ไป ไหน ไป กัน : Lucerne - The City. The Lake. The Mountains
"ลูเซิร์น" เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ใจกลางสวิตเซอร์แลนด์ ใช้ภาษาเยอรมันกันเป็นหลัก ขนาบด้วยภูเขา Rigi และ Pilatus ยอดเขาคู่บ้านคู่เมือง ซึ่งที่เมืองลูเซิร์นแห่งนี้ถือว่าเป็นจุดหมายอันดับต้นๆของคนไทยเลยก็ว่าได้ เพราะมีจุด Check-in ที่ต้องไปเยอะมาก ใช้เวลาเพียงแค่วันเดียวก็เก็บไม่หมดครับ
หลังจากที่ไป Montreux - Vevey มาเมื่อวานนี้ ก็ถึงเวลาที่จะต้องย้ายเมืองย้ายที่พักกันอีกแล้ว ซึ่งสถานีต่อไปคือลูเซิร์นนั่นเอง
จริงๆ แล้ววันนี้ตั้งใจจะไปล่องเรือในทะเลสาบ Brienz ที่ Interlakern Ost ก่อน แล้วค่อยต่อรถไฟไปลูเซิร์น แต่พอตื่นมาอากาศไม่ค่อยดีเลย ท้องฟ้าปิดเหมือนฝนจะตก หมอกลงหนามาก เลยตัดสินใจนั่งรถไฟตรงไปที่ลูเซิร์นเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.
พอถึงที่สถานี Bahnhof Luzern หรือสถานีรถไฟกลางลูเซิร์น ก็เดินไปที่โรงแรมเพื่อฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อปปี้ก่อนเพื่อไปตะลอนเดินเล่นรอบเมือง เพราะยังเช็คอินไม่ได้ สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองลูเซิร์นนี้อยู่ไม่ไกลกันมาก สามารถเดินถึงกันได้หมดเลย เดินชิวๆ แบบไม่เหนื่อยนะครับ
เริ่มต้นจากเดินออกจากสถานีรถไฟจะเจอ Chapel Bridge (Kapellbrucke) and Water Tower หรือสะพานชาเปล สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่มีอายุกว่า 670 ปี สะพานถูกสร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1333 และมีการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1993 หลังจากถูกไฟไหม้ โดยบนสะพานจะมีรูปที่ถูกวาดในยุคศตวรรษที่ 17 ถึง 120 รูป
พอเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นแหล่งช็อปปิ้งของลูเซิร์น มีทั้งร้านขายของสด จนไปถึงร้านรวงที่มีสินค้ามูลค่านับแสน ซึ่งจะอยู่ตามตรอกซอกซอย ยิ่งเดินยิ่งเสียตังครับ โดยเฉพาะนาฬิการาคาถูกมาก
หลังจากเดินทะลุแหล่งพลาดเงินฟรังค์ในกระเป๋าไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอกับอนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเป็นของขวัญที่รัฐบาลฝรั่งเศสสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติ และรำลึกถึงทหารรับจ้างชาวสวิสที่เสียชีวิตในหน้าที่เพื่อปกป้องพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อังตัวแนตต์ จากการโจมตีที่พระราชวังตุยเลอรี ในกรุงปารีส อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่และมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี
มีเด็กๆ มาทัศนศึกษานอกสถานทีด้วย
หากใครต้องการซื้อของฝาก ผมแนะนำให้เดินออกจากประตูอนุสาวรีย์สิงโต หันไปทางขวาจะเจอร้านขายของฝาก ที่มีป้ายตั้งตระหง่านว่า "ร้านคนไทย" มีเจ้าของร้านชื่อป้าอารีย์ เป็นชาวใต้ ผมไม่มีส่วนได้เสียกับร้านนะครับ บอกไว้ก่อน แต่บังเอิญเดินเข้าไปแล้วคุณป้าตุ๊กตาชวนคุยประมาณ 20 นาที จนป้าอารีย์วีนป้าตุ๊กตาว่าให้ขายของ 555 ที่ร้านป้าอารีย์ราคาของค่อนข้างจะถูกครับ แถมป้าให้ส่วนลด 10% ทุกชิ้นด้วย ถูกกว่าไปเสียเวลาทำ Tax Refund ที่สนามบินครับ
เดินไปเดินมาทำไมเวลาผ่านไปเร็วจัง พระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ว ท้องก็เริ่มหิวเลยแวะจัดอาหารอิตาเลี่ยนริมสะพานชาเปล ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรกับอาหารมื้อนี้เลยครับ แต่พอหยิบใส่ปากเท่านั้นแหละ ต้อง Recommended เลยว่าใครมาต้องลอง ชื่อร้าน Da Ernesto ครับ
พิซซ่าหน้า Gamberoni ถาดละ 26.50 CHF รสชาติออกเผ็ดนิดๆ ตัดเลี่ยนจากอาหารที่กินมาหลายวันได้เป็นอย่างดี
สปาเกตตี้คาโบนาร่า
[CR] ตะลุยดินแดนแห่งความฝัน ฝรั่งเศส - สวิตเซอร์แลนด์ - เยอรมัน - ออสเตรีย (EP 6 : Luzern - The City The Lake The Mountain)
"ลูเซิร์น" เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ใจกลางสวิตเซอร์แลนด์ ใช้ภาษาเยอรมันกันเป็นหลัก ขนาบด้วยภูเขา Rigi และ Pilatus ยอดเขาคู่บ้านคู่เมือง ซึ่งที่เมืองลูเซิร์นแห่งนี้ถือว่าเป็นจุดหมายอันดับต้นๆของคนไทยเลยก็ว่าได้ เพราะมีจุด Check-in ที่ต้องไปเยอะมาก ใช้เวลาเพียงแค่วันเดียวก็เก็บไม่หมดครับ
หลังจากที่ไป Montreux - Vevey มาเมื่อวานนี้ ก็ถึงเวลาที่จะต้องย้ายเมืองย้ายที่พักกันอีกแล้ว ซึ่งสถานีต่อไปคือลูเซิร์นนั่นเอง
จริงๆ แล้ววันนี้ตั้งใจจะไปล่องเรือในทะเลสาบ Brienz ที่ Interlakern Ost ก่อน แล้วค่อยต่อรถไฟไปลูเซิร์น แต่พอตื่นมาอากาศไม่ค่อยดีเลย ท้องฟ้าปิดเหมือนฝนจะตก หมอกลงหนามาก เลยตัดสินใจนั่งรถไฟตรงไปที่ลูเซิร์นเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.
พอถึงที่สถานี Bahnhof Luzern หรือสถานีรถไฟกลางลูเซิร์น ก็เดินไปที่โรงแรมเพื่อฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อปปี้ก่อนเพื่อไปตะลอนเดินเล่นรอบเมือง เพราะยังเช็คอินไม่ได้ สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองลูเซิร์นนี้อยู่ไม่ไกลกันมาก สามารถเดินถึงกันได้หมดเลย เดินชิวๆ แบบไม่เหนื่อยนะครับ
เริ่มต้นจากเดินออกจากสถานีรถไฟจะเจอ Chapel Bridge (Kapellbrucke) and Water Tower หรือสะพานชาเปล สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่มีอายุกว่า 670 ปี สะพานถูกสร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1333 และมีการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1993 หลังจากถูกไฟไหม้ โดยบนสะพานจะมีรูปที่ถูกวาดในยุคศตวรรษที่ 17 ถึง 120 รูป
พอเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นแหล่งช็อปปิ้งของลูเซิร์น มีทั้งร้านขายของสด จนไปถึงร้านรวงที่มีสินค้ามูลค่านับแสน ซึ่งจะอยู่ตามตรอกซอกซอย ยิ่งเดินยิ่งเสียตังครับ โดยเฉพาะนาฬิการาคาถูกมาก
หลังจากเดินทะลุแหล่งพลาดเงินฟรังค์ในกระเป๋าไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอกับอนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเป็นของขวัญที่รัฐบาลฝรั่งเศสสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติ และรำลึกถึงทหารรับจ้างชาวสวิสที่เสียชีวิตในหน้าที่เพื่อปกป้องพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อังตัวแนตต์ จากการโจมตีที่พระราชวังตุยเลอรี ในกรุงปารีส อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่และมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี
หากใครต้องการซื้อของฝาก ผมแนะนำให้เดินออกจากประตูอนุสาวรีย์สิงโต หันไปทางขวาจะเจอร้านขายของฝาก ที่มีป้ายตั้งตระหง่านว่า "ร้านคนไทย" มีเจ้าของร้านชื่อป้าอารีย์ เป็นชาวใต้ ผมไม่มีส่วนได้เสียกับร้านนะครับ บอกไว้ก่อน แต่บังเอิญเดินเข้าไปแล้วคุณป้าตุ๊กตาชวนคุยประมาณ 20 นาที จนป้าอารีย์วีนป้าตุ๊กตาว่าให้ขายของ 555 ที่ร้านป้าอารีย์ราคาของค่อนข้างจะถูกครับ แถมป้าให้ส่วนลด 10% ทุกชิ้นด้วย ถูกกว่าไปเสียเวลาทำ Tax Refund ที่สนามบินครับ
เดินไปเดินมาทำไมเวลาผ่านไปเร็วจัง พระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ว ท้องก็เริ่มหิวเลยแวะจัดอาหารอิตาเลี่ยนริมสะพานชาเปล ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรกับอาหารมื้อนี้เลยครับ แต่พอหยิบใส่ปากเท่านั้นแหละ ต้อง Recommended เลยว่าใครมาต้องลอง ชื่อร้าน Da Ernesto ครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น