"เสียงสะอื้นของ.. สายลม"

เสียงฟูฟา..เฟี้ยวฟ้าว.. ใบไม้ลอยระริ้ว โบกพัดปลิวยอดหญ้าใหญ่น้อยจนสั่นไหว
หากหลับตาฟังเพียงเสียงที่ผ่านไป.. แล้วลืมตามองด้วยใจจะเห็นเป็น "สายลม"
แว้......! เสียงทารกน้อยแรกเกิดเพศชายดังขึ้นกลางกระท่อมในป่าแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่
ไม่ไกลจากชุมชนใหญ่มากนัก ทารกน้อยเกิดมาด้วยความผิดปกติทางร่างกาย
ผู้เป็นพ่อและแม่จึงรู้สึกเครียดและวิตกกังวลมากกว่าจะรู้สึกดีใจที่ได้เห็นหน้าทารกน้อย
สองสามีภรรยาจึงอุ้มทารกน้อยเดินทางไปหาผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ
ทารกน้อยที่เกิดมาด้วยความผิดปกติของร่างกาย ผู้ใหญ่บ้านจึงถามกลับกับสอง
สามีภรรยาว่า "แล้วพวกเอ็งคิดอย่างไร?" ฝ่ายผู้เป็นพ่อของทารกน้อยตอบทันทีว่า
"เห็นควรให้ทารกน้อยได้เกิดใหม่ และมีชีวิตที่ดีกว่า" ฝ่ายผู้เป็นแม่ทักท้วงไปในทันใด
"ไม่ได้.. ฉันจะหาทางรักษาลูกของฉันให้หายดี" สองสามีภรรยาถกเถียงกันต่อหน้า
ผู้ใหญ่บ้านได้สักพัก ผู้ใหญ่บ้านจึงให้บทสรุปความต้องการของสองสามีภรรยา
ว่า "เก็บเขาไว้เถอะ..งานวัดบ้านเราก็มีจัดทุกปี เผื่อเขาจะช่วยอะไรพวกเอ็งได้บ้าง"
เมื่อสองสามีภรรยาได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่บ้านเสร็จเรียบร้อย จึงพากันเดินทาง
กลับกระท่อมซึ่งเป็นที่พักของตน..
วันเวลาผ่านไป.. ทารกน้อยได้เติบโตเป็นเด็กน้อยที่พร้อมจะเข้ารับการเรียนรู้
ในระดับชั้นอนุบาล ซึ่งวันแรกของการเข้าโรงเรียนอนุบาล เด็กน้อยก็ทำให้
เด็กในระดับชั้นเดียวกันร้องไห้กันเป็นแถวเลยทีเดียว "ผี ผี.." บางคนเรียกว่า "ผี"
"สัปหลาด" บางคนเรียก "สัปหลาด" เด็กน้อยรู้สึกเสียใจ..และร้องไห้น้อยใจ
ที่ใครๆต่างก็พากันเรียกเขาแบบนั้น
"สายลม.. ห่อข้าวมาด้วยไหม มาทานกับเราสิ" เด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนที่
เรียนร่วมชั้นกับเด็กน้อยพูดชวนทานอาหารกลางวัน เด็กน้อยตะลึงและแปลกใจ
ว่า "ทำไมถึงยังมีคนอยากจะพูดดีๆกับเขาแบบนี้ในโรงเรียนแห่งนี้เหลืออยู่" เด็กน้อยรีบ
รุดเข้าไปหาเพื่อนใหม่ด้วยความดีใจพร้อมพูดว่า "สวัสดี..เราชื่อสายลม แล้วเธอละชื่ออะไร"
อัศวินขี่ม้าขาว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่