ทักทาย Hello สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนค่า
วันนี้เราจะมาเล่า+แชร์ประสบการณ์การสอบ TOEIC ที่พึ่งประสบผลมาหมาดๆให้ฟังเลย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้เป็นคนมีพื้นฐานภาษาอังกฤษอะไรมากนัก อยู่ในระดับอ่านเขียนฟังพอได้ นักเรียนไทยทั่วไป
=__= และการที่เราไปสอบครั้งนี้ เราตั้งใจฝึกฝนเพื่อให้ได้คะแนนตามเป้าหมายที่ป่านตั้งไว้ คือ คะแนน 600++ จ้า
ก่อนหน้าได้ไปสอบมาแล้วบ้าง
และนี้คือ Before - After เย้ๆๆๆ ผ่านแล้ววว ได้ 680 เกินคาดมากเยย^^
เนื่องจากการสอบครั้งแรกเราไปลองเพื่อให้ได้รู้ว่า เราถนัดตรงไหนไม่ถนัดตรงไหน จุดอ่อนจุดแข็งเราคืออะไร ขั้นตอนการสอบมีอะไรบ้าง (เรียกง่ายๆว่าไปลองสนามอ่ะแหละ)
พอคร่าวนี้คะแนนออกมา เราก็พอคิดๆไว้บ้างว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้55
รอบที่ผ่านมาก็เลยเอาใหม่ ทบทวนสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของเรา+ให้แฟนช่วยวิเคราะห์โดยเราใช้เวลาฝึกฝนเป็นเวลา 1.6 เดือน (เดือนครึ่งกว่าๆ)
โดยวิธีที่เราฝึกคือ เราให้แฟนเราช่วยสอนในพาทของแกรมม่า และแนะแนวทางของการฟัง (ทั้งนี้ทั้งนั้นต่อให้มีครูดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความทุ่มเทของเราด้วย)
สอบรอบนี้คะแนนเราดีขึ้นทั้ง Listening และGrammar
แต่จริงๆเราเน้นฝึกในพาทฟังเยอะกว่านะ ตอนฝึกอ่ะเพราะรู้สึกถนัดและสนุกมากกว่า
ในส่วนของ Listenting เราฝึกจากแหล่งต่างๆเหล่านี้ ย้ำว่า Free ล้วนๆจ้า5555
1.Voscreen (เว็บ/แอปนี้ดีมาก เป็นการฝึกฟังจากบริบทหนัง, สารคดี, รายการข่าว บลาๆ มี โดยมี Subtitles อยู่ด้านล่าง และมีให้เลือกเดาประโยคที่ได้ฟังไปว่าตรงกับ Synonym ไหน)
Level : 01-10
2. BBC เราฟังจาก Application ฟังไม่ยากมาก เพราะเป็นการพูดเหมือนรายการข่าว น้ำเสียง คำพูดค่อนข้างชัดเจน ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป ส่วนมากเราเลือกฟังราย 6 minutes English เพลินๆก่อนนอนมีทั้งสอน Grammar, ทั้งเรื่องทั่วๆไป ฟังแล้วหลับขับกล่อมได้ดี555555
Level : 05-08
3. Ted-Talk อันนี้ Level ยากเลยอ่ะ ฟังไม่ค่อยทัน555 เพราะว่าเป็นการใช้ภาษาเหมือนคนคุยกันทั่วไป จะพูดเร็วหน่อยเพราะเป็น Talk Show เค้าจะมีภาพ แสงสีเสียง ท่าทางของนักพูดด้วย ก็ได้อารมณ์แบบฝึกเดาเนื้อเรื่องไปในตัว สนุกดีได้สาระข้อคิดดีๆจาก Ted-Talk ด้วย
Level : 08-10
ส่วนของ Grammar รอบนี้ไม่ได้ทำข้อสอบเยอะแหละ แต่รวมๆป่านอ่านจากแหละตามนี้น้า
1. ฝึกทำโจทย์ Toeic ตีแผ่แบไต๋
2. มีครูสอนแกรมม่า (ตามที่บอกข้างบน อิอิ)
3. ฝึกทำข้อสอบจากห้องนี้บ้าง ข้อสอบออนไลน์บ้างเวลานั่งรถเบื่อๆ
4. ฝึกทำข้อสอบจริง barron 2 ชุด และ oxford 2 ชุด
"ช่วงเวลาว่างจากการทำงาน/ นั่งทำงาน เราจะฟังครูลูกปัด live คลอไปด้วย สนุกแถมครูน่ารัก และเราได้ความรู้แบบเนียนๆด้วยจย้าาา อิอิอิอิ" Live
ครูลูกปัดดูจากเพจนี้น้า
https://www.facebook.com/TOEIC900plus/
ต่อมาวันสำคัญวันสอบ สิ่งที่เราทำข้อสอบครั้งนี้ เพื่อนๆลองไปปรับใช้ดูได้
เราว่าทริคนี้มันทำให้เราจัดเวลาการทำข้อสอบได้ดีขึ้นนะจ๊ะ
Part Listening
1.
Part 1 ตั้งใจดูรูปภาพ+ตั้งใจฟัง+กินบุญเก่าคลังคำศัพท์ ส่วนมากเราสังเกต Phrasal Verbs และพวก Verb อากรับกริยา ส่วนสิ่งของต่างๆตามบุญเก่าที่สั่งสม (ความรู้สึกเรา+เพื่อนรู้สึกว่าช่วงนี้เหมือนเค้าปรับพาทนี้ให้ยากขึ้นนะ)
2.
Part 2 จากการฝึกพาทนี้เราได้เฉลี่ยประมาณ 22-25 ข้อเสมอจากการฝึก เบลื่อมาก555 ไม่มีอะไรแนะนำเยอะ คล้ายๆคนอื่นคือพยายามจับคำถามให้ได้ว่า What Where When Why How Question tag บลาๆ
3.
Part 3 อ่านโจทย์ให้ทันทุกข้อ!! และถ้าอ่านคำตอบทันพยายามนึกภาพคำตอบให้ออกว่ามันเป็นลักษณะไหนแบบเร็วๆ จะทำให้เราเห็นเป็นภาพ พอตอนฟังโจทย์บรรยายเนื้อเรื่องเราจะสามารถจับคู่กับภาพในหัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น
4.
Part 4 เหมือน Part 3 เลยแหะ
Part Grammar
รอบนี้วิธีทำเราเปลี่ยนไป ย้ำเปลี่ยนไป ซึ่งอันนี้ถือว่าได้ผลมากสำหรับเราคือ เราเลือกที่จะทำ Part 7 ก่อนเพราะพาทนี้คำตอบจะอยู่ในโจทย์เลย ซึ่งถ้าเราเลือกทำก่อนช่วงแรกเรายังมีเวลา เราจะไม่ทุรนทุรายจากการถูกกดดัน -> เหลือ 30 นาทีนะคะ -> เหลือ 15 นาทีนะคะ -> เหลือ 5 นาทีนะคะ คือเราจะร่น!!! ร่นมาก ละสุดท้ายคืออ่านเนื้อเรื่องไม่รู้เรื่อง Skim หาอะไรไม่เจอเลย ผึ่ง!!!!
นั่นแหละพอเราเลือกทำพาท 7 ก่อน เราก็จะ Skim หาคำตอบได้ดีขึ้น เพราะพอใจเรามันจะนิ่ง เราจะ Skim หาคำตอบได้เจอแบบง่ายขึ้น
5.
Part 5-6 ตั้งใจไว้แล้ว่าจะใช้ 30 นาทีสุดท้ายที่เหลืออยู่....
รอบนี้พอเหลือเวลา 30 นาทีปรากฏว่าเรายังเหลือ part 7 ทั้งหมด 7 ข้อที่ยังไม่ได้ทำ เราก็มั่วเลยไม่เป็นไร เพราะรอบก่อนไม่ทัน 30 ข้อ แค่นี้จิ๊บๆมาก555555
นั้นแหละพอโดนแจ้งเหลือเวลาประมาณ 30 นาที เรากระเด้งมาทำพาท 5-6 เลยซึ่งเป็นโจทย์สั้นๆ บางข้อก็ดูโจทย์ปุ๊บได้คำตอบเลย เช่น to+v.inf ซึ่งคือถามว่าตื่นเต้นมั้ยตอนถูกแจ้งใกล้จะหมดเวลา ตอบเลยว่าตื่นเต้นและร่นเหมือนกัน แต่ว่าอย่างน้อยเราก็ไม่ต้อง Skim หนักมากตัวหนังสือกระเจิง สามารถดูโจทย์สั้นๆไม่ต้องใช้สมาธิเยอะ ต่อให้ตื่นเต้นก็ยังพอทำไหวอยู่ อะไรประมาณนี้55555
พอใกล้หมดเวลา 5 นาทีสุดท้ายเรากลับมาฝนทุกอย่างที่เหลืออยู่ ตรวจชื่อ-นามสกุล/ ID ให้ถูกต้องครบถ้วน เพราะถ้าส่วนนี้ผิดแล้วคะแนนดันออกมาดี เราจะนำคะแนนไปใช้ไม่ได้นาจาาา ร้องไห้หนักมาก!
โอเคเป็นอันว่าจบสิ้นสำหรับการทำ Toeic รอบนี้ รีวิวเราก็จบแล้วเช่นกัน
ก็ขอให้เพื่อนๆทุกคนโชคดีนะคะ สำหรับใครที่กำลังท้อแท้อยู่เราขอให้กำลังใจเยอะๆๆเลย I can do it you can do it. เด้อจ้าาาา
แชร์ประสบการณ์ Toeic ฝึกฝนด้วยตนเอง+ลงสนามจริง สไตล์วัยทำงาน***
วันนี้เราจะมาเล่า+แชร์ประสบการณ์การสอบ TOEIC ที่พึ่งประสบผลมาหมาดๆให้ฟังเลย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้เป็นคนมีพื้นฐานภาษาอังกฤษอะไรมากนัก อยู่ในระดับอ่านเขียนฟังพอได้ นักเรียนไทยทั่วไป
=__= และการที่เราไปสอบครั้งนี้ เราตั้งใจฝึกฝนเพื่อให้ได้คะแนนตามเป้าหมายที่ป่านตั้งไว้ คือ คะแนน 600++ จ้า
ก่อนหน้าได้ไปสอบมาแล้วบ้าง
และนี้คือ Before - After เย้ๆๆๆ ผ่านแล้ววว ได้ 680 เกินคาดมากเยย^^
เนื่องจากการสอบครั้งแรกเราไปลองเพื่อให้ได้รู้ว่า เราถนัดตรงไหนไม่ถนัดตรงไหน จุดอ่อนจุดแข็งเราคืออะไร ขั้นตอนการสอบมีอะไรบ้าง (เรียกง่ายๆว่าไปลองสนามอ่ะแหละ)
พอคร่าวนี้คะแนนออกมา เราก็พอคิดๆไว้บ้างว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้55
รอบที่ผ่านมาก็เลยเอาใหม่ ทบทวนสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของเรา+ให้แฟนช่วยวิเคราะห์โดยเราใช้เวลาฝึกฝนเป็นเวลา 1.6 เดือน (เดือนครึ่งกว่าๆ)
โดยวิธีที่เราฝึกคือ เราให้แฟนเราช่วยสอนในพาทของแกรมม่า และแนะแนวทางของการฟัง (ทั้งนี้ทั้งนั้นต่อให้มีครูดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความทุ่มเทของเราด้วย)
สอบรอบนี้คะแนนเราดีขึ้นทั้ง Listening และGrammar
แต่จริงๆเราเน้นฝึกในพาทฟังเยอะกว่านะ ตอนฝึกอ่ะเพราะรู้สึกถนัดและสนุกมากกว่า
ในส่วนของ Listenting เราฝึกจากแหล่งต่างๆเหล่านี้ ย้ำว่า Free ล้วนๆจ้า5555
1.Voscreen (เว็บ/แอปนี้ดีมาก เป็นการฝึกฟังจากบริบทหนัง, สารคดี, รายการข่าว บลาๆ มี โดยมี Subtitles อยู่ด้านล่าง และมีให้เลือกเดาประโยคที่ได้ฟังไปว่าตรงกับ Synonym ไหน)
Level : 01-10
2. BBC เราฟังจาก Application ฟังไม่ยากมาก เพราะเป็นการพูดเหมือนรายการข่าว น้ำเสียง คำพูดค่อนข้างชัดเจน ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป ส่วนมากเราเลือกฟังราย 6 minutes English เพลินๆก่อนนอนมีทั้งสอน Grammar, ทั้งเรื่องทั่วๆไป ฟังแล้วหลับขับกล่อมได้ดี555555
Level : 05-08
3. Ted-Talk อันนี้ Level ยากเลยอ่ะ ฟังไม่ค่อยทัน555 เพราะว่าเป็นการใช้ภาษาเหมือนคนคุยกันทั่วไป จะพูดเร็วหน่อยเพราะเป็น Talk Show เค้าจะมีภาพ แสงสีเสียง ท่าทางของนักพูดด้วย ก็ได้อารมณ์แบบฝึกเดาเนื้อเรื่องไปในตัว สนุกดีได้สาระข้อคิดดีๆจาก Ted-Talk ด้วย
Level : 08-10
ส่วนของ Grammar รอบนี้ไม่ได้ทำข้อสอบเยอะแหละ แต่รวมๆป่านอ่านจากแหละตามนี้น้า
1. ฝึกทำโจทย์ Toeic ตีแผ่แบไต๋
2. มีครูสอนแกรมม่า (ตามที่บอกข้างบน อิอิ)
3. ฝึกทำข้อสอบจากห้องนี้บ้าง ข้อสอบออนไลน์บ้างเวลานั่งรถเบื่อๆ
4. ฝึกทำข้อสอบจริง barron 2 ชุด และ oxford 2 ชุด
"ช่วงเวลาว่างจากการทำงาน/ นั่งทำงาน เราจะฟังครูลูกปัด live คลอไปด้วย สนุกแถมครูน่ารัก และเราได้ความรู้แบบเนียนๆด้วยจย้าาา อิอิอิอิ" Live
ครูลูกปัดดูจากเพจนี้น้า https://www.facebook.com/TOEIC900plus/
ต่อมาวันสำคัญวันสอบ สิ่งที่เราทำข้อสอบครั้งนี้ เพื่อนๆลองไปปรับใช้ดูได้
เราว่าทริคนี้มันทำให้เราจัดเวลาการทำข้อสอบได้ดีขึ้นนะจ๊ะ
Part Listening
1. Part 1 ตั้งใจดูรูปภาพ+ตั้งใจฟัง+กินบุญเก่าคลังคำศัพท์ ส่วนมากเราสังเกต Phrasal Verbs และพวก Verb อากรับกริยา ส่วนสิ่งของต่างๆตามบุญเก่าที่สั่งสม (ความรู้สึกเรา+เพื่อนรู้สึกว่าช่วงนี้เหมือนเค้าปรับพาทนี้ให้ยากขึ้นนะ)
2. Part 2 จากการฝึกพาทนี้เราได้เฉลี่ยประมาณ 22-25 ข้อเสมอจากการฝึก เบลื่อมาก555 ไม่มีอะไรแนะนำเยอะ คล้ายๆคนอื่นคือพยายามจับคำถามให้ได้ว่า What Where When Why How Question tag บลาๆ
3. Part 3 อ่านโจทย์ให้ทันทุกข้อ!! และถ้าอ่านคำตอบทันพยายามนึกภาพคำตอบให้ออกว่ามันเป็นลักษณะไหนแบบเร็วๆ จะทำให้เราเห็นเป็นภาพ พอตอนฟังโจทย์บรรยายเนื้อเรื่องเราจะสามารถจับคู่กับภาพในหัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น
4. Part 4 เหมือน Part 3 เลยแหะ
Part Grammar
รอบนี้วิธีทำเราเปลี่ยนไป ย้ำเปลี่ยนไป ซึ่งอันนี้ถือว่าได้ผลมากสำหรับเราคือ เราเลือกที่จะทำ Part 7 ก่อนเพราะพาทนี้คำตอบจะอยู่ในโจทย์เลย ซึ่งถ้าเราเลือกทำก่อนช่วงแรกเรายังมีเวลา เราจะไม่ทุรนทุรายจากการถูกกดดัน -> เหลือ 30 นาทีนะคะ -> เหลือ 15 นาทีนะคะ -> เหลือ 5 นาทีนะคะ คือเราจะร่น!!! ร่นมาก ละสุดท้ายคืออ่านเนื้อเรื่องไม่รู้เรื่อง Skim หาอะไรไม่เจอเลย ผึ่ง!!!!
นั่นแหละพอเราเลือกทำพาท 7 ก่อน เราก็จะ Skim หาคำตอบได้ดีขึ้น เพราะพอใจเรามันจะนิ่ง เราจะ Skim หาคำตอบได้เจอแบบง่ายขึ้น
5. Part 5-6 ตั้งใจไว้แล้ว่าจะใช้ 30 นาทีสุดท้ายที่เหลืออยู่....
รอบนี้พอเหลือเวลา 30 นาทีปรากฏว่าเรายังเหลือ part 7 ทั้งหมด 7 ข้อที่ยังไม่ได้ทำ เราก็มั่วเลยไม่เป็นไร เพราะรอบก่อนไม่ทัน 30 ข้อ แค่นี้จิ๊บๆมาก555555
นั้นแหละพอโดนแจ้งเหลือเวลาประมาณ 30 นาที เรากระเด้งมาทำพาท 5-6 เลยซึ่งเป็นโจทย์สั้นๆ บางข้อก็ดูโจทย์ปุ๊บได้คำตอบเลย เช่น to+v.inf ซึ่งคือถามว่าตื่นเต้นมั้ยตอนถูกแจ้งใกล้จะหมดเวลา ตอบเลยว่าตื่นเต้นและร่นเหมือนกัน แต่ว่าอย่างน้อยเราก็ไม่ต้อง Skim หนักมากตัวหนังสือกระเจิง สามารถดูโจทย์สั้นๆไม่ต้องใช้สมาธิเยอะ ต่อให้ตื่นเต้นก็ยังพอทำไหวอยู่ อะไรประมาณนี้55555
พอใกล้หมดเวลา 5 นาทีสุดท้ายเรากลับมาฝนทุกอย่างที่เหลืออยู่ ตรวจชื่อ-นามสกุล/ ID ให้ถูกต้องครบถ้วน เพราะถ้าส่วนนี้ผิดแล้วคะแนนดันออกมาดี เราจะนำคะแนนไปใช้ไม่ได้นาจาาา ร้องไห้หนักมาก!
โอเคเป็นอันว่าจบสิ้นสำหรับการทำ Toeic รอบนี้ รีวิวเราก็จบแล้วเช่นกัน
ก็ขอให้เพื่อนๆทุกคนโชคดีนะคะ สำหรับใครที่กำลังท้อแท้อยู่เราขอให้กำลังใจเยอะๆๆเลย I can do it you can do it. เด้อจ้าาาา