สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นบันทึกการเดินทางที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว 2016 ช่วงนี้กรุงเทพ (เมืองเตาอบ) อากาศร้อนมาก เลยคิดถึงความเร่าร้อนที่โอมาน
การไปเที่ยวครั้งนี้มันเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้น สนุก ตลก ตกใจ เลยอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง
เริ่มมมค่ะ!
ก่อนหน้านี้ได้เล่นเกมส์ในเฟสบุคชิงรางวัลตั๋ว เครื่องบินฟรีบินไปกลับกรุงเทพ-โอมาน และก็ได้ทำการไหว้ป้ายโฆษณาAir Asia ริมถนนสาทรเพื่อขอพรด้วย ..ทุ่มเทแต่ไม่ได้รางวัล
แต่ๆๆๆๆๆ..เหมือนสวรรค์เปิดทาง อยู่ๆเพื่อนก็โทรมาบอกว่า
แกๆๆๆๆ! Air Asia เค้าแจกตั๋วฟรีบินไปโอมาน! รีบมาเร็ว!
เพียงแชะถ่ายรูปกับป้ายเส้นทางบินใหม่ไปโอมานของ Air Asia แล้วก็ได้เลย..ช่างง่ายดายเสียนี่กระไร
ศิริรวม ผู้ร่วมชะตากรรมมีทั้งสิ้น 6 มนุษย์ ที่มีความสามารถและความเยอะแตกต่างกัน แต่รวมตัวกันแล้วกลมกล่อม
เรามีเวลาเตรียมตัวกันเพียง 1 สัปดาห์กว่า ตอนนัดเจอกันเพื่อประชุมวางแผน ก็ได้มีการวาดรูปอธิบายภาพให้เข้าใจตรงกัน
เงื่อนไขหลักของทริปนี้คือ ต้องจ้างไกด์หรือจ้างรถขับเที่ยวเอง เพราะระบบขนส่งสาธารณะไม่ทั่วถึงกันทั้งประเทศ พวกเราไม่อยากกังวลกับการหลงทางเสียเวลา หลงวงการมายาเสียอนาคต จึงจ้างไกด์ค่ะ
และอีกเงื่อนไขนึงคือ ช่วงนี้เป็นช่วงรอมฎอน จะไม่มีการขายอาการและทานอาการในช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงกระทั้งตกดิน และชาวพุทธแบบเราถ้าหากจะทานก็ตองทานในที่ลับตาคนนะฮะ
=============================================================================================
วันที่ 1
ก่อนออกเดินทางคุณย่าของน้องอุ๊กอิ๊ก หนึ่งในสมาชิกที่ร่วมเดินทางได้โทรมาย้ำว่า "อย่าทิ้งกันนะลูก" เป็นประโยคที่น่ารักจริงๆ โอเคค่ะ เราจะไม่ทิ้งอุ๊กอิ้ก
เราออกจากกรุงเทพประมาณบ่าย3ถึงโอมาน 6โมงเย็น (เวลาบ้านเค้าช้ากว่าเรา 3ชั่วโมงจ่ะ) โดยเครื่องลงที่เมือง Muscat เมืองหลวงของประเทศโอมาน
วันนี้จะมีเพื่อนที่แสนดีมารับ เธอเป็นสาวไทยงามงดและตลกมากเธอพาเรานั่งแทกซี่ราคายุติธรรมไปเก็บข้าวของที่โรงแรมที่เธอจองและต่อรองราคาให้ ซึ่งที่โรงแรมนี้ พวกเราใช้ความพยายามและความอดทน(ต่ำ)ในการสื่อสารกับพนักงงานโรงแรมอย่างยากลำบากในเรื่องการนับจำนวนวันที่จะค้าง เถียงกันอยู่นาน จนยอมแพ้เพื่อให้มันจบๆไป พวกเราเก็บข้าวเก็บของเรียบร้อย หลังจากนั้นก็ไปเดินไปร้านน้ำผลไม้ปั่นในระแวกนั้น ดีงามน่ากินมาก (ตอนนี้กินในที่สาธารณะได้เพราะพระอาทิตย์ตกดินแล้ว)
แล้วก็ไปต่อที่ตลาด Matrah Souq เพื่อหาพร๊อบสำหรับถ่าย Oman Fashion Week
ต่อจากนั้นก็หาอาหารเย็น ซึ่งพวกเราได้จัดไก่เข้ากระเพาะไปแบบไร้เดียงสา หารู้ไม่ว่าวันอื่นๆก็จะต้องกินไก่ ไก่ ไก่ และ ไก่
=============================================================================================
วันที่ 2
ตอนเช้า..ไกด์มารับที่โรงแรมค่ะ เพื่อนคนไทยตื่นมาส่งขึ้นรถด้วย #น่ารักมากๆ ไกด์คนที่นัดไว้ไม่ว่างจ้า..นางส่งเพื่อนมาแทน โดยจะเริ่มตามโปรแกรมที่วางไว้ทุกอย่าง คุยไปคุยมาก็เริ่มรู้สึกถึงความไม่ชัดเจน ไม่แน่ใจของคุณไกด์ มันเต็มใจมาป่าววะ?
ไกด์พาแวะจุดแรก “Wadi Alarbeieen " (เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ wadi คือ บริเวณที่อุดมสมบูรณ์ในทะเลทราย (อยู่ทางแอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลางและเอเชียใต้) เรามาที่นี่เพื่อถ่ายรูป ยังไม่ต้องลงไปจุ่มน้ำ
นอกจากนี้ เราได้รับเกียรติชมการดริฟรถจากคุณไกด์ #เพื่ออะไรคะคุณ?
น้ำเขียวอยู่ตรงหน้า ท้องฟ้าอยู่ด้านบน
พวกเราชมวิวท่ามกลางแดดจัดๆจนเกรียมได้ที่ ก็กลับไปที่รถเพื่อไปต่อ ระหว่างนั่งรถพวกเราก็ถามหาอาหารเช้า ซึ่งไกด์ก็ได้พาแวะ supermarket ในปั้มน้ำมัน เราก็งงๆกันว่าจะแอบทานตรงไหน เพราะในที่สาธารณะทานไม่ได้ แล้วใครจะจ่าย เพราะที่ตกลงกันไว้ เค้าจะเตรียมอาหารให้ แต่ไกด์ก็ไม่พูดอะไร พวกเราต้องตั้งคำถามเพื่อให้นางตอบ ซึ่งก็งงๆกันทั้ง2ฝ่าย จนกระทั่งนินิวฑูตสันติภาพประจำทริปได้เข้าไปคุยปรับความเข้าใจกันสองต่อสอง ได้ความว่า ด้วยความที่เป็นช่วงรอมฎอน มันหาอาหารยาก เค้าไม่สามารถจัดเตรียมอาหารเช้ากับกลางวันได้ทุกมื้อ เพราะฉะนั้นตลอดทั้งทริปนางจะพาแวะsupermarket ให้พวกเราชอปตามอัธยาศัย และเค้าจะจ่ายเอง แต่ถ้าแพงเกินไปเค้าจะบอก สรุปมื้อแรกวันนี้ก็ไม่ต้องแอบกิน เพราะใน supermarket ทบจะไม่มีคน มีเพียงพนักงานขาย หมู่เฮาจัดมาม่าคนละ 1 และตามต่อด้วยไอติมดับร้อน
เมื่ออิ่มท้องก็ไปต่อจุดที 2 คือ Sink Hole ซึ่งเป็นหลุมขนาดใหญ่ มีน้ำด้านล่างซึ่งเป็นน้ำเค็ม เราจะเล่นน้ำที่ มีห้องน้ำและที่เปลี่ยนเสื้อผ้า ดีงามมาก คนไม่เยอะ ประหนึ่งว่าเป็นสระน้ำเกลือมรกตส่วนตัว พวกเราเพลิดเพลินกับที่นี่พอสมควร เพราะดับร้อนได้ดี บ้างก็ดำผุดดำว่าย บ้างก็จมผุดจมว่าย บ้างก็โดดน้ำโชว์สกิลให้ฝรั่งดู
[SR] Oman...งานดีที่ลืมไม่ลง
การไปเที่ยวครั้งนี้มันเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้น สนุก ตลก ตกใจ เลยอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง
เริ่มมมค่ะ!
ก่อนหน้านี้ได้เล่นเกมส์ในเฟสบุคชิงรางวัลตั๋ว เครื่องบินฟรีบินไปกลับกรุงเทพ-โอมาน และก็ได้ทำการไหว้ป้ายโฆษณาAir Asia ริมถนนสาทรเพื่อขอพรด้วย ..ทุ่มเทแต่ไม่ได้รางวัล
แต่ๆๆๆๆๆ..เหมือนสวรรค์เปิดทาง อยู่ๆเพื่อนก็โทรมาบอกว่า
แกๆๆๆๆ! Air Asia เค้าแจกตั๋วฟรีบินไปโอมาน! รีบมาเร็ว!
เพียงแชะถ่ายรูปกับป้ายเส้นทางบินใหม่ไปโอมานของ Air Asia แล้วก็ได้เลย..ช่างง่ายดายเสียนี่กระไร
ศิริรวม ผู้ร่วมชะตากรรมมีทั้งสิ้น 6 มนุษย์ ที่มีความสามารถและความเยอะแตกต่างกัน แต่รวมตัวกันแล้วกลมกล่อม
เรามีเวลาเตรียมตัวกันเพียง 1 สัปดาห์กว่า ตอนนัดเจอกันเพื่อประชุมวางแผน ก็ได้มีการวาดรูปอธิบายภาพให้เข้าใจตรงกัน
เงื่อนไขหลักของทริปนี้คือ ต้องจ้างไกด์หรือจ้างรถขับเที่ยวเอง เพราะระบบขนส่งสาธารณะไม่ทั่วถึงกันทั้งประเทศ พวกเราไม่อยากกังวลกับการหลงทางเสียเวลา หลงวงการมายาเสียอนาคต จึงจ้างไกด์ค่ะ
และอีกเงื่อนไขนึงคือ ช่วงนี้เป็นช่วงรอมฎอน จะไม่มีการขายอาการและทานอาการในช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงกระทั้งตกดิน และชาวพุทธแบบเราถ้าหากจะทานก็ตองทานในที่ลับตาคนนะฮะ
=============================================================================================
ก่อนออกเดินทางคุณย่าของน้องอุ๊กอิ๊ก หนึ่งในสมาชิกที่ร่วมเดินทางได้โทรมาย้ำว่า "อย่าทิ้งกันนะลูก" เป็นประโยคที่น่ารักจริงๆ โอเคค่ะ เราจะไม่ทิ้งอุ๊กอิ้ก
เราออกจากกรุงเทพประมาณบ่าย3ถึงโอมาน 6โมงเย็น (เวลาบ้านเค้าช้ากว่าเรา 3ชั่วโมงจ่ะ) โดยเครื่องลงที่เมือง Muscat เมืองหลวงของประเทศโอมาน
วันนี้จะมีเพื่อนที่แสนดีมารับ เธอเป็นสาวไทยงามงดและตลกมากเธอพาเรานั่งแทกซี่ราคายุติธรรมไปเก็บข้าวของที่โรงแรมที่เธอจองและต่อรองราคาให้ ซึ่งที่โรงแรมนี้ พวกเราใช้ความพยายามและความอดทน(ต่ำ)ในการสื่อสารกับพนักงงานโรงแรมอย่างยากลำบากในเรื่องการนับจำนวนวันที่จะค้าง เถียงกันอยู่นาน จนยอมแพ้เพื่อให้มันจบๆไป พวกเราเก็บข้าวเก็บของเรียบร้อย หลังจากนั้นก็ไปเดินไปร้านน้ำผลไม้ปั่นในระแวกนั้น ดีงามน่ากินมาก (ตอนนี้กินในที่สาธารณะได้เพราะพระอาทิตย์ตกดินแล้ว)
แล้วก็ไปต่อที่ตลาด Matrah Souq เพื่อหาพร๊อบสำหรับถ่าย Oman Fashion Week
ต่อจากนั้นก็หาอาหารเย็น ซึ่งพวกเราได้จัดไก่เข้ากระเพาะไปแบบไร้เดียงสา หารู้ไม่ว่าวันอื่นๆก็จะต้องกินไก่ ไก่ ไก่ และ ไก่
=============================================================================================
วันที่ 2
ตอนเช้า..ไกด์มารับที่โรงแรมค่ะ เพื่อนคนไทยตื่นมาส่งขึ้นรถด้วย #น่ารักมากๆ ไกด์คนที่นัดไว้ไม่ว่างจ้า..นางส่งเพื่อนมาแทน โดยจะเริ่มตามโปรแกรมที่วางไว้ทุกอย่าง คุยไปคุยมาก็เริ่มรู้สึกถึงความไม่ชัดเจน ไม่แน่ใจของคุณไกด์ มันเต็มใจมาป่าววะ?
ไกด์พาแวะจุดแรก “Wadi Alarbeieen " (เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ wadi คือ บริเวณที่อุดมสมบูรณ์ในทะเลทราย (อยู่ทางแอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลางและเอเชียใต้) เรามาที่นี่เพื่อถ่ายรูป ยังไม่ต้องลงไปจุ่มน้ำ
นอกจากนี้ เราได้รับเกียรติชมการดริฟรถจากคุณไกด์ #เพื่ออะไรคะคุณ?
น้ำเขียวอยู่ตรงหน้า ท้องฟ้าอยู่ด้านบน
พวกเราชมวิวท่ามกลางแดดจัดๆจนเกรียมได้ที่ ก็กลับไปที่รถเพื่อไปต่อ ระหว่างนั่งรถพวกเราก็ถามหาอาหารเช้า ซึ่งไกด์ก็ได้พาแวะ supermarket ในปั้มน้ำมัน เราก็งงๆกันว่าจะแอบทานตรงไหน เพราะในที่สาธารณะทานไม่ได้ แล้วใครจะจ่าย เพราะที่ตกลงกันไว้ เค้าจะเตรียมอาหารให้ แต่ไกด์ก็ไม่พูดอะไร พวกเราต้องตั้งคำถามเพื่อให้นางตอบ ซึ่งก็งงๆกันทั้ง2ฝ่าย จนกระทั่งนินิวฑูตสันติภาพประจำทริปได้เข้าไปคุยปรับความเข้าใจกันสองต่อสอง ได้ความว่า ด้วยความที่เป็นช่วงรอมฎอน มันหาอาหารยาก เค้าไม่สามารถจัดเตรียมอาหารเช้ากับกลางวันได้ทุกมื้อ เพราะฉะนั้นตลอดทั้งทริปนางจะพาแวะsupermarket ให้พวกเราชอปตามอัธยาศัย และเค้าจะจ่ายเอง แต่ถ้าแพงเกินไปเค้าจะบอก สรุปมื้อแรกวันนี้ก็ไม่ต้องแอบกิน เพราะใน supermarket ทบจะไม่มีคน มีเพียงพนักงานขาย หมู่เฮาจัดมาม่าคนละ 1 และตามต่อด้วยไอติมดับร้อน
เมื่ออิ่มท้องก็ไปต่อจุดที 2 คือ Sink Hole ซึ่งเป็นหลุมขนาดใหญ่ มีน้ำด้านล่างซึ่งเป็นน้ำเค็ม เราจะเล่นน้ำที่ มีห้องน้ำและที่เปลี่ยนเสื้อผ้า ดีงามมาก คนไม่เยอะ ประหนึ่งว่าเป็นสระน้ำเกลือมรกตส่วนตัว พวกเราเพลิดเพลินกับที่นี่พอสมควร เพราะดับร้อนได้ดี บ้างก็ดำผุดดำว่าย บ้างก็จมผุดจมว่าย บ้างก็โดดน้ำโชว์สกิลให้ฝรั่งดู