สวัสดีค่ะ และแล้วการเดินทางที่วางแผนมานาน (จองตั๋วกันนานมากกกกก) กันทั้งครอบครัวก็ได้เริ่มต้นขึ้น ทริปนี้เราเดินทางไปแถบคันไซกัน ประเทศญี่ปุ่นค่ะ กะว่ามองไปทางไหนก็จะเจอแต่ซากุระบาน (full blossom) เพราะช่วงเดินทางเรา คือ 6-15 เมษา 17 แต่ปีนี้อากาศแปรปรวน มีฝนลงสลับกันตลอด ทำให้ดอกซากุระงงๆ บานดีหรือไม่บานดี ซึ่งซากุระที่พบเจอส่วนใหญ่จะะอกชมพูอ่อนๆจนถึงสีขาว แบบระย้า เจอบ้างแต่น้อย ทริปนี้เราเลยเจอทั้งฝนตก แดดออก ว่าแล้วฉบับแรกเราจะว่าด้วยเรื่องตั๋วกันก่อนดีกว่า
        การเดินทางที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ใครๆก็บอกว่าต้องรถไฟเนี่ยแหล่ะ. สะดวกสุดๆแล้ว. แต่ว่าก็มีทางเลือกมากมายเหลือเกิน หลังจากศึกษามาจากทั้งในพันทิป เวปไซต์ หนังสือ รวมทั้งเพจต่างๆ เราก็ต้องดูให้สอดคล้องกับที่พักและสถานที่ที่เราจะไปด้วย เพราะฉะนั้นตั๋วต้องเหมาะสมกะวัตถุประสงค์ของแต่ละทริปนะคะ สำหรับวัตถุประสงค์เรา คือ 1. ที่บ้านขอแบบไม่เปลี่ยนที่พักค่ะ นอนไม่ไกลจากรถไฟมา 2.ไปเที่ยวรอบ osaka แบบเช้าไปเย็นกลับ 3. เที่ยวใน osaka ด้วย (อย่าเดินเยอะมาก)
       เราต้องเดินทางทั้งหมด 10 วันค่ะ ว่าแล้วเราก็เลืแกเดินทางด้วย
1) บัตร kansai thru pass(KTP) แบบ 3 วัน เป็นหลัก  ราคา 5200 เยน (ซื้อจากไทยที่ราคา 1630 ฿ ได้บัตรจริงมาเลย เก็บอย่างดี กลัวหาย + ลืมเอาไป ราคาถ้าซื้อจากไทยก็ขึ้นอยู่กะอัตราแลกเปลี่ยนด้วยค่ะ ของแต่ละตัวแทน เราซื้อกะ h.i.s. สาขาสยาม) ที่เลือกบัตรนี้ เพราะสามารถเดินทางไปรอบๆ osaka ได้ ทั้ง himeji , kobe , kyoto ,nara ด้วยรถไฟหลายสายที่ไม่ใช่ JR รวมทั้งขึ้นรถเมล์ที่ kyoto ได้ด้วย โดยไม่ต้องใช้งานติดต่อกัน ถือว่าใช้งานง่าย สะดวก ขอแค่เราวางแผนเลือกเดินทางด้วยด้วยรถไฟก็พอค่ะ  ราคาตกวันละ 1700 กว่าเยน ถ้าเพื่อความคุ้มก็ต้องใช้ค่าเดินทางให้ได้ประมาณนี้ต่อวันค่ะ
2) บัตร osaka amazing pass (OAP) แบบ 2 วัน บัตรเบ่งที่เหมาะแก่การเที่ยวใน osaka มากๆๆๆๆ แต่ต้องใช้แบบติดต่อกัน 2 วัน ราคา 3000 เยน (ซื้อรุ่น 2016 มา ปัจจุบัน รุ่น 2017 ราคา 3300 เยน) เราซื้อไปจากที่นี่เหมือนเดิม  ได้บัตรจริงเลย (ราคา 950 ฿ จาก h.i.s. งานท่องเที่ยว) ที่บ้านชอบบัตรนี้มาก สามารถขึ้นรถไฟเอกชนใน osaka ได้ และสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง (มากมาย) สามารถเข้าได้ฟรี และเป็นส่วนลดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้ สามารถศึกษาสถานที่ได้จาก https://www.osaka-info.jp/osp/en/  (ที่บ้านชอบบัตรใบนี้มากค่ะ) 3) บัตรตั๋ว yokoso เป็นตั๋วรถไฟจากสนามบินเข้าเมือง ราคา 1500 เยน (เราซื้อจากที่นี่เช่นเดิม ราคา 450฿ จาก japan all pass เค้ามาส่งตั๋วที่บ้าน) อันนี้ได้เป็นบัตรที่เราต้องไปแลกตั๋วที่สนามบิน พร้อมทั้งได้บัตร one day ที่สามารถใช้เดินทางได้ภายในวันนั้นหรือวันถัดไป ที่เลือกเพราะว่าเราพักแถวนัมมะ รถไฟนี้จะไปสุดสายที่นี่พอดี ได้นั่งรถแบบ rapi:t ตอนไปแลกตั๋วเค้าจะให้บัตรมาทั้งที่ขึ้นรถไฟเข้าเมืองและบัตร one day ตามรูปค่ะ
4) บัตร kaikukan pass ราคา 2550 เยน ซื้อที่สถานีรถไฟใต้ดิน ที่เลือกบัตรนี้ เพราะกะว่าจะไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่นี่ ตั๋วนี้ก็เป็น one day pass ด้วยเช่นกันค่ะ
5) บัตรนั่งรถไฟสายโรแมนติก (sagano train) จริงๆแล้วสามารถซื้อบัตรล่วงหน้าได้ที่สถานี JR west ได้ ที่สนามบินก็มี แต่คนแต่คิวแลกบัตร JR เยอะมาก เราต่อคิวล่ะกลัวตกรถไฟเข้าเมืองเลยไม่ได้จองตั๋วที่นั่นมา สุดท้ายเราไปจองที่ kansai tourist ที่ diamuru shisaibashi แต่มีค่าธรรมเนียมด้วย ที่บ้านขี้เกียจเดินไป JR namba มันไกล เลยยอมจ่ายไป บอกสถานีที่จะขึ้น วันที่ และเวลา เราขึ้นจาก สถานี Kameoka จะไปลง Arashiyama แต่ถ้าไปจองไปซื้อตั๋วที่สถานีก็ได้เหมือนกัน รถไฟจะมี 5 ขบวน โดยคันที่ 5 จะเป็นแบบไม่มีหลังคา เสียดายวันที่เราไปฝนลง เลยถ่ายได้ไม่ค่อยงาม เราได้นั่งฝั่งขวามือ จริงๆแล้วถ้านั่งแบบเราควรจองฝั่งซ้ายดีกว่าเพราะช่วงระยะที่วิ่งเห็นแม่น้ำเยอะกว่า แต่ถ้านั่งไปลงสุดสายข้างไหนก็ได้ เพราะวิวจะวิ่งสลับกันค่ะ
6) วันที่เราจะไป universal กะ วันที่ไป nara จะใช้วิธีหยอดตู้ซื้อตั๋วกันไปค่ะ เพราะใช้ pass ไม่คุ้ม
7) ขากลับ ตอแรกอยากแวะ ที่ riku town เพราะมีเวลาเหลือ แต่สุดท้ายไม่ได้แวะ เพราะกระเป๋าออกลูกมา เดินทางไม่สะดวก เลยจะนั่งรถไฟแบบ rapi:t กลับ ก็ไปแวะซื้อตั๋วที่สถานีนัมมะที่เราลงมาแหล้ะค่ะ ราคา 1340 เยน แต่ต้องระบุ วันและเวลาด้วยนะคะ
      ได้ตั๋วครบทั้ง 10 วันล่ะคะ พร้อมออกเดินทางกันต่อได้เลยค่ะ แล้วเจอกันค่ะ