ตามเชียร์แมนยูมาตั้งแต่ยุค90 ยุคที่คันโตน่ามาสร้างความยิ่งใหญ่ไว้กับแมนยู ราวปี1992 ตอนนั้นอยู่ป3-4 ยังจำความได้ดี
เริ่มเล่นฟุตบอลก็เพราะแมนยูเนี่ยแหละ สมัยก่อนถ่ายทอดสดมีให้ดูน้อย ข่าวกีฬาก็ชอบมาตอนดึกๆต้องงคอยแอบพ่อ ตื่นมาดู
เป็นแฟนคลับแมนยูมาอย่างหนาแน่นตลอด เพราะชอบในการเล่น แทคติก เอนเตอร์เทนคนดู ดูแล้วไม่ง่วงนอน
นี้ก็คงเป็นสาเหตุที่แมนยูเป็นอันดับ1มาเนิ่นนาน

หลังจากคันโตน่าประกาศรีไทร์ตอนปี1997 ก็ถึงเวลาของสายเลือดใหม่ ซึ่งสายเลือดใหม่ภายใต้กุนซืออย่างอเล็กเฟอร์กูสัน
นักเตะหนุ่มอย่าง กิ๊ก สโคลล์ แบคแฮม บัต พี่น้องเนวิล และมีป๋าคีนคุมทัพ เล่นได้สนุกมาก สไตล์การเล่นคือเน้นบุก เสียประตูก็ยิงคืน

หลังจากเฟอร์กี้จากแมนยูไป มอยย์ก็ได้โอกาสเข้ามาคุมทีม และโดนปลดออกจากตำแหน่ง และจบอันดับ7 ตอนนั้นแฟนผีทุกคนคงทำใจไม่ค่อยได้จากผลงาน แต่ถ้ามองตัวผู้เล่นจริงๆแล้วก็ แมนยูได้แชมป์ปีล่าสุดมาได้ ก็เพราะเฟอร์กี้จริงๆ
ยุคมอยย์อาจจะเล่นไม่ค่อยดี แต่ก็ยังพอมีทรง ยังคงเกมรุกตามสไตล์เดิมของแมนยู ถึงแม้ผู้เล่นจะฝีเท้าไม่ถึง

แล้วฟานกัลก็มารับไม้ต่อ ผลงานก็แย่พอกับมอยย์ ทั้งๆที่มีเงินซื้อนักเตะมากกว่ายุคมอยย์เยอะแยะ
เอร์เรรา  ดิมาเรีย เดปาย หลุยส์ ฟาน กัล ลุค ชอว์ บลินด์ ดาร์เมียน ชไวน์สไตเกอร์ ชไนเดอร์ลิน โรเมโร มาร์กซิยาล ฟันเกา นี้คือนักเตะยุคที่ฟานกัลซื้อเข้ามา นักเตะที่เข้ามาแต่ละคน แฟนผีทุกคนคงวาดฝันว่าแมนยูจะกลับมาเป็นเต้ยในยุโรป ในอังกฤษอีกครั้ง
แต่สุดท้ายได้แค่แชมป์FA Cup จบอันดับ5 ในลีกไม่ได้ไปเล่นถ้วยใหญ่ของยุโรป เริ่มเข้าสู่ยุคมืดของแมนยูก็ว่าได้
การเล่นยุคฟานกัลโคตรห่วยบรม เล่นบอลน่าเบื่อ ชวนหลับ บุกก็บุกไม่สุด รับก็รับไม่ได้เรื่อง สำหรับฟานกัลผมว่าห่วยว่ามอยย์เยอะทีเดียว

หลังจากฟานกัลโดนปลด แมนยูมีแคนดิเดตหลายคนมาก ทั้งคลอป ทั้งเป๊ป มูริญโญ่ สุดท้ายมาจบลงที่คนที่ผมไม่อยากได้ที่สุด
แน่นอนว่ามูริญโญ่ถือว่าเป็นผู้จัดการทีมอันดับต้นๆของโลก แต่แนวการทำทีมของคั้งแต่สมัยเชลซี มันไม่ถูกใจผมอย่างแรง
มูเข้ามาก็ได้ ไบยี่ มาติคิยาน ซลาตัน และก็ป๊อกบ้า ซื้อมาแต่ละตัวระดับ S หรือS+ที่เดียว แต่ไม่ได้ทำให้แมนยูประสบความสำเร็จแต่อย่างใด
เล่นไปเล่นมาอันดับตกลงๆเรื่อย จนล่าสุดกลับมามีลุ้นที่4 แต่ก็ทิ้งโอกาสตัวเองไปเอง นักเตะที่มีขนาดนี้ยังไม่สามารถทำให้ทีมอยู่หัวตารางได้
เทียบกันตัวต่อตัว แมนยูเป็นรองตัวผู้เล่นชัดๆก็น่าจะเชลซีทีมเดียวจริงๆ แต่ไม่สามารถไปยืนบนหัวตารางได้
สำหรับผมถือว่าล้มเหลวมาก สิ่งที่แย่กว่านั้นคือรูปแบบการเล่น ตั้งแต่มูเข้ามา นัดเล่นดี  นัดที่ชนะเยอะๆ แบบไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยนี้แทบจะนับมือข้างเดียวได้เลย  แทคติก นำ1ลูกแล้วเน้นรับ เพื่อผลชนะ บางครั้งก็ทำได้ และหลายๆครั้งก็ทำไม่ได้ เพราะว่าหลังกลางแมนยู อ่อนปวกเปียกขนาดนี้ จะไปวางแทคติกเหมือนตอนเชลซีไม่ได้ ตอนนั้นหลังกลางเชลซีแกร่งทั่วแผ่น แทนที่จะทำเกมรุกบุกเพื่อหวังประตูเพิ่ม จะได้ปลอดภัย ไม่ต้องกดดันตัวเอง
อย่างเมื่อคืน มีอย่างที่ไหนเล่นในบ้านตัวเองแท้ นำแล้วอุดทั้งเกม เฉียดไปเฉียดมา ถ้าเซลต้าคมๆนะ โดนไม่ต่ำกว่า2แล้ว ถือว่าโชคดีไม่ตกรอบ

โชคมันไม่ได้เข้าข้างตลอดหรอกนะ ถ้าเมื่อคืนช็อตสุดท้ายยิงเข้าจะเป็นอย่างไง ตกรอบบอลยุโรป และก็ไม่ได้ไปเล่นยุโรปถ้วยใหญ่ จะเอาหน้าไว้ที่ไหน เด็กผีคงโดนล้อยันลูกบวช หาซื้อปี๊บไม่ทันแน่ๆ
[b]สิ่งที่ต้องการจะบอกคือ แมนยูเป็นทีมที่มีเกรียติประวัติมายาวนาน ชื่อเสียงที่ได้มา ก็ใช้เวลาเป็นทศวรรษในการสร้าง ซึ่งผมเชื่อเลยว่าสาวกผีแดงคงไม่ชอบแนวทางการทำทีมแบบนี้ของมูริญโญ่
การเล่นเพื่อหวังยิงประตูคู่แข่งมันคือสายเลือดของผีแดง ไม่ใช่เน้นรับรอเสมอ อุดเพื่อหวังชนะแค่ลูกเดียว แบบนี้มันไม่ใช่ปรัชญาของผีแดงแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่มูกำลังจะมาเปลี่ยนแปลงแมนยูให้เป็นทีมเล่นตามแทคติก ไม่เน้นเอนเตอร์เทน เน้นผล ซึ่งมันก็ดีหรอกครับถ้าประสบความสำเร็จ
แต่ถ้ามันไม่ประสบความสำเร็จมูก็ควรย้ายก้นออกไปจากโอลแทรฟฟอร์ดด้วย

ผมไม่ได้เป็นสาวกที่เสพติดความสำเร็จหรอก แค่อยากเห็นทีมที่รักเล่นเพื่อกองเชียร์ ถ้าเล่นสนุกน่าเชียร์ไม่ได้แชมป์ก็ไม่มีใครว่าอ่ะไรหรอก ตอนนี้เวลาทีมไหนเจอแมนยู ไม่ได้มีความยำเหรงอีกแล้ว แม้กระทั้งในบ้านแมนยู อยากเห็นโรงละครแห่งความฝันกับมามีมนต์ขลังเหมือนเดิม
จริงๆผมก็เป็นแฟนมาดริดด้วย ตั้งแต่สมัยแบคแฮมย้ายไปรีล ก็ติดตามมาตลอด แต่ตอนนี้เวลาที่แมนยูแข่ง ผมกลับไม่รู้สึกตื่นเต้นอยากจะเชียร หรือต้องคอยอดนอนดูมนยูแข่ง
แต่ถ้าเป็นมาดริดทีมที่เพิ่งเชียรอีกทีมยังไม่ถึง10ปี นี้ลงเตะ แทบจะไม่พลาดเลย แม้จะดึกแค่ไหน บางคนอาจจะว่าเพราะโด้ ก็ใช่ส่วนนึงแต่ไม่ใช่ทั้งหมด

แมนยูจะยิ่งใหญ่ตลอดไปรึป่าวในอนาคตผมไม่รู้ แต่ผมเชื่อเลยว่าถ้ายังเป็นมูริญโญ่ ไม่ดีไปกว่านี้แน่ๆดีไม่ดีฐานแฟนบอลเก่าๆก็จะหาย ฐานแฟนบอลใหม่ๆก็จะไม่ได้เพิ่ม

ดูแมนยูยุคมูริญโญ่เล่นแล้วเหนื่อยใจจริงๆ แต่ถึงยังไงก็ยังตามเชียร์ต่อไปครับ
Man U forever