ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับ สมาชิกห้องเพลงทุกๆท่าน วันนี้ผม MC WANG JIE (แอ๊ด) เข้าประจำการครับ

วันนี้ นำเรื่องของ ศิลปินเพลงและนักกีตาร์ ชาวอเมริกันผิวดำคนหนึ่ง มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องที่ประหลาดน่าทึ่งและน่ากลัวปนกันครับ เขาผู้นั้น คือ โรเบิร์ต จอห์นสัน (Robert Johnson) ผู้ทำให้คนทั่วโลกรู้จักกับ ตำนาน 4 แพร่งขายวิญญาณ (CROSSROAD)



โรเบิร์ตจอห์นสัน เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนักกีตาร์ชาวอเมริกันผิวดำ เป็นผู้ที่มีเรื่องเล่าขานกันว่า เขา ได้ขายวิญญาณให้กับ "จอมปีศาจ" หรือ "ซาตาน" แลกกับฝีมือการเล่นกีตาร์ซึ่งเก่งฉกาจฉกรรณชนิดหาตัวจับยาก จนแม้กระทั่งนักกีตาร์มือหนึ่งคนหนึ่งของโลกอย่าง เอริค แคลปตั้น (Eric Clapton) ยังยอมรับนับถือในฝีมือ

เขาเกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1911 (พ.ศ.2454) บริเวณลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี เขาสนใจเสียงดนตรีมาเนิ่นนาน เครื่องดนตรีชิ้นแรกในชีวิตเขาก็คือ หีบเพลงปาก (เม้าธ์ ออแกน) และ ฮาโมนิกา ก่อนที่เขาจะหันมาเอาดีทางด้านกีต้าร์

ชื่อเสียงของเขาเป็นที่เลื่องลือกันมานาน อันเนื่องจากความลึกลับที่ว่า ชายคนหนึ่ง ซึ่งเล่นกีตาร์ได้ห่วยแตกมาก ได้หายตัวไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง ประมาณ 40 วัน แล้วจู่ๆเขาก็กลับมาใหม่ พร้อมกับโชว์ฝีมือเล่นกีต้าร์ในแนวเพลงบลูส์ (Blues) ซึ่งไม่ใช่แนวเพลงธรรมดาที่คนเล่นกีตาร์ได้แบบพื้นๆจะสามารถเล่นได้เพราะต้องใช้ทักษะดนตรีและการวางนิ้วจับคอร์ดพร้อมกับเปลี่ยนนิ้วสลับการเล่นโซโล่บ้างเดินเบสบ้างด้วยกีตาร์ตัวเดียวเล่นคนเดียว!!! แต่โรเบิร์ต ทำได้ และยอดเยี่ยมยิ่งกว่านักกีตาร์มืออาชีพเสียอีก ทำให้หลักการหรือทฤษฎีที่ว่า การที่จะร้องและเล่นกีต้าร์แนวเพลงบลูส์ให้ได้อย่างยอดเยี่ยม จำเป็นต้องอาศัยกระบวนการและเวลาที่ยาวนานมากๆนั้น ถูกเขาทำลายลงแบบป่นปี้ เปลี่ยนความเชื่อของใครหลายๆคนที่ทราบเรื่องราวของเขา

เริ่มต้นเรื่องราวจากปากคำของผู้เฒ่าแห่งดนตรีบลูส์ เล่าว่า โรเบิร์ต จอห์นสัน ในวัยรุ่น เล่นกีตาร์ได้ไม่ดีนัก สิ่งที่เขาเชี่ยวชาญคือฮาโมนิก้า เพื่อนบ้านที่สำคัญของเขา 2 คน คือนักดนตรีบลูส์รุ่นใหญ่ คือ วิลลี่ บราวน์ (Willie Brown) และ ซัน เฮ้าส์ (Son House) แนะนำว่า ไปเอาดีกับการเล่นฮาโมนิก้าจะดีกว่า เพราะฝีมือกีตาร์ที่เขาแสดงออกมานั้นมันแค่ระดับพื้นๆ ไม่มีทางไปไหนได้ไกล หากยังดันทุรังอยู่กับกีตาร์ต่อไป...

แล้ว Robert ก็หายตัวไป 40 วัน ไม่มีใครรู้ข่าวคราวใดๆทั้งสิ้น จนกระทั่งเขากลับมาปรากฎตัวที่บาร์เล็กๆแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งวิลลี่ บราวน์ และ ซัน เฮ้าส์  เล่นประจำอยู่ โดยมีกีตาร์สะพายอยู่บนไหล่ เขาได้ขึ้นเวที โชว์เพลง 2-3 เพลง และสร้างความตื่นตระหนกแก่นักดนตรีผู้เฒ่าทั้งสองคน!!!

ระยะเวลา ระหว่างที่โรเบิร์ตหายไปด้วยฝีมือที่ต้องเรียกว่า "อ่อนหัด" แล้วกลับมาด้วยฝีมือขั้นเทพ ชนิดที่เรียกกันว่า แกรนด์ มาสเตอร์ (Grand Master) นั้นห่างกันเพียง 40 วัน ต่อให้เขาใช้เวลาทั้งหมดที่หายไปฝึกฝนโดยไม่หยุดเลย ก็ไม่มีทางสำเร็จเล่นได้ขั้นเทพถึงขนาดนั้น มันเป็นไปไม่ได้!!! (ตรงจุดนี้ MC เห็นด้วย เพราะเป็นนักดนตรีเล่นกีตาร์มาเหมือนกัน ตอนที่ฝึกหัดก็ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนจึงเล่นเพลงต่างๆได้ในระดับพื้นๆ) ดังนั้น จึงสรุปว่า เขาต้องได้พบกับ "พลังอำนาจของบางสิ่ง" ความเก่งกาจของเขาได้รับการยืนยันจากคนใกล้ชิดเขาที่สุด 2 คน คือ โรเบิร์ต จูเนียร์ ล๊อกวู้ด (Junior Lockwood) และ จอห์นนี่ ไชนส์ (Johny Shines) ซึ่งเล่าไว้ว่า "เขามีความสามารถถึงระดับที่ว่า เมื่อเขาฟังเพลงซักเพลงหนึ่งจากวิทยุหรือเครื่องเล่นแผ่นเสียงจบลง เขาจะเล่นเพลงนั้นได้ทันที ! และอย่างสมบูรณ์ด้วย !! แม้จะเห็นอยู่กับตาว่า เขาไม่ได้สนใจ หรือตั้งใจฟังนักเลย !!!"

ตราบจนถึงวันนี้ ยังไม่มีมือกีตาร์บลูส์คนใด กล้าพูดว่า ตนสามารถเล่นเพลงคันทรี่และเดลต้าบลูส์ได้ดีเทียบเท่ากับโรเบิร์ต จอห์นสัน! ไม่มีเลย !!! แล้วทั้ง 29 เพลง ก่อนปี 1937 โรเบิร์ตทำได้อย่างไร ???

ปี 1938 เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นหลังจากที่โรเบิร์ตมีชื่อเสียงโด่งดัง เขาจากโลกนี้ไป ด้วยการดื่มวิสกี้ผสมยาพิษ การพิสูจน์ในเวลาต่อมา พบว่า เขาผสมและดื่มวิสกี้แก้วนั้นด้วยตนเอง ทำไมเขาจึงต้องทำอย่างนั้น ??? มีผู้กล่าวว่า บางที นั่นคือช่วงเวลาที่สัญญาถึงเวลาทวงถาม และต้องชำระสะสาง !!! ใครทวงถาม ??? ชำระสะสางให้ใคร ??? เรื่องที่ถูกกล่าวขวัญมากที่สุดคือ โรเบิร์ต จอห์นสัน ทำสัญญาขายวิญญาณให้ซาตาน เพื่อแลกกับฝีมือดนตรีกีตาร์ขั้นเทพที่ใครก็สู้ไม่ได้ ตรงบริเวณสี่แยกที่มีชื่อเรียกว่า เดลต้า ครอสโร้ด (Delta Crossroad) ในมิสซิสซิปปี้ (ซึ่งต่อมา ภาพยนตร์เรื่อง Crossroads ซึ่งออกฉายในปี 1996 ได้ใช้สถานที่ตรงนี้ เป็นฉากจริงในการถ่ายทำ)





ไม่มีใครบอกได้ว่าตอนที่เขาตายนั้นมีอายุเท่าใด ประมาณกันว่าเพียง 26 ปี เพราะวันเดือนปีเกิดของเขาไม่ได้รับการยืนยันแน่นอน เพียงคาดคะเนเอาจากภาพถ่าย แต่เชื่อหรือไม่ ? มีเพียง 3 ภาพเท่านั้น ที่ได้รับการยืนยันว่าคือภาพของ Robert จริงๆ





ผลงานของโรเบิร์ตที่ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง คืองานบันทึกบทเพลงทั้งสิ้น 29 เพลง ในช่วงระหว่างปี 1936 – 1937 ซึ่งใช้เวลาในการบันทึกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น !!! (ในขณะที่ศิลปินคนอื่นๆใช้เวลาหลายเดือน บางคนเป็นปีๆด้วยซ้ำ) งานเพลงบลูส์ที่เขาทิ้งไว้ให้ศิลปินรุ่นหลังได้ฟังและศึกษาเรียนรู้ ล้วนเต็มไปด้วยพลังและจิตวิญญาณที่ล้ำลึก ชนิดที่นักดนตรีแนวบลูส์ทุกคนจำเป็นต้องฟัง นักดนตรีบางคนถึงขนาดกล่าวว่า ฝีมือกีต้าร์ของเขานั้น นับว่ามหัศจรรย์แล้ว แต่เสียงร้องของเขานั้น มหัศจรรย์ยิ่งกว่า..เพราะมัน เหมือนกับเสียงของบางสิ่งบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ !!! บทเพลงที่ได้รับการบันทึกเอาไว้ทั้ง 29 เพลง ทั้งหมดใช้เวลาบันทึกจริงๆ เพียง 5 วันเท่านั้นเอง !!!  โดยใน 3 วันแรก บันทึกในซานอันโตนิโอ้ (San Antonio) เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ.1936 (พ.ศ.2479) และอีก 2 วันที่เหลือ ไปบันทึกต่อที่เมืองดัลลัส (Dallas) ในอีก 7 เดือนต่อมา หลังจากนั้น งานเหล่านั้นก็กระจัดกระจายไป ครั้นเมื่อเข้าสู่ทศวรรษที่ 60 งานเหล่านั้นจึงได้ถูกนำมารวบรวมกันอีกครั้ง นับเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 23 ปีที่เจ้าของผลงานได้จากโลกนี้ไปแล้ว อัลบั้มแผ่นเสียงชุดแรกคือ "ราชาเพลงเดลต้าบลูส์ ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 (King Of The Delta Blues Singer Volume I & II) เป็นอัลบั้มที่ได้รับการยกย่องว่า "นักดนตรีบลูส์ทุกคนต้องฟัง" และมันได้กลายเป็นลัทธิให้บรรดานักดนตรีอย่าง คีธ ริชาร์ดส์ (Keith Richards) แห่งวง โรลลิ่งสโตน (The Rolling Stones) อันโด่งดังที่คอเพลงร็อกทุกคนรู้จักกันดี, อีริค แคลปตั้น (Eric Clapton) หนึ่งใน"กีตาร์เทพ" หมายเลขหนึ่งคนหนึ่งของโลก, เบรน โจนส์ (Brain Jones), จอห์นนี่ วินเทอร์ (Johnny Winter) และ โคตรเซียนอย่าง บ๊อบ ดีแลน (Bob Dylan) เป็นต้น, นักดนตรีบางคน ให้นิยามดนตรีของโรเบิร์ต จอห์นสันว่า "ฝีมือกีตาร์ของเขา มหัศจรรย์พันลึก แต่เสียงร้องเขานั้น มหัศจรรย์ยิ่งกว่า มันเหมือนสายลมอันเย็นยะเยือกที่ครวญครางหวีดหวิว เมื่อมันเคลื่อนตัวผ่านสามเหลี่ยมแห่งปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี้" บางคนก็อธิบายว่า "เสียงร้องของเขา เหมือนกับเสียงอะไรบางอย่างที่คุณมักจะได้ยินในป่าลึก เวลาที่คุณอยู่เพียงลำพัง และมันเป็นเสียงที่คุณไม่มีทางอธิบายได้ว่า เป็นเสียงที่เกิดขึ้นจากอะไร มีต้นตอมาจากไหน" และที่น่าพิศวงกับน่ากลัวคือ เนื้อเพลงหลายเพลง กล่าวถึงซาตาน กล่าวถึงเวลาที่จะต้องจากโลกนี้ไป ดังเช่น ท่อนแรกของเพลง Me And The Devil Blues ซึ่งมีเนื้อร้องแต่งไว้ว่าดังนี้
Early this morning
When you knocked upon my door
Early this morning, oooo
When you knocked upon my door
And I said hello Satan
I believe it's time to go
ทำไมโรเบิร์ตแต่งเพลงออกมาแบบนี้ ถ้าเขาไม่ได้ขายวิญญาณให้ซาตานผู้เป็นจอมปีศาจ ???

ถ้าคุณ เป็นคนไม่มีอะไร ชีวิตมีแต่ความล้มเหลว มีปีศาจมาเสนอความสำเร็จที่คุณต้องการ ทุกอย่าง แลกกับการมีชีวิตต่อไปเพียงสั้นๆ 1 ปี และแลกกับดวงวิญญาณของคุณ คุณกล้าทำสัญญากับซาตาน หรือไม่ ?


เพลง CROSSROAD ร้องและบรรเลงโดย โรเบิร์ต จอห์นสัน


ตัวอย่างภาพยนตร์ CROSSROAD เป็นการดวลกีตาร์ระหว่าง สตีฟ วาย เซียนกีตาร์ผู้โด่งดัง กับหนุ่มน้อย
ผู้ที่ได้ทำสัญญาขายวิญญาณให้ซาตาน ซึ่งถ้าเจ้าหนุ่มเป็นผู้ชนะในการดวล เขาจะได้รับรางวัล
คือ การฉีกยกเลิกสัญญาจากซาตาน  ลองเปิดเข้าไปชมและลุ้นหนุ่มน้อยคนนี้กันนะครับ


ขอบคุณ ข้อมูลเรื่องราว จาก http://historyalleverything.blogspot.com/2010/09/robert-johnson.html,
วิกิพีเดีย , ภาพประกอบจาก กูเกิ้ลภาพ และ เพลงจาก ยูทูป ครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



และต่อแต่นี้เป็นต้นไป เชิญทุกท่าน เข้าสู่มิติแห่งการแลกเปลี่ยนเสียงเพลงแก่กันและกัน ตามอัธยาศัย ได้เลยครับ