นับว่าเป็นโอกาสอันดีงามกับการมาถึงของ Alien ภาคต่อของเรื่องราว Prometheus เมื่อปี 2012 ที่ผมจะดีใจกว่าอื่นใด เพราะเป็นหนังของปู่ Ridley Scott นั่นเอง และเพื่อไม่ให้เสียเวลาการอ่านมาก ผมจะพาเจาะประเด็นที่พบเจอในหนังครับ





          Alien: Covenant แท้จริงแรกเริ่มไม่ใช่ชื่อนี้ เดิมทีมันคือ Prometheus: Paradise ซึ่งเป็นชื่อเรื่องที่ปู่ Scott เคยประกาศไว้เมื่อปี 2013 ที่ประกาศว่ามันจะเป็นภาคต่อและจะเผยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ Engineer มากขึ้น แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลายลงเมื่อปู่ปรับเปลี่ยนคนเขียนบทใหม่และเปลี่ยนชื่อเรื่องพร้อมกับเน้นเนื้อหาไปทาง Xenomorph มากขึ้น



โดยที่ตัวหนังก็ออกแนวให้นึกถึง Alien ภาคแรกในปี 1979 ที่ปู่ Scott สร้างตำนานทิ้งไว้ ก็คือยานออกเดินทางแล้วกลับพบกับสัญญาณจากดาวใกล้เคียง และตัดสินใจลงไปตรวจสอบ ซึ่งภาค 1979 ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก





ด้านความสยดสยองของตัว Xenomorph นั้นก็พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการที่เชื้อชีวภาพแพร่สู่ร่างกาย ภาคนี้ก็ทำเป็น เหยียบไข่อาวุธจนแตกแล้วระเหยจากอากาศเข้าสู่ร่างกาย นี่ถ้าเหยียบกันหมดคงตายยกทีมไม่ทันสำรวจแน่







               แต่จุดที่ปู่ Scott สื่อออกมาให้เห็นถึงตัวละครหลักอย่าง David คือหุ่นแอนดรอยด์ที่มีพฤติกรรมแตกต่างจากภาคแรกอย่างมาก ซึ่ง David ในภาคนี้เป็น David ที่เจ้าเล่ห์และเต็มไปด้วยเหลี่ยมอย่างมีชั้นเชิง ตรงนี้ผมเชื่อเลยว่าปู่คงได้อิทธิพลจากภาพยนตร์หุ่นยนต์จิตวิทยาของลูกชายของปู่อย่าง Morgan ที่ปู่เป็น Producer ด้วย ทำนองว่าหุ่นแอนดรอยด์เมื่อพัฒนาไปถึงจุดหนึ่ง ก็จะไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ที่ไร้จิตสำนึกและทำตามการประเมินผลของมันเองมากกว่าถามความเห็นของมนุษย์





อีกความเชื่อหนึ่งที่ปู่แสดงออกอย่างชัดเจนคือปู่ Scott เป็นคนที่ "ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า" แม้พื้นเพปู่จะเป็นคนคริสต์ แต่นั่นก็ทำให้ปู่สามารถตีความออกมาได้ว่าพระเจ้าหรือพระผู้สร้างของมนุษย์โลก ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับมนุษย์เรา ๆ นี่แหละ และในไบเบิลที่มีความเชื่อว่าเมื่อเสียชีวิตจะได้ไปอยู่บนสวรรค์ ปู่ก็ทำเมืองของ Enginees เป็นเสมือนสวรรค์อย่างหนึ่ง เป็นดาวที่อุดมสมบูรณ์ มีพืชพันธุ์ธรรมชาติมากมาย เห็นได้ชัดจากการที่ทีมยาน Covenant ออกสำรวจหาสัญญาณแล้วพบเจอมากมาย



แต่กระนั้นปู่ Scott ก็ทำให้เห็นว่ามนุษย์เราเกิดแก่เจ็บตาย ผู้สร้างของเราก็ไม่น่าจะแตกต่างอะไรกับเราเพราะในไบเบิลก็เขียนไว้ว่า



ความหมายอีกอย่างคือผู้สร้างมนุษย์ก็ตายได้เช่นกัน เห็นได้ชัดจากตอนที่ David เอาอาวุธชีวภาพปล่อยลงสู่กลางเมืองของ Engineer และทำให้ตายในทันทีที่ถูกสารชีวภาพนั่น (ถ้า Engineer ตั้งใจเอาสารนั่นมาทิ้งใส่มนุษย์เพื่อล้างโลกเหมือนในไบเบิลตอนเมืองโซดอมและโกโมราห์ ก็น่าจะเป็นแบบนี้) แถมยังแสดงให้เห็นอีกว่า David นั้นมีอารมณ์ไม่ต่างกับมนุษย์ไปแล้ว เพราะสายตาของ David นั้นเต็มไปด้วยความแค้นที่เคยถูก Engineer กระชากหัวขาด บวกกับได้เจอความเห็นแก่ตัวของ Mr.Weyland ที่ต้องการให้ตัวเองมีอายุยืนยาว (แม้จะไม่สมหวังก็ตาม)



อีกจุดที่ผมเห็นว่าน่าสนใจคือ David เคยถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องของผู้สร้างในช่วงแรกของเนื้อเรื่องที่ถาม Mr.Weyland ว่า

"คุณเป็นผู้สร้างผม แล้วผู้สร้างของคุณคือใคร"

David จึงมีความคิดอันร้ายกาจที่เขาได้ค้นพบว่าตัวเขามีความเป็นอมตะและสามารถให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตอันร้ายกาจอย่าง Xenomorph ได้ แถมสามารถสื่อสารกับมันได้อีกด้วย จุดที่ผมเชื่อตรงนั้นคือ David มอง Xenomorph ตัวขาวที่เพิ่งกระชากคอลูกเรือ Covenant แล้วไปสนทนากับ Xenomorph อย่างใจเย็น แต่เขาก็โมโหเหวี่ยงแตกเมื่อกัปตันของยานสาดกระสุนใส่จน Xenomorp เดี้ยง ท้ายที่สุด David ก็เอาคืนโดยการพาไปพบกับ Facehugger



ท้ายที่สุดแล้วตัวหนังเรื่องนี้ปู่ Scott ก็ไม่ได้เน้นเนื้อหาของ Engineer และเรื่องของพระผู้สร้าง แม้กระทั่งตัว Xenomorp ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องที่ออกมาประกอบความสยองให้ แต่ใจความของเรื่องที่ปู่ Scott นำเสนอกลับเป็นเรื่องของความแตกต่างด้านจิตใจของมนุษย์กับหุ่นยนที่พัฒนาใกล้เคียงมนุษย์อย่าง David ว่าการพัฒนาหุ่นยนต์ของมนุษย์ที่ทำ ๆ กันอยู่ทุกวันนี้ อาจจะส่งผลเสียหายแก่มนุษยชาติได้มากกว่าคนเราฆ่ากันเองซะอีก
โดยรวมแล้ว ผมรู้สึกประทับใจกับเรื่องนี้มากและคุ้มค่ากับ 5 ปีแห่งการรอคอยภาคต่อ ตอนจบนี่ก็คงทำไว้ให้คนอื่นสร้างต่อหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ปู่ Scott ก็ประกาศแล้วว่าจะสร้างคั่นกลางระหว่าง Prometheus กับ Alien: Covenant ซึ่งเป็นเนื้อหาในช่วงที่ Prometheus ออกค้นหาดาวของ Engineer ซึ่งจะเป็นที่น่าสนใจมิใช่น้อย



ผมขอยอมรับอย่างหนึ่งคือปู่ Ridley Scott ในวัยหลัก 80 แล้ว ยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ตัวผมก็ไม่รู้เลยว่าในตอนที่ผมอายุเลข 80 เท่าปู่ ผมจะมีพลังในการสร้างสรรค์เท่านี้หรือเปล่า