หลังจากมีกระแส 13RW ไปมากพอสมควรแล้ว แถมตอนนี้ก็ยังประกาศซีซั่น 2 แล้วด้วย ซึ่งมันมีคำถามตามมามากมายว่าชะตาชีวิตของละครหลังจากซีซั่น 1 จะเป็นอย่างไรต่อไป ผมเลยอยากทำสรุปไว้ให้อ่านว่าในหนังสือกับซีรี่ส์ต่างกันอย่างไร หลายคนบอกว่าไม่อยากให้มีซีซั่น 2 ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลนึงที่ผมอยากให้รู้ว่าทำไมถึงควรมีซีซั่น 2

เอาจริงๆผมเป็นคนพิมพ์ไม่ค่อยเก่ง ความจำก็ไม่ค่อยดี ถ้ามีอะไรตกหล่นรบกวนทุกท่านช่วยเสริมได้เลยนะครับไม่ต้องเกรงใจ

ผมจะแยกเป็นตัวละครแต่ละตัวไล่ไปเหมือนในซีรี่ส์เลยแล้วกันเพื่อความง่าย ให้เห็นว่าตัวละครแต่ละตัวมีความแตกต่างระหว่างหนังสือและซีรี่ส์อย่างไรบ้าง ยกเว้นจะเอาเคลย์ขึ้นก่อน เพราะเป็นตัวหลักของเรื่อง เราไปเริ่มกันเล้ยยย

Clay Jensen
เคลย์หลังจากที่ได้รับเทปมา ก็ฟังทั้งหมดภายในคืนเดียวไม่เหมือนในซีรีส์ ระหว่างฟังเคลย์ก็นึกถึงปูมหลังระหว่างตัวเองกับแฮนนาห์ไปด้วย โดยที่ไม่ค่อยเอ่ยถึงปูมหลังตัวละครอื่นๆมากนัก และหนังสือไม่ได้กล่าวถึงว่าเคลย์เคยเป็นอะไร ทำไมต้องกินยา เคลย์ก็เป็นคนธรรมดาๆคนนึง เป็นคนที่แฮนนาห์แอบชอบแค่นั้นเอง

ในต้องสุดท้ายเคลย์ไม่ได้ส่งเทปให้ครูพอร์ตเตอร์ แต่ส่งเทปต่อให้คนลำดับถัดไปเหมือนคนอื่นๆ

Hannah Baker
ครอบครัวของแฮนนาห์เป็นร้านขายรองเท้าไม่ใช่ร้านขายยา(เทปเลยใส่มาในกล่องรองเท้า) เธอฆ่าตัวตายด้วยการกินยานอนหลับแล้วไหลลงไปใส่อ่างอาบน้ำ แม่มาเห็นเป็นคนแรกแบบในซีรี่ส์เพราะว่าเห็นน้ำล้นออกมาจากห้องน้ำ

ถึงตอนท้ายแล้วพ่อแม่ของแฮนนาห์ก็ไม่ได้ฟังเทปแต่ประการใด และไม่มีการสืบสวนเรื่องราวหลังจากที่แฮนนาห์ตายอีกด้วย

Justin Foley
ในหนังสือไม่มีเรื่องครอบครัวของจัสตินเลยแม้แต่น้อย จัสตินเป็นแค่จัสตินที่แฮนนาห์เห็นเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้นในหนังสือ แม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างจัสตินกับไบรซ์ก็ไม่ได้มีบุญคุณกันอะไรขนาดที่ทำให้จัสตินต้องยอมไบรซ์ไปเสียทุกอย่าง มีแค่จัสตินทำอะไรกับแฮนนาห์ไว้บ้างแค่นั้นเลย

เพราะฉะนั้นเรื่องจัสตินมีปืนแล้วทำท่าเหมือนว่าจะออกนอกเมืองไปจึงไม่มีในหนังสือ

Jessica Davis
ไม่มีบอกในหนังสือว่าครอบครัวของเจสสิก้าเป็นยังไง หรือมีอาการติดเหล้าในช่วงหลังของเรื่อง ส่วนคำที่ใช้ระดมพลในร้านโมเนต์ของ h-j-a ไม่ใช่ f*ck my life แต่เป็น olly olly oxen free

สุดท้ายก็ไม่ได้มีบอกว่าเจสสิก้าได้คุยอะไรกับพ่อหรือไม่

Alex Standall
ในหนังสือไม่ได้พูดถึงครอบครัวของอเล็กซ์เหมือนกัน ไม่ได้พูดถึงพ่อที่เป็นตำรวจ หรือพี่ชาย ในซีรี่ส์เหมือนสร้างตัวละครอเล็กซ์ขึ้นมาใหม่ด้วยซ้ำ เพราะว่าในหนังสือพูดถึงลักษณะหรือพฤติกรรมของอเล็กซ์น้อยมากๆ แต่อเล็กซ์เป็นคนแรกที่ปาหินใส่หน้าตาห้องไทเลอร์ และสนิทกับมาร์คัสไม่ใช่แซคแบบในซีรี่ส์

แน่นอนว่าในหนังสือไม่ได้มีบอกไว้ว่าอเล็กซ์ได้ยิงหัวตัวเองหรือไม่

Tyler Down
ตัวละครตัวนี้นี่ต่างจากอเล็กซ์ตรงที่หลุดออกมาจากหนังสือเลย เหมือนเป๊ะ ในด้านพฤติกรรม แต่จะไม่มีมุมที่ไลเทอร์โดนคนอื่นแกล้งเท่าไหร่ และไม่มีเรื่องครอบครัวเหมือนตัวละครอีกเช่นกัน

เพราะฉะนั้นเรื่องไทเลอร์สะสมปืนคิดก่อการใหญ่จึงไม่มีพูดถึงเลย

Courtney Crimsen
สำหรับตัวร้ายของใครหลายๆคน(รวมถึงผมด้วย 5555) คอร์ทนีย์พฤติกรรมก็เหมือนในซีรี่ส์นั่นแหละ คือเป็นคน nice ไปทั่ว แต่จะแสดงออกชัดเจนว่า nice เพราะอยากได้คนมาเป็นเบ๊ ซึ่งแฮนนาห์ก็ตกเป็นเบ๊ไปพักนึงเหมือนกัน แต่ผู้ปกครองของคอร์ทนีย์ไม่ได้เป็นคู่เกย์เหมือนในหนังสือ ก็เป็นคู่ชายหญิงทั่วไป ไอ้เรื่องปมว่าเป็นเกย์นี่ไม่มีเลย

ในหนังสือไม่มีงานพรอมที่เคลย์กับแฮนนาห์เต้นรำกัน แต่เป็นปาร์ตี้บ้านใครซักคนแทน ซึ่งก็ไม่มีเคลย์อยู่ในนั่นด้วย

Marcus Cole
ตอนดูซีรีส์ผมก็รู้สึกสงสัยว่าตัวละครตัวนี้มันเอาไงแน่ เดี๋ยวมันก็เนิร์ด เดี๋ยวมันก็ร้าย ความจริงแล้วมาร์คัสเรียกได้ว่าเป็นอีกตัวละครนึงที่เหมือนโดนสร้างใหม่เหมือนกัน ในหนังสือมาร์คัสเป็นแค่ตัวโจ๊กของโรงเรียน ไม่ได้เป็นประธานนักเรียนดีเด่อะไรเลย ทำตัวเฮฮาไปวันๆเท่านั้นเอง

ไอ้เรื่องยัดกัญชาให้เคลย์ก็ไม่มี เพราะมาร์คัสในหนังสือก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรให้ต้องรักษาเหมือนกัน

Zach Dempsey
แซคแทบจะเหมือนในหนังสือเลย แค่ไม่ได้สนิทกับอเล็กซ์ และไม่มีความเป็นลูกแหง่เหมือนในซีรีส์เท่านั้นเอง เพราะหนังสือไม่ได้พูดถึงครอบครัวเลยแม้แต่น้อย ออกแนวเป็นเด็กโข่งเกรียนๆคนนึง ซึ่งเรียกร้องความสนใจแบบโง่ๆ ตอนของแซคเลยไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่

Ryan Shaver
ในหนังสือก็ดูเป็นคนดีทีเดียว ไม่ได้ดูจองหองอวดดีเหมือนในซีรีส์ สิ่งที่ทำไปก็ไม่ได้คิดว่าชีวิตใครจะshipหายได้จริงๆ แต่เมื่อบทกวีของแฮนนาห์โดนเอาไป copy แม้ไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนเขียนแต่ทุกคนก็สืบได้ไม่ยากว่าเป็นของแฮนนาห์เนื่องจากดูที่ลายมือ หลังจากนั้นแฮนนาห์ก็ตกเป็นเป้าของการล้อเลียน

Sheri Holland
ตัวละครนี้สั้นๆเลย ในหนังสือชื่อเจนนี่ ไม่มีอะไรมากกว่านี้ แต่เรื่องชอบเคลย์ไม่ได้มีบอกไว้ในหนังสือเช่นกัน

Bryce Walker
แทบจะเหมือนในซีรี่ส์เลย ในซีรีส์เลวยังไง ในหนังสือก็เลวแบบนั้น

แต่ไม่มีเรื่องที่เคลย์มาหาที่บ้านแล้วกระทืบเคลย์ซะหน้าโยก หรือคำสารภาพใดๆที่เคลย์ไปแอบล้วงมาได้

Mr. Porter
ครูพอร์ตเตอร์ไม่ได้เป็นครูแนะแนวมาตั้งแต่แรก แต่เป็นครูสอนคณิตศาสตร์ที่ไปรักษาการณ์แทนครูแนะแนวที่เพิ่งย้ายโรงเรียนไป แน่นอนว่าครูพอร์ตเตอร์จึงเป็นแค่ผู้ใหญ่ทั่วๆไป ที่ให้คำปรึกษาเด็กแบบผู้ใหญ่ทั่วๆไปไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด หรือเห็นสัญญาณที่ไม่ดีออกจากตัวนักเรียนเท่าไหร่ ซึ่งก็น่าสงสารอยู่พอควร อย่างตอนแฮนนาห์มาหา ครูพอร์ตเตอร์จับสัญญาณของแฮนนาห์ไม่ได้เลย แค่ถามว่าแฮนนาห์จะเอายังไงต่อกับเรื่องที่เกิดขึ้น? จะแจ้งความมั้ย หรือจะปล่อยผ่าน ครูแนะว่าถ้าไม่อยากแจ้งความก็ควรปล่อยให้มันผ่านเสีย อย่าไปเก็บเอามันมาทำลายชีวิตที่เหลือ มุมมองของผม ผมมองว่าสำหรับคนทั่วๆไปก็คงแนะนำได้แค่เท่านี้จริงๆ ถ้าเด็กไม่แสดงว่าอยากเอาเรื่องกับผู้กระทำ ก็คงต้องปล่อยมันไป แต่สำหรับแฮนนาห์ตอนนั้นมันไม่พอแค่นั้นเอง

ตอนสุดท้ายครูพอร์ตเตอร์ยังไม่ได้ฟังเทปเพราะยังไม่ถึงคิว

มาถึงตัวละครแวดล้อมอื่นๆกันบ้าง

Tony Padilla (and his friend)
โทนี่คล้ายๆในหนังสือตรงที่เป็นคนเก็บเทปชุดสำรองไว้ แล้วคอยตามดูการเคลื่อนไหวของเคลย์ แต่ไม่มีเรื่องที่โทนี่เป็นเกย์ หรือโทนี่มีแฟนแต่อย่างใด เคลย์บอกว่าแฟนของกี่คนก็ทนที่โทนี่รักรถมากกว่าไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็สามารถอนุมานได้ว่า แบรด ก็คือรถของโทนี่นั่นเอง (ล้อเล่นครับ 5555)

Jeff Atkins
พระเอกตัวจริงของเรื่อง(ในใจของใครหลายๆคน) ซึ่งต้องแสดงความเสียใจด้วยเพราะว่าหนังสือแทบจะไม่ได้พูดถึงเจฟฟ์เลย คนที่ไปชนคนแก่แล้วตายเป็นแค่เด็กส่งพิซซ่า ซึ่งไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับตัวละครในเรื่องเลยแม้แต่น้อย แม้แต่เคลย์เองก็แทบไม่รู้จักด้วยซ้ำ ซึ่งสำหรับผมเจฟฟ์เป็นตัวละครที่สร้างใหม่ได้เจ๋งมากๆ ซึ่งเกี่ยวกระหวัดเรื่องราวให้หนักแน่นมากยิ่งขึ้น

Skye Miller
เป็นตัวละครที่ออกมาไม่เยอะ แต่ก็มีบทสำคัญทีเดียว เท่าที่จำได้คือสกายก็ไม่ได้มีความทไวไลท์แบบในซีรี่ส์ แต่เคลย์บรรยายว่าเคยสนิทกัน จนขึ้น high school มาก็เริ่มห่างกันไป หลังจากเคลย์ฟังเทปแฮนนาห์เสร็จแล้วก็ไปทักสกายเหมือนในซีรีส์ เพราะเคลย์สัมผัสได้ว่าสกายอาจจะเป็นแฮนนาห์คนต่อไป

สรุป
ผมไม่ค่อยเห็นสื่อที่สร้างจากหนังสือขยายความได้มากกว่าหนังสือเลยนะ ซึ่ง 13 Reasons Why สามารถบอกได้เลยว่าละเอียดกว่าหนังสือและสมเหตุสมผลกว่าหนังสือมากๆ ถ้าเทียบแล้วหนังสือทั้งเล่มเป็นแค่ 1 ใน 5 ของซีรีส์ด้วยซ้ำ

ซึ่งระหว่างที่ผมอ่านหนังสือไป ไม่รู้จะด้วยเรื่องหรือสำนวนการแปล ผมรู้สึกได้ว่าแฮนนาห์มันน่ารำคาญจัง เป็นดราม่าควีนอย่างที่หลายๆคนบอกจริงๆ ทั้งๆที่ตอนดูซีรี่ส์นี่ผมสงสารแฮนนาห์จับจิตจับใจเลย คนอะไรมันจะซวยต่อเนื่องได้ขนาดนั้น ในขณะที่แฮนนาห์ในหนังสือ สามารถเรียกได้ว่า "วอนหาเรื่อง" อยู่เยอะพอสมควร

หรือเคลย์ที่หลายๆคนบอกว่าน่ารำคาญ ในซีรีส์สำหรับผมถือว่ารับได้เพราะเคลย์มีอาการประสาทแดร๊ก ไม่ว่าด้วยความสำนึกผิด โกรธ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ในหนังสือเคลย์นี่มันน่ารำคาญจริงๆ ฟังเทปซักพักก็จะเริ่มแทรกความคิดตัวเองเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่ง เออ เมิงมันน่ารำคาญจริงๆน่ะแหละ

เห็นได้ว่าตัวหนังสือเองมีจุดอ่อนอยู่หลายเรื่อง ซึ่งซีรีส์ถมมันจนเต็มไปพอดี เติมส่วนที่ขาดปาดส่วนที่เกินได้อย่างพอดี ทำให้สิ่งที่ผลักแฮนนาห์ไปสู่จุดจบมีเหตุมีผลมากขึ้น เพราะฉะนั้นผมจึงมั่นใจมากๆว่ามันจะต้องมีซีซั่น 2 ตามออกมา (ขนาดมีเหตุมีผลแล้วก็ยังมีคนรำคาญแฮนนาห์ หาว่าอ่อนแอเองอยู่ดี)

ซึ่งซีซั่น 1 คนสร้างขยายจักรวาลออกมาได้ไกลขนาดนี้ ซีซั่น 2 มันก็น่าจะทำไปได้ไกลกว่าเดิม เข้าไปสำรวจปัญหาวัยรุ่นได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นอะไรที่น่าคาดหวังพอสมควรจะเรื่องคงต้องเข้มข้นขึ้นมากอย่างแน่นอน

แต่บางทีก็แอบหวั่นว่ามันจะมืดดำมากไปกว่านี้ แค่นี้ตับไตหัวใจก็สลายป่นปี้ไม่มีชิ้นกันอยู่แล้ว

ตอนนี้ซีซั่น 2 ก็ประกาศออกมาแล้ว ระหว่างนี้ก็เตรียมตัวเตรียมหัวจิตหัวใจไว้ให้พร้อมสำหรับซีซั่นใหม่ด้วยนะครับ