The Zookeeper's Wife (Niki Caro, 2017) คะแนน C+
By Form Corleone
" สวนสัตว์ที่ให้ชีวิตชาวยิวผ่านฉากหลังของสงครามอันโหดร้าย " หนังเล่าเรื่องจริงของสวนสัตว์วอร์ซอว์ที่ใช้เป็นที่หลบภัยของชาวยิวกว่า 300 ชีวิต ให้รอดปลอดภัยจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของฮิตเลอร์ โดยมี สามีภรรยาชาวโปแลนด์เจ้าของสวนสัตว์ Antonina Zabinska (Jessica Chastain) และ Jan Zabinski (Johan Heldenbergh) ทั้งสองคนได้ใช้ข้ออ้างในการขอเปิดสวนสัตว์จากกองทัพนาซีในการเลี้ยงหมู เพื่อใช้เป็นอาหารให้กับทหารนาซีที่เข้ามายึดโปแลนด์ แต่แท้จริงแล้วทั้งสองกำลังวางแผนอพยพชาวยิวจากค่ายกักกันให้ได้มากที่สุด โดยใช้ห้องใต้ดินของสวนสัตว์เป็นที่หลบภัย ตัวหนังอาจไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวความโหดร้ายของสงครามเท่าที่ควรเพราะหนังจงใจโฟกัสไปที่ 'Antonina' ที่ต้องจัดการกับทหารนาซีหรือแสดงละครตบตา Lutz Heck (Daniel Brühl) นักสัตววิทยาประจำกองทัพนาซี ภาพรวมของหนังจึงเป็นเพียงการแสดงภาวะเศร้าใจหรือทุกข์ใจของ 'Antonina' เสียมากกว่า และมันก็แสดงให้เห็นถึงความดีงามของผู้หญิงหนึ่งคนที่สามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ไว้ได้มากมายในภาวะที่แม้จะเอาชีวิตตัวเองให้รอดยังยากมากอยู่แล้ว การเอาชีวิตครอบครัวของตัวเองไปเสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตคนอื่นถือเป็นบทสะท้อนของประวัติศาสตร์ในการช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกันได้สวยงามครั้งหนึ่ง
ฉากการถูกยิงของสัตว์ต่างๆที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์ทำให้เรารู้สึกสะเทือนใจไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายชาวยิว สิ่งมีชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สงครามต้องถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม เสมือนคนยิวที่ถูกฆ่าตาย เด็กชาย เด็กหญิงชาวยิว ที่โดนจับตัวขึ้นรถไฟเพื่อจบชีวิตด้วยความไร้เดียงสาคงไม่ต่างอะไรกับสิ่งมีชีวิตที่โดยฆ่าตายในสวนสัตว์วอร์ซอว์ อย่างไรก็ตาม ตัวหนังไม่สามารถทำให้เรารู้สึกสะเทือนใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้เท่าที่ควร รวมถึงบางฉากที่ไม่สามารถกลายเป็นจุดพลิกผันหรือทำให้เรารู้สึกเชื่อในเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ครั้งนี้ การดำเนินเรื่องของหนังช้าและขาดจุดพีค ทั้งหมดจึงกลายเป็นการเล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งโฟกัสไปที่ตัวภรรยามากกว่าจะเล่าความชั่วร้ายหรือทำให้เรารู้สึกสงสารตัวละครเหมือนเรื่องอื่นๆ
สุดท้าย 'The Zookeeper's Wife' ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเศร้ากับสงครามที่เกิดขึ้นได้เท่าที่ควร แง่มุมที่ตัวหนังต้องการนำเสนอคงเป็นเพียงวีรกรรมฉากหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน นำเสนอผ่านการสวมบทของ 'Jessica Chastain' ที่แสดงได้ดีตามมาตรฐาน และแม้ว่าหนังจะไม่ได้เจาะจงไปที่ความโหดร้ายของภาวะสงคราม แต่กลิ่นไอของการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์หรือการคัดแยกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในภาวะสงครามยังคงเด่นชัดด้วยตัวของมันเองอยู่เสมอ ว่าที่จริงแล้วสิ่งที่เคยเกิดขึ้นนั้นไม่เคยนำมาซึ่งประโยชน์อันใดต่อโลกใบนี้ เหล่าฝูงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์แห่งนี้คงไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ที่บางครั้งเราก็เป็นผู้ออกล่า และในบางครั้งเราก็โดนล่าเสียเอง ไม่ต่างจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเลย และเราเพียงเรียนรู้เกี่ยวกับสงครามเพื่อเน้นย้ำไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: The Zookeeper's Wife (Niki Caro, 2017) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
" สวนสัตว์ที่ให้ชีวิตชาวยิวผ่านฉากหลังของสงครามอันโหดร้าย " หนังเล่าเรื่องจริงของสวนสัตว์วอร์ซอว์ที่ใช้เป็นที่หลบภัยของชาวยิวกว่า 300 ชีวิต ให้รอดปลอดภัยจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของฮิตเลอร์ โดยมี สามีภรรยาชาวโปแลนด์เจ้าของสวนสัตว์ Antonina Zabinska (Jessica Chastain) และ Jan Zabinski (Johan Heldenbergh) ทั้งสองคนได้ใช้ข้ออ้างในการขอเปิดสวนสัตว์จากกองทัพนาซีในการเลี้ยงหมู เพื่อใช้เป็นอาหารให้กับทหารนาซีที่เข้ามายึดโปแลนด์ แต่แท้จริงแล้วทั้งสองกำลังวางแผนอพยพชาวยิวจากค่ายกักกันให้ได้มากที่สุด โดยใช้ห้องใต้ดินของสวนสัตว์เป็นที่หลบภัย ตัวหนังอาจไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวความโหดร้ายของสงครามเท่าที่ควรเพราะหนังจงใจโฟกัสไปที่ 'Antonina' ที่ต้องจัดการกับทหารนาซีหรือแสดงละครตบตา Lutz Heck (Daniel Brühl) นักสัตววิทยาประจำกองทัพนาซี ภาพรวมของหนังจึงเป็นเพียงการแสดงภาวะเศร้าใจหรือทุกข์ใจของ 'Antonina' เสียมากกว่า และมันก็แสดงให้เห็นถึงความดีงามของผู้หญิงหนึ่งคนที่สามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ไว้ได้มากมายในภาวะที่แม้จะเอาชีวิตตัวเองให้รอดยังยากมากอยู่แล้ว การเอาชีวิตครอบครัวของตัวเองไปเสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตคนอื่นถือเป็นบทสะท้อนของประวัติศาสตร์ในการช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกันได้สวยงามครั้งหนึ่ง
ฉากการถูกยิงของสัตว์ต่างๆที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์ทำให้เรารู้สึกสะเทือนใจไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายชาวยิว สิ่งมีชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สงครามต้องถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม เสมือนคนยิวที่ถูกฆ่าตาย เด็กชาย เด็กหญิงชาวยิว ที่โดนจับตัวขึ้นรถไฟเพื่อจบชีวิตด้วยความไร้เดียงสาคงไม่ต่างอะไรกับสิ่งมีชีวิตที่โดยฆ่าตายในสวนสัตว์วอร์ซอว์ อย่างไรก็ตาม ตัวหนังไม่สามารถทำให้เรารู้สึกสะเทือนใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้เท่าที่ควร รวมถึงบางฉากที่ไม่สามารถกลายเป็นจุดพลิกผันหรือทำให้เรารู้สึกเชื่อในเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ครั้งนี้ การดำเนินเรื่องของหนังช้าและขาดจุดพีค ทั้งหมดจึงกลายเป็นการเล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งโฟกัสไปที่ตัวภรรยามากกว่าจะเล่าความชั่วร้ายหรือทำให้เรารู้สึกสงสารตัวละครเหมือนเรื่องอื่นๆ
สุดท้าย 'The Zookeeper's Wife' ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเศร้ากับสงครามที่เกิดขึ้นได้เท่าที่ควร แง่มุมที่ตัวหนังต้องการนำเสนอคงเป็นเพียงวีรกรรมฉากหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน นำเสนอผ่านการสวมบทของ 'Jessica Chastain' ที่แสดงได้ดีตามมาตรฐาน และแม้ว่าหนังจะไม่ได้เจาะจงไปที่ความโหดร้ายของภาวะสงคราม แต่กลิ่นไอของการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์หรือการคัดแยกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในภาวะสงครามยังคงเด่นชัดด้วยตัวของมันเองอยู่เสมอ ว่าที่จริงแล้วสิ่งที่เคยเกิดขึ้นนั้นไม่เคยนำมาซึ่งประโยชน์อันใดต่อโลกใบนี้ เหล่าฝูงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์แห่งนี้คงไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ที่บางครั้งเราก็เป็นผู้ออกล่า และในบางครั้งเราก็โดนล่าเสียเอง ไม่ต่างจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเลย และเราเพียงเรียนรู้เกี่ยวกับสงครามเพื่อเน้นย้ำไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/