คือช่วงหลังๆ พออายุมากขึ้น มักจะได้ไปงานศพ และไปเผาศพแบบไทย
แต่ยิ่งไปบ่อยๆ กลับพบว่า หากเป็นงานศพของตัวเอง หรือของพ่อแม่ คงไม่อยากจัดแบบที่เห็นอยู่

- จัดงานศพ หลายวันมาก 5 วัน  7 วัน ซึ่งเห็นแล้วว่า เจ้าภาพเหนื่อยและสิ้นเปลืองมาก  เดี๋ยวนี้ทั้งเพื่อนทั้งญาติมีมือถือ มีไลน์ เสียชีวิตปุ๊บ ก้รู้พร้อมๆกันปั๊บ  สื่อสารได้รวดเร็ว  ถ้าเป็นงานตัวเอง มากสุดขอสัก 3 วันก็พอล่ะ
    
- ทำไมพระต้องเทศน์นานมากๆ ฟังกันไม่รู้เรื่องเท่าไร  เห็นแขกด้านหลังๆ นั่งเล่นมือถือ ไม่ใส่ใจกับการสวดเลย  แบบว่าขอสวดแบบรวบรัดที่สุด และไม่ขอพระเทศน์ได้ไหม  แต่ขอนักพูดฝีปากกล้า มาพูดแทน เรื่องงานศพ เรื่องของชีวิต หรือ เอาญาติ เอาเพื่อน ออกมาเล่าชีวประวัติหรือเรื่องสนุกๆ น่าจะเข้าท่ากว่า

- ทำไมต้องเลี้ยงอาหาร หลังงานสวด เพราะกว่าจะเริ่มก็ทุ่มกว่า สองทุ่ม  ทุกคนก็ควรจะทานมาแล้ว  ยิ่งเป็นอาหารกล่องก็เห็นว่าถือกลับบ้านกันเป็นแถว    มีน้ำเปล่าแจกก็น่าพอแล้ว เดี๋ยวกลับไปก็เข้านอน จะทานอาหารอะไรอีก

- ในงานศพ ยิ่งทางเหนือ เล่นยกกันมาทั้งครอบครัว มากินกันในงานทั้งมื้อกลางวัน และมื้อเย็น โห...มันน่าจะยกเลิกได้แล้วมั๊ง ประเพณีแบบนี้

- วันเผาศพ  เดี๋ยวนี้บรรยากาศมันไม่เศร้าเลย  พิธีกรรมมันข่มไปหมด โดยเฉพาะการทอดผ้าบังสกุล หลายชุด แบบว่าเชิญผู้ใหญ่ อบต. นายอำเภอ หรือแขกผู้มีเกียรติ  เหมือนกับการเสนอหน้า หรือ หาเสียง....ขอแค่ชุดเดียวโดยญาติในสายเลือดผู้อาวุโส ท่านเดียวได้ไหม

- เคยเห็นบรรยากาศของคริสต์ ในวันฝังศพ แบบว่าดูดีมาก เพราะดูเศร้าและให้เกียรติแก่คนตายมากกว่า  จริงๆงานศพตัวเอง อยากมีนักร้องประสานเสียง และมีเซลโล่บรรเลงเพลงเศร้าๆ มันน่าจะดูดีนะ

- ของที่ระลึก  ไม่น่าจะต้องแจก โดยเฉพาะพวกของเล็กๆน้อยๆ เพราะก็รู้อยู่ว่าราคาไม่กี่บาท เอาไปก็เอาไปทิ้ง เปลืองโดยใช่เหตุ  ยกเว้นว่าเป็นหนังสือประวัติผู้วายชนม์

พองานเสร็จ คนจัดทั้งเหนื่อย ทั้งหมดตัว เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก  แบบคนตายขายคนเป็น...นี่คือสิ่งที่ได้เห็นมา

จึงอยากจะขอคำแนะนำ ว่ามีตัวอย่างการจัดงานศพที่ท่านเคยเห็น เป็นไปแบบเรียบง่าย ดูดี มีบรรยากาศเศร้าที่ชวนระลึกถึงผู้วายชนม์  ให้เห็นบ้างไหมครับ