お久しぶりですね……..✿
สวัสดีค่ะ เจอกันอีกแล้วน้า.........โอะเก็งขิเดสก๊ะ….?
◕‿◕ รู้สึกดีที่ความตั้งใจที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศทุกๆปีของเราอาจจะเป็นจริง ◕‿◕
หลังจากกลับจากทริปยุโรปได้ครบปีพอดี เราก็เดินทางลัดฟ้าไปโซนเอเชียกันบ้าง
ประเทศที่น่าไปที่สุดในเอเชียสำหรับเราก็คือ ญี่ปุ่น นั่นเองค่ะ
หลายคนเคยไปแล้ว ไปกับทัวร์ ไปเอง หรือจะเคยไปมาสี่ห้ารอบแล้วก็ตาม ก็ดูรูปไปเพลินๆอย่างเดียวก็ได้เน้อะ
สำหรับรีวิวนี้ขอเน้นให้กับผู้อ่านที่ไม่เคยเหยียบย่างไปญี่ปุ่นเลยในชีวิตนี้ และแพลนจะไปลุยด้วยตัวเองไม่ง้อทัวร์ค่ะ
หากใครมีคำแนะนำอะไร ก็ขอเชิญคอมเม้นท์ได้ตามอัธยาศัย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านด้วยนะคะ
✿
สำหรับการเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง ✿
1. Print เอกสารที่สำคัญทั้งหมดไว้คนละชุด
- เอกสารสำคัญที่ว่าก็มี Boarding Pass, ใบจองตั๋วเครื่องบิน, ใบจองโรงแรม, กรมธรรม์, แผนการเดินทางคร่าวๆ เป็นต้น
- ทำไมต้องเตรียม? เผื่อคุณโชคไม่ดี เจอ ตม. ญี่ปุ่นถามหาเอาอะค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้เน้อะ
2. จองที่พักล่วงหน้า 1-2 เดือนค่ะ ในกรณีที่ไปหน้าช่วงเทศกาลแบบเรา เราจองล่วงหน้า 2-3 เดือนเลยทีเดียว ไม่งั้นที่พักดีๆจะเต็มหมดนะคะ
- ที่พักจะต้องเดินทางสะดวก ใกล้ JR หรือ Metro/Subway
- แนะนำให้ลงไปเดินเล่นใน Google Map เลยค่ะ จะได้คุ้นทาง จำตึกได้ และยังได้สำรวจสภาพแวดล้อมรอบๆโรงแรมไปด้วยค่ะ
- สำคัญกว่าความสะดวก คือ ความน่าเชื่อถือค่ะ เพราะหลายคนจอง Apartment ใน Agod- และ Airbn- โดนเทมาเยอะมากๆ จะจองอะไร เช็คดีๆ ดูรีวิวดีๆเลยค่ะ
3. ซื้อตั๋ว JR PASS/ TOKYO SUBWAY/SKYLINER ไว้จากไทยก็ได้ค่ะ
- สำหรับคนไม่อยากไปตามหาซื้อที่นู่น แนะนำซื้อจากงานเที่ยวไทยไปทั่วโลกเลยค่ะ หรือจะตาม Agency ทัวร์ก็สะดวกดี
4. สำหรับคนที่จะไปเที่ยวสวนสนุก DISNEY LAND หรือ UNIVERSAL แนะนำดอกจันแปดร้อยดอกให้ซื้อบัตรจากไทยไปเลยค่ะ สะดวกมากๆ จะได้ไม่ต้องไปต่อคิวซื้ออีกเน้อะ แค่ต่อคิวรอเครื่องเล่นก็เหนื่อยแล้ว บอกก่อน 5555+
5.
ศึกษาพยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นไว้ก่อนค่ะ จะได้เตรียมเสื้อผ้าไปถูก ถ้าเกิดเจอวันฝนตก จะได้แพลนได้ว่าวันนั้นจะเน้นเที่ยวแถวไหนดี จะได้ไม่นอยด์เน้อะ
- เวปหลักๆที่เราดู
http://www.accuweather.com/en/jp/japan-weather
- หากใครจะไปคาวากูชิโกะ แนะนำให้ดู Live เลยดีกว่า จะได้เห็นฟูจิไม่ขี้อายด้วย
http://live.fujigoko.tv/?n=3&e=1
6.
แลกเงิน YEN ( JPY) ไว้เผื่อค่ะ เพราะจะได้ไม่โดนเรทบัตรเครดิตแพงนะคะ แต่สำหรับใครไม่แคร์เรื่องค่าเงิน แต่แคร์การพกเงินสด ก็ตามสะดวกเลยค่ะ เรทช่วงนี้อยู่ประมาณ 3.090 – 3.130 ค่ะ
7. เ
ช่า Pocket Wifi หรือซื้อ Sim ไว้ก่อนเดินทาง
- สำหรับเราใช้ Pocket Wifi ของ Tripizee ค่ะ ไม่ใช่หน้าม้านะคะ ซึ่งจะบอกว่าดีมากๆๆๆ ราคาถูกมาก แค่วันละ 90 บาทเอง แบตอยู่ทนอยู่อึดตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนยังไม่หมด สัญญาณเร็วแรงไม่มีอืด มีขาดหายบ้างแค่ช่วงเข้าอุโมงค์ค่ะ
8. ขอแนะนำสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ถ้าหากว่าสาวๆต้องการใช้เครื่องหนีบผม/ม้วนผม หรือ ไดร์เป่าผม ให้เช็คดีๆนะคะว่าของที่เรามีอยู่นั้น รองรับกระแสไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า
- ที่ญี่ปุ่นรองรับกระแสไฟแค่ 110 V เท่านั้นค่ะ โดยเครื่องหนีบผมของไทยส่วนมากจะอยู่ที่ 200- 240 V ถ้าเราพกไปด้วยก็ใช้ไม่ได้นะคะ เครื่องจะไม่ร้อน แนะนำให้ไปซื้อที่นู่นเลย ใน Donqijote ก็มีเยอะแยะ หาซื้อง่ายมาก ราคาประมาณ 3,000 – 5,000 yen ค่ะ
- แต่ถ้าหากใครอยากพกไปเอง มีสองรุ่นที่พอทราบว่าใช้ได้คือ Lesasha รุ่น traveler และ OMG ราคาประมาณ 2,990 บาทค่ะ และก็ Panasonic ที่เป็นเครื่องหนีบผมแบบอันเล็กพกพาราคาประมาณ 800 บาทค่ะ ราคาจาก Central นะคะ
ถ้าเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปกันเล้ยยยย…..
13 – 20 April 2017
BANGKOK ►TOKYO ► KYOTO ► OSAKA ► BANGKOK
▌ DAY 1 : NARITA AIRPORT, NIPPORI
ณ สนามบิน ดอนเมือง
13 / 04 / 2017
10.00 AM ۩
คนต่อแถว Check-in ค่อนข้างเยอะ ใช้เวลานานมาก แนะนำให้ Check-in ล่วงหน้ามาได้เลยค่ะ 14 วันก่อนเดินทาง
Route การเดินทางของเราเป็นแบบนี้ค่ะ DMK ► NRT , KIX ► DMK (( ไปลงนาริตะ แล้วกลับจากโอซาก้าค่า ))
โดยเราใช้บริการสายการบิน Low Cost , THAI AIR ASIA ด้วยเที่ยวบิน XJ611 ที่นั่ง Hot Seat พร้อมอาหารเสิร์ฟบนเครื่องบินค่ะ
19.00 PM ۩
ถึงสนามบิน Narita : Terminal 2
เรานั่ง KEISEI SKYLINER เข้าเมือง ต่อเดียวถึงโรงแรมที่ Nippori ค่ะ
NARITA AIRPORT ► NIPPORI
โรงแรม APA NIPPORI EKIMAE HOTEL
แนะนำโรงแรมนี้นะคะ ใกล้ JR มากค่ะ ร้านอาหารก็เยอะ สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องก็ครบ ข้อเสียคือ ห้องเล็กตามมาตรฐานญี่ปุ่นไปหน่อย กับ อยู่ใกล้รางรถไฟ คนนอนยากอาจจะรำคาญเสียงค่ะ แต่รวมๆโอเคมากๆ
► ราคา : ★★★★ ( 8,000 yen/night หัก 1 ดาวตรงที่ฝากกระเป๋าแล้วคิดเงินใบละ 1,000 เยนเลย)
► บริการของพนักงาน : ★★★★★ ( ให้คำแนะนำเรื่องต่างๆดีค่ะ)
► ความสะอาด/สะดวกสบายในห้องพัก: ★★★★ ( หัก 1 ดาวที่ห้องเล็กและเสียงรถไฟค่ะ)
► สถานที่ตั้ง : ★★★★ ( ใกล้ JR และเดินทางไป NRT airport ได้เลยต่อเดียว หัก 1 ดาวตรงใกล้รางรถไฟเนี่ยแหละค่ะ)
▌ DAY 2 : KAWAGUCHIKO, MT.FUJI , SHINJUKU, ROPPONGI, TOKYO TOWER
はじめまして ….
ยินดีที่ได้พบกันนะ ฟูจิซัง
14 / 04 / 2017
วันนี้เราจะเริ่มจาก Kawaguchiko ค่ะ
สำหรับเราเลือกเดินทางโดยรสบัส เนื่องจากประหยัดเงินมากกว่า เพียงแค่เที่ยวละ 1,750 yen เท่านั้น
แถมยังได้นอนยาวๆไป 2 ชั่วโมงแบบไม่ต้องเปลี่ยนสายให้กวนเวลานอน รถบัสก็มาจอดหน้าสถานีคาวากูชิโกะเลยยยย
เวปสำหรับจองรถนะคะ
http://highway-buses.jp/course/kawaguchiko.php จองล่วงหน้าได้เลย 1 เดือนก่อนเดินทาง
SHIBUYA ►KAWAGUCHIKO
ล้อหมุน 7.00 AM
แนะนำให้ไปถึง Bus Terminal ล่วงหน้าซักครึ่งชั่วโมงนะคะ รถบัสตรงเวลามาก เผื่อเวลาหลงและจะต้องแลกตั๋วก่อนขึ้นรถด้วยค่ะ
ระหว่างทาง ก็เจอฟูจิซังออกมาทักทายกันเลยยย รูปนี้ถ่ายจากบนบัสค่ะ
หลังจากลงสถานี KAWAGUCHIKO เราก็แวะทานข้าว ชมวิวฟูจิกันก่อนเบาๆ ร้านอยู่ตรงข้ามสถานีเลยค่ะ
โชคไม่ดีที่เราไปช่วงเทศกาล คนเยอะมากเป็นพิเศษ ตอนแรกแพลนไว้ว่าจะเช่าจักรยานขี่รอบๆทะเลสาบ ปรากฎว่าหมด ! เศร้ามาก T_T
พอเปลี่ยนใจจะขึ้น Retro Bus สำหรับลงตามจุด Stop ต่างๆ แถวก็ยาวมากกกกกกก ไม่ว่าจะเป็นแถวซื้อตั๋วหรือแถวต่อคิวขึ้นรถบัสก็ตาม แอบนอยด์ๆ
ได้แต่ทำใจว่ามารอบนี้เก็บไม่หมดแน่นอน เลยตัดสินใจไปดูเจดีย์แดงอันเลื่องลือก่อนดีกว่า
โดยซื้อตั๋วจากสถานี KAWAGUCHIKO นั่งรถไฟสาย Fujikyu railway มาลงที่สถานี SHIMOYOSHIYA ค่ะ ( 300 yen)
(ก่อนออกจากสถานีไปดูเจดีย์แดง อย่าลืมดูรอบรถไฟที่จะกลับคาวากูชิโกะไว้เลยนะคะ จะได้กะเวลามารอได้ถูกค่ะ)
KAWAGUCHIKO ► SHIMOYOSHIYA
พอออกจากสถานีก็เดินตามนักท่องเที่ยวมาเรื่อยๆก็จะเจอทางขึ้นเจดีย์แดง หรือ Chureito Pagoda ค่ะ
ไม่ต้องกลัวหลงเลย บนทางเดินจะมีรูปเจดีย์แดงให้เราเห็นอยู่ตลอดทางค่ะ แอบมีความน่ารักเอาใจใส่นักท่องเที่ยวเบาๆ
อย่าลืมฟิตร่างกายกันก่อนมานะคะ เพราะต้องขึ้นบันไดไปเกือบ 400 ขั้น เหนื่อยลิ้นห้อยเลย 5555
แต่พอปีนขึ้นมาแล้วได้เห็นวิวสวยๆแบบนี้ ก็ชื่นใจแล้วค่ะ ฟูจิซังไม่ขี้อายเลย เก็บรูปรัวๆ
((เจดีย์ชูเรโตะ(Chureito Pagoda) เป็นเจดีย์ห้าชั้นบนเนินเขาที่สามารถมองเห็นเมืองฟูจิโยชิดะ(Fujiyoshida City) และภูเขาไฟฟูจิในระยะไกลได้อย่างชัดเจนและงดงาม เจดีย์นี้ตั้งอยู่บนศาลเจ้าอาราคุระเซนเกน(Arakura Sengen Shrine) ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสันติภาพปี 1963 ซึ่งจากตัวอาคารหลักของศาลเจ้าต้องขึ้นบันไดไปเกือบ 400 ขั้น นักท่องเที่ยวจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของภูเขาไฟฟูจิร่วมกับเจดีย์ห้าชั้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานประมาณกลางเดือนเมษายน และฤดูใบไม้ร่วงประมาณครึ่งเดือนแรกของเดือนพฤศจิกายน จะเป็นจุดชมธรรมชาติที่นิยมเป็นอย่างยิ่ง Credit:
http://www.talonjapan.com/chureito-pagoda/ ))
หลังจากชมวิวจนหนำใจแล้วก็เตรียมตัวกลับคาวากูชิโกะค่ะ มารอรถไฟที่ตรงเวลาเป้ะๆ
[CR] Tokyo ... โตเกียว เที่ยวง่าย เที่ยวสบาย .... ฉบับมือใหม่หัดเที่ยว By Nichanary
◕‿◕ รู้สึกดีที่ความตั้งใจที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศทุกๆปีของเราอาจจะเป็นจริง ◕‿◕
หลังจากกลับจากทริปยุโรปได้ครบปีพอดี เราก็เดินทางลัดฟ้าไปโซนเอเชียกันบ้าง
ประเทศที่น่าไปที่สุดในเอเชียสำหรับเราก็คือ ญี่ปุ่น นั่นเองค่ะ
หลายคนเคยไปแล้ว ไปกับทัวร์ ไปเอง หรือจะเคยไปมาสี่ห้ารอบแล้วก็ตาม ก็ดูรูปไปเพลินๆอย่างเดียวก็ได้เน้อะ
สำหรับรีวิวนี้ขอเน้นให้กับผู้อ่านที่ไม่เคยเหยียบย่างไปญี่ปุ่นเลยในชีวิตนี้ และแพลนจะไปลุยด้วยตัวเองไม่ง้อทัวร์ค่ะ
หากใครมีคำแนะนำอะไร ก็ขอเชิญคอมเม้นท์ได้ตามอัธยาศัย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านด้วยนะคะ
✿ สำหรับการเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง ✿
1. Print เอกสารที่สำคัญทั้งหมดไว้คนละชุด
- เอกสารสำคัญที่ว่าก็มี Boarding Pass, ใบจองตั๋วเครื่องบิน, ใบจองโรงแรม, กรมธรรม์, แผนการเดินทางคร่าวๆ เป็นต้น
- ทำไมต้องเตรียม? เผื่อคุณโชคไม่ดี เจอ ตม. ญี่ปุ่นถามหาเอาอะค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้เน้อะ
2. จองที่พักล่วงหน้า 1-2 เดือนค่ะ ในกรณีที่ไปหน้าช่วงเทศกาลแบบเรา เราจองล่วงหน้า 2-3 เดือนเลยทีเดียว ไม่งั้นที่พักดีๆจะเต็มหมดนะคะ
- ที่พักจะต้องเดินทางสะดวก ใกล้ JR หรือ Metro/Subway
- แนะนำให้ลงไปเดินเล่นใน Google Map เลยค่ะ จะได้คุ้นทาง จำตึกได้ และยังได้สำรวจสภาพแวดล้อมรอบๆโรงแรมไปด้วยค่ะ
- สำคัญกว่าความสะดวก คือ ความน่าเชื่อถือค่ะ เพราะหลายคนจอง Apartment ใน Agod- และ Airbn- โดนเทมาเยอะมากๆ จะจองอะไร เช็คดีๆ ดูรีวิวดีๆเลยค่ะ
3. ซื้อตั๋ว JR PASS/ TOKYO SUBWAY/SKYLINER ไว้จากไทยก็ได้ค่ะ
- สำหรับคนไม่อยากไปตามหาซื้อที่นู่น แนะนำซื้อจากงานเที่ยวไทยไปทั่วโลกเลยค่ะ หรือจะตาม Agency ทัวร์ก็สะดวกดี
4. สำหรับคนที่จะไปเที่ยวสวนสนุก DISNEY LAND หรือ UNIVERSAL แนะนำดอกจันแปดร้อยดอกให้ซื้อบัตรจากไทยไปเลยค่ะ สะดวกมากๆ จะได้ไม่ต้องไปต่อคิวซื้ออีกเน้อะ แค่ต่อคิวรอเครื่องเล่นก็เหนื่อยแล้ว บอกก่อน 5555+
5. ศึกษาพยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นไว้ก่อนค่ะ จะได้เตรียมเสื้อผ้าไปถูก ถ้าเกิดเจอวันฝนตก จะได้แพลนได้ว่าวันนั้นจะเน้นเที่ยวแถวไหนดี จะได้ไม่นอยด์เน้อะ
- เวปหลักๆที่เราดู http://www.accuweather.com/en/jp/japan-weather
- หากใครจะไปคาวากูชิโกะ แนะนำให้ดู Live เลยดีกว่า จะได้เห็นฟูจิไม่ขี้อายด้วย http://live.fujigoko.tv/?n=3&e=1
6. แลกเงิน YEN ( JPY) ไว้เผื่อค่ะ เพราะจะได้ไม่โดนเรทบัตรเครดิตแพงนะคะ แต่สำหรับใครไม่แคร์เรื่องค่าเงิน แต่แคร์การพกเงินสด ก็ตามสะดวกเลยค่ะ เรทช่วงนี้อยู่ประมาณ 3.090 – 3.130 ค่ะ
7. เช่า Pocket Wifi หรือซื้อ Sim ไว้ก่อนเดินทาง
- สำหรับเราใช้ Pocket Wifi ของ Tripizee ค่ะ ไม่ใช่หน้าม้านะคะ ซึ่งจะบอกว่าดีมากๆๆๆ ราคาถูกมาก แค่วันละ 90 บาทเอง แบตอยู่ทนอยู่อึดตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนยังไม่หมด สัญญาณเร็วแรงไม่มีอืด มีขาดหายบ้างแค่ช่วงเข้าอุโมงค์ค่ะ
8. ขอแนะนำสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ถ้าหากว่าสาวๆต้องการใช้เครื่องหนีบผม/ม้วนผม หรือ ไดร์เป่าผม ให้เช็คดีๆนะคะว่าของที่เรามีอยู่นั้น รองรับกระแสไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า
- ที่ญี่ปุ่นรองรับกระแสไฟแค่ 110 V เท่านั้นค่ะ โดยเครื่องหนีบผมของไทยส่วนมากจะอยู่ที่ 200- 240 V ถ้าเราพกไปด้วยก็ใช้ไม่ได้นะคะ เครื่องจะไม่ร้อน แนะนำให้ไปซื้อที่นู่นเลย ใน Donqijote ก็มีเยอะแยะ หาซื้อง่ายมาก ราคาประมาณ 3,000 – 5,000 yen ค่ะ
- แต่ถ้าหากใครอยากพกไปเอง มีสองรุ่นที่พอทราบว่าใช้ได้คือ Lesasha รุ่น traveler และ OMG ราคาประมาณ 2,990 บาทค่ะ และก็ Panasonic ที่เป็นเครื่องหนีบผมแบบอันเล็กพกพาราคาประมาณ 800 บาทค่ะ ราคาจาก Central นะคะ
▌ DAY 1 : NARITA AIRPORT, NIPPORI
คนต่อแถว Check-in ค่อนข้างเยอะ ใช้เวลานานมาก แนะนำให้ Check-in ล่วงหน้ามาได้เลยค่ะ 14 วันก่อนเดินทาง
โดยเราใช้บริการสายการบิน Low Cost , THAI AIR ASIA ด้วยเที่ยวบิน XJ611 ที่นั่ง Hot Seat พร้อมอาหารเสิร์ฟบนเครื่องบินค่ะ
ถึงสนามบิน Narita : Terminal 2
เรานั่ง KEISEI SKYLINER เข้าเมือง ต่อเดียวถึงโรงแรมที่ Nippori ค่ะ
► ราคา : ★★★★ ( 8,000 yen/night หัก 1 ดาวตรงที่ฝากกระเป๋าแล้วคิดเงินใบละ 1,000 เยนเลย)
► บริการของพนักงาน : ★★★★★ ( ให้คำแนะนำเรื่องต่างๆดีค่ะ)
► ความสะอาด/สะดวกสบายในห้องพัก: ★★★★ ( หัก 1 ดาวที่ห้องเล็กและเสียงรถไฟค่ะ)
► สถานที่ตั้ง : ★★★★ ( ใกล้ JR และเดินทางไป NRT airport ได้เลยต่อเดียว หัก 1 ดาวตรงใกล้รางรถไฟเนี่ยแหละค่ะ)
▌ DAY 2 : KAWAGUCHIKO, MT.FUJI , SHINJUKU, ROPPONGI, TOKYO TOWER
ยินดีที่ได้พบกันนะ ฟูจิซัง
14 / 04 / 2017
แถมยังได้นอนยาวๆไป 2 ชั่วโมงแบบไม่ต้องเปลี่ยนสายให้กวนเวลานอน รถบัสก็มาจอดหน้าสถานีคาวากูชิโกะเลยยยย
เวปสำหรับจองรถนะคะ http://highway-buses.jp/course/kawaguchiko.php จองล่วงหน้าได้เลย 1 เดือนก่อนเดินทาง
แนะนำให้ไปถึง Bus Terminal ล่วงหน้าซักครึ่งชั่วโมงนะคะ รถบัสตรงเวลามาก เผื่อเวลาหลงและจะต้องแลกตั๋วก่อนขึ้นรถด้วยค่ะ
พอเปลี่ยนใจจะขึ้น Retro Bus สำหรับลงตามจุด Stop ต่างๆ แถวก็ยาวมากกกกกกก ไม่ว่าจะเป็นแถวซื้อตั๋วหรือแถวต่อคิวขึ้นรถบัสก็ตาม แอบนอยด์ๆ
ได้แต่ทำใจว่ามารอบนี้เก็บไม่หมดแน่นอน เลยตัดสินใจไปดูเจดีย์แดงอันเลื่องลือก่อนดีกว่า
โดยซื้อตั๋วจากสถานี KAWAGUCHIKO นั่งรถไฟสาย Fujikyu railway มาลงที่สถานี SHIMOYOSHIYA ค่ะ ( 300 yen)
(ก่อนออกจากสถานีไปดูเจดีย์แดง อย่าลืมดูรอบรถไฟที่จะกลับคาวากูชิโกะไว้เลยนะคะ จะได้กะเวลามารอได้ถูกค่ะ)
ไม่ต้องกลัวหลงเลย บนทางเดินจะมีรูปเจดีย์แดงให้เราเห็นอยู่ตลอดทางค่ะ แอบมีความน่ารักเอาใจใส่นักท่องเที่ยวเบาๆ
แต่พอปีนขึ้นมาแล้วได้เห็นวิวสวยๆแบบนี้ ก็ชื่นใจแล้วค่ะ ฟูจิซังไม่ขี้อายเลย เก็บรูปรัวๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น