หน้าร้อนมาเยือนแล้ว อากาศก็แสนจะร้อนอบอ้าว และอุณหภูมิโลกสูงขึ้นทุกปี การติดตั้งเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่หลายๆบ้านใช้ในการแก้ปัญหา
มีใครเจอค่าไฟแพงเว่อร์ แพงสุดๆ แพงมหาโหดบ้าง? แอร์ก็ไม่ค่อยได้เปิดใช้ เปิดแอร์ก็ค่อยไม่เย็น ต้องเปิดแรงสุดๆ ค่ามิเตอร์ไฟก็ขึ้น แถมค่าไฟฟ้ายังแพงขึ้นอีกต่างหาก เฮ่อๆๆ!! ทำไงดี??
ผมได้ยินเพื่อนๆหลายคนบ่นเรื่องนี้กันมากเลยช่วงนี้ ผมจึงทำการ์ตูนภาพ และรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อ การใช้แอร์ และการดูแลรักษาแอร์ที่ถูกต้องมาฝาก ลองนำไปปฏิบัติดูนะครับ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆได้ครับ
หากเพื่อนๆมีประสบการณ์ค่าไฟสูงปรี๊ด ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเข้ามาได้ครับ
เพื่อนๆ ควรเลือกใช้แอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และจุดที่ทำจะติดตั้งแอร์ ต้องสามารถกระจายควรเย็นได้ทั่วทั้งห้อง
ไม่ควรติดแอร์ด้านที่มีแสงแดดส่องแรงๆ เพราะจะทำให้แอร์ทำงานหนัก สิ้นเปลืองพลังงาน และต้องเสียค่าไฟมากเกินความจำเป็น ควรเลือกขนาดของแอร์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ห้องที่ต้องการติดตั้ง ซึ่งแอร์โดยทั่วไปมีขนาดตั้งแต่ 9,000 – 60,000 BTU
ควรตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม คือ 25 องศา หรือ ประมาณ 26 – 28 องศา จริงๆแล้ว การตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศา ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดไฟที่สุด แต่เป็นอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกเย็นสบายพอดี เช่น บางคนอาจจะชอบที่อุณหภูมิ 27 หรือ 28 องศา เป็นต้น ร่างกายของแต่ละคนจะรู้สึกเย็นสบายในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน และอุณหภูมิยิ่งสูง ยิ่งช่วยให้ประหยัดค่าไฟ แต่ไม่ควรเปิดแอร์จนอุณหภูมิสูงจนไม่เกิดความเย็น ซึ่งจะกลายเป็นว่า ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการเปิดใช้แอร์ และถือเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานด้วย นอกจากนี้ควรล้างแผ่นกรอง และตะแกรงแอร์ เดือนละ 1 ครั้ง
ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ เช่น เตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ เป็นต้น รวมทั้ง ควรล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน และประหยัดค่าไฟ
หากเพื่อนๆต้องการเปิดใช้แอร์ควรปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด เพื่อไม่ให้ความเย็นรั่วไหลออกภายนอกห้อง ใส่เสื้อผ้าที่สบายๆ เหมาะกับสภาพอากาศ หรือถ้าที่บ้านของเพื่อนๆจำเป็นต้องเปิดใช้แอร์นานต่อเนื่องเกิน 8 ชั่วโมง ควรเลือกใช้แอร์ Inverter เพราะจะช่วยให้ประหยัดไฟได้เกือบ 50% เลยทีเดียว
ไม่ควรสูบบุหรี่ในห้องแอร์ เพราะจะต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อช่วยในการระบายกลิ่น และควันบุหรี่ ทำให้ความเย็นจากแอร์ถูกดูดออกไปด้วย
ส่วนคอยล์ร้อน ควรติดตั้งให้อยู่ในจุดที่โดนแดดน้อยที่สุด หรืออยู่ในที่ร่ม และมีอากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก หรือติดตั้งให้ห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร เพื่อช่วยระบายความร้อนได้ดี และยังช่วยประหยัดไฟได้ถึง 15 – 20 % ควรปิดแอร์ก่อนออกจากห้องอย่างน้อย 30 นาที เพราะถึงแม้จะปิดแอร์แล้วแต่ก็ยังคงมีความเย็นอยู่ และปิดคัทเอาท์แอร์ทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน
ผมคิดว่าวิธีต่างๆเหล่านี้น่าจะช่วยให้เพื่อนๆใช้แอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งค่าไฟฟ้า และค่าบำรุงรักษา รวมทั้งยังให้ความเย็นที่เพียงพอกับความต้องการได้ตลอดเวลา ที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย
หากเพื่อนๆคนไหนยังไม่เคยอ่าน 9 ปัญหาควรรู้ ก่อนผิดใจกับเพื่อนบ้าน
คลิ๊กเข้าไปอ่านได้นะครับ >>>
https://ppantip.com/topic/36382102
ร่วมแสดงความคิดเห็น หรือหากมีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับบ้านฝากคำถามไว้ได้นะครับ
ความรู้เรื่องบ้านมีมากมายหลายเรื่อง หากเพื่อนๆ สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมทุกเรื่องเกี่ยวกับบ้าน
สามารถติดตามอ่านได้ใน >>
เพจ : ผู้รับเหมาผู้ซื่อสัตย์ หรือคลิ๊ก
https://www.facebook.com/WinEngineer
Line@:
http://line.me/ti/p/@mig8711i
วิธีใช้แอร์อย่างสบายใจ ประหยัดไฟ และเงินในกระเป๋า
มีใครเจอค่าไฟแพงเว่อร์ แพงสุดๆ แพงมหาโหดบ้าง? แอร์ก็ไม่ค่อยได้เปิดใช้ เปิดแอร์ก็ค่อยไม่เย็น ต้องเปิดแรงสุดๆ ค่ามิเตอร์ไฟก็ขึ้น แถมค่าไฟฟ้ายังแพงขึ้นอีกต่างหาก เฮ่อๆๆ!! ทำไงดี??
ผมได้ยินเพื่อนๆหลายคนบ่นเรื่องนี้กันมากเลยช่วงนี้ ผมจึงทำการ์ตูนภาพ และรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อ การใช้แอร์ และการดูแลรักษาแอร์ที่ถูกต้องมาฝาก ลองนำไปปฏิบัติดูนะครับ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆได้ครับ
หากเพื่อนๆมีประสบการณ์ค่าไฟสูงปรี๊ด ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเข้ามาได้ครับ
เพื่อนๆ ควรเลือกใช้แอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และจุดที่ทำจะติดตั้งแอร์ ต้องสามารถกระจายควรเย็นได้ทั่วทั้งห้อง
ไม่ควรติดแอร์ด้านที่มีแสงแดดส่องแรงๆ เพราะจะทำให้แอร์ทำงานหนัก สิ้นเปลืองพลังงาน และต้องเสียค่าไฟมากเกินความจำเป็น ควรเลือกขนาดของแอร์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ห้องที่ต้องการติดตั้ง ซึ่งแอร์โดยทั่วไปมีขนาดตั้งแต่ 9,000 – 60,000 BTU
ควรตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม คือ 25 องศา หรือ ประมาณ 26 – 28 องศา จริงๆแล้ว การตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศา ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดไฟที่สุด แต่เป็นอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกเย็นสบายพอดี เช่น บางคนอาจจะชอบที่อุณหภูมิ 27 หรือ 28 องศา เป็นต้น ร่างกายของแต่ละคนจะรู้สึกเย็นสบายในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน และอุณหภูมิยิ่งสูง ยิ่งช่วยให้ประหยัดค่าไฟ แต่ไม่ควรเปิดแอร์จนอุณหภูมิสูงจนไม่เกิดความเย็น ซึ่งจะกลายเป็นว่า ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการเปิดใช้แอร์ และถือเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานด้วย นอกจากนี้ควรล้างแผ่นกรอง และตะแกรงแอร์ เดือนละ 1 ครั้ง
ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ เช่น เตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ เป็นต้น รวมทั้ง ควรล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน และประหยัดค่าไฟ
หากเพื่อนๆต้องการเปิดใช้แอร์ควรปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด เพื่อไม่ให้ความเย็นรั่วไหลออกภายนอกห้อง ใส่เสื้อผ้าที่สบายๆ เหมาะกับสภาพอากาศ หรือถ้าที่บ้านของเพื่อนๆจำเป็นต้องเปิดใช้แอร์นานต่อเนื่องเกิน 8 ชั่วโมง ควรเลือกใช้แอร์ Inverter เพราะจะช่วยให้ประหยัดไฟได้เกือบ 50% เลยทีเดียว
ไม่ควรสูบบุหรี่ในห้องแอร์ เพราะจะต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อช่วยในการระบายกลิ่น และควันบุหรี่ ทำให้ความเย็นจากแอร์ถูกดูดออกไปด้วย
ส่วนคอยล์ร้อน ควรติดตั้งให้อยู่ในจุดที่โดนแดดน้อยที่สุด หรืออยู่ในที่ร่ม และมีอากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก หรือติดตั้งให้ห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร เพื่อช่วยระบายความร้อนได้ดี และยังช่วยประหยัดไฟได้ถึง 15 – 20 % ควรปิดแอร์ก่อนออกจากห้องอย่างน้อย 30 นาที เพราะถึงแม้จะปิดแอร์แล้วแต่ก็ยังคงมีความเย็นอยู่ และปิดคัทเอาท์แอร์ทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน
ผมคิดว่าวิธีต่างๆเหล่านี้น่าจะช่วยให้เพื่อนๆใช้แอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งค่าไฟฟ้า และค่าบำรุงรักษา รวมทั้งยังให้ความเย็นที่เพียงพอกับความต้องการได้ตลอดเวลา ที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย
หากเพื่อนๆคนไหนยังไม่เคยอ่าน 9 ปัญหาควรรู้ ก่อนผิดใจกับเพื่อนบ้าน
คลิ๊กเข้าไปอ่านได้นะครับ >>> https://ppantip.com/topic/36382102
ร่วมแสดงความคิดเห็น หรือหากมีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับบ้านฝากคำถามไว้ได้นะครับ
ความรู้เรื่องบ้านมีมากมายหลายเรื่อง หากเพื่อนๆ สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมทุกเรื่องเกี่ยวกับบ้าน
สามารถติดตามอ่านได้ใน >>
เพจ : ผู้รับเหมาผู้ซื่อสัตย์ หรือคลิ๊ก
https://www.facebook.com/WinEngineer
Line@: http://line.me/ti/p/@mig8711i