ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณเวปพันทิพ ที่ให้โอกาสในการเสนอความจริงเกี่ยวกับคุณย่าจันคุณย่ามุกตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่อสาธารณะ
จุดหมายสำคัญของกระทู้นี้ คือ
การพิสูจน์ด้วยหลักฐานว่า มารดา และ บิดาของ คุณหญิงจัน และคุณหญิงมุก ไม่ได้เป็นมุสลิม
การอ้างว่า มารดาของท่านย่า ชื่อ ม๊ะเซี๊ยะ หรือ หม่าเสี้ย เป็น แขกมุสลิม เมืองไทร เป็นเรื่องไม่ตรงตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์
จากกระทู้
https://ppantip.com/topic/33977387
ขออนุญาติแอดมิน ขอให้กระทู้นี้ลงในห้องศาสนาอิสลาม เพื่อความเป็นธรรมต่อคุณย่าทั้งสอง และความถูกต้องของประวัติศาสตร์
ต่อเนื่องจากกระทู้พิสูจน์ว่าคุณหญิงจันและคุณหญิงมุกเป็นไทยพุทธ ไม่ใช่มุสลิม
https://ppantip.com/topic/34905614
ปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลทางอินเตอร์เนท ทำให้การค้นคว้าหาหลักฐานง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน
หลังจากได้พบข้อมูลจากหนังสือ"รายงานผลการสัมมนาประวัติศาสตร์ครั้งที่2-ประวัติท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร"
ต่อมาได้พบข้อมูลสำคัญซึ่งเผยแพร่โดย วิทยาลัยบูรพคดีศึกษาและการศึกษาแอฟริกา (SOAS) มหาวิทยาลัยลอนดอน
ทำให้เชื่อได้ว่า บิดามารดาของคุณย่าทั้งสองเป็นคนไทยเชื้อจีน หรืออาจเป็นคนจีน จากหลักฐานใหม่ที่ค้นพบล่าสุด ดังนี้
1 ข้อพิสูจน์ว่าบิดาของคุณย่าจัน เป็นคนจีนหรือไทยเชื้อจีน ไม่ใช่มุสลิม จากหนังสือเก่าซึ่งกล่าวถึงเมืองถลางในปี พ.ศ. 2261
ค.ศ. 1700-1719 (พ.ศ.2243-2262)กัปตัน อเล็กซานเดอร์ ฮามิลตัน (เชิงอรรถ 1) ได้เดินทางเข้ามาสำรวจ สยาม(เข้าไปถึงกรุงศรีอยุธยา) กัมพูชา พม่า(พะโคะ) ยะไข่ ดินแดนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมาเลย์ และบริเวณ โคชินไชน่า
และได้ตีพิมพ์เรื่องเหล่านี้ใน A NEW ACCOUNT OF EAST INDIES ( EDINBURGE 1727 )
เขาได้เขียนถึง ภูเก็ต ซึ่งเขาเรียกว่า Jonceyloan [Junkceylon]
กล่าวว่า ภูเก็ตเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสยาม มีที่เหมาะสำหรับจอดเรือหลายที่ เช่น
อ่าวป่าตอง(Puton bay)เป็นที่เหมาะในการหลบลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
แต่ในบริเวณริมทะเลมีคนอาศัยอยู่น้อย และภูเก็ตมีแร่ดีบุกมากมาย แต่มีคนขุดแร่ดีบุกอยู่ไม่มากนัก
เพราะมีโจรสลัดชุกชุม ซึ่งคอยดักปล้น และจับคนไปขายเป็นทาส
กัปตันเขียนไว้ชัดเจนว่า
ผู้ปกครองภูเก็ตสมัยนั้น(ค.ศ. 1718) เป็นคนจีน
ซึ่งซื้อตำแหน่งจากราชสำนัก และ ผู้ปกครองได้กดขี่ พลเมืองของตนให้ลำบาก ยากจน
จากสำเนาพงศาวดารฉบับตัวเขียน(เชิงอรรถ 3) หน้า190 กล่าวว่า (รูปในข้อ2)
"เมืองถลางแต่ก่อนนั้น จอมร้างบ้านตะเคียนเป็นเจ้าเมือง เมียจอมร้างเป็นแขกเมือง หม้าเสียลูกมหุมเถ้าแต่ก่อน ผัวตายเป็นม่ายอยู่
มหุมน้องบากมาขอเงินมรดกห้าพันเศษ หม้าเสียขัดใจไม่อยู่เมืองไทร มาอยู่เมืองถลาง
ได้กับจอมร้างเป็นผัว มีลูกชาย 2 หญิง3 รวม 5 คน หญิงชื่อจัน เป็นท้าวเทพกระสัตรี"
ดังนั้น จอมร้างบ้านตะเคียน หรือ เจ้าเมือง(ผู้รั้ง)ถลาง บิดาของคุณหญิงจัน ต้องเป็นคนจีนหรือไทยเชื้อจีน
(คำว่า "จอมรั้ง" ในสมัยอยุธยา คือ ตำแหน่งเจ้าเมืองชั้นจัตวา หรือหัวเมืองชั้นนอก ตำแหน่งเจ้าเมืองเรียกว่า "ผู้รั้ง"
คำว่าจอมร้าง คือ จอมรั้ง หรือ ตำแหน่งเจ้าเมืองบ้านตะเคียนสมัยนั้น ไม่ใช่ชื่อคน
ถ้าหากออกเสียงภาษาใต้ภาษาภูเก็ต เสียงก็จะเหมือนกัน ระหว่างคำว่า ร้าง กับรั้ง)
ในภาพใต้เส้นสีแดง ร้างเมือง หรือ รั้งเมือง หรือ ครองเมือง จากพงศาวดารฉบับตัวเขียน หน้า 200(เชิงอรรถ 3)
หมายเหตุ จากบันทึกของกัปตัน ฮามิลตัน ในปีพ.ศ. 2261(1718)กล่าวว่า
เจ้าเมืองภูเก็ตสมัยนั้นเป็นคนจีน ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก โดยการซื้อตำแหน่ง
แต่ที่ถูกต้องควรจะเป็น "นายอากรขุดแร่ดีบุก" ซึ่งต้องมีการขออนุญาต(สัมปทาน)ขุดแร่ดีบุก จากราชสำนักที่อยุธยา
และราชสำนักแต่งตั้งนายอากรดีบุกให้ปกครองเมืองหรือเรียกว่าตำแหน่ง"ผู้รั้งเมือง"ด้วย เพราะภูเก็ตอยู่ไกลอยุธยามาก
(เช่นเดียวกับนายอากรหลายๆประเภท ซึ่งแพร่หลายในสมัยปลายอยุธยา
เช่น บิดาของพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งเป็นคนจีนและเป็นนายอากรบ่อนเบี้ย)
และกัปตันฮามิลตันบันทึกว่า มีการกดขี่ทำให้พลเมืองยากจนนั้น
ความจริงสาเหตุใหญ่ของความยากจนของชาวบ้านเป็นผลพวงมาจากการเรียกเก็บภาษีดีบุกที่สูงมากของราชสำนัก
ผลพวงจากการเรียกภาษีดีบุกที่สูงมีผลต่อคนภูเก็ตรวมถึงชนชั้นปกครองภูเก็ต
จะเห็นว่าผู้ปกครองเมืองภูเก็ตทุกคน รวมทั้งคุณย่าจันซึ่งเป็นผู้ประมูลขุดแร่ดีบุกกับราชสำนัก
ล้วนได้รับผลโดยตรงจากการเรียกเก็บภาษีดีบุกที่สูงทั้งสิ้น
จดหมายเหตุเมืองถลาง ศภว 17 คุณย่าจันเขียนว่า มีการเกาะตัว(คุมตัว)คุณย่าจันโดยพระยาธรรมไตรโลก (เพื่อต้องการภาษีดีบุก)
สรุป บิดาของคุณย่าจัน เป็นเจ้าเมืองถลาง(อยู่ที่บ้านตะเคียน) หรือ ตำแหน่ง ผู้รั้งเมืองถลาง หรือ จอมรั้ง เจ้าเมืองถลาง
ตามบันทึกของกัปตันฮามิลตัลในปี พ.ศ. 2261 ว่า เจ้าเมืองถลางเป็นคนจีน แสดงว่า จอมร้างเป็นคนจีน
และประกอบอาชีพขุดแร่ดีบุก โดยขออนุญาต(สัมปทาน)จากราชสำนักที่กรุงศรีอยุธยา
[คุณย่าจัน เกิด 1730(พ.ศ. 2273) ตาย 1792(พ.ศ.2335) (เชิงอรรถ2,หน้า 57)อยู่ในยุคที่ใกล้เคียงกับบันทึกของกัปตัน ฮามิลตัน]
เมื่อ บิดาของคุณย่าจัน หรือ จอมร้าง(รั้ง) เจ้าเมืองถลางเป็นคนจีน หรือ ไทยเชื้อจีน
ดังนั้น บิดาของจอมร้าง และ จอมเถ้า ซึ่งเป็นคุณปู่ของคุณย่าจัน รวมถึงตัวคุณย่าจัน จะต้องเป็นคนจีนหรือไทยเชื้อจีน ไม่ใช่มุสลิม
อธิบาย เชิงอรรถ 1 A NEW ACCOUNT OF EAST INDIES ( EDINBURGE 1727 ) by ALEXANDER HAMILTON : ACCOUNT OF PEGU AND THE VOYAGE TO CAMBODIA AND SIAM 1718 หน้า 12
เผยแพร่โดย วิทยาลัยบูรพคดีศึกษาและการศึกษาแอฟริกา มหาวิทยาลัยลอนดอน
หนังสือของกัปตันฮามิลตันเกี่ยวกับภูเก็ต ย่อหน้านี้ ถูกใช้อ้างอิงมากที่สุดในหนังสือภาษาอังกฤษทุกเล่มที่เกี่ยวกับเมืองถลาง
The next place of any commerce on this coast, is the island of Jonkceyloan, it lies in the dominions of the king of Siam.Between Merjee(มะริด) and Jonkceyloan(ภูเก็ต) there are several good harbours for shipping, but the sea-coast is very thin of inhabitant because there are great numbers of freebooters(โจรสลัด) , called "salleiters" , who inhabit islands along the sea coast and they both rob, and take people for slaves, and transport them for Atcheen ( อาเจะ,เกาะสุมาตรา),and there make sale of them, and Jonkceyloan often feels the weight of their depredations.
The North end of Jonkceyloan lies within a mile of the continent,but the South end is above three leagues from it. Between the island and the continentis a good harbour for shipping in the South-west monsoons,and on the west side of the island Puton Bay(อ่าวป่าตอง) is a safe harbour in the North-east winds.The islands afford good masts for shipping,and abundance of tin,but few people to dig for it, by reason of the afore-mentioned outlaws,and the governors being generally Chinese, who buy their places at the court of Siam,and, to reimburse themselves, oppress the people,in so much that riches would be but a plague to them, and their poverty makes them live an easie indolent life
หมายเหตุ Freebooters(โจรสลัด) ในหนังสือของ Ian Morson(เชิงอรรถ 2 หน้า 24-25) อธิบายว่า ประกอบด้วย
โจรสลัด อินโด มาเลย์ พม่า และเจ้าหน้าที่ไทยที่ถูกลงโทษย้ายมาชายแดน
อธิบาย เชิงอรรถ 2 THE CONNECTION PHUKET PENANG AND ADELAIDE by IAN MORSON
กัปตันฟรานซิส ไลท์ เข้ามาตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนสินค้าที่ภูเก็ตตั้งแต่ ค.ศ. 1771 ถึง ค.ศ. 1786 ก่อนจะย้ายฐานไปปีนังก่อนเกิดสงครามเมืองถลางไม่นาน ไลท์ได้ภรรยาเป็นลูกครึ่งถลาง โปรตุเกศชื่อ มาติน่า โรเซล และมีลูกกับเธอหลายคน ลูกคนสุดท้องเป็นชาย ชื่อ วิลเลี่ยม(เชื้อสายภูเก็ต โปรตุเกศ และ อังกฤษ) เขาเป็นนักเผชิญโชคเหมือนพ่อ มีการศึกษาดีมากเพราะพ่อส่งกลับไปลอนดอนเรียนหนังสือตั้งแต่หกขวบ วิลเลี่ยมเป็นผู้ตั้งเมืองอดิเลท เมื่อ 7 ธันวาคม 1836 เขาตายเมื่อปี 1839 เอกสารส่วนตัวของเขาและสมุดบันทึกประจำวันของกัปตันไลท์สูญหายไปเพราะเกิดไฟไหม้ ก่อนเขาตายไม่นาน หลักฐานการติดต่อกับเมืองถลางก็เสียหายไปด้วย
คุณทราบหรือไม่ว่า ท้าวเทพกษัตรี ท้าวศรีสุนทร ท่านทั้งสองเป็น คนไทยเชื้อจีน !!!
ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณเวปพันทิพ ที่ให้โอกาสในการเสนอความจริงเกี่ยวกับคุณย่าจันคุณย่ามุกตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่อสาธารณะ
จุดหมายสำคัญของกระทู้นี้ คือการพิสูจน์ด้วยหลักฐานว่า มารดา และ บิดาของ คุณหญิงจัน และคุณหญิงมุก ไม่ได้เป็นมุสลิม
การอ้างว่า มารดาของท่านย่า ชื่อ ม๊ะเซี๊ยะ หรือ หม่าเสี้ย เป็น แขกมุสลิม เมืองไทร เป็นเรื่องไม่ตรงตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์
จากกระทู้ https://ppantip.com/topic/33977387
ขออนุญาติแอดมิน ขอให้กระทู้นี้ลงในห้องศาสนาอิสลาม เพื่อความเป็นธรรมต่อคุณย่าทั้งสอง และความถูกต้องของประวัติศาสตร์
ต่อเนื่องจากกระทู้พิสูจน์ว่าคุณหญิงจันและคุณหญิงมุกเป็นไทยพุทธ ไม่ใช่มุสลิม https://ppantip.com/topic/34905614
ปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลทางอินเตอร์เนท ทำให้การค้นคว้าหาหลักฐานง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน
หลังจากได้พบข้อมูลจากหนังสือ"รายงานผลการสัมมนาประวัติศาสตร์ครั้งที่2-ประวัติท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร"
ต่อมาได้พบข้อมูลสำคัญซึ่งเผยแพร่โดย วิทยาลัยบูรพคดีศึกษาและการศึกษาแอฟริกา (SOAS) มหาวิทยาลัยลอนดอน
ทำให้เชื่อได้ว่า บิดามารดาของคุณย่าทั้งสองเป็นคนไทยเชื้อจีน หรืออาจเป็นคนจีน จากหลักฐานใหม่ที่ค้นพบล่าสุด ดังนี้
1 ข้อพิสูจน์ว่าบิดาของคุณย่าจัน เป็นคนจีนหรือไทยเชื้อจีน ไม่ใช่มุสลิม จากหนังสือเก่าซึ่งกล่าวถึงเมืองถลางในปี พ.ศ. 2261
ค.ศ. 1700-1719 (พ.ศ.2243-2262)กัปตัน อเล็กซานเดอร์ ฮามิลตัน (เชิงอรรถ 1) ได้เดินทางเข้ามาสำรวจ สยาม(เข้าไปถึงกรุงศรีอยุธยา) กัมพูชา พม่า(พะโคะ) ยะไข่ ดินแดนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมาเลย์ และบริเวณ โคชินไชน่า
และได้ตีพิมพ์เรื่องเหล่านี้ใน A NEW ACCOUNT OF EAST INDIES ( EDINBURGE 1727 )
เขาได้เขียนถึง ภูเก็ต ซึ่งเขาเรียกว่า Jonceyloan [Junkceylon]
กล่าวว่า ภูเก็ตเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสยาม มีที่เหมาะสำหรับจอดเรือหลายที่ เช่น
อ่าวป่าตอง(Puton bay)เป็นที่เหมาะในการหลบลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
แต่ในบริเวณริมทะเลมีคนอาศัยอยู่น้อย และภูเก็ตมีแร่ดีบุกมากมาย แต่มีคนขุดแร่ดีบุกอยู่ไม่มากนัก
เพราะมีโจรสลัดชุกชุม ซึ่งคอยดักปล้น และจับคนไปขายเป็นทาส
กัปตันเขียนไว้ชัดเจนว่า ผู้ปกครองภูเก็ตสมัยนั้น(ค.ศ. 1718) เป็นคนจีน
ซึ่งซื้อตำแหน่งจากราชสำนัก และ ผู้ปกครองได้กดขี่ พลเมืองของตนให้ลำบาก ยากจน
จากสำเนาพงศาวดารฉบับตัวเขียน(เชิงอรรถ 3) หน้า190 กล่าวว่า (รูปในข้อ2)
"เมืองถลางแต่ก่อนนั้น จอมร้างบ้านตะเคียนเป็นเจ้าเมือง เมียจอมร้างเป็นแขกเมือง หม้าเสียลูกมหุมเถ้าแต่ก่อน ผัวตายเป็นม่ายอยู่
มหุมน้องบากมาขอเงินมรดกห้าพันเศษ หม้าเสียขัดใจไม่อยู่เมืองไทร มาอยู่เมืองถลาง
ได้กับจอมร้างเป็นผัว มีลูกชาย 2 หญิง3 รวม 5 คน หญิงชื่อจัน เป็นท้าวเทพกระสัตรี"
ดังนั้น จอมร้างบ้านตะเคียน หรือ เจ้าเมือง(ผู้รั้ง)ถลาง บิดาของคุณหญิงจัน ต้องเป็นคนจีนหรือไทยเชื้อจีน
(คำว่า "จอมรั้ง" ในสมัยอยุธยา คือ ตำแหน่งเจ้าเมืองชั้นจัตวา หรือหัวเมืองชั้นนอก ตำแหน่งเจ้าเมืองเรียกว่า "ผู้รั้ง"
คำว่าจอมร้าง คือ จอมรั้ง หรือ ตำแหน่งเจ้าเมืองบ้านตะเคียนสมัยนั้น ไม่ใช่ชื่อคน
ถ้าหากออกเสียงภาษาใต้ภาษาภูเก็ต เสียงก็จะเหมือนกัน ระหว่างคำว่า ร้าง กับรั้ง)
ในภาพใต้เส้นสีแดง ร้างเมือง หรือ รั้งเมือง หรือ ครองเมือง จากพงศาวดารฉบับตัวเขียน หน้า 200(เชิงอรรถ 3)
หมายเหตุ จากบันทึกของกัปตัน ฮามิลตัน ในปีพ.ศ. 2261(1718)กล่าวว่า
เจ้าเมืองภูเก็ตสมัยนั้นเป็นคนจีน ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก โดยการซื้อตำแหน่ง
แต่ที่ถูกต้องควรจะเป็น "นายอากรขุดแร่ดีบุก" ซึ่งต้องมีการขออนุญาต(สัมปทาน)ขุดแร่ดีบุก จากราชสำนักที่อยุธยา
และราชสำนักแต่งตั้งนายอากรดีบุกให้ปกครองเมืองหรือเรียกว่าตำแหน่ง"ผู้รั้งเมือง"ด้วย เพราะภูเก็ตอยู่ไกลอยุธยามาก
(เช่นเดียวกับนายอากรหลายๆประเภท ซึ่งแพร่หลายในสมัยปลายอยุธยา
เช่น บิดาของพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งเป็นคนจีนและเป็นนายอากรบ่อนเบี้ย)
และกัปตันฮามิลตันบันทึกว่า มีการกดขี่ทำให้พลเมืองยากจนนั้น
ความจริงสาเหตุใหญ่ของความยากจนของชาวบ้านเป็นผลพวงมาจากการเรียกเก็บภาษีดีบุกที่สูงมากของราชสำนัก
ผลพวงจากการเรียกภาษีดีบุกที่สูงมีผลต่อคนภูเก็ตรวมถึงชนชั้นปกครองภูเก็ต
จะเห็นว่าผู้ปกครองเมืองภูเก็ตทุกคน รวมทั้งคุณย่าจันซึ่งเป็นผู้ประมูลขุดแร่ดีบุกกับราชสำนัก
ล้วนได้รับผลโดยตรงจากการเรียกเก็บภาษีดีบุกที่สูงทั้งสิ้น
จดหมายเหตุเมืองถลาง ศภว 17 คุณย่าจันเขียนว่า มีการเกาะตัว(คุมตัว)คุณย่าจันโดยพระยาธรรมไตรโลก (เพื่อต้องการภาษีดีบุก)
สรุป บิดาของคุณย่าจัน เป็นเจ้าเมืองถลาง(อยู่ที่บ้านตะเคียน) หรือ ตำแหน่ง ผู้รั้งเมืองถลาง หรือ จอมรั้ง เจ้าเมืองถลาง
ตามบันทึกของกัปตันฮามิลตัลในปี พ.ศ. 2261 ว่า เจ้าเมืองถลางเป็นคนจีน แสดงว่า จอมร้างเป็นคนจีน
และประกอบอาชีพขุดแร่ดีบุก โดยขออนุญาต(สัมปทาน)จากราชสำนักที่กรุงศรีอยุธยา
[คุณย่าจัน เกิด 1730(พ.ศ. 2273) ตาย 1792(พ.ศ.2335) (เชิงอรรถ2,หน้า 57)อยู่ในยุคที่ใกล้เคียงกับบันทึกของกัปตัน ฮามิลตัน]
เมื่อ บิดาของคุณย่าจัน หรือ จอมร้าง(รั้ง) เจ้าเมืองถลางเป็นคนจีน หรือ ไทยเชื้อจีน
ดังนั้น บิดาของจอมร้าง และ จอมเถ้า ซึ่งเป็นคุณปู่ของคุณย่าจัน รวมถึงตัวคุณย่าจัน จะต้องเป็นคนจีนหรือไทยเชื้อจีน ไม่ใช่มุสลิม
อธิบาย เชิงอรรถ 1 A NEW ACCOUNT OF EAST INDIES ( EDINBURGE 1727 ) by ALEXANDER HAMILTON : ACCOUNT OF PEGU AND THE VOYAGE TO CAMBODIA AND SIAM 1718 หน้า 12
เผยแพร่โดย วิทยาลัยบูรพคดีศึกษาและการศึกษาแอฟริกา มหาวิทยาลัยลอนดอน
หนังสือของกัปตันฮามิลตันเกี่ยวกับภูเก็ต ย่อหน้านี้ ถูกใช้อ้างอิงมากที่สุดในหนังสือภาษาอังกฤษทุกเล่มที่เกี่ยวกับเมืองถลาง
The next place of any commerce on this coast, is the island of Jonkceyloan, it lies in the dominions of the king of Siam.Between Merjee(มะริด) and Jonkceyloan(ภูเก็ต) there are several good harbours for shipping, but the sea-coast is very thin of inhabitant because there are great numbers of freebooters(โจรสลัด) , called "salleiters" , who inhabit islands along the sea coast and they both rob, and take people for slaves, and transport them for Atcheen ( อาเจะ,เกาะสุมาตรา),and there make sale of them, and Jonkceyloan often feels the weight of their depredations.
The North end of Jonkceyloan lies within a mile of the continent,but the South end is above three leagues from it. Between the island and the continentis a good harbour for shipping in the South-west monsoons,and on the west side of the island Puton Bay(อ่าวป่าตอง) is a safe harbour in the North-east winds.The islands afford good masts for shipping,and abundance of tin,but few people to dig for it, by reason of the afore-mentioned outlaws,and the governors being generally Chinese, who buy their places at the court of Siam,and, to reimburse themselves, oppress the people,in so much that riches would be but a plague to them, and their poverty makes them live an easie indolent life
หมายเหตุ Freebooters(โจรสลัด) ในหนังสือของ Ian Morson(เชิงอรรถ 2 หน้า 24-25) อธิบายว่า ประกอบด้วย
โจรสลัด อินโด มาเลย์ พม่า และเจ้าหน้าที่ไทยที่ถูกลงโทษย้ายมาชายแดน
อธิบาย เชิงอรรถ 2 THE CONNECTION PHUKET PENANG AND ADELAIDE by IAN MORSON
กัปตันฟรานซิส ไลท์ เข้ามาตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนสินค้าที่ภูเก็ตตั้งแต่ ค.ศ. 1771 ถึง ค.ศ. 1786 ก่อนจะย้ายฐานไปปีนังก่อนเกิดสงครามเมืองถลางไม่นาน ไลท์ได้ภรรยาเป็นลูกครึ่งถลาง โปรตุเกศชื่อ มาติน่า โรเซล และมีลูกกับเธอหลายคน ลูกคนสุดท้องเป็นชาย ชื่อ วิลเลี่ยม(เชื้อสายภูเก็ต โปรตุเกศ และ อังกฤษ) เขาเป็นนักเผชิญโชคเหมือนพ่อ มีการศึกษาดีมากเพราะพ่อส่งกลับไปลอนดอนเรียนหนังสือตั้งแต่หกขวบ วิลเลี่ยมเป็นผู้ตั้งเมืองอดิเลท เมื่อ 7 ธันวาคม 1836 เขาตายเมื่อปี 1839 เอกสารส่วนตัวของเขาและสมุดบันทึกประจำวันของกัปตันไลท์สูญหายไปเพราะเกิดไฟไหม้ ก่อนเขาตายไม่นาน หลักฐานการติดต่อกับเมืองถลางก็เสียหายไปด้วย