมือนที่อื่น สั่งซะเยอะเลย กรี๊ด exclaim

ที่รีสอร์ทมีแมวมาอยู่ด้วยค่ะ ตอนทานอาหารนางก็จะมาอยู่ใกล้ ๆ มาขอกิน ก็ได้พวกนางนี่แหละค่ะ ช่วยจัดการอาหาร ไม่งั้นมื้อนี่เหลือบาน แต่มีเจ้าตัวนึงเพิ่งจะมาใหม่ (เจ้าของรีสอร์ทบอก) นางเป็นขี้เรื้อนหมดตัวเลย แล้วนางก็กระโดดมาบนเก้าอี้ด้วย อยู่ ๆ นางเห็นตัวอื่นมา นางกลัวเค้าแย่ง รึยังไม่ถูกกันยังไงไม่ทราบ กระโดดขึ้นมาบนโต๊ะ เรานี่กรี๊ดเลยค่า เรากลัวเจ้าตัวนี้มาก กลัวนางมาถูกตัวเรา แล้วถ้าเรากลับไปใกล้เด็กเรา เด็กเราจะไม่สบาย ,,, กลัวนางมาก แต่ก็เห็นใจนาง ได้แต่เอาใจช่วย ให้หายป่วยไว ๆ มีที่อยู่ที่กินแล้ว คงจะแข็งแรงในเร็ววัน

หลังอาหารพวกเราก็เดินออกกำลังกาย เดินอ้อมชมสวนยามค่ำคืน...
เดี๋ยวภาพส่วนตามมาพรุ่งนี้นะคะ ข้อความเต็มแล้ว ง่วงแล้วด้วย คร่อกฟี้
ชื่อสินค้า:   ภูทองรีสอร์ท ร้านอาหารในเขื่อนสิรินธร วัดภูพร้าว (วัดเรืองแสง) แก่งสะพือ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่