.
ช้าน้อย เคยเห็น การขับขานร้อยกรองกวีลำนำ กับบทเพลง
เลยเกิดความคิดแปลกใหม่....จะเขียนร้อยแก้ว กับบทเพลง
ที่มิใช่การแปลเนื้อเนื้อเพลงโดยตรง
แต่...เป็นแรงจูงใจจุดประกายงานเขียน (เพื่อความแปลกใหม่ ในการเขียน เท่านั้น)
คือพูดง่ายๆ เขียนนิยายที่มาจากเพลงนั่นเอง
น่าจะเป็นไอเดีย ที่น่าลองนะครับ
ถูกผิดเช่นไร ข้าน้อยขออภัย เด้อ....
นางพยาบาลแสนสวยที่รัก ช่วยฉันได้ไหม...
มันไม่มีอะไรยุ่งยากมากความมากมาย ถ้าไม่เชื่อลองอดทนฟังฉันก่อนสักนิด
หัวใจของฉันไม่เต้นแล้วใช่ไหม ทำไมนางพยาบาลคนสวยมาก้มลงมาฟังเสียงเต้นหัวใจของฉันว่ายังมีอยู่หรือไม่ อย่างน้อยฉันอาจจะได้กลิ่นแป้งหอมกรุ่นจรุงใจ
รู้ไหม ดวงจันทร์ที่รักและงดงาม ฉันอยากจะพลิกตัว เพื่อจะได้หันหน้ามองออกไปทางหน้าต่าง แต่ฉันทำไม่ได้เพราะร่างกายไร้การตอบสนองเสียแล้ว แต่ความคิดของฉันยังเป็นอิสระไร้ขอบเขต นางพยาบาลคนงามช่วยเปิดม่านหน้าต่างให้กระจ่างได้ไหม...นั่นล่ะ ฉันจะได้มองเห็นเธอ สาวน้อยน่ารักผู้อยู่บนดวงจันทร์ และเธอกำลังส่งรอยยิ้มชวนหลงใหล
ใช่แล้ว.. มันเป็นเวลาค่ำคืนอีกครั้ง ไม่....ไม่ต้องปิดม่านหน้าต่างนะนางพยาบาลที่รัก ได้โปรด...รู้ไหมว่าฉันรอเวลานี้มานานแค่ไหน
เป็นเวลาสำหรับจิตใจของฉันที่จะท่องเที่ยวไป อิสระจากสังขาร ไปสู่การเดินทางไร้ขีดจำกัดและคำบรรยาย สู่ความเวิ้งว้างเดียวดายและกาลเวลา เพื่อค้นหาใบหน้าของหญิงงาม ที่ฉันไม่อาจพบในโลกแห่งความเป็นจริง แต่เธอคนนั้นอยู่ในความฝันทุกคืน จนไม่อยากหลับตาตื่นมาเผชิญความจริงอันโหดร้าย
ดังนั้น....... ฉันจึงหลับตาและมองเข้าไปข้างในตัวของฉันเอง เพื่อค้นหาใครบางคนที่เหมือนเคลื่อนคล้อยลอยลงมาจากดวงจันทร์ มาปรากฏตัวอยู่หน้าต่างพร้อมรอยยิ้มปริศนา ฉันสามารถยื่นมือออกไปไขว่คว้า และคงจะได้แต่ความว่างเปล่า หรือไม่ก็เหมือนกับการพยายามจับคว้าสายลมไร้ใจแห่งทะเลทรายแห้งแล้ง
แต่ฉันยังเห็นเธอเสมอมา
หัวใจของฉันอ่อนระโหยโรยแรง ร่างกายขยับไหวไม่ได้อีกแล้ว ฉันถูกจองจำในกรงขังร่างกายและความคิดของฉันเอง ผู้หญิงบนดวงจันทร์ เธออาจเป็นเพียงมายาภาพไร้ตัวตน แต่ฉันยังอยากเห็นเธออีกสักครั้ง แม้จะแลกกับลมหายใจสุดท้าย
ฉันจะมีชีวิตยาวนานต่อไปเพื่ออะไร ถ้าไม่มีเธอ
นางพยาบาลได้โปรด
ถอดเครื่องช่วยหายใจเถิดนะ จัดท่าทางของฉันมองออกไปยังนอกหน้าต่าง ไม่ต้องมีรอยยิ้มหรือสีหน้าแห่งความสงสาร เพียงปิดไฟแล้วเดินจากไป เพื่อที่ฉันจะติดปีกโบยบินไปหาสาวน้อยบนดวงจันทร์ มันคุ้มค่าที่จะแลกกับวิญญาณหรือชีวิตกับสี่แยกของถนนปีศาจ ฉันสัมผัสได้ถึงความรักผู้หญิงบนดวงจันทร์ แม้ว่าจะไม่มีจริง แต่เธอเป็นของฉันอย่างสมบูรณ์แล้วในคืนนี้
วันที่ฉันไม่มีลมหายใจ แต่เธอจับมือฉันได้แล้วนะที่รัก ไม่สำคัญหรอกว่าเธอจะเป็นความฝันหรือความจริง ไม่สำคัญเลยว่าจะอยู่หรือตาย
ดวงจิตที่ปราศจากลมหายใจของฉันจะโบยบินขึ้นไปหาเธอ
สาวน้อยบนดวงจันทร์ เราได้อยู่ด้วยกันแล้วในที่สุด และสุดท้ายของลมหายใจ
.
สาวน้อยบนดวงจันทร์
ช้าน้อย เคยเห็น การขับขานร้อยกรองกวีลำนำ กับบทเพลง
เลยเกิดความคิดแปลกใหม่....จะเขียนร้อยแก้ว กับบทเพลง
ที่มิใช่การแปลเนื้อเนื้อเพลงโดยตรง
แต่...เป็นแรงจูงใจจุดประกายงานเขียน (เพื่อความแปลกใหม่ ในการเขียน เท่านั้น)
คือพูดง่ายๆ เขียนนิยายที่มาจากเพลงนั่นเอง
น่าจะเป็นไอเดีย ที่น่าลองนะครับ
ถูกผิดเช่นไร ข้าน้อยขออภัย เด้อ....
นางพยาบาลแสนสวยที่รัก ช่วยฉันได้ไหม...
มันไม่มีอะไรยุ่งยากมากความมากมาย ถ้าไม่เชื่อลองอดทนฟังฉันก่อนสักนิด
หัวใจของฉันไม่เต้นแล้วใช่ไหม ทำไมนางพยาบาลคนสวยมาก้มลงมาฟังเสียงเต้นหัวใจของฉันว่ายังมีอยู่หรือไม่ อย่างน้อยฉันอาจจะได้กลิ่นแป้งหอมกรุ่นจรุงใจ
รู้ไหม ดวงจันทร์ที่รักและงดงาม ฉันอยากจะพลิกตัว เพื่อจะได้หันหน้ามองออกไปทางหน้าต่าง แต่ฉันทำไม่ได้เพราะร่างกายไร้การตอบสนองเสียแล้ว แต่ความคิดของฉันยังเป็นอิสระไร้ขอบเขต นางพยาบาลคนงามช่วยเปิดม่านหน้าต่างให้กระจ่างได้ไหม...นั่นล่ะ ฉันจะได้มองเห็นเธอ สาวน้อยน่ารักผู้อยู่บนดวงจันทร์ และเธอกำลังส่งรอยยิ้มชวนหลงใหล
ใช่แล้ว.. มันเป็นเวลาค่ำคืนอีกครั้ง ไม่....ไม่ต้องปิดม่านหน้าต่างนะนางพยาบาลที่รัก ได้โปรด...รู้ไหมว่าฉันรอเวลานี้มานานแค่ไหน
เป็นเวลาสำหรับจิตใจของฉันที่จะท่องเที่ยวไป อิสระจากสังขาร ไปสู่การเดินทางไร้ขีดจำกัดและคำบรรยาย สู่ความเวิ้งว้างเดียวดายและกาลเวลา เพื่อค้นหาใบหน้าของหญิงงาม ที่ฉันไม่อาจพบในโลกแห่งความเป็นจริง แต่เธอคนนั้นอยู่ในความฝันทุกคืน จนไม่อยากหลับตาตื่นมาเผชิญความจริงอันโหดร้าย
ดังนั้น....... ฉันจึงหลับตาและมองเข้าไปข้างในตัวของฉันเอง เพื่อค้นหาใครบางคนที่เหมือนเคลื่อนคล้อยลอยลงมาจากดวงจันทร์ มาปรากฏตัวอยู่หน้าต่างพร้อมรอยยิ้มปริศนา ฉันสามารถยื่นมือออกไปไขว่คว้า และคงจะได้แต่ความว่างเปล่า หรือไม่ก็เหมือนกับการพยายามจับคว้าสายลมไร้ใจแห่งทะเลทรายแห้งแล้ง
แต่ฉันยังเห็นเธอเสมอมา
หัวใจของฉันอ่อนระโหยโรยแรง ร่างกายขยับไหวไม่ได้อีกแล้ว ฉันถูกจองจำในกรงขังร่างกายและความคิดของฉันเอง ผู้หญิงบนดวงจันทร์ เธออาจเป็นเพียงมายาภาพไร้ตัวตน แต่ฉันยังอยากเห็นเธออีกสักครั้ง แม้จะแลกกับลมหายใจสุดท้าย
ฉันจะมีชีวิตยาวนานต่อไปเพื่ออะไร ถ้าไม่มีเธอ
นางพยาบาลได้โปรด
ถอดเครื่องช่วยหายใจเถิดนะ จัดท่าทางของฉันมองออกไปยังนอกหน้าต่าง ไม่ต้องมีรอยยิ้มหรือสีหน้าแห่งความสงสาร เพียงปิดไฟแล้วเดินจากไป เพื่อที่ฉันจะติดปีกโบยบินไปหาสาวน้อยบนดวงจันทร์ มันคุ้มค่าที่จะแลกกับวิญญาณหรือชีวิตกับสี่แยกของถนนปีศาจ ฉันสัมผัสได้ถึงความรักผู้หญิงบนดวงจันทร์ แม้ว่าจะไม่มีจริง แต่เธอเป็นของฉันอย่างสมบูรณ์แล้วในคืนนี้
วันที่ฉันไม่มีลมหายใจ แต่เธอจับมือฉันได้แล้วนะที่รัก ไม่สำคัญหรอกว่าเธอจะเป็นความฝันหรือความจริง ไม่สำคัญเลยว่าจะอยู่หรือตาย
ดวงจิตที่ปราศจากลมหายใจของฉันจะโบยบินขึ้นไปหาเธอ
สาวน้อยบนดวงจันทร์ เราได้อยู่ด้วยกันแล้วในที่สุด และสุดท้ายของลมหายใจ
.