เรียก20ล้าน!! เอาฉันไปฆ่าดีกว่า ‘อาม่า’เปิดใจหลานซิ่งรถหรูชนคนดะ-ชดใช้จนหมดตัว(คลิป)

วันที่ 28 เมษายน 2560 - 10:01 น
หลังเสี่ยขับรถหรูไปชนสามีภรรยาคู่หนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา จนกระทั่งโลกออนไลน์ได้มีการสืบค้นประวัติพบว่า เมื่อปี 2555 เสี่ยเอ็มเคยขับรถชนคนได้รับบาดเจ็บถึง 4 ราย แต่ชดเชยผู้เสียหายเพียงแค่ 1 หมื่นบาท ทั้งที่บางรายหลังจากพักรักษาตัว ไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ล่าสุด นางหงส์ แซ่ลี้ อายุ 87 ปี อาม่าของเสี่ยเอ็ม นายชลวิทย์ หิรัญชัชวาลย์ เปิดเผยในรายการต่างคนต่างคิดว่า ยังไม่ทราบว่าเสี่ยเอ็มหลานชาย เพิ่งไปขับรถปอร์เช่ชนสามีภรรยาคู่หนึ่งจนได้รับบาดเจ็บไปเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา แต่ยอมรับว่า เมื่อปี 2555 ตนเป็นคนซื้อรถมินิคูเปอร์ให้หลานด้วยเงินสด 3 ล้านบาท ได้จากการทำไร่มันและค้าขาย เพราะเสี่ยเอ็มที่ขณะนั้นอายุเพียง 17 ปี ขอร้องให้ซื้อโดยสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนหนังสือ

อาม่าบอกว่า ตนเลี้ยงดูเสี่ยเอ็มมาตั้งแต่เด็ก เพราะลูกชายของตนหรือพ่อของเสี่ยเอ็ม ได้แยกทางกับภรรยาซึ่งป่วยเป็นอัมพาต ไปแต่งงานใหม่ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศสวีเดน



อาม่าเล่าเหตุการณ์เมื่อปี 2555 ที่หลานชายขับรถหรูไปชนคนได้รับบาดเจ็บ 4 รายว่า บริษัทประกันภัยที่ตนทำไว้ได้ติดต่อเอาเงินมาให้ ซึ่งตนพร้อมทนายความก็นำไปให้พ่อของโชติกา หรือปลั๊ก ผู้เสียหายในขณะนั้นจำนวน 1 ล้านบาท โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสักขีพยาน พร้อมทั้งยืนยันว่าเคยไปเยี่ยมผู้เสียหายรายนี้ที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนั้นยังไม่รู้สึกตัว รวมทั้งผู้เสียหายอีก 3 รายก็ได้รับเงินจากบริษัทประกันภัยไปคนละ 1 ล้านบาทเช่นกัน

ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายเมื่อปี 2555 บอกว่า ได้รับเงินเพียงคนละ 1 หมื่นบาทเท่านั้น อาม่าบอกว่า เงิน 1 หมื่นบาทนั้นเป็นเงินส่วนตัวที่ให้ต่างหาก ทั้งยังซื้อกระเช้าของขวัญไปเยี่ยมโดยมีทนายความเกิดผล แก้วเกิด ที่รับมาช่วยดูแลคดีในขณะนั้นเป็นพยาน

ทั้งนี้ กรณีคุณนุ่น และคุณปลั๊ก ผู้เสียหายที่ให้สัมภาษณ์ในรายการต่างคนต่างคิดไปแล้วก่อนหน้านี้ ว่าได้ฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม แต่ยังไม่ยอมจ่ายนั้น อาม่าชี้แจงว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะมอบหมายให้ทนายเป็นคนดำเนินการ พร้อมยังบอกด้วยว่าทุกวันนี้ตนอาศัยอยู่กับลูกสาว โดยเช่าที่ดินของวัด ดังนั้น ถ้าจะมีการฟ้องร้องเรียกเงิน ก็ไม่มีเงินพอที่จะไปช่วยชดใช้ให้ใครอีกแล้ว


ขณะที่ นายสุระเชษฐ์ ณัฎฐาชัย ผู้เสียหายที่ถูกเสี่ยเอ็มขับรถมินิคูเปอร์ชนเมื่อปี 2555 วิดีโอคอลให้สัมภาษณ์ในรายการต่างคนต่างคิด ว่าครั้งนั้นถูกชนจนอาการสาหัส เกือบเป็นอัมพาต จนต้องรักษาอาการด้วยการผ่าตัดกระดูกสันหลัง 2 ข้อและพักฟื้นต่อในโรงพยาบาลนานเกือบ 6 เดือน ล่าสุดนี้แม้อาการดีขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถกลับมาเดินได้เหมือนปกติ ต้องทำกายภาพบำบัดตลอด

ผู้เสียหายรายนี้เล่าว่า ขณะนั้นมีสื่อมวลชนให้ความสนใจทำข่าว ทางบริษัทประกันภัยเข้ามาช่วยเหลือค่าใช้จ่าย 1 ล้านบาท โดยจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลและการผ่าตัด 9 แสนบาท ส่วนที่เหลืออีก 1 แสนบาทมอบให้เป็นเงินสด เพื่อใช้จ่ายในการทำกายภาพบำบัดต่อ

ด้านอาม่าบอกว่า ตอนมีการฟ้องร้อง นายสุระเชษฐ์ได้เรียกค่าเสียหาย 20 กว่าล้าน แต่ตนไม่มีให้ ซึ่งศาลได้ไกล่เกลี่ยให้เหลือ 3 ล้าน “เรียก 20 กว่าล้าน เอาฉันไปฆ่าดีกว่า ฉันไปเอาที่ไหน”

ส่วนกรณีล่าสุดที่เสี่ยเอ็มขับรถปอร์เช่ มูลค่า 6-7 ล้านบาทไปชนคนอื่น อาม่ายืนยันว่าไม่รู้มาก่อน ทั้งเรื่องรถ รวมทั้งเรื่องที่บอกว่าได้มีการเจรจาชดใช้ค่าเสียหายรายล่าสุด 1 ล้านบาท

อาม่าบอกว่า ขณะนี้เอ็มอายุ 23 ปีแล้ว ยังเรียนไม่จบ ส่วนเรื่องที่เสี่ยเอ็มมักจะถ่ายรูปคู่กับรถหรู เชื่อว่าไม่ใช่รถของหลาน และไม่ได้เป็นคนซื้อเอง แต่น่าจะเป็นรถที่หลานชายหามาให้เต็นท์รถที่รู้จักขายต่อ แล้วได้เงินส่วนแบ่งจากการขาย

อย่างไรก็ตาม อาม่ายอมรับว่ารู้สึกโกรธหลานคนนี้จนไม่อยากติดต่อ เหนื่อยกับการเลี้ยงหลานคนนี้มาก พ่อของหลานก็พาลโกรธตนด้วย เพราะรักหลานมากเกินไป กระทั่งไม่ส่งเงินเลี้ยงดู โดยบอกด้วยว่าจะรับอาม่าไปอยู่ด้วยกันที่ประเทศสวีเดน ซึ่งตนยอมรับว่าไม่อยากไป เพราะกลัวอากาศหนาว

ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว ให้สัมภาษณ์ในรายการต่างคนต่างคิดด้วยว่า เบื้องต้นโดนตั้งข้อขับรถโดยประมาท แต่ต้องรอรอใบรับรองแพทย์ของผู้บาดเจ็บมายืนยันก่อนการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม โดยในวันที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของนายชลวิทย์ แต่ไม่พบ ส่วนรถซึ่งเป็นพยานหลักฐานของคดีได้นำมาตรวจสอบสภาพโดยผู้เชี่ยวชาญแล้ว ก่อนส่งมอบรถคืน วันเกิดเหตุ รถไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน แต่จากการตรวจสอบป้ายพ.ร.บ. ที่ติดอยู่หน้ารถพบว่า ไม่มีชื่อของเสี่ยเอ็ม หรือ นายชลวิทย์ เป็นผู้ครอบครองรถ แต่เป็นชื่อเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งต่อไป จะต้องติดตามว่า รถคันดังกล่าวมีการนำเข้า และจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ส่วนคดีของนายชลวิทย์เมื่อปี 2555 จะต้องมีการตรวจสอบผลการพิพากษาว่ามีส่วนเกี่ยวเนื่องมาถึงอนาคตหรือไม่

cr.AMARIN TVHD , ต่างคนต่างคิด
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_323875

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่