เดิมทีไม่ได้ตั้งใจมารีวิวนะครับ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะไรมาลง แต่ว่าไปเจออะไรหลายๆอย่างที่ไม่ประทับใจ เลยเอามาบ่นๆให้ฟังจะได้ไม่โดนเวลาไปเที่ยวครับ งานนี้จะมีแต่เรื่องที่ไม่ประทับใจนะครับ ส่วนดีก็มีแต่แบบนี้น่าจะมีประโยชน์กว่า เลยคัดมาแต่เรื่องที่ควรเลี่ยง แต่ก็บอกเลยนะครับว่าสำหรับผมยังไงเกาะเสม็ดก็ยังน่าเที่ยวอยู่ถึงแม้ว่าจะมีแรื่องแย่ๆแต่ก็น่าจะเป็นส่วนน้อยนะ(คิดว่านะ) รอบนี้ตั้งไปพาลูกไปนอนเต็นท์ หลังจากที่อ่านรีวิวของการกางเต็นท์บนเกาะมาแล้วก็เลยอยากลองไปบ้างครับ เป้าหมายก็จุดกางเต้นอ่าวลูกโยนเลย
เรื่องแรก เรื่องตั๋วเรือ
หลังจากที่เนำรถไปฝากกับที่จอดรถ ด้วยค่าจอดคืนละ120 จากนั้นน้องคนนั้นก็ถามว่ามีตั๋วหรือยังผมเลยบอกยัง น้องเขาก็อาสาพาไปซื้อ โดยผมก็เน้นไปว่าน้องขอแบบออกเร็วๆนะ น้องเขาก็ตอบมาทันทีว่าเที่ยงออกค่ะ ผมเลยตกลงและไปซื้อตามที่น้องเขาบอก ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 11.30 ก่อนซื้อผมก็ถามคนขายตอนกลับนี่สามารถขึ้นเรือได้ทุกลำหรือเปล่าครับ คนขายก็บอกว่าใช่ค่ะขึ้นลำไหนก็ได้(สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ คือคนขายตั๋วบางที่จะไม่มีเรือของตัวเองครับ ก็จะต้องไปขึ้นเรือของเจ้าอื่นแทน จะเรียกว่านายหน้าก็ได้ คนไหนดิวไว้ดีหน่อย ก็สามารถขึ้นได้หลายท่าครับโดยสามารถไปแลกตั๋วได้ เดี๋ยวเขาไปเคลียกันเอง) พอจ่ายเงินเสร็จคนขายบอกพี่นั่งรอเลยค่ะเรือออกเที่ยงครึ่ง อ้าวไหนน้องคนนั้นบอกว่าออกเที่ยงไง คนขายก็ตอบอ๋อน้องมันไม่รู้เรื่องน่ะค่ะ ผมก็งงๆเลยมานั่งรอลงเรือระหว่างนั้นก็นั่งดูเรือลำอื่นออกไปด้วยความเซ็ง หลังจากนั้นสัก10นาทีคนขายก็เอาตั๋วมาเปลี่ยนบอกว่าต้องเปลี่ยนตั๋วก็งงๆแต่ก็ไม่มีอะไรสักพักเรือมา แต่มันดันมีปัญหาตอนกลับครับ นั่นคือตอนจะกลับไอ้ตั๋วที่นายหน้าโม้ว่าสามารถขึ้นได้ทุกลำน่ะ มันไม่จริงเลยแถมการจะขึ้นก็ต้องโทรถามก่อน 1ชม.ด้วยว่ามีเรือไหม กี่โมงแล้วให้ไปขึ้นท่าไหนด้วย ซึ่งที่ๆไปรอขึ้นรอมันไม่มีร่มครับ รอตอน11โมงนี้ร้อนตับแลบ
***เรื่องตั๋วเรือหากใครจะไปเสม็ดผมแนะนำให้ซื้อจากท่าเรือนวลทิพย์หรือท่าเรือศรีบ้านเพนะครับ 2เจ้านี้มีมานานมากละซื้อจากท่าเรือโดยตรงก็ดีจะได้ไม่โดนแบบผม แถมราคาเท่ากันด้วยครับเที่ยวละ50บาทต่อคน/เที่ยว ตอนขากลับก็ไม่ต้องโทรถามเขามีเวลาแจ้งชัดเจนเลย ซึ่งตรงนี้ผมก็ไปกับ2เจ้านี้ตลอดนะไม่รู้คราวนี้อะไรดลใจ
เรื่องที่2 เรื่องท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดกับห้องน้ำ
ท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดที่มีหลังคาสีฟ้าๆนั้นสร้างโดยอบจ.ระยองและมีพิธีเปิดไปเมื่อปี2555 และเข้าใจว่าโดยภาษีของประชาชน โดยแรกเริ่มเก็บค่าเหยียบท่า10บาทแต่ได้มีการปรับขึ้นเป็น 20บาททั้งๆที่เปิดไปได้เพียง 2ปีเท่านั้น ด้วยเหตุผลว่าค่าบำรุงรักษามันแพงครับ ดังนั้นใครที่เดินบนท่าก็เดินกันเบาๆนะครับเดี๋ยวมันสึกเยอะ ไม่งั้นเดี๋ยวมีขึ้นราคาอีก ซึ่งเงิน20บาทเพื่อความปลอดภัยสะดวกสะบายก็ไม่เยอะครับ แต่!!!! ปัญหามันมีตรงที่หากคุณต้องการจะใช้ห้องน้ำไม่ว่าจะหนักจะเบา ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกครั้งละ 10บาทซึ่งบอกตามตรงแพงมาก ในเมื่อคุณจ่ายค่าท่าแล้วทำไมยังจะต้องมาเก็บค่าห้องน้ำอีกไหนบอกว่าสร้างท่าเรือเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้ประชาชนไง แถม10บาทที่จ่ายไปแลกกับการเข้าห้องเน่าๆนี่มันไม่คุ้มกันเลยครับตามรูป และที่น่าแปลกก็คือ บางคนจ่ายแค่ 3บาทก็เข้าได้(ลักษณะเหมือนคนพื้นที่) ผมลองถามป้าว่าทำไมเก็บแพงจังตั้ง10บาท ป้าแกบอกให้ไปถามอบจ.ระยองเอาครับเพราะเขาเป็นคนเก็บ แต่ผมก็แอบเห็นว่าป้าแกไม่ได้เก็บเงินใส่กล่องนะครับ แต่ป้าแกเอาบางส่วนไปใส่ตะกร้าที่อยู่ด้านหลังกล่องแทน ก็เลยงงใครเก็บกันแน่
อ้อ สำหรับคนที่คิดว่ามันแพงเพราะต้องไปเอาน้ำมาจากบนฝั่งนะครับ ตอนนี้ไม่ใช่แล้วบนเกาะจะมีอ่างเก็บน้ำสำหรับไว้ใช้ด้วยครับ และผมก็เห็นรถน้ำไปขนน้ำในนั้นมาขายดังนั้นไม่น่าแพงครับ อ้อก่อนอบจ.ระยองจะเข้ามา ค่าท่าไม่เสียนะครับ
ที่เห็นนองๆนั่นไม่ใช่น้ำล้างพื้นนะครับ แต่มันทะลักออกมาจากท่อใต้อ่างล้างมือ
เศษซากจากบางคนเห็นได้ชัดว่าเก็บไปบางส่วน แต่ก็ยังเหลือไว้ให้ดูต่างหน้า มีเยอะกว่านี้แต่มีคนใช้อยู่ไม่อยากถ่าย
ชัดเจนครับ 10บาทค่าเข้าห้องน้ำเน่าๆ
อันนี้ประกาศหลังจากเปิดมาได้2ปีชัดเจนว่าขึ้นราคาเพื่อพัฒนาความสะดวกสะบาย แล้วห้องน้ำเน่าๆกับค่าเข้า10บาทมีมาได้ไง
เรื่องที่3 จุดกางเต็นท์
ไปถึงวันที่9 มีครอบครัวผมแค่ครอบครัวเดียวที่มานอน แต่ก็ไม่เงียบนะครับ มีเด็กพื้นที่มาเล่นน้ำกันสนุกสนาน เจ้าหน้าที่ก็ใจดี พูดคุยยิ้มแย้มกันทุกคน ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรแต่ก็เจอปัญหาใหญ่จนได้ นั่นคือคือห้องน้ำ จากที่ดูรีวิวในหลายๆที่ต่างก็บอกว่าห้องน้ำสะอาดปลอดภัยแต่พอเอาเข้าจริงมันไม่ใช่ เพราะห้องน้ำที่หลายๆคนบอกว่าสะอาดและควรจะมีหลายห้องนั้นกลับถูกปิดไปครึ่งนึงด้วยกระถางต้นไม้และถูกล็อค ทำให้เหลือห้องอาบน้ำ1ห้อง ห้องน้ำหญิง1ห้องเท่านั้น และห้องเดียวที่ว่านั้นมันดันไม่มีฝารองนั่ง จบเลยแล้วทีนี้ถ้าปวดหนักจะทำยังไง จะขึ้นไปเหยียบก็ไม่ได้เดี๋ยวมีลื่นหัวแตก จะนั่งไปเลยก็ไม่ได้ แต่แค่นี้ยังไม่หมดนะครับ เพราะผมมารู้ที่หลังจากเจ้าหน้าที่ว่าส้วมมันเต็ม เจ้าหน้าที่ก็รู้แต่ไม่บอกกันเลย มาบอกเอาตอนมาเก็บตังวันกลับนั่นล่ะครับ นี่ดีนะที่ยังไม่ได้เข้าไปถ่ายหนักกันเลยไม่งั้นคงได้อายกันบ้างล่ะเพราะมีคนมาใช้กันเรื่อยๆเหมือนกัน และอีกเรื่องนึงก็คือเจ้าหน้าที่บอกว่าวันที่9ควรมีเจ้าหน้าที่มาแก้ไขแต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นดันไม่มาแก้แต่ไปออกตรวจกับทหารแทน (มันน่าด่าไหมนี่หน้าที่ตัวเองมีแต่ไม่ทำ) เพราะปัญหาเรื่องห้องน้ำผมเลยตัดสินใจย้ายไปโรงแรมครับ ซึ่งความซวยก็ยังตามผมมาติดๆโดยคืนนั้นฝนตกไฟดับครับก็นอนร้อนกันพักถึงแถมยังมีวันรุ่นผู้หญิงออกมาร้องเพลงให้ฟังทั้งๆที่ไม่ได้ขอด้วยครับ
***เจ้าหน้าที่อุทยานบอกว่าจะมีห้องน้ำ2แห่งนะครับ ตรงจุดกางเต็นท์และอีกจุดตรงหาดทรายแก้ว ถ้าใครคิดว่าสามารถเดินไป2-300เมตรเพื่อเข้าห้องน้ำได้ก็เชิญครับ
สภาพห้องน้ำครับ เป็นห้องเดียวที่เปิดให้ใช้
สภาพแวดล้อมก็สวยดีนะครับถ้าไม่นับเรื่องห้องน้ำ
เรื่องที่4 อาหาร
อาหารบนเกาะย่อมต้องแพงเป็นธรรมดาอยู่แล้วนะครับ ข้าว70-80นี่ถือว่าปกติและส่วนใหญ่ราคานี้ครับ แต่อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจไปนะครับเพราะถึงแม้จะราคาพอๆกันแต่ก็ต้องเลือกให้ดี เพราะบางร้านนี่รสชาติแย่มากแถมแอบแฝงไว้กับค่าเครื่องดื่มอีก ยกตัวอย่างเช่นร้านแรกที่ผมไปทานเป็นร้านข้างทางเล็กๆ ขายส้มตำและอาหารตามสั่งค่าอาหารก็ทั่วไปก็คือ70-80 ไก่ย่างน่องละ90 มีป้ายบอกชัดเจน แต่ไม่มีป้ายราคาเครื่องดื่ม ข้าวกระเพราะไข่เยี่ยวม้าที่สั่งมาก็ไม่อร่อยเลยข้าวมันแข็งมากแข็งเป็นเม็ดๆเลยเหมือนข้าวที่หุงแล้วใส่น้ำน้อยไป ยังไม่พอทั้งจานเต็มไปด้วยกระเพราะกรอบยังกับป้าแกเป็นเจ้าของสวน เพราะมันเต็มจาน ถ้าเป็นที่อื่นกระเพราะเยอะขนาดนี้น่าจะใส่ได้ 2-3จานเลยก็ว่าได้เรียกได้ว่าต้องแหวกกระเพราะกินกันเลยทีเดียว แฟนผมสั่งข้าวผัดพอกินได้ดีกว่าของผมแต่ก็แย่อยู่ดี ไก่โอเคแต่ก็ยังออกเค็ม แถมร้านป้ายังคิดค่าน้ำเปล่าผมขวดละ40บาท กับน้ำ1.5ลิตรโนเนมโดยที่ไม่มีแก้วให้ด้วยซ้ำ (ที่7-11บนเกาะน้ำ1.5ลิตร 18บาทครับ) ลองคิดแล้วน้ำเปล่าแพงกว่าน้ำมันเบนซินอีก มื้อเย็นลองไปนั่งร้านพลอยทะเลร้านดังดูบ้างถึงแม้ว่าจะรสชาติดีที่สุดที่กินมาในทริปนี้แต่ก็เทียบกับที่เคยมากินบนเกาะนี้ไม่ได้ครับ แต่บรรยากาศนี่ได้เลยแต่ก็อย่างว่าคนมันซวยนั่งได้สักพักก็ต้องรีบกลับเพราะลมแรงฟ้าผ่าแวบๆมาแต่ไกลก็เลยรีบกลับ แต่พอกลับมาฝนกลับไม่ตกซะงั้น
***ปกติค่าอาหารทั่วไปมีตั้งแต่ 50-90 บาทต่อจาน ส่วนค่าน้ำร้านไหนดีหน่อยขวดเล็กก็10-20บาท ขวดใหญ่ก็20-30ครับนี่คือราคาร้านทั่วไปบนเกาะ ถ้าอยากได้ของถูกก็เดินเข้าไปในวัดเลยครับแค่5-6เมตรก็เจอไม่แพง ข้าวกระเพราะไก่60บาทรสชาติก็...พอกินได้ แต่ก็ยังดีและอร่อยกว่าร้านแรกที่ผมกินครับ ส่วนน้ำขวดเล็ก 10บาท ตอนเช้าๆก็มีปลาท่องโก๋ขายด้วย หรือจะไปฝากท้องกับ7-11ก็ได้ ผมว่าอร่อยกว่าหลายๆร้านเลย
ร้านนี้ร้านแรกที่กินเลย ตอนแรกไม่ได้ถ่ายวันถัดมาผ่านไปเลยถ่ายซะ
อันนี้กระเพราะไก่ของร้านในวัดครับ เยอะกว่า น่ากินกว่า รสชาติดีกว่านิดนึงครับ 60บาทเท่านั้นลองไปหาดู
เรื่องที่5 รถเช่า
รถมอเตอร์ไซด์บอนเกาะถ้ามาเที่ยวแนะนำให้เช่านะครับเพราะมันคล่องตัวขึ้นเยอะ สามารถขี่ไปเที่ยวรอบเกาะบอกเลยว่าสนุกมาก เช่าวันละ300ครับราคามาตรฐาน ผมเช่า2วัน ต่อได้500 ก็เลยเช่ามา แต่อย่างที่บอกล่ะครับว่าคนมันซวย ผมได้รถเช่าสีชมพูมาเพราะลูกสาวเป็นคนเลือกพอขับออกมาก็รู้สึกแปลกๆเพราะมันเหมือนจะล้มอยู่เรื่อย ก็ได้แต่คิดว่าคงยังไม่คุ้นพอขี่ไปสักพักเริ่มสังเกตุว่า แฮนค์มันไม่ตรงครับ พอขับตรงๆแล้วมือซ้ายจะล้ำไปด้านหน้าทำให้ขี่ยากผมเลยเอาไปเปลี่ยน ซึ่งทางร้านก็ให้เปลี่ยนครับ พอเปลี่ยนเสร็จก็ขี่ออกมาปรากฎว่าคันนี้มันก็คดเหมือนกัน คราวนี้คดขวาครับเวลาขี่มือขวามก็จะล้ำออกไปแทน แต่ก็ถือว่าน้อยกว่าเดิมผมเลยไม่เปลี่ยนแล้วก็ทนๆใช้ไป ในวันที่2ผมซ้อน3พ่อแม่ลูก(4ขวบ)ไปอ่าวปะการังระหว่างทางจะมีเนินอยู่ปรากฎว่าไอ้รถเจ้ากรรมมันขึ้นไม่ได้ครับ ขึ้นไปแล้วก็หยุดอยู่ตรงกลาง ผมต้องให้แฟนลงแล้วก็ดันท้ายถึงจะไปได้ ในขณะที่คนแอื่นเขาซ้อน4คนแต่ไปได้สบายๆเลย แสดงว่าสภาพรถของร้านนี้ไม่ดีเอามากๆเลย อ้อขี่ระวังกันด้วนนะครับ เพราะรถโดยสารที่นี่ขับเร็วมากต้องคอยหลบๆ เวลาจอดต่อท้ายก็ห่างๆหน่อย เพราะผมโดนรถยนต์ขนของถอยมาชนแบบโง่ๆด้วย(คนขับมันคุยโทรศัพท์ แถมถอยไม่มอง สงสัยอาหารแพงมันเลยกินแต่หญ้า) ขนาดตะโกนบอก3-4คนมันก็ไม่หยุด ดีนะที่ผมและครอบครัวไม่เป็นอะไร แล้วรถยนต์มันก็ไปโดยไม่สนใจอะไรเลย
***เวลาเช่ารถขอลองขับก่อนเขาเติมน้ำมันนะครับ บอกขอลองก่อนได้ไหม ลองให้หมด ไฟหน้า แตร ลองออกตัวว่าอืดไหม ถ้าอืดก็ขอเปลี่ยนเลยไม่งั้นไปอ่าวปะการังไม่ไหวครับ
รุ่นนี้เลยครับที่เช่าไป (รูปแทนจากgoogle) ปีก่อนผมเช่าคลิ้ก ชอบมากแรงดีมีที่ใส่ขวดน้ำด้วย
เรื่องที่5 เรือโดยสาร
วันกลับเนื่องจากที่ถูกหลอกขายตั๋วมาวันแรก วันกลับก็ได้เอาตั๋วไปถามที่ท่า คนขายตั๋วก็บอกว่าไม่เกี่ยวข้องกันเลยให้โทรถามเอา ผมถึงเพิ่งรู้ว่าโดนหลอกซะแล้ว(นายหน้านะไมใช่เจ้าของเรือ) ถ้าจะขึ้นเรือกลับต้องแจ้งโทรล่วงหน้า1ชม.มีในตั๋วเรือ แต่ไม่ทันได้สังเกตุเพราะไม่คิดว่าจะมีเงื่อนไข โชคยังดีที่ป้าแกบอกว่าเรือออก 11.15 ตอนนั้นผมมารอ10.15ก็ถือว่าไม่นานนัก แต่ก็เหมือนเดิมครับ คือเรือที่ป้าแกจะให้ผมนั่งกลับเนี่ยมาถึงนานแล้วแต่ว่าขนของมาเต็มลำก็เลยต้องรอขนของก่อน กว่าจะได้ลงเรือก็นู่นเลย 11.45 เสียเวลามาก และที่สำคัญมากๆคือเรือเขาไม่วางชูชีพครับ ตามกฎหมายเขาต้องมีเสื้อชูชีพให้ใส่เรือลำนี้ก็มีแต่ไม่ให้ใส่ครับ เขาเอาไปใส่ถุงเก็บไว้มิดชิดเลยทั้งๆที่เพิ่งมีข่าวเรือล่ม แต่ผมไม่อยากมีปัญหาก็เลยไม่ได้พูดอะไรครับเดี๋ยวไม่ได้กลับ นอกจากนั้นของลูกสาวผมก็เอามาเองอยู่แล้วก็เลยไม่กังวลเท่าไร
เสื้อชูชีพพอสำหรับทุกคน แต่เก็บไว้ในถุงอย่างดี...
อันนี้แถมครับเรือด้านหลังเขียนไว้ชัดเจน 45คน แต่อัดคนไปซะล้นเลยไม่รู้ปล่อยกันไปได้ยังไงหรือต้องรอให้เกิดเรื่องสลดกันซะก่อน
[CR] รีวิว(บอกเล่าความโชคร้าย) กางเต็นท์เกาะเสม็ด3วัน2คืนในเวอร์ชั่นไม่ประทับใจ
เรื่องแรก เรื่องตั๋วเรือ
หลังจากที่เนำรถไปฝากกับที่จอดรถ ด้วยค่าจอดคืนละ120 จากนั้นน้องคนนั้นก็ถามว่ามีตั๋วหรือยังผมเลยบอกยัง น้องเขาก็อาสาพาไปซื้อ โดยผมก็เน้นไปว่าน้องขอแบบออกเร็วๆนะ น้องเขาก็ตอบมาทันทีว่าเที่ยงออกค่ะ ผมเลยตกลงและไปซื้อตามที่น้องเขาบอก ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 11.30 ก่อนซื้อผมก็ถามคนขายตอนกลับนี่สามารถขึ้นเรือได้ทุกลำหรือเปล่าครับ คนขายก็บอกว่าใช่ค่ะขึ้นลำไหนก็ได้(สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ คือคนขายตั๋วบางที่จะไม่มีเรือของตัวเองครับ ก็จะต้องไปขึ้นเรือของเจ้าอื่นแทน จะเรียกว่านายหน้าก็ได้ คนไหนดิวไว้ดีหน่อย ก็สามารถขึ้นได้หลายท่าครับโดยสามารถไปแลกตั๋วได้ เดี๋ยวเขาไปเคลียกันเอง) พอจ่ายเงินเสร็จคนขายบอกพี่นั่งรอเลยค่ะเรือออกเที่ยงครึ่ง อ้าวไหนน้องคนนั้นบอกว่าออกเที่ยงไง คนขายก็ตอบอ๋อน้องมันไม่รู้เรื่องน่ะค่ะ ผมก็งงๆเลยมานั่งรอลงเรือระหว่างนั้นก็นั่งดูเรือลำอื่นออกไปด้วยความเซ็ง หลังจากนั้นสัก10นาทีคนขายก็เอาตั๋วมาเปลี่ยนบอกว่าต้องเปลี่ยนตั๋วก็งงๆแต่ก็ไม่มีอะไรสักพักเรือมา แต่มันดันมีปัญหาตอนกลับครับ นั่นคือตอนจะกลับไอ้ตั๋วที่นายหน้าโม้ว่าสามารถขึ้นได้ทุกลำน่ะ มันไม่จริงเลยแถมการจะขึ้นก็ต้องโทรถามก่อน 1ชม.ด้วยว่ามีเรือไหม กี่โมงแล้วให้ไปขึ้นท่าไหนด้วย ซึ่งที่ๆไปรอขึ้นรอมันไม่มีร่มครับ รอตอน11โมงนี้ร้อนตับแลบ
***เรื่องตั๋วเรือหากใครจะไปเสม็ดผมแนะนำให้ซื้อจากท่าเรือนวลทิพย์หรือท่าเรือศรีบ้านเพนะครับ 2เจ้านี้มีมานานมากละซื้อจากท่าเรือโดยตรงก็ดีจะได้ไม่โดนแบบผม แถมราคาเท่ากันด้วยครับเที่ยวละ50บาทต่อคน/เที่ยว ตอนขากลับก็ไม่ต้องโทรถามเขามีเวลาแจ้งชัดเจนเลย ซึ่งตรงนี้ผมก็ไปกับ2เจ้านี้ตลอดนะไม่รู้คราวนี้อะไรดลใจ
เรื่องที่2 เรื่องท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดกับห้องน้ำ
ท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดที่มีหลังคาสีฟ้าๆนั้นสร้างโดยอบจ.ระยองและมีพิธีเปิดไปเมื่อปี2555 และเข้าใจว่าโดยภาษีของประชาชน โดยแรกเริ่มเก็บค่าเหยียบท่า10บาทแต่ได้มีการปรับขึ้นเป็น 20บาททั้งๆที่เปิดไปได้เพียง 2ปีเท่านั้น ด้วยเหตุผลว่าค่าบำรุงรักษามันแพงครับ ดังนั้นใครที่เดินบนท่าก็เดินกันเบาๆนะครับเดี๋ยวมันสึกเยอะ ไม่งั้นเดี๋ยวมีขึ้นราคาอีก ซึ่งเงิน20บาทเพื่อความปลอดภัยสะดวกสะบายก็ไม่เยอะครับ แต่!!!! ปัญหามันมีตรงที่หากคุณต้องการจะใช้ห้องน้ำไม่ว่าจะหนักจะเบา ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกครั้งละ 10บาทซึ่งบอกตามตรงแพงมาก ในเมื่อคุณจ่ายค่าท่าแล้วทำไมยังจะต้องมาเก็บค่าห้องน้ำอีกไหนบอกว่าสร้างท่าเรือเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้ประชาชนไง แถม10บาทที่จ่ายไปแลกกับการเข้าห้องเน่าๆนี่มันไม่คุ้มกันเลยครับตามรูป และที่น่าแปลกก็คือ บางคนจ่ายแค่ 3บาทก็เข้าได้(ลักษณะเหมือนคนพื้นที่) ผมลองถามป้าว่าทำไมเก็บแพงจังตั้ง10บาท ป้าแกบอกให้ไปถามอบจ.ระยองเอาครับเพราะเขาเป็นคนเก็บ แต่ผมก็แอบเห็นว่าป้าแกไม่ได้เก็บเงินใส่กล่องนะครับ แต่ป้าแกเอาบางส่วนไปใส่ตะกร้าที่อยู่ด้านหลังกล่องแทน ก็เลยงงใครเก็บกันแน่
อ้อ สำหรับคนที่คิดว่ามันแพงเพราะต้องไปเอาน้ำมาจากบนฝั่งนะครับ ตอนนี้ไม่ใช่แล้วบนเกาะจะมีอ่างเก็บน้ำสำหรับไว้ใช้ด้วยครับ และผมก็เห็นรถน้ำไปขนน้ำในนั้นมาขายดังนั้นไม่น่าแพงครับ อ้อก่อนอบจ.ระยองจะเข้ามา ค่าท่าไม่เสียนะครับ
ที่เห็นนองๆนั่นไม่ใช่น้ำล้างพื้นนะครับ แต่มันทะลักออกมาจากท่อใต้อ่างล้างมือ
เศษซากจากบางคนเห็นได้ชัดว่าเก็บไปบางส่วน แต่ก็ยังเหลือไว้ให้ดูต่างหน้า มีเยอะกว่านี้แต่มีคนใช้อยู่ไม่อยากถ่าย
ชัดเจนครับ 10บาทค่าเข้าห้องน้ำเน่าๆ
อันนี้ประกาศหลังจากเปิดมาได้2ปีชัดเจนว่าขึ้นราคาเพื่อพัฒนาความสะดวกสะบาย แล้วห้องน้ำเน่าๆกับค่าเข้า10บาทมีมาได้ไง
เรื่องที่3 จุดกางเต็นท์
ไปถึงวันที่9 มีครอบครัวผมแค่ครอบครัวเดียวที่มานอน แต่ก็ไม่เงียบนะครับ มีเด็กพื้นที่มาเล่นน้ำกันสนุกสนาน เจ้าหน้าที่ก็ใจดี พูดคุยยิ้มแย้มกันทุกคน ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรแต่ก็เจอปัญหาใหญ่จนได้ นั่นคือคือห้องน้ำ จากที่ดูรีวิวในหลายๆที่ต่างก็บอกว่าห้องน้ำสะอาดปลอดภัยแต่พอเอาเข้าจริงมันไม่ใช่ เพราะห้องน้ำที่หลายๆคนบอกว่าสะอาดและควรจะมีหลายห้องนั้นกลับถูกปิดไปครึ่งนึงด้วยกระถางต้นไม้และถูกล็อค ทำให้เหลือห้องอาบน้ำ1ห้อง ห้องน้ำหญิง1ห้องเท่านั้น และห้องเดียวที่ว่านั้นมันดันไม่มีฝารองนั่ง จบเลยแล้วทีนี้ถ้าปวดหนักจะทำยังไง จะขึ้นไปเหยียบก็ไม่ได้เดี๋ยวมีลื่นหัวแตก จะนั่งไปเลยก็ไม่ได้ แต่แค่นี้ยังไม่หมดนะครับ เพราะผมมารู้ที่หลังจากเจ้าหน้าที่ว่าส้วมมันเต็ม เจ้าหน้าที่ก็รู้แต่ไม่บอกกันเลย มาบอกเอาตอนมาเก็บตังวันกลับนั่นล่ะครับ นี่ดีนะที่ยังไม่ได้เข้าไปถ่ายหนักกันเลยไม่งั้นคงได้อายกันบ้างล่ะเพราะมีคนมาใช้กันเรื่อยๆเหมือนกัน และอีกเรื่องนึงก็คือเจ้าหน้าที่บอกว่าวันที่9ควรมีเจ้าหน้าที่มาแก้ไขแต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นดันไม่มาแก้แต่ไปออกตรวจกับทหารแทน (มันน่าด่าไหมนี่หน้าที่ตัวเองมีแต่ไม่ทำ) เพราะปัญหาเรื่องห้องน้ำผมเลยตัดสินใจย้ายไปโรงแรมครับ ซึ่งความซวยก็ยังตามผมมาติดๆโดยคืนนั้นฝนตกไฟดับครับก็นอนร้อนกันพักถึงแถมยังมีวันรุ่นผู้หญิงออกมาร้องเพลงให้ฟังทั้งๆที่ไม่ได้ขอด้วยครับ
***เจ้าหน้าที่อุทยานบอกว่าจะมีห้องน้ำ2แห่งนะครับ ตรงจุดกางเต็นท์และอีกจุดตรงหาดทรายแก้ว ถ้าใครคิดว่าสามารถเดินไป2-300เมตรเพื่อเข้าห้องน้ำได้ก็เชิญครับ
สภาพห้องน้ำครับ เป็นห้องเดียวที่เปิดให้ใช้
สภาพแวดล้อมก็สวยดีนะครับถ้าไม่นับเรื่องห้องน้ำ
เรื่องที่4 อาหาร
อาหารบนเกาะย่อมต้องแพงเป็นธรรมดาอยู่แล้วนะครับ ข้าว70-80นี่ถือว่าปกติและส่วนใหญ่ราคานี้ครับ แต่อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจไปนะครับเพราะถึงแม้จะราคาพอๆกันแต่ก็ต้องเลือกให้ดี เพราะบางร้านนี่รสชาติแย่มากแถมแอบแฝงไว้กับค่าเครื่องดื่มอีก ยกตัวอย่างเช่นร้านแรกที่ผมไปทานเป็นร้านข้างทางเล็กๆ ขายส้มตำและอาหารตามสั่งค่าอาหารก็ทั่วไปก็คือ70-80 ไก่ย่างน่องละ90 มีป้ายบอกชัดเจน แต่ไม่มีป้ายราคาเครื่องดื่ม ข้าวกระเพราะไข่เยี่ยวม้าที่สั่งมาก็ไม่อร่อยเลยข้าวมันแข็งมากแข็งเป็นเม็ดๆเลยเหมือนข้าวที่หุงแล้วใส่น้ำน้อยไป ยังไม่พอทั้งจานเต็มไปด้วยกระเพราะกรอบยังกับป้าแกเป็นเจ้าของสวน เพราะมันเต็มจาน ถ้าเป็นที่อื่นกระเพราะเยอะขนาดนี้น่าจะใส่ได้ 2-3จานเลยก็ว่าได้เรียกได้ว่าต้องแหวกกระเพราะกินกันเลยทีเดียว แฟนผมสั่งข้าวผัดพอกินได้ดีกว่าของผมแต่ก็แย่อยู่ดี ไก่โอเคแต่ก็ยังออกเค็ม แถมร้านป้ายังคิดค่าน้ำเปล่าผมขวดละ40บาท กับน้ำ1.5ลิตรโนเนมโดยที่ไม่มีแก้วให้ด้วยซ้ำ (ที่7-11บนเกาะน้ำ1.5ลิตร 18บาทครับ) ลองคิดแล้วน้ำเปล่าแพงกว่าน้ำมันเบนซินอีก มื้อเย็นลองไปนั่งร้านพลอยทะเลร้านดังดูบ้างถึงแม้ว่าจะรสชาติดีที่สุดที่กินมาในทริปนี้แต่ก็เทียบกับที่เคยมากินบนเกาะนี้ไม่ได้ครับ แต่บรรยากาศนี่ได้เลยแต่ก็อย่างว่าคนมันซวยนั่งได้สักพักก็ต้องรีบกลับเพราะลมแรงฟ้าผ่าแวบๆมาแต่ไกลก็เลยรีบกลับ แต่พอกลับมาฝนกลับไม่ตกซะงั้น
***ปกติค่าอาหารทั่วไปมีตั้งแต่ 50-90 บาทต่อจาน ส่วนค่าน้ำร้านไหนดีหน่อยขวดเล็กก็10-20บาท ขวดใหญ่ก็20-30ครับนี่คือราคาร้านทั่วไปบนเกาะ ถ้าอยากได้ของถูกก็เดินเข้าไปในวัดเลยครับแค่5-6เมตรก็เจอไม่แพง ข้าวกระเพราะไก่60บาทรสชาติก็...พอกินได้ แต่ก็ยังดีและอร่อยกว่าร้านแรกที่ผมกินครับ ส่วนน้ำขวดเล็ก 10บาท ตอนเช้าๆก็มีปลาท่องโก๋ขายด้วย หรือจะไปฝากท้องกับ7-11ก็ได้ ผมว่าอร่อยกว่าหลายๆร้านเลย
ร้านนี้ร้านแรกที่กินเลย ตอนแรกไม่ได้ถ่ายวันถัดมาผ่านไปเลยถ่ายซะ
อันนี้กระเพราะไก่ของร้านในวัดครับ เยอะกว่า น่ากินกว่า รสชาติดีกว่านิดนึงครับ 60บาทเท่านั้นลองไปหาดู
เรื่องที่5 รถเช่า
รถมอเตอร์ไซด์บอนเกาะถ้ามาเที่ยวแนะนำให้เช่านะครับเพราะมันคล่องตัวขึ้นเยอะ สามารถขี่ไปเที่ยวรอบเกาะบอกเลยว่าสนุกมาก เช่าวันละ300ครับราคามาตรฐาน ผมเช่า2วัน ต่อได้500 ก็เลยเช่ามา แต่อย่างที่บอกล่ะครับว่าคนมันซวย ผมได้รถเช่าสีชมพูมาเพราะลูกสาวเป็นคนเลือกพอขับออกมาก็รู้สึกแปลกๆเพราะมันเหมือนจะล้มอยู่เรื่อย ก็ได้แต่คิดว่าคงยังไม่คุ้นพอขี่ไปสักพักเริ่มสังเกตุว่า แฮนค์มันไม่ตรงครับ พอขับตรงๆแล้วมือซ้ายจะล้ำไปด้านหน้าทำให้ขี่ยากผมเลยเอาไปเปลี่ยน ซึ่งทางร้านก็ให้เปลี่ยนครับ พอเปลี่ยนเสร็จก็ขี่ออกมาปรากฎว่าคันนี้มันก็คดเหมือนกัน คราวนี้คดขวาครับเวลาขี่มือขวามก็จะล้ำออกไปแทน แต่ก็ถือว่าน้อยกว่าเดิมผมเลยไม่เปลี่ยนแล้วก็ทนๆใช้ไป ในวันที่2ผมซ้อน3พ่อแม่ลูก(4ขวบ)ไปอ่าวปะการังระหว่างทางจะมีเนินอยู่ปรากฎว่าไอ้รถเจ้ากรรมมันขึ้นไม่ได้ครับ ขึ้นไปแล้วก็หยุดอยู่ตรงกลาง ผมต้องให้แฟนลงแล้วก็ดันท้ายถึงจะไปได้ ในขณะที่คนแอื่นเขาซ้อน4คนแต่ไปได้สบายๆเลย แสดงว่าสภาพรถของร้านนี้ไม่ดีเอามากๆเลย อ้อขี่ระวังกันด้วนนะครับ เพราะรถโดยสารที่นี่ขับเร็วมากต้องคอยหลบๆ เวลาจอดต่อท้ายก็ห่างๆหน่อย เพราะผมโดนรถยนต์ขนของถอยมาชนแบบโง่ๆด้วย(คนขับมันคุยโทรศัพท์ แถมถอยไม่มอง สงสัยอาหารแพงมันเลยกินแต่หญ้า) ขนาดตะโกนบอก3-4คนมันก็ไม่หยุด ดีนะที่ผมและครอบครัวไม่เป็นอะไร แล้วรถยนต์มันก็ไปโดยไม่สนใจอะไรเลย
***เวลาเช่ารถขอลองขับก่อนเขาเติมน้ำมันนะครับ บอกขอลองก่อนได้ไหม ลองให้หมด ไฟหน้า แตร ลองออกตัวว่าอืดไหม ถ้าอืดก็ขอเปลี่ยนเลยไม่งั้นไปอ่าวปะการังไม่ไหวครับ
รุ่นนี้เลยครับที่เช่าไป (รูปแทนจากgoogle) ปีก่อนผมเช่าคลิ้ก ชอบมากแรงดีมีที่ใส่ขวดน้ำด้วย
เรื่องที่5 เรือโดยสาร
วันกลับเนื่องจากที่ถูกหลอกขายตั๋วมาวันแรก วันกลับก็ได้เอาตั๋วไปถามที่ท่า คนขายตั๋วก็บอกว่าไม่เกี่ยวข้องกันเลยให้โทรถามเอา ผมถึงเพิ่งรู้ว่าโดนหลอกซะแล้ว(นายหน้านะไมใช่เจ้าของเรือ) ถ้าจะขึ้นเรือกลับต้องแจ้งโทรล่วงหน้า1ชม.มีในตั๋วเรือ แต่ไม่ทันได้สังเกตุเพราะไม่คิดว่าจะมีเงื่อนไข โชคยังดีที่ป้าแกบอกว่าเรือออก 11.15 ตอนนั้นผมมารอ10.15ก็ถือว่าไม่นานนัก แต่ก็เหมือนเดิมครับ คือเรือที่ป้าแกจะให้ผมนั่งกลับเนี่ยมาถึงนานแล้วแต่ว่าขนของมาเต็มลำก็เลยต้องรอขนของก่อน กว่าจะได้ลงเรือก็นู่นเลย 11.45 เสียเวลามาก และที่สำคัญมากๆคือเรือเขาไม่วางชูชีพครับ ตามกฎหมายเขาต้องมีเสื้อชูชีพให้ใส่เรือลำนี้ก็มีแต่ไม่ให้ใส่ครับ เขาเอาไปใส่ถุงเก็บไว้มิดชิดเลยทั้งๆที่เพิ่งมีข่าวเรือล่ม แต่ผมไม่อยากมีปัญหาก็เลยไม่ได้พูดอะไรครับเดี๋ยวไม่ได้กลับ นอกจากนั้นของลูกสาวผมก็เอามาเองอยู่แล้วก็เลยไม่กังวลเท่าไร
เสื้อชูชีพพอสำหรับทุกคน แต่เก็บไว้ในถุงอย่างดี...
อันนี้แถมครับเรือด้านหลังเขียนไว้ชัดเจน 45คน แต่อัดคนไปซะล้นเลยไม่รู้ปล่อยกันไปได้ยังไงหรือต้องรอให้เกิดเรื่องสลดกันซะก่อน