สวัสดีคะ
เมื่อช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมาเราไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้กับเพื่อนๆๆ จำนวน 10 คนโดยไปกันเอง ไม่ได้ผ่านทัวร์แต่อย่างใด โดยมีรุ่นพี่คนหนึ่งไปบ่อยๆๆ เค้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้ ก่อนไปเราก้อเตรียมแผนการเดินทางเคร่าๆๆ ว่าไปไหนบ้าง และเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ โดยมีหลักๆๆคือ ตั๋ว เครื่องบิน ไป-กลับ โรงแรมที่พักที่จองไว้ และแผนการเดินทางว่าเราจะไปเที่ยวไหนบ้าง โดยทุกอย่างเราต้องปิ้นเป็นภาษาอังกฤษ และวันออกเดินทางเราขึ้นเครื่องจาก ดอนเมือง โดยไปกับสายการบิน Airasia X ขึ้นเครื่อง 4 โมงเย็น ถึงไปสนามบินอินชอน ตอน5 ทุ่ม โดยเวลาเค้าจะเร็วกว่า เรา 2 ชม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม. ในระหว่าอยู่บนเครื่อง แอร์ฯ จะนำใบผ่านทางมาแจกให้ทั้ง 2 ใบเลยคือ Arrival Card และ Customs Declaration ควรกรอกให้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่บนเครื่อง จะได้ไม่เสียเวลา และหากกรอกผิด ก็ขอใบใหม่จากคุณแอร์ฯ ได้ค่ะ จะได้ไม่มีรอยขีดฆ่า ให้ดูน่าสงสัยอีก) - คงไม่มีใครพกลิขวิดไปหรอกเนอะ >.<
นี้จะเป็นใบผ่านทางที่เราต้องกรอกน่ะคะ
ใบ Arrival Card
การกรอก ใบ Arrival Card
ใบ Customs Declaration
การกรอกใบ Customs Declaration
หลักจากลงจากเครื่องก้อเดินตามๆๆกันไปยังจุดผ่านตม. ตอนนี้แหละ จุดนี้ระทึกสุดค่ะ จุดตรวจคนเข้าเมืองเค้าจะเป็นช่องๆๆๆ เราก้อเดินเข้าไปต่อแถวแล้วพอถึงคิวเรา เราก้อยื่น Arrival Card (ใบผ่านเข้าเมืองที่ได้รับจากแอร์ฯบนเครื่องบิน) และพาสสปอต ให้กับเจ้าหน้าที่ แล้วเราก้อยิ้มและสบตา โดยไม่หลบสายตา ไม่หลุกหลิกเด็จขาด คือมองหน้าเจ้าหน้าที่แบบยิ้มๆๆไปเลย อย่าทำตัวมีพิรุธเด็จขาดน่ะคะ ส่วนใบ Customs Declaration เก็บไว้ก่อน
เมื่อเจ้าหน้าเช็คพาสสปอต และเอกสารแล้วนั้น จะหันมาบอกให้เราวางนิ้วมือลงบนเครื่องเพื่อสแกนลายนิ้วมือค่ะ (นิ้วชี้ทั้งสองข้าง)
และ.จากนั้น เจ้าหน้าที่ตม.จะให้เรามองมายังกล้องเพื่อทำการถ่ายภาพใบหน้าของเรา
และในระหว่างนี้เราอาจจะโดนถามคำเล็กๆ น้อยๆ จากเจ้าหน้าที่ (บางคนก็ไม่โดนถามอะไรเลย) เค้าจะถามเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงเกาหลีมา ถ้าเราไม่เข้าใจก็สามารถขอ again please เค้าได้คะ แต่ส่วนใหญ่คำถามก็จะเป็นคำถามพื้นๆ อาทิเช่น ยูมากี่วัน? มากับใคร? จะไปที่ไหนบ้าง? กลับเมื่อไหร่? ทำอาชีพอะไร? ซึ่งถ้าเค้าขอดูเอกสาร เราก็ค่อยเปิดเอกสารที่เราเตรียมมาให้เค้าดู ก็เท่านั้นเองค่ะ แต่ในส่วนของเรา ไม่โดนถามอะไรเลย
ถ่ายรุปเส็จเจ้าหน้าที่ก็จะประทับตราให้เราผ่านเข้าประเทศไปอย่างง่ายดายค่ะ แค่นี้ก้อ Welcome to South Korea แล้วค่ะ
ตอนเดินออกมาจากจุดตม. เราดีใจสุดๆ ออกมาพบรุ่นพี่ที่เป็นหมอผ่านมาแค่คนเดียว ส่วนคนอื่นๆๆ ก้อโดนถามคำถาม บางคนก้อผ่าน บางคนก้อโดนเรียกเข้าห้องเย็น บางคนแค่ยื่นพาสปอตส์ ให้เจ้าหน้า เจ้าหน้าที่ยังไม่ถามคำถามสักคำ ก้อให้มีคนมาพาเข้าห้องเห็นเลย ไปกัน 10 คน ผ่าน5 คน โดนเข้าห้องเย็น 5 คน
แล้วรุ่นพี่ที่เป็นหมอก้อพยามติดต่อเจ้าหน้าที่คนโน้นคนนี้ เผื่อไปช่วยออกมา สรุปเจอเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเค้าใจดีมาก เค้าพารุ่นพี่เข้าไป ช่วยอธิบายและตอบคำถามให้ทุกอย่างจนทุกคนออกมาได้ แต่ใช้เวลาไปนานพอสมควรประมาณ 1 ชม.เศษๆๆ
จากประสบการณ์ของเพื่อนที่เข้าไปในห้องเย็นน่ะคะ เราก้อสรุปได้คร่าวๆๆว่า สิ่งที่เราต้องเตรียมไปและเพิ่มเติมคือ
1.พาสปอต สำหรับใครที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนนามสกุล ก็อย่าลืมนำเอกสารในการเปลี่ยนชื่อ (เป็นภาษาอังกฤษ) ติดตัวไปเพื่อแสดงหลักฐานยืนยันตัวตนด้วยนะคะ และหากเป็นพาสปอร์ตใหม่ ควรนำพาสปอร์ตเก่าเย็บเล่มคู่กับพาสปอร์ตใหม่ติดตัวไปด้วย
2. ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่ระบุวันที่ชัดเจน (ปริ้นใส่กระดาษ A4 ไว้)
3.ใบจองโรงแรมที่พัก ระบุวันที่เข้าพักอย่างชัดเจน (ปริ้นใส่กระดาษ A4 ไว้)
4.โปรแกรมทัวร์ ว่าเราจะไปไหนบ้าง (ปริ้นใส่กระดาษ A4 ไว้)
5.หลักฐานการทำงานประจำ เช่น บัตรข้าราชการ, บัตรพนักงาน, นามบัตร, จดหมายรับรองการทำงาน จากหน่วยงานหรือองค์กรเป็นภาษาอังกฤษ หรือในกรณีเป็นนักเรียน/นักศึกษา ต้องเตรียมบัตรนักเรียน/นักศึกษา และใบรับรองจากสถาบันเป็นภาษาอังกฤษไปด้วย (ปริ้นใส่กระดาษ A4 ไว้)
6.ในส่วนของสถานที่ทำงาน เราก็อควรรู้เว็บไซร์ของที่ทำงานไว้บ้างและควรมีรุปตอนเราใส่แบบฟอมส์ของบริษัทไว้ด้วย เพราะในส่วนของเคตเพื่อนเรา เจ้าหน้าที่ของดูเวปไซ์ และเพจของที่ทำงาน ว่ามีจริงไหม เป็น บริษัท เกี่ยวกับอะไร แล้วก้อขอดูภาพเพื่อนเราตอนใส่ยูนิฟอมส์ทำงานด้วย
และที่สำคัญอีกอย่างคือการแต่งกาย ควรแต่งกายให้ดูเป็นนักท่องเที่ยว คุณผู้หญิงก็ไม่ควรเปรี้ยวจี๊ด แต่งหน้าจัด หรือนุ่งน้อยห่มน้อยจนเกินงาม มิฉะนั้นอาจได้ไปคุยต่อในห้องเย็นได้ ส่วนคุณผู้ชาย ก็แต่งตัวตามปกติ พยายามแต่งให้ดูเป็นนักท่องเที่ยวมากที่สุด เช่นเอากล้องห้อยคอ ใส่เสื้อกันหนาวตามปกติ สวมรองเท้าผ้าใบ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดีน่ะ
#หวังว่าประสบการณ์ที่มาแชร์ในครั้งนี้จะช่วยเป็นข้อมูลพื้นๆๆให้ทุกคนได้น่ะคะ ขอบคุณค่ะ
ประสบการณ์ ผ่าน ตม. เกาหลี และเอกสารที่ต้องเตรียมไป
เมื่อช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมาเราไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้กับเพื่อนๆๆ จำนวน 10 คนโดยไปกันเอง ไม่ได้ผ่านทัวร์แต่อย่างใด โดยมีรุ่นพี่คนหนึ่งไปบ่อยๆๆ เค้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้ ก่อนไปเราก้อเตรียมแผนการเดินทางเคร่าๆๆ ว่าไปไหนบ้าง และเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ โดยมีหลักๆๆคือ ตั๋ว เครื่องบิน ไป-กลับ โรงแรมที่พักที่จองไว้ และแผนการเดินทางว่าเราจะไปเที่ยวไหนบ้าง โดยทุกอย่างเราต้องปิ้นเป็นภาษาอังกฤษ และวันออกเดินทางเราขึ้นเครื่องจาก ดอนเมือง โดยไปกับสายการบิน Airasia X ขึ้นเครื่อง 4 โมงเย็น ถึงไปสนามบินอินชอน ตอน5 ทุ่ม โดยเวลาเค้าจะเร็วกว่า เรา 2 ชม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม. ในระหว่าอยู่บนเครื่อง แอร์ฯ จะนำใบผ่านทางมาแจกให้ทั้ง 2 ใบเลยคือ Arrival Card และ Customs Declaration ควรกรอกให้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่บนเครื่อง จะได้ไม่เสียเวลา และหากกรอกผิด ก็ขอใบใหม่จากคุณแอร์ฯ ได้ค่ะ จะได้ไม่มีรอยขีดฆ่า ให้ดูน่าสงสัยอีก) - คงไม่มีใครพกลิขวิดไปหรอกเนอะ >.<
นี้จะเป็นใบผ่านทางที่เราต้องกรอกน่ะคะ
ใบ Arrival Card
การกรอก ใบ Arrival Card
ใบ Customs Declaration
การกรอกใบ Customs Declaration
หลักจากลงจากเครื่องก้อเดินตามๆๆกันไปยังจุดผ่านตม. ตอนนี้แหละ จุดนี้ระทึกสุดค่ะ จุดตรวจคนเข้าเมืองเค้าจะเป็นช่องๆๆๆ เราก้อเดินเข้าไปต่อแถวแล้วพอถึงคิวเรา เราก้อยื่น Arrival Card (ใบผ่านเข้าเมืองที่ได้รับจากแอร์ฯบนเครื่องบิน) และพาสสปอต ให้กับเจ้าหน้าที่ แล้วเราก้อยิ้มและสบตา โดยไม่หลบสายตา ไม่หลุกหลิกเด็จขาด คือมองหน้าเจ้าหน้าที่แบบยิ้มๆๆไปเลย อย่าทำตัวมีพิรุธเด็จขาดน่ะคะ ส่วนใบ Customs Declaration เก็บไว้ก่อน
เมื่อเจ้าหน้าเช็คพาสสปอต และเอกสารแล้วนั้น จะหันมาบอกให้เราวางนิ้วมือลงบนเครื่องเพื่อสแกนลายนิ้วมือค่ะ (นิ้วชี้ทั้งสองข้าง)
และ.จากนั้น เจ้าหน้าที่ตม.จะให้เรามองมายังกล้องเพื่อทำการถ่ายภาพใบหน้าของเรา
และในระหว่างนี้เราอาจจะโดนถามคำเล็กๆ น้อยๆ จากเจ้าหน้าที่ (บางคนก็ไม่โดนถามอะไรเลย) เค้าจะถามเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงเกาหลีมา ถ้าเราไม่เข้าใจก็สามารถขอ again please เค้าได้คะ แต่ส่วนใหญ่คำถามก็จะเป็นคำถามพื้นๆ อาทิเช่น ยูมากี่วัน? มากับใคร? จะไปที่ไหนบ้าง? กลับเมื่อไหร่? ทำอาชีพอะไร? ซึ่งถ้าเค้าขอดูเอกสาร เราก็ค่อยเปิดเอกสารที่เราเตรียมมาให้เค้าดู ก็เท่านั้นเองค่ะ แต่ในส่วนของเรา ไม่โดนถามอะไรเลย
ถ่ายรุปเส็จเจ้าหน้าที่ก็จะประทับตราให้เราผ่านเข้าประเทศไปอย่างง่ายดายค่ะ แค่นี้ก้อ Welcome to South Korea แล้วค่ะ
ตอนเดินออกมาจากจุดตม. เราดีใจสุดๆ ออกมาพบรุ่นพี่ที่เป็นหมอผ่านมาแค่คนเดียว ส่วนคนอื่นๆๆ ก้อโดนถามคำถาม บางคนก้อผ่าน บางคนก้อโดนเรียกเข้าห้องเย็น บางคนแค่ยื่นพาสปอตส์ ให้เจ้าหน้า เจ้าหน้าที่ยังไม่ถามคำถามสักคำ ก้อให้มีคนมาพาเข้าห้องเห็นเลย ไปกัน 10 คน ผ่าน5 คน โดนเข้าห้องเย็น 5 คน
แล้วรุ่นพี่ที่เป็นหมอก้อพยามติดต่อเจ้าหน้าที่คนโน้นคนนี้ เผื่อไปช่วยออกมา สรุปเจอเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเค้าใจดีมาก เค้าพารุ่นพี่เข้าไป ช่วยอธิบายและตอบคำถามให้ทุกอย่างจนทุกคนออกมาได้ แต่ใช้เวลาไปนานพอสมควรประมาณ 1 ชม.เศษๆๆ
จากประสบการณ์ของเพื่อนที่เข้าไปในห้องเย็นน่ะคะ เราก้อสรุปได้คร่าวๆๆว่า สิ่งที่เราต้องเตรียมไปและเพิ่มเติมคือ
1.พาสปอต สำหรับใครที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนนามสกุล ก็อย่าลืมนำเอกสารในการเปลี่ยนชื่อ (เป็นภาษาอังกฤษ) ติดตัวไปเพื่อแสดงหลักฐานยืนยันตัวตนด้วยนะคะ และหากเป็นพาสปอร์ตใหม่ ควรนำพาสปอร์ตเก่าเย็บเล่มคู่กับพาสปอร์ตใหม่ติดตัวไปด้วย
2. ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่ระบุวันที่ชัดเจน (ปริ้นใส่กระดาษ A4 ไว้)
3.ใบจองโรงแรมที่พัก ระบุวันที่เข้าพักอย่างชัดเจน (ปริ้นใส่กระดาษ A4 ไว้)
4.โปรแกรมทัวร์ ว่าเราจะไปไหนบ้าง (ปริ้นใส่กระดาษ A4 ไว้)
5.หลักฐานการทำงานประจำ เช่น บัตรข้าราชการ, บัตรพนักงาน, นามบัตร, จดหมายรับรองการทำงาน จากหน่วยงานหรือองค์กรเป็นภาษาอังกฤษ หรือในกรณีเป็นนักเรียน/นักศึกษา ต้องเตรียมบัตรนักเรียน/นักศึกษา และใบรับรองจากสถาบันเป็นภาษาอังกฤษไปด้วย (ปริ้นใส่กระดาษ A4 ไว้)
6.ในส่วนของสถานที่ทำงาน เราก็อควรรู้เว็บไซร์ของที่ทำงานไว้บ้างและควรมีรุปตอนเราใส่แบบฟอมส์ของบริษัทไว้ด้วย เพราะในส่วนของเคตเพื่อนเรา เจ้าหน้าที่ของดูเวปไซ์ และเพจของที่ทำงาน ว่ามีจริงไหม เป็น บริษัท เกี่ยวกับอะไร แล้วก้อขอดูภาพเพื่อนเราตอนใส่ยูนิฟอมส์ทำงานด้วย
และที่สำคัญอีกอย่างคือการแต่งกาย ควรแต่งกายให้ดูเป็นนักท่องเที่ยว คุณผู้หญิงก็ไม่ควรเปรี้ยวจี๊ด แต่งหน้าจัด หรือนุ่งน้อยห่มน้อยจนเกินงาม มิฉะนั้นอาจได้ไปคุยต่อในห้องเย็นได้ ส่วนคุณผู้ชาย ก็แต่งตัวตามปกติ พยายามแต่งให้ดูเป็นนักท่องเที่ยวมากที่สุด เช่นเอากล้องห้อยคอ ใส่เสื้อกันหนาวตามปกติ สวมรองเท้าผ้าใบ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดีน่ะ
#หวังว่าประสบการณ์ที่มาแชร์ในครั้งนี้จะช่วยเป็นข้อมูลพื้นๆๆให้ทุกคนได้น่ะคะ ขอบคุณค่ะ