[หนังโรงเรื่องที่ 186] Guardians of the Galaxy Vol. 2 - น่ารัก เบาสมอง แต่ไม่เกิดเท่าภาคแรก ; (James Gunn, 2017)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : A- (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : หลังจากกอบกู้จักรวาลไปในภาคแรก "สตาร์-ลอร์ด" (Chris Pratt) และผองเพื่อนก็ได้ตระเวนทำมาหากินไปทั่วจักรวาลในฐานะฟรีแลนซ์พร้อมกับสร้างเรื่องสร้างราวให้รุงรังตัวเองไปในเวลาเดียวกัน ... แต่ในระหว่างภารกิจหนึ่งนั่นเอง ก็มีชายคนหนึ่งชื่อว่า "อีโก้" (Kurt Russell) มาอ้างว่าตนเป็น 'พ่อ' ของสตาร์-ลอร์ดที่พลัดพรากกันไปตั้งแต่ยังแบเบาะ พร้อมกับพ่วงความลับเบื้องหลังชาติกำเนิดของพระเอกมาด้วย!
.
ถือว่าเว้นช่วงนานเกินไปหน่อยนึงเหมือนกันนะสำหรับหนังภาคต่อเรื่องนี้ มันนานถึงขนาดที่ว่าเราลืมชื่อตัวละครหลักไปเกือบหมดแล้ว (หัวเราะ) ที่จำได้คร่าวๆก็มีแค่สตาร์ลอร์ดกับกรู๊ทเท่านั้น ถ้าเป็นตัวสร้อยเสริมแบบเนบิวล่า,ยอนดูอะไรแบบนี้นี่คงต้องชูธงขาวกัน อาจจะเป็นเพราะด้วยความที่มันยังไม่มีความเกี่ยวพันกับจักรวาล Avengers เท่าเรื่องอื่นๆด้วยก็เป็นได้
สำหรับในภาคนี้หนังเลือกที่จะเดินสายฮาครืนเบาสมองเต็มรูปแบบ คาดผู้กำกับคงเห็นแล้วว่านี่เป็นแนวทางที่ขายได้แน่ๆเลยจัดเป็นหนังชง-ตบมุกแทบทั้งเรื่อง (จังหวะชงให้กันนี่หนังยอร์ชมากๆ) ซึ่งเอาจริงๆมันก็เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน ... คือหนังมันตลกแหละ ตลกในจริตที่ผู้เขียนชอบด้วย ทั้งมุกเสียดสี,มุกตลกร้าย และมุกล้อหนังเรื่องอื่น การันตีในครึ่งแรกของหนังนี่เอาอยู่มากในแง่ของความบันเทิง คือยิ่งถ้าคุณเป็นคอมุกตลกแบบอเมริกันด้วย รับรองมีขำปวดท้องกันแน่นอน
อีกเรื่องที่อัพไปอีกขั้นก็คืองานภาพ-งานวิชวลนี่แหละ คือเป็นภาพที่แบบวู้วว้าวตื่นตาตื่นใจมากๆ ทั้งแสง สี เสียง เอฟเฟคสงครามในจักรวาลนี่จัดเต็มจริงๆ คาดว่าหลักๆคงเตรียมเอามาขายในระบบ IMAX กับ 4DX ด้วยในสเกลภาพแบบนี้ แต่ก็น่าเสียดายนิดหน่อยที่ในความอัพเกรดตรงนี้ตัวบทเองกลับไม่ค่อยมีโอกาสให้ปล่อยของซักเท่าไหร่ .. ไอ้ครั้นจะโชว์พลังวิชวลกับดาวของอีโก้ (Ego's Planet) มันก็รู้สึกเฉยไปหน่อย คือดาวมันก็สวยแหละ แต่เชื่อว่าใครมาดู
GOTG ก็คงคาดหวังจะได้ดูฉากในอวกาศเท่ๆมากกว่า
... แต่ก็เหมือนกับที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าในความฮาเบาๆของหนังนั้น มันก็เป็นข้อเสียด้วยเช่นกัน คือส่วนตัวมีความรู้สึกว่าในภาคนี้มันเล่นกันเลอะเทอะไปหน่อย (โอเค อาจจะสนิทกันแล้วเลยเล่นกันมากขึ้น อันนี้ฟังขึ้น) บวกกับเรื่องการพยายามใส่เพลง 80s mix เข้ามาในหลายๆฉากเพื่อที่จะทำให้สถานการณ์นั้นมันแลดู comical casual มากขึ้นนั้น กลับกลายเป็นความ 'เยอะ' เกินไปหน่อยทั้งๆที่สถานการณ์มันก็ไม่ได้นำพาให้มันเปิดเพลงซักเท่าไหร่ แต่หนังก็ยังดันทุรังจะใส่ซาวแทร็กเข้ามาจนได้
อีกเรื่องก็คงเป็นเรื่องพล็อต ที่เป็นอะไรที่น่าเสียดายมากที่หนังภาคนี้มีความสำคัญกับเส้นเรื่องหลักของจักรวาล Marvel อยู่ในระดับเดียวกับ "Ant-Man" เท่านั้น (คือไม่ได้มีอะไรสลักสำคัญเลย เป็นส่วนเสริมที่เพิ่มมาได้ก็ดี แต่ไม่ต้องมีก็ได้) ตลอดสองชั่วโมงนี่หนังมีความรู้สึกเหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่างมาก เนื้อเรื่องไม่ได้ขยายจักรวาลให้เรารู้เรื่องเกี่ยวกับ Infinity War มากขึ้นเลย เรียกได้ว่ากลายเป็นหนังจบในตอนเลย ... End Credits ทั้ง 5 ตัวนั้นยังให้ความเชื่อมโยงของเนื้อเรื่องมากกว่าหนังยาวสองชั่วโมงกว่าเสียอีก
แต่ยังดีที่หนังของกอบกู้ตัวเองกลับมาได้ ด้วยทั้ง sub plot เกี่ยวกับความเป็นพ่อ-ลูกนั้นก็ทำงานได้ดีเกินคาด คือเรียกได้ว่ามันน่าทึ่งพอสมควรเลยล่ะกับการที่หนังใช้เวลานิดเดียวเท่านั้นในการดึงพล็อตนี้ขึ้นมานำเสนอแบบชนิดที่ว่าตั้งหลักแทบไม่ทันแล้วดันได้ผลดีขนาดนี่ แถมยังขยี้อารมณ์ต่อด้วยพล็อตมิตรภาพ-ครอบครัว (มีความแซว Fast Series นิดหน่อย) ที่ทำงานได้ดีไม่แพ้กัน กลายเป็นว่าสิ่งที่ทุกคนน่าจะจดจำจากหนังภาคนี้ได้ ก็อาจเป็นพล็อตกินใจพวกนี้นี่แหละ ย้ำว่ามันขยี้ต่อมซึ้งได้หนักหน่วงจริงๆแม้ไม่ต้องจิบเบียร์โคโรน่ากัน รับรองอาจมีซับน้ำตาคาโรงกันได้ (ขนาดผู้เขียนที่ว่าสายแข็งแล้วยังมีจุกๆคอเลย)
.
..
สรุปแล้ว Guardians of the Galaxy Vol. 2 เป็นหนังที่สอบผ่านในแง่ของความบันเทิง สามารถเรียกเสียงฮาได้ไม่ขาดสาย (แม้หลายๆมุกจะไม่ใช่สำหรับทุกคน) และมีความสนุกในการผจญภัยแบบป่วงๆแถมไปด้วย แต่สอบตกในแง่ของเสน่ห์ที่ตัวเองเคยสร้างไว้ในภาคแรกด้วยความที่หนัง 'พยายามที่จะเบาเกินไป' จนส่งผลให้พล็อตอ่อนปวกเปียกและไม่มีโมเม้นท์เจ๋งๆให้น่าจดจำอีกต่อไปแล้ว
อีกเรื่องที่ยังไม่เข้าใจก็คืออะไรดลใจให้หนังเล่าปูมตัวละครในโทนเดิมซ้ำอีกรอบ? แถมเป็นการเล่าที่จู่ๆตัวละครก็โพล่งขึ้นมาเองอีกต่างหาก ฮัลโหล ความแยบยลที่เคยมีหายไปไหนหมดจ๊ะ?
ป.ล. มี End Credits 5 ตัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หากชื่นชอบรีวิวรบกวนช่วยไลค์ช่วยแชร์เพื่อให้กำลังใจหรือติดตามผลงานได้ที่เพจ https://www.facebook.com/expensivemovie/ นะครับ!
[หนังโรงเรื่องที่ 186] Guardians of the Galaxy Vol. 2 - น่ารัก เบาสมอง แต่ไม่เกิดเท่าภาคแรก by ตั๋วหนังมันแพง
[หนังโรงเรื่องที่ 186] Guardians of the Galaxy Vol. 2 - น่ารัก เบาสมอง แต่ไม่เกิดเท่าภาคแรก ; (James Gunn, 2017)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : A- (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : หลังจากกอบกู้จักรวาลไปในภาคแรก "สตาร์-ลอร์ด" (Chris Pratt) และผองเพื่อนก็ได้ตระเวนทำมาหากินไปทั่วจักรวาลในฐานะฟรีแลนซ์พร้อมกับสร้างเรื่องสร้างราวให้รุงรังตัวเองไปในเวลาเดียวกัน ... แต่ในระหว่างภารกิจหนึ่งนั่นเอง ก็มีชายคนหนึ่งชื่อว่า "อีโก้" (Kurt Russell) มาอ้างว่าตนเป็น 'พ่อ' ของสตาร์-ลอร์ดที่พลัดพรากกันไปตั้งแต่ยังแบเบาะ พร้อมกับพ่วงความลับเบื้องหลังชาติกำเนิดของพระเอกมาด้วย!
.
ถือว่าเว้นช่วงนานเกินไปหน่อยนึงเหมือนกันนะสำหรับหนังภาคต่อเรื่องนี้ มันนานถึงขนาดที่ว่าเราลืมชื่อตัวละครหลักไปเกือบหมดแล้ว (หัวเราะ) ที่จำได้คร่าวๆก็มีแค่สตาร์ลอร์ดกับกรู๊ทเท่านั้น ถ้าเป็นตัวสร้อยเสริมแบบเนบิวล่า,ยอนดูอะไรแบบนี้นี่คงต้องชูธงขาวกัน อาจจะเป็นเพราะด้วยความที่มันยังไม่มีความเกี่ยวพันกับจักรวาล Avengers เท่าเรื่องอื่นๆด้วยก็เป็นได้
สำหรับในภาคนี้หนังเลือกที่จะเดินสายฮาครืนเบาสมองเต็มรูปแบบ คาดผู้กำกับคงเห็นแล้วว่านี่เป็นแนวทางที่ขายได้แน่ๆเลยจัดเป็นหนังชง-ตบมุกแทบทั้งเรื่อง (จังหวะชงให้กันนี่หนังยอร์ชมากๆ) ซึ่งเอาจริงๆมันก็เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน ... คือหนังมันตลกแหละ ตลกในจริตที่ผู้เขียนชอบด้วย ทั้งมุกเสียดสี,มุกตลกร้าย และมุกล้อหนังเรื่องอื่น การันตีในครึ่งแรกของหนังนี่เอาอยู่มากในแง่ของความบันเทิง คือยิ่งถ้าคุณเป็นคอมุกตลกแบบอเมริกันด้วย รับรองมีขำปวดท้องกันแน่นอน
อีกเรื่องที่อัพไปอีกขั้นก็คืองานภาพ-งานวิชวลนี่แหละ คือเป็นภาพที่แบบวู้วว้าวตื่นตาตื่นใจมากๆ ทั้งแสง สี เสียง เอฟเฟคสงครามในจักรวาลนี่จัดเต็มจริงๆ คาดว่าหลักๆคงเตรียมเอามาขายในระบบ IMAX กับ 4DX ด้วยในสเกลภาพแบบนี้ แต่ก็น่าเสียดายนิดหน่อยที่ในความอัพเกรดตรงนี้ตัวบทเองกลับไม่ค่อยมีโอกาสให้ปล่อยของซักเท่าไหร่ .. ไอ้ครั้นจะโชว์พลังวิชวลกับดาวของอีโก้ (Ego's Planet) มันก็รู้สึกเฉยไปหน่อย คือดาวมันก็สวยแหละ แต่เชื่อว่าใครมาดู
GOTG ก็คงคาดหวังจะได้ดูฉากในอวกาศเท่ๆมากกว่า
... แต่ก็เหมือนกับที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าในความฮาเบาๆของหนังนั้น มันก็เป็นข้อเสียด้วยเช่นกัน คือส่วนตัวมีความรู้สึกว่าในภาคนี้มันเล่นกันเลอะเทอะไปหน่อย (โอเค อาจจะสนิทกันแล้วเลยเล่นกันมากขึ้น อันนี้ฟังขึ้น) บวกกับเรื่องการพยายามใส่เพลง 80s mix เข้ามาในหลายๆฉากเพื่อที่จะทำให้สถานการณ์นั้นมันแลดู comical casual มากขึ้นนั้น กลับกลายเป็นความ 'เยอะ' เกินไปหน่อยทั้งๆที่สถานการณ์มันก็ไม่ได้นำพาให้มันเปิดเพลงซักเท่าไหร่ แต่หนังก็ยังดันทุรังจะใส่ซาวแทร็กเข้ามาจนได้
อีกเรื่องก็คงเป็นเรื่องพล็อต ที่เป็นอะไรที่น่าเสียดายมากที่หนังภาคนี้มีความสำคัญกับเส้นเรื่องหลักของจักรวาล Marvel อยู่ในระดับเดียวกับ "Ant-Man" เท่านั้น (คือไม่ได้มีอะไรสลักสำคัญเลย เป็นส่วนเสริมที่เพิ่มมาได้ก็ดี แต่ไม่ต้องมีก็ได้) ตลอดสองชั่วโมงนี่หนังมีความรู้สึกเหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่างมาก เนื้อเรื่องไม่ได้ขยายจักรวาลให้เรารู้เรื่องเกี่ยวกับ Infinity War มากขึ้นเลย เรียกได้ว่ากลายเป็นหนังจบในตอนเลย ... End Credits ทั้ง 5 ตัวนั้นยังให้ความเชื่อมโยงของเนื้อเรื่องมากกว่าหนังยาวสองชั่วโมงกว่าเสียอีก
แต่ยังดีที่หนังของกอบกู้ตัวเองกลับมาได้ ด้วยทั้ง sub plot เกี่ยวกับความเป็นพ่อ-ลูกนั้นก็ทำงานได้ดีเกินคาด คือเรียกได้ว่ามันน่าทึ่งพอสมควรเลยล่ะกับการที่หนังใช้เวลานิดเดียวเท่านั้นในการดึงพล็อตนี้ขึ้นมานำเสนอแบบชนิดที่ว่าตั้งหลักแทบไม่ทันแล้วดันได้ผลดีขนาดนี่ แถมยังขยี้อารมณ์ต่อด้วยพล็อตมิตรภาพ-ครอบครัว (มีความแซว Fast Series นิดหน่อย) ที่ทำงานได้ดีไม่แพ้กัน กลายเป็นว่าสิ่งที่ทุกคนน่าจะจดจำจากหนังภาคนี้ได้ ก็อาจเป็นพล็อตกินใจพวกนี้นี่แหละ ย้ำว่ามันขยี้ต่อมซึ้งได้หนักหน่วงจริงๆแม้ไม่ต้องจิบเบียร์โคโรน่ากัน รับรองอาจมีซับน้ำตาคาโรงกันได้ (ขนาดผู้เขียนที่ว่าสายแข็งแล้วยังมีจุกๆคอเลย)
.
..
สรุปแล้ว Guardians of the Galaxy Vol. 2 เป็นหนังที่สอบผ่านในแง่ของความบันเทิง สามารถเรียกเสียงฮาได้ไม่ขาดสาย (แม้หลายๆมุกจะไม่ใช่สำหรับทุกคน) และมีความสนุกในการผจญภัยแบบป่วงๆแถมไปด้วย แต่สอบตกในแง่ของเสน่ห์ที่ตัวเองเคยสร้างไว้ในภาคแรกด้วยความที่หนัง 'พยายามที่จะเบาเกินไป' จนส่งผลให้พล็อตอ่อนปวกเปียกและไม่มีโมเม้นท์เจ๋งๆให้น่าจดจำอีกต่อไปแล้ว
อีกเรื่องที่ยังไม่เข้าใจก็คืออะไรดลใจให้หนังเล่าปูมตัวละครในโทนเดิมซ้ำอีกรอบ? แถมเป็นการเล่าที่จู่ๆตัวละครก็โพล่งขึ้นมาเองอีกต่างหาก ฮัลโหล ความแยบยลที่เคยมีหายไปไหนหมดจ๊ะ?
ป.ล. มี End Credits 5 ตัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้