อย่างที่รู้กันดีและรู้กันมานมนานว่าในหมู่พระสงฆ์มีพระตุ๊ด พระแต๋ว ที่ทั้งแสดงอาการชัดเจนและเก็บอาการ
ไม่รู้ว่าตามพระธรรมวินัยจริงๆนั้น สามารถบวชได้รึเปล่า ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่เคยรู้สึกรังเกียจเพศที่สาม
ถ้าบวชเพื่อศึกษาพระธรรม หรือหาความสงบทางจิตใจที่แท้จริง เก็บอาการสำรวม ไม่สร้างความเดือดร้อนเสื่อมเสีย
ให้กับศาสนา ผมก็รู้สึกยินดี

           แต่สิ่งที่ผมเจอไม่ใช่แบบนั้นเลย เรื่องที่ผมจะเล่าเป็นประสบการณ์ตรงที่ผมได้พบเจอกับตัวเองในขณะที่ผม
กำลังบวช เมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมานี้เอง ผมได้บวชกับวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตปริมณฑล เพราะเห็นว่าเป็นวัดที่มี
ชื่อเสียงในเรื่องความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทำให้ผมตัดสินใจอย่างไม่ลังเล
ที่จะบวชกับวัดแห่งนี้

          ก่อนจะบวชก็ได้ปฏิบัติตามระเบียบของวัดทั่วๆไป ต้องเข้าไปอยู่เป็นผ้าขาวตามปกติ ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผม
แปลกใจอะไร แต่ที่ผมเริ่มแปลกใจก็คือทีมพระที่มาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงดูค่อนข้างจะตุ้งติ้ง  แรกๆก็ยังคิดว่า
พวกท่านคงไม่อะไรหรอกมั้ง ทางวัดคงคัดคนที่มีความสามารถมาแล้ว  แต่ไม่นานผมก็เปลี่ยนความคิดว่าวัดที่
มีชื่อเสียงดีๆนี้ยอมให้พระกลุ่มนี้มาเป็นพระพี่เลี้ยงได้ยังไง เพราะอยู่ไปๆนานเข้าๆบวชเป็นพระแล้วอะไรมันก็
ชัดเจนมาก นี่มันกระเทยแทบทั้งนั้นเลยนี่หว่ามันอะไรกันวะเนี่ย  มาเป็นกลุ่มเป็นทีมเลยมีสี่คนอย่างน้อยๆที่เป็น
รวมถึงหัวหน้าทีม แต่ก็มีพระชายแท้อยู่ในกลุ่มพระพี่เลี้ยงด้วยนะครับ ระหว่างช่วงที่เป็นผ้าขาวจนถึงบวชพระนี้
เองก็ได้เห็นธาตุแท้ของกระเทยกลุ่มนี้นี่แหละครับ  เพราะพวกเขานี้ไม่เก็บอาการเท่าไรเลยครับเหมือนจะมีอยู่
คนนึงที่เก็บอาการ พวกที่ออกอาการก็มีอาการจีบปากจีบคอ พูดจาล่อแหลมลามกถึงอวัยวะเพศชาย เล่นหูเล่นตา
พูดจาจีบ ผ้าขาวหรือพระหนุ่มๆรูปร่างหน้าตาดีทั้งพระเก่าและพระใหม่  ดูเป็นเรื่องปกติธรรมดามากเหมือนเป็น
เรื่องที่ไม่มีใครสนใจ  

          อยู่ไปหลายๆวันเข้า ผมก็ทนสงสัยเฉยๆไม่ไหวพอมีเวลาเลยเข้าไปถามพระอาจารย์ท่านอื่นๆในวัดที่
อยู่วัดมานาน  พระอาจารย์เหล่านั้นก็พูดตรงกันว่าพระกระเทยกลุ่มนี้อยู่มานานแล้ว ทำเรื่องเสียหายแบบนั้น
มานานแล้วไม่ใช่เพิ่งจะเริ่มทำ แล้วยังมีอำนาจในวัดอีกมากเลยขนาดที่เจ้าอาวาสไม่กล้าทำอะไรพวกเขา  
ที่ร้ายไปกว่านั้นยังมีเครือข่ายพระกระเทยในวัดต่างๆ ทั้งดังมากดังน้อยในจังหวัดต่างๆ รวมถึงวัดหลวงใน
กทม.อีกไม่น้อย มีทั้งเจ้าคุณหลายรูป ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสมเด็จที่เป็นกระเทยอีกด้วย ไม่ใช่ว่าไม่มีพระไม่เห็น
ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีพระที่นี่นั้นทั้งเห็นทั้งได้ยินเรื่องไม่ดีๆมามากกว่าที่ผมได้รับรู้มาอีก แต่ยังไม่มีหลักฐาน หรือ
พยานที่จะกล้าออกมายันมาฟ้องให้ชัดเจน อีกทั้งไอ้การสอนนาคสอนพระใหม่เนี่ยเป็นงานที่มีผลประโยชน์
เข้ามาเกี่ยวข้องมากมายเลยทีเดียว ขอให้ลองนึกดูว่าพ่อแม่ของพระเณรที่มีศรัทธาอยากให้ลูกบวช ก็เรียกได้ว่า
ทั้งให้เงินทั้งให้ของ ทั้งให้อะไรต่างๆมากมายด้วยเพราะว่าพระกลุ่มนี้เป็นพี่เลี้ยง คอยสอนลูกเขาให้ดีด้วยหวังว่า
บวชแล้วจะได้เรียนรู้สิ่งที่ดีๆกลับไป  

           แต่เปล่าเลยครับ ความจริงมันช่างน่าเศร้าเพราะพระพี่เลี้ยงนี้เหมือนจะอยู่ได้ด้วยความโลภด้วยลาภสักการะ
ด้วยกุฏิใหญ่โตติดแอร์ทุกห้องมี wifi หมด ดูหนังเล่นเกมเป็นเรื่องปกติ แทบไม่เคยเห็นพระกลุ่มนี้ขึ้นไปทำวัตรสวดมนต์
เลย มีแต่บอกให้พวกผม ก็คือ พระใหม่ขึ้นทำวัตรสวดมนต์นั่งสมาธิ มารู้ทีหลังว่ามีเวลาว่างก็ดูหนังดูละคร เล่นเกม
นอนดึกตื่นสาย ไม่ต้องบิณฑบาตรก็ได้ ของที่ใช้ก็หรูหรามียี่ห้อไปต่างประเทศก็ซื้อกระเป๋าหรูซื้อของหรูถ่ายรูปอวดเพื่อน
โทรศัพท์ก็ต้อง Iphone รุ่นล่าสุด แค่ที่ผมเล่ามาเท่านี้ผมก็คาดว่าน่าจะมีหลายคนที่ได้อ่านนี้หมดศรัทธากันไปแล้วกับวัดนี้
ที่น่าเศร้ากว่านั้นคือที่เป็นแบบนี้มันไม่ใช่แค่วัดสองวัดนี่แหละครับ แต่ไม่ใช่ว่าวัดนี้ไม่มีพระดีๆนะครับ มีอยู่ไม่น้อยเลยที่ผม
กล้าพูดได้ว่าทุกคนสามารถกราบได้อย่างสนิทใจ แต่กลับถูกคนพาล อลัชชี กระเทย กลุ่มนี้รวมถึงกลุ่มอื่นๆ อีกนะครับที่
กดเอาไว้ไม่ให้มีอำนาจ วัดที่เคร่งครัดในพระวินัย มีพระพี่เลี้ยงที่เละเทะเหลวแหลก (ใช้คำนี้อาจยังน้อยไป)  ไม่รักษา
พระธรรมวินัย แล้วยังสอนให้ไม่ต้องเคร่งมากก็ได้ไม่ต้องเคร่งมากหรอก เป็นแบบนี้แล้วศาสนาเราจะไม่อ่อนแอได้ยังไงล่ะ
ครับพระใหม่ๆก็เล่นกันเต็มที่ตามพี่เลี้ยงสิครับ

          ประเด็นสำคัญที่ผมคิดว่าอดไม่ได้จริงๆที่จะต้องเล่า ช่วงปลายเดือนเมษาที่วัดได้จัดงานบุญมีคนมาร่วมงาน
มากมาย พระเณรจากวัดต่างๆมากมายก็มาร่วมงาน มีเณรตัวน้อยๆ อายุ 8-9 ขวบ เดินไปเดินมาช่วยงาน แล้วผมก็
เห็นหลวงตากระเทยที่ดูภายนอกค่อนข้างจะดูได้ยากเพราะเก็บอาการเป็นอย่างดี แต่คนภายในวัดจะรู้กันดี กลางวัน
แสกๆ ผู้คนมากมายเลย แกก็เอาเณรน้อยไปเดินกอดในรูปแบบคล้ายๆกับนกเพนกวินน่ะครับ เหมือนพ่อแม่นกเพนกวิน
พ่อแม่เอาลูกไว้ที่แถวๆหว่างขาแล้วพาเดินไปด้วยความรัก แต่สิ่งที่ผมเห็นคือแกพยายามเสียดสีและถูไปมาด้านหลัง
เณรน้อย เณรน้อยก็พนมมือแล้วเดินไปด้วยผมเดาว่าเณรรูปนั้นคงนึกว่าหลวงตาท่านคงเมตตา ถ้าผมไม่รู้เรื่องมาก่อน
ก็คงจะเห็นว่าหลวงตารูปนี้มีความเมตตาต่อเณรน้อย แต่ผมที่รู้เรื่องแล้วไม่รู้สึกอย่างนั้นครับ ผมนี่ของขึ้นเลย แทบ
อยากจะโดดใส่เลย ผมอาจจะคิดมากไปเองใจบาปไปเองก็ได้ที่ไปใส่ความหลวงตาแก แต่ข้อมูลที่ผมได้รับมามัน
ทำให้ผมคิดไปไกลเหลือเกิน แต่ยังดีที่ยังทนได้ไม่งั้นผมคงโดนจับสึกไปแล้ว เพราะเรื่องการลวนลามตีก้นจับก้น
พระหนุ่มเณรน้อยนี่ได้ยินมาชัดเจนมาก มีพ่อแม่มาฟ้องพระที่วัด และพระอาจารย์หลายๆท่านก็เล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่อง
พวกนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรได้แต่ปล่อยให้ผ่านไปเพราะไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะพิสูจน์อะไรได้ไปมากกว่านั้น  แต่ผมว่า
ในกฎหมายต่างประเทศแค่จับก้นเด็กด้วยอาการลวนลามนี่ก็ฟ้องกันได้นะครับ หนักกว่าจับก้นผู้ใหญ่ด้วย  แต่ก็นั่นล่ะ
ครับสังคมไทย ปล่อยไหลกันต่อไป

          นี่แหละครับเรื่องราวต่างๆที่ผมอัดอั้นในใจ  บวชไปแล้วสึกมาทำแบบนี้ผมก็ไม่รู้จะได้บุญหรือได้บาปก็ไม่รู้
แต่ก็ได้แค่มาระบายในพันทิปแหละครับ ถึงต่อให้ผมพูดยืนยันยังไงว่าเป็นเรื่องจริง แต่มาโพสในนี้คนก็สงสัยได้  
หลักฐานเป็นคลิปหรือรูปถ่ายก็ไม่มี ผมเข้าใจและยอมรับคำด่าคำตำหนิทั้งหมดได้ครับ ผมแค่อยากเป็นอีกหนึ่งเสียง
ที่ออกมาเตือนญาติโยมที่ทำบุญกับพระกระเทยทั้งหลาย  หรือรวมไปถึงพระทั้งหลายว่าท่านมั่นใจในตัวพวกเขา
มากแค่ไหน  รวมถึงใครที่จะบวชหรือส่งลูกหลานเข้าไปบวช  ขอให้ตรวจสอบก่อนนะครับว่าวัดนั้นมีพระพี่เลี้ยง
เป็นกระเทยมั้ย  ผมไม่อยากจะตีความเหมารวมว่าพระกระเทยไม่ดีทั้งหมด เพราะที่วัดนี้พระที่เป็นกระเทยแล้ว
ตั้งใจปฏิบัติธรรมอยู่เงียบๆไม่ยุ่งวุ่นวาย ผมยังไม่อยากใช้พระวินัยมาตีความ เพราะความรู้เรื่องพระวินัยผมยังมีน้อย
เกินไป และวินัยมีรายละเอียดมากมายที่ผมยังไม่รู้

          สุดท้ายนี้ก็ขอย้ำอีกครั้งใครจะบวช ใครจะส่งลูกหลานไปบวช ขอให้ไปทำความรู้จักวัดนั้น พระพี่เลี้ยง
รูปนั้นว่าเป็นอย่างไร ไม่ใช่ส่งไปวัดดวง เจอพระดีก็ดีไป เจอพระพี่เลี้ยงชั่วก็ซวยไป  แล้วผมก็คงไม่ค่อย
อยากจะกลับไปวัดนี้เท่าไรแล้วครับ  แต่ก็ไม่ถึงกับว่าจะไม่มีทางกลับไปนะครับขึ้นอยู่กับสถานการณ์  
แต่หลายๆอย่างมันช่างขัดใจผมเหลือเกิน