รีวิวสั้นๆ ทริปนี้  จริงๆ อยากเน้น เรื่องการ เช่ารถขับเที่ยว และข้อปฏิบัติง่ายๆ เพื่อแชร์ให้เพื่อนที่ จะเข้าไปขับรถเที่ยวในมาเลย์ เป็นอีก มุมนึง

กับ ที่อยากจะแนะนำคือรร. ที่ KL กับ ร้านอาหารที่ได้แวะลอง เอาไว้เผื่อเป็นแนวทาง

ส่วนภาพถ่าย ส่วนใหญ่ เราคงเห็นรูปสวยๆ ทีเพื่อนๆรีวิวกันมาเยอะแล้ว ผม ใช้ Iphone ถ่าย ดูกันพอเป็นแนวทาง นะครับ

ส่วนอัตราแลกเปลี่ยน แต่ก่อนไปมาเลย์ มักใช้ 10 บาทเป็นหลัก

แต่ช่วงนี้เงินมาเลย์ตก ลง แลกไปประมาณ 7.8 บาทต่อ 1 RM ทำให้ของกินของใช้ถูกไปเยอะ
=====
จากสองปีก่อน เคยขับรถ จากไทย ตะลุยเข้าไปปีนัง และเลาะเที่ยว เมืองทางเหนือ ของ มาเลย์ไปจนจบ ที่ Cameron Highland

และเคยเข้าไปเที่ยว KL มา 2 ครั้ง แต่ยังไม่เคยลงใต้ เกิน KL ลงไป

เลยอยากขับรถเที่ยว แต่ถ้าขับจากไทยไป จะเสียเวลาหลายวัน เลยตัดสินใจ บินไปลง KL แล้ว เช่ารถขับเที่ยวแทน

รถเช่าผมจอง จากเว็บรถเช่าในไทย  โดยเลือกบริษัทมาตรฐานหน่อยคือ Avis

ราคาค่าเช่าสำหรับสองวันที่เช็คๆดูมีตั้งแต่ 3000 กว่าเกือบ 4000 สำหรับ รถขนาดเล็ก อย่างโปรตอนตัวเล็กๆ

แต่รอบนี้ ผมเองเลือก Civic เพราะคิดว่า ขับไฮเวย์ จะได้เร่งแซง สะดวกปลอดภัยหน่อยค่าเช่า อยู่ประมาณ 6000 บาท สำหรับสองวัน และซื้อประกันประเภท1 คุ้มครองเพิ่มอีกวันล่ะ 1000 บาท รวมเป็น ประมาณ 8000 บาท อันนี้จองจากไทยไปเลย ชำระกับบัตรเครดิต

ในอ๊อปชั่นที่ให้เลือก เค้าให้เลือก ว่า จะซื้อGPS นำทางติดรถวันล่ะ 10 RM หรือไม่ ถ้าซื้อก็ติ๊กไปแต่ไปจ่ายที่นั่นผมเองไม่ซื้อ เลือกใช้ google แม็ปแทน

รวมทั้งจะซื้ออ๊อปชั่นเพิ่ม ประกันที่คุ้มครองคนขับคนที่สองหรือไม่ คิดอีกวันล่ะ 10 RM จ่ายที่นั่นเหมือนกัน อันนี้ ผมไม่ได้ติ๊กไป แต่ตอนไปที่นั่นแจ้งกับ พนักงานบริษัทรถ เค้าเอาใบขับขี่ไปทั้งสองคน จดไป แต่ไม่ได้คิดเงิน เพิ่มแฮะ

ผมเลือกรับ และ ส่งรถคืนที่ KLIA2  Terminal ที่ใช้เดินทางเลย จะได้สะดวกดี เวลาทำการของเค้า ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่มผมเอง จองรับ 20:00 ส่งคืน 19:00 ตามไฟลท์ ไม่มีปัญหาถ้าเป็นไฟลท์นอกเวลาทำการต้องลองเช็คดูอีกที

การรับรถ หลังจากที่ ผ่านตม. และ รับกระเป๋าแล้ว ก็เดินมาตามทางออก เดิน ลงมา ตามป้าย Taxi Bus Transport และ Car Rental ลงมาชั้นล่าง  เค้าต์เตอร์รถเช่า ทั้งหมด จะ รวมกัน อยู่ที่ชั้นล่างนี้ ไปแล้ว ก็ติดต่อ กับเจ้าหน้าที่เค้าเลย

สิ่งที่ต้องเตรียมไปอีกอย่างก็คือ ใบขับขี่ ตอนแรกเค้าถาม หาใบขับขี่สากล แต่ผมไปมาเลย์หลายรอบใช้ใบขับขี่ไทยรุ่นใหม่ ที่ว่ากันว่าใช้ได้ทั่ว Asean ก็ใช้อันนั้น บอกเค้าว่า ใช้ได้ทั้ง Asean เค้าก็โอเคนะ

หลังกรอกเอกสารต่างๆ เค้าให้วางมัดจำ โดยรูดเครดิตการ์ด ไว้ 1000 RM ซึ่ง พอคืนรถถ้ามีความเสียหายเค้าจะหักจากยอดนี้ ถ้าไม่มีเสียหายก็ยังไม่คืน แต่ว่า จะ รออีก 1-2 สัปดาห์เราไม่มีใบสั่งพวกจับความเร็ว หรือ อื่นๆมาหักเค้า เค้าก็จะคืนเข้าบัญชีเราให้  ตอนปล่อยรถ เค้าก็พาเราไปที่ ลานจอดรถ KLI2 Parking ซึ่งเค้ามี โซน จอดของเค้า พอตรวจรับรถเรียบร้อยเค้า จะให้เราเซ็นต์รับ รถพร้อมน้ำมันเต็มถัง เวลาเอามาคืน ก็เติมให้เค้าเต็มถังเช่นกัน


รูปบน คือ ที่จอดรถ ของ Avis ใน ลานจอดรถ KLIA2  Parking

ส่วน Accord คันนี้คือ รถ ประจำทริป ที่เค้าจัดมาแทน Civic ซึ่ง ณตอนรับรถหมด ซึ่งเป็นธรรมดาที่เค้าจะจัดรถใกล้เคียงแต่ราคาแพงกว่า ทดแทนให้ เรา

ตอนเอารถกลับมาคืน ก็ ตั้ง Google นำทางกลับมา KLIA2 Car Parking ได้เลย หรือ คอยดูป้าย Car Rental ตามป้ายบอกทางในสนามบิน ตอนกลับมาก็ได้ มีป้ายบอก ตลอด เหมือนกัน

อ้อ ส่วนการเติมน้ำมัน ให้เต็มถังก่อนกลับ ผมเอง แอบเป็นห่วง ว่ากลับจากมะละกา บนทางด่วนจะมีปั๊มป์สุดท้ายตรงไหนลืมถามเค้าไป เลยเติมตั้งแต่ปั๊มปก่อนถึง  สนามบินราวๆ 40 โล  เลย (แต่มาถึงเข็มน้ำมันก็ยังเต็ม) แต่ว่า ถ้าเอาสบายๆ มาเติม ที่ ปิโตรนาสตรงทางเข้าสนามบินก่อนถึง ตัว แอร์พอร์ตแค่ไม่เกิน 5 กม.ก็ ได้ จบในเรื่องของการเช่ารถคืนรถ (สงสัยถามเพิ่มได้ครับ)

การขับรถ ในมาเลย์แน่นอน เราต้องใช้ทางด่วน และทางด่วนเค้า ใช้บัตรผ่าน และ Smart Tack ทั้งนั้น

ถ้าเราไม่มีเข้าไป  เจอด่าน จะเห็นป้าย

เลือกเข้าช่อง ที่มีตู้เจ้าหน้าที่ด้วย เข้าไปแล้ว ขอซื้อบัตร PassMile กับเค้าเลย ค่าบัตร 10 RM แต่ต้องเติมเงินด้วย ก็ให้เค้าเติมมาเลย ราวๆ 50 RM
คราวนี้ เวลาถึงด่านก็เข้าช่องที่เห็น Touch 'N Go ได้ทุกช่อง แตะบัตรผ่านเข้า แล้ว พอจะออกแตะออก มันจะแจ้งค่าผ่านทาง และเงินที่เหลือในบัตรให้ ค่าผ่านทางทั่วไป ถูกกว่า บ้านเรานิดหน่อย ด่านล่ะ 3-5-7 RM ยกเว้นวิ่งยาวๆจาก มะละกา กลับมา KLIA2 ดูเหมือนจะราวๆ 13-15RM  เงินหมดเงินไม่พอ เติมที่ด่านได้ หรือ เติมตามร้าน 7 ได้ด้วย

บัตรนี้ นอกจาก ใช้ผ่านด่านแล้ว ยังสะดวกเวลา ใช้จอดรถตามห้างต่างๆหรือที่จอดรถที่จอดแล้วเก็บเงินด้วย และมี ป้าย Touch 'n Go  โดยแตะบัตรผ่านเข้า และออก ได้เลยมันจะตัดเงินในบัตร ตามเวลาที่เราจอด

ส่วนถ้าคนไม่มีบัตร ตอนเข้าลานจอด ก็ต้องกดบัตร จอดมา แล้ว ก่อนจะออกตามประตูลิฟต์ต่างๆ หรือ ทางออกจะมีตู้จ่ายเงินค่าจอดอัตโนมัติ ก็ใส่บัตรเข้าไปแล้ว ใส่ตังค์เข้าไป (มีการทอนได้) แล้ว ก็ รับบัตร ที่จ่ายตังค์แล้ว กลับมา ตอนขับออกก็เอาบัตรที่จ่ายเงินแล้วไปแตะออก (ดูเหมือนจะมีเวลาให้ 15-30 นาทีหลังจากจ่ายเงินแล้วต้องออก)

หน้าตาบัตรจอดรถ ประมาณนี้

แต่ใช้ บัตร  PassMile หรือ Touch 'n Go สะดวกกว่าเยอะ

อ้อไปต่างประเทศ โดยเฉพาะขับรถเที่ยวเอง ที่ขาดไม่ได้ คือสัญญาน อินเตอร์เน็ต ถ้าไปคนเดียว จากไทย แนะนำ ซื้อ Sim2 Fly 399 ใช้ เน็ตได้ 8 วัน

แต่ถ้าไปหลายคน ซื้อ Sim 2 Fly อันนึง แล้วไปซื้อ Local Sim ของเค้าอีกอันนึง ผมไปสามคน ซื้อ sim2 Fly จากไทยอันนึง แล้ว ก็ Digi ของมาเลย์อีกสองอัน (จริงๆ ซื้อคนล่ะค่ายก็ดี เผื่อสัญญานมันขาดหาย จะได้ทดแทนกันได้ ) เวลาหาทาง อิๆ ค่าซิมที่นั่น มีหลายราคาไม่แพง ของผม ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือน 15 RM ใช้โทรได้ราวๆ 30 นาที และ ใช้ Net 4G ได้  2 หรือ 4 GB แต่เค้าเปิดเครื่องและ อัพโปรให้ มันจะมีเน็ตเพิ่มให้เค้าจัดการให้เสร็จ ก็ง่ายดี มันใช้ได้ ราวๆ 5 วัน ถ้าอยู่นานกว่านั้นมีตัวเลือกอื่น ผมอยู่แค่ 2-3 วันเลยเอาสั้นสุด ซิมในแอร์พอร์ต เดินออกมามีขายหลายเจ้าครับ

ส่วน Sim 2 Fly ของ Ais ไทย ในแอร์พอร์ตเราก็มี

========================
เครื่องลง 2 ทุ่มกว่าๆ เสร็จพร้อม ออกจากแอร์พอร์ต  ราวๆ สามทุ่มนิดๆ ใช้ Google นำทาง ไป KLCC ไปถ่ายรูป Petronas TwinTower สวยๆ กันก่อนเข้ารร.
จอดรถในลานจอด ของ ห้าง KLCC นี่แหละเปิดทั้งคืน แต่ถ้าห้างปิดก็ต้องลงลิฟต์นอกห้างแทน
เดินผ่านโถง หน้า บริษัท Petranas ข้างๆตึก ชอบเพดาน ทำเป็นหอยนอติลุส สวยดี

ตอนขับรถกลับรร. จอดถ่ายรูป KL Tower จากมุมไกล รอบนี้ ก็ยังคงไม่ได้ขึ้นไปข้างบนอยู่ดี
รร.ที่ KL รอบนี้ จอง Oakwood Hotel and Resdence KL อยู่ห่างจาก KLCC ออกไปราวๆ 2 กม. เรียกว่าค่อนข้างอยู่กลางเมือง
ทางเข้ารร.เห็นชัดเพราะว่าทำป้ายขวางถนนกันเลยทีเดียว 55555

รร.นี้ต้องบอกว่าประทับใจ เกินคาด ยิ่งเมื่อเทียบกับราคา รร. ใน KL ที่ปกติก็เรียกว่า ถูกแล้ว แต่ที่นี่ เรียกว่าถูกและดี ผมจองผ่าน Agoda ห้อง Suit ราคาประมาณ 1600 พร้อมอาหารเช้า เสริมเตียงเสริม พร้อมอาหารเช้า แค่2100 บาท

แต่ห้องพัก ดีมากที่นอน และเครื่องนอน สบายมากๆ แม้แต่ ที่นอนของเตียงเสริมก็สบาย

อาหารเช้าที่รวมอยู่ใน ราคาห้อง สามคน 2100 ก็ถือว่าดีเกินราคา

สระน้ำของรร.ก็กว้าง สวย น่าเล่น แต่ไม่มีเวลาเล่น

สรุปรร.นี้ คุ้มเกินราคาแนะนำ อิๆ

ออกจาก KL สายๆ พอมีเวลา เลยขับรถขึ้นเหนือ ราวๆ ไม่ถึง 20 โลไปเท่ียวถ้าำ Batu Cave ใช้บริการ อากู๋ Google นำทางเช่นเคย ก่อนถึงเขา และถ้ำ ถนนแคบรถค่อนข้างติดหน่อย ลานจอดกว้างดี แต่คนเยอะมากๆๆ แต่หาที่จอดได้ไม่ยาก ตอนไปถึง 10 โมงเช้าแดดแรงมากโชคดี ที่บันไดทางขึ้นอยู่ด้านทิศตะวันตก ช่วงเช้า เลยยังมีเขาช่วยบังแดด

Batu Cave เป็น ทั้งศาสนสถาน ของฮินดู และสถานที่ท่องเที่ยว และ อนุรักษณ์ ทางธรรมชาติ จุดเด่นของที่นี่ทึ่ทุกคนคุ้นตา คือรูปปั้น ของ Lord Murugan หรือ ขันธกุมาร สีทองยืนเด่น หน้าถ้ำ
เดิน จากลานจอดรถขึ้นบันไดไปสองร้อยกว่าขั้น  ระหว่างทาง มีลิง มาเดิน คอยรับอาหารจากนักท่องเทียว แต่เค้าติดป้ายห้ามให้อาหารลิงนะ แต่คนก็ให้กันเยอะอยู่ดี

จะเป็นถ้ำกว้าง ด้านบน  จัดเป็นเทวสถานของ ชาวฮินดู มีรูปปั้ืน เทพเจ้าต่างๆ ทั่วไป  
นอกจากนี้ ที่ Batu Cave ยังมี Dark Cave ถ้ามืดที่เปิดให้นักท่องเที่ยว เข้าชมสิ่งมีชีวิติ ที่อาศัยในถ้ำด้วย โดยเปิดให้เข้าชมเป็นรอบๆพร้อมคนนำทาง

ออกจาก Batu Cave เห็นยังมีเวลา เลยย้อนกลับเข้าเมือง มาเดินห้างแถวๆ Bukit Bintang เพื่อตามล่า Milo Cube แต่เดินหา หลายห้างตลอดทริปทั้งที่ KL และ มะละกา ไม่เจอ เลย อิๆ

ออกจาก KL แวะ ไปเมืองราชการใหม่ Putrajaya ซะหน่อยก่อนไป มะละกา แดดแรงมากๆๆๆๆๆๆ จนแทบยอมแพ้ เลยแค่ แวะเข้าไปมัสยิดสีชมภุ ถ่ายรูปนิดหน่อย แล้ว ขับรถวนรอบๆเมืองก่อน ออกมา แต่ถ้าคนชอบถ่ายรูป เมืองนี้ มัสยิด สะพาน และ ตึกที่ทำการรัฐสวยๆ มากๆ ได้แสงดีๆ กล้องดีๆ มันคืสวรรค์ของตากล้อง อิๆ