[SR] หิ ม ะ สุ ด ท้ า ย ที่ ฮ อ ก ไ ก โ ด | THE LAST WINTER AT HOKKAIDO


สวัสดีเพื่อนๆ ที่น่ารักทุกคนครับ ต้องบอกว่าญี่ปุ่นเนี่ย เป็นอีกประเทศที่มาเมื่อไหร่ก็ไม่เคยเบื่อเลย หลายคนอาจจะเคยไปโอซาก้า ไปนาโกย้า ไปฟุกุโอกะหรือโตเกียว แต่เชื่อมั้ยว่า น้อยคนนัก ที่จะมีโอกาสได้ไปฮอกไกโด แม้แต่ตัวผมเองยังหาโอกาสที่จะไปยากมากๆ แต่วันนี้ โอกาสของผมมาถึงแล้วล่ะ แถมเป็น Period สุดท้ายของ Winter Season ของที่นี่ด้วย ก็เรียกได้ว่าไปต้นเดือนเมษา ช่วงที่หิมะกำลังจะล่ำลาจากไปเลยล่ะสิ


สำหรับทริปนี้ ภาพทุกใบถ่ายทอดโดย Sony A6300 นะครับ เป็นกล้อง Mirorless ตัวใหม่ของ Sony ทริปนี้เลยพกมาเก็บภาพด้วย เพราะว่าตัวกล้องมันเล็ก แคบ และน้ำหนักเบาครับ ใครที่กำลังเล็งกล้องตัวใหม่อยู่ก็ลองดูรูปผมในกระทู้นี้ไปเรื่อยๆ ครับ ถ่ายจาก Sony A6300 ทั้งหมด แล้วคือปกติก็ใช้กล้องแนวๆ นี้ไม่เก่งสะด้วยสิ แต่เดี๋ยวมาดูกันว่ามันจะเป็นยังไง และที่สำคัญที่สุดคือภาพทุกใบเอาออกมาจากหลังเลนส์ไม่มีการตกแต่งใดๆ ทั้งสิ้น


และทริปนี้ผมมีโอกาสได้ร่วมเดินทางกับผู้ใหญ่หลายท่านครับ ซึ่งเป็น 10 Top Spenders จาก Emquartier และ Emporium โดยตลอดทริปนี้ เราใช้เวลา 5 วัน 3 คืนครับ ทำการจองทริปกับ J-Plan Holiday และมีที่ปรึกษาส่วนตัวอย่างพี่บุ๋มจาก All About Furano ครับ เรียกได้ว่าเป็นที่ปรึกษาตลอดทั้งทริปเลย เพื่อนๆ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเมือง Niseko และเมือง Furano จากพี่บุ๋มได้ที่เมลล์นี้ครับ wikanda@allaboutfurano.com


อาล่ะ ผมขอตัดบทเข้ารีวิวกันเลยดีกว่า ซึ่งในช่วงที่อยู่ในสนามบิน ผมคงไม่ต้องรีวิวอะไรมาก จะตัดมาที่ Sapporo เลยแล้วกันนะ ฮาๆ และขอบอกไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยว่า กระทู้นี้ ไม่ใช้ How to แต่จะเป็นการเล่าบอกเรื่องราว และเป็น Guide line ให้เพื่อนๆ ได้ Copy and paste ในบางจุดที่เพื่อนๆ สนใจเอาไปใช้ในทริปอนาคตของเพื่อนๆ ถ้าพร้อมแล้ว ลุย!



หกชั่วโมงสบายๆ บนเครื่องบินลำใหญ่ของการบินไทย ก็พาพวกเรามาถึงสนามบินนิวชิโตเซะ (New Chitose) ฮอกไกโดครับ หลังจากนั้นพี่บุ๋มก็พาเราไปยังจุดรวมพล และพาเราไปที่รถ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ เราใช้บริการของบริษัท J-Plan Holiday สำหรับการจัดการบางส่วนของทริป



เพียงไม่กี่ชั่วโมงจากสนามบิน ก็มาถึงจุดพักรถครับ ตอนนั้นหิมะตกหนักมาก บางคนก็เดินลงไปซื้อของฝาก เข้าห้องน้ำกัน ส่วนผมก็คงจะหนีไม่พ้น การถ่ายรูปคูลๆ เอามาอวดเพื่อนๆ แน่นอน



เรามีแผนจะไปกันที่ร้านอาหารชื่อดังที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นแนะนำมาครับ ไม่ไกลจากนั้นเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เราก็เดินทางมาถึงร้านที่ว่า ซึ่งร้านนี้จะมีกฎอยู่ข้อหนึ่งคือ ไม่สามารถสั่งเมนูอาหารได้ คือทำได้เพียงแค่จองที่นั่งเท่านั้น แล้วก็จะมีราคาบอกไปว่ามื้อนั้นราคาเท่าไหร่ ซึ่งทางเชฟเนี่ย เค้าจะไปเลือกวัตถุดิบดีๆ และคัดสรรค์มาแบบรายวันว่าวันนี้มีอะไรทำให้เราทานบ้าง จากนั้นเค้าจะเอามาแจ้งเรา ว่ามื้อนี้เราจะได้ทานอะไร คือเรียกได้ว่า พิถีพิถันเอามาก ร้านนี้ชื่อร้าน Nihon Ryori Sato ครับ อยู่ในเมือง Niseko เลย อยากให้ทุกคนได้มาทานกันนะครับ สำหรับมื้อนี้ เฉลี่ยหัวละ 8,000 เยน ชิลๆ ครับ




เสร็จจากทานอาหารเที่ยง เราจะไป Milk Kobo กันครับ แต่ระหว่างทางดันเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน อย่างว่าครับ หิมะตก ถนนลื่น ใครที่เช่ารถขับในญี่ปุ่นก็ต้องระวังด้วยนะครับ เราเลยเปลี่ยนแพลนกันกลับเข้าที่พัก และเดี๋ยวค่อยเก็บ Milk Kobo วันหลัง ซึ่งก็ถือเป็นโอกาสเหมาะที่จะได้เข้าไปเก็บของและนอนพักสักงีบ ฮาๆ


เที่ยวนี้เรามาพักที่ Ki Niseko ครับ ซึ่งอยู่ในโซนที่เรียกว่า Grand Hirafu ครับ เป็นจุดที่โรงแรมของเราตั้งอยู่และเป็นย่านที่ใหญ่และคึกคักที่สุด มีร้านค้าให้ชอปปิ้ง ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารและบาร์กว่า 100 ร้าน ซึ่งรับรองได้ว่ามาเล่นสกีและพักที่ Ki Niseko แล้วเนี่ยจะต้องติดใจแน่นอน กลางวันเล่นสกี กลางคืนไปทานอาหารและบาร์ชิวๆ แบบไม่มีเบื่อ และเดินทางง่ายสุดๆ เพราะทางโรงแรมเรามี shuttle วิ่งให้บริการจนถึง 11 pm


ขอแทรกเกี่ยวกับเรื่องของ Lift pass นิดหน่อยครับ คือบริเวณนี้เนี่ย เรียกว่าเป็นพื้นทีที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในนิเซโกะ มีลานให้เล่นหลากหลาย level ทั้งแบบ beginner ไปจนถึง advanced โดยปกติเค้าจะมี lift pass 2 แบบขาย คือ Grand Hirafu pass อันนี้สามารถเล่นได้ที่ Hirafu และ Hanazono ซึ่งกินพื่นที่ 60% ของทั้ง resort และอีกแบบหนึ่งคือ All Mountain pass เล่นได้ทั้ง 4 resort ครับ ได้แก่ Hirafu, Hanazono, Annupuri และ Niseko village ยังไงผมว่า หากใครมาเพิ่งมาเล่นกิจกรรมกลางแจ้ง สิ่งนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจครับ


เมื่อมาถึงที่พัก ก็ต้องบอกว่า Reception ดีงามมาก คือทุกคนยิ้มต้อนรับเราอย่างเต็มใจ คือไม่รู้สึกว่าเค้าพยายามบริการ แต่รู้สึกว่าเค้าอยากบริการ คอยเข้ามาถามว่าต้องการอะไรนู้นนี่บลาๆ คือรู้สึกดีมาก และคือบรรยากาศภายในที่พักขอบอกว่าคูลมากๆ เป็นสไตล์ Japan แบบ minimalist Modern (คือคิดชื่อเอง) คือมันดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ เดี๋ยวถ้ามีโอกาสจะเอาห้องมาโชว์ให้ดู แต่ตอนนี้ ขอเอาของขึ้นไปเก็บ แล้วรีบไป Fitting เสื้อผ้าก่อน


หลังจากที่เอาของไปเก็บเรียบร้อย เราก็กลับเข้ามาที่รถครับ นั่งไปเพียง 3 นาที ก็จะถึง Rhythm ซึ่งร้านเช่าอุปกรณ์ Rhythm เนี่ย เป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในนิเซโกะ มีอุปกรณ์สกี/สโนว์บอร์ด เสื้อผ้า – jacket, pants ที่มีคุณภาพ และอยู่ในสภาพที่ดีมากๆ คือเท่าที่สัมผัสคือดีกว่าครั้งนั้นที่ไปเล่นที่ New Zealand ฮาๆ แล้วคือมีให้เลือกหลายหลายมาก เหมาะกับ Beginner ไปจนถึงระดับ Advanced เลย แล้วคือใครที่เป็นแขกของ Ki Niseko จะได้รับส่วนลดในการเช่าอยู่ที่ 5% ไปเลยจ้าาาา

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.rhythmjapan.com/rhythm-niseko/rhythm-niseko/
ราคา: https://www.kiniseko.com/uploads/documents/Rhythm-Price-2016-17.pdf (จากราคาที่โชว์ในเว็บนี้ ลดลงไปอีก 5%)




กว่าจะเลือกชุดทำนู้นนี่นั้นก็เย็นพอดี ได้เวลา Dinner ของเราในค่ำคืนนี้ครับ ห่างจาก Rhythm ไม่ไกลนัก จะมีร้านอาหารมิเชอลินสตาร์ (ร้านอาหารที่มีดาวของ Michelin แปลว่า มาแล้วต้องทาน) ให้เราได้ลองสัมผัสกันครับ ชื่อร้าน Kamimura เป็นร้าอาหารฝรั่งเศส สำหรับร้านนี้ หนึ่งดาวครึ่งครับ : )




ภายในร้านบรรยากาศไฮมาก คือน่าจะแพงในระดับหนึ่ง แต่เรามาดูหน้าตาของอาหารมื้อนี้เราเถอะ คิดว่าแพงก็คงต้องยอม เราเลือกเป็น Set ไว้ครับ ซึ่งรายการอาหารก็จะมีตามในใบที่เค้าแจ้ง ราคาอยู่ที่ราวๆ คนละ 9,500 เยน ไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป เรียกได้ว่าอิ่มหนำสำราญกันเลยทีเดียวสำหรับมื้อเย็นวันนี้







เมื่อคืนผมกลับไปแบบไร้เรี่ยวแรงครับ คือเดินทางมาทั้งคืนไม่ได้หยุดเลย กลับห้องไปสลบแบบไม่รู้ตัว ฮาๆ ตื่นมาอีกทีตีสามลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้วกลับมานอนต่อ เอาล่ะ ราตรีสวัสสำหรับคืนนี้

ชื่อสินค้า:   SONY A6300
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่