มันเป็นคำถามสั้นๆ ที่ต้องตอบกันยาวเลยแหละครับ แต่ก็ไม่ยากแก่การอธิบายสักเท่าไหร่ ทุกคนยังจำชื่อแม่น้ำที่ครูสอนให้เราท่องกันตั้งแต่เด็ก “ปิง วัง ยม น่าน” กันได้ใช่ไหม มันคือแม่น้ำสายสำคัญของทางภาคเหนือที่ไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของภาคกลาง ซึ่ง ปิง วัง ยม น่าน เขาก็มีสัดส่วนต่างกันนะครับ
ปิง 20%
วัง 20%
ยม 20 %
ส่วนน่านก็เยอะหน่อยมีสัดส่วนถึง 40% รวมกันเป็น 100% จึงได้เป็นแม่น้ำเจ้าพระยามา
ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญต่างๆ มักจะเกิดขึ้นจากในป่าเราจึงเรียกว่า ป่าต้นน้ำ และถ้าป่าไม้ได้รับการแผ้วถาง จำนวนต้นไม้ลดลงไป ก็จะกระทบกับกระบวนการผลิตน้ำตามทางธรรมชาติด้วย ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วยแน่นอน โดยเฉพาะป่าต้นน้ำน่านที่กินสัดส่วนถึง 40% ของแม่น้ำเจ้าพระยา ทีนี้ลองจิตนาการดูสิครับเมื่อป่าหาย น้ำก็หายตาม และน้ำในแม่น้ำหายไป 40% สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ น้ำเค็มหนุนครับ
การมาเยือนของน้ำเค็มจะส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลายเป็นน้ำกร่อย ซึ่งปกติแล้วน้ำกร่อยมักจะเกิดขึ้นบริเวณปากอ่าว เป็นพื้นที่ที่แม่น้ำติดต่อกับทะเลมัน ซึ่งมันเมกเซนต์ที่จะเกิดน้ำกร่อยในบริเวณนั้น แต่มันจะไม่เมกเซนต์ทันทีถ้าน้ำกร่อยนี้จะเกิดขึ้นกับแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสาย
น้ำกร่อยไม่สนุกหรอกครับ
ในความคิดของผม ผมว่ามันไม่สนุกยังไงแบบนี้ครับ
น้ำกร่อยกับดิน ก็จะทำคุณภาพดินเสื่อมโทรมทำให้ดินเค็ม เพาะปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ถ้าปลูกข้าวไม่ดี ปลูกผลไม้ไม่ได้ แล้วเราจะกินอะไรกันดีครับ?
น้ำกร่อยกับน้ำ ก็ทำให้คุณภาพน้ำแย่ลง ไม่ว่าจะใช้น้ำในการเกษตร หรือเอามาอาบ มาดื่ม มากิน ใช้รดน้ำต้นไม้ก็ไม่ดี ใช้อาบน้ำก็คงจะมีปัญหา ใช้กินก็ไม่เวิร์ค
น้ำกร่อยกับอุตสาหกรรม ในอุตสาหกรรมน้ำมีความจำเป็นกับโรงงานต่างๆ มาก ถ้าเกิดว่าน้ำกร่อยผมว่ามันต้องมีปัญหากับเครื่องจักรแน่ๆ และถ้าน้ำกร่อยก็ต้องมีการใช้ระบบจัดการเพิ่มต้นทุนให้กับโรงงาน การผลิตสินค้าออกมาก็จะมีต้นทุนสูง ส่งผลให้ของแพงได้ครับ
น้ำกร่อยกับการเลี้ยงสัตว์ ถ้าเป็นการเลี้ยงสัตว์น้ำพวกกุ้ง พวกปลาอันนี้ได้รับผลกระทบแน่นอน ส่วนสัตว์บกนึกออกได้ไม่ยากว่าจะได้รับผลกระทบยังไง คนใช้น้ำไม่ได้ยังไง สัตว์เหล่านั้นก็คงเหมือนพวกเราแหละครับ
ปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่ภาคกลางแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ เป็นพื้นที่เพาะปลูก เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม เมื่อประสบปัญหาต่างๆ เหล่านี้ คนที่เดือดร้อนก็คงเป็นคนทั้งประเทศ กระทบกันเป็นโดมิโน่ และสุดท้ายก็จะมีผลกับทางด้านเศรษฐกิจแน่นอน
และนี่คือที่มาว่าทำไมปัญหาน่าน ถึงเป็นปัญหาของชาติ
บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่สำหรับผมแล้วมันไม่ไกลตัวเลยนะครับ เราก็ได้รับรู้เรื่องราวป่าต้นน้ำของน่านกันมานานว่าถูกทำลายไปมากแล้ว และถ้าเราปล่อยปละละเลยป่าต้นน้ำไปแบบนี้ สักวันน้ำเค็มอาจมาเยือนแม่น้ำเจ้าพระยาจริงๆ ก็ได้
อย่าลืมนะครับ น้ำกร่อยไม่สนุกนะครับ
เพราะอะไรทำไมปัญหาของน่านถึงเป็นปัญหาของชาติ!!!
ปิง 20%
วัง 20%
ยม 20 %
ส่วนน่านก็เยอะหน่อยมีสัดส่วนถึง 40% รวมกันเป็น 100% จึงได้เป็นแม่น้ำเจ้าพระยามา
ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญต่างๆ มักจะเกิดขึ้นจากในป่าเราจึงเรียกว่า ป่าต้นน้ำ และถ้าป่าไม้ได้รับการแผ้วถาง จำนวนต้นไม้ลดลงไป ก็จะกระทบกับกระบวนการผลิตน้ำตามทางธรรมชาติด้วย ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วยแน่นอน โดยเฉพาะป่าต้นน้ำน่านที่กินสัดส่วนถึง 40% ของแม่น้ำเจ้าพระยา ทีนี้ลองจิตนาการดูสิครับเมื่อป่าหาย น้ำก็หายตาม และน้ำในแม่น้ำหายไป 40% สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ น้ำเค็มหนุนครับ
การมาเยือนของน้ำเค็มจะส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลายเป็นน้ำกร่อย ซึ่งปกติแล้วน้ำกร่อยมักจะเกิดขึ้นบริเวณปากอ่าว เป็นพื้นที่ที่แม่น้ำติดต่อกับทะเลมัน ซึ่งมันเมกเซนต์ที่จะเกิดน้ำกร่อยในบริเวณนั้น แต่มันจะไม่เมกเซนต์ทันทีถ้าน้ำกร่อยนี้จะเกิดขึ้นกับแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสาย
น้ำกร่อยไม่สนุกหรอกครับ
ในความคิดของผม ผมว่ามันไม่สนุกยังไงแบบนี้ครับ
น้ำกร่อยกับดิน ก็จะทำคุณภาพดินเสื่อมโทรมทำให้ดินเค็ม เพาะปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ถ้าปลูกข้าวไม่ดี ปลูกผลไม้ไม่ได้ แล้วเราจะกินอะไรกันดีครับ?
น้ำกร่อยกับน้ำ ก็ทำให้คุณภาพน้ำแย่ลง ไม่ว่าจะใช้น้ำในการเกษตร หรือเอามาอาบ มาดื่ม มากิน ใช้รดน้ำต้นไม้ก็ไม่ดี ใช้อาบน้ำก็คงจะมีปัญหา ใช้กินก็ไม่เวิร์ค
น้ำกร่อยกับอุตสาหกรรม ในอุตสาหกรรมน้ำมีความจำเป็นกับโรงงานต่างๆ มาก ถ้าเกิดว่าน้ำกร่อยผมว่ามันต้องมีปัญหากับเครื่องจักรแน่ๆ และถ้าน้ำกร่อยก็ต้องมีการใช้ระบบจัดการเพิ่มต้นทุนให้กับโรงงาน การผลิตสินค้าออกมาก็จะมีต้นทุนสูง ส่งผลให้ของแพงได้ครับ
น้ำกร่อยกับการเลี้ยงสัตว์ ถ้าเป็นการเลี้ยงสัตว์น้ำพวกกุ้ง พวกปลาอันนี้ได้รับผลกระทบแน่นอน ส่วนสัตว์บกนึกออกได้ไม่ยากว่าจะได้รับผลกระทบยังไง คนใช้น้ำไม่ได้ยังไง สัตว์เหล่านั้นก็คงเหมือนพวกเราแหละครับ
ปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่ภาคกลางแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ เป็นพื้นที่เพาะปลูก เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม เมื่อประสบปัญหาต่างๆ เหล่านี้ คนที่เดือดร้อนก็คงเป็นคนทั้งประเทศ กระทบกันเป็นโดมิโน่ และสุดท้ายก็จะมีผลกับทางด้านเศรษฐกิจแน่นอน
และนี่คือที่มาว่าทำไมปัญหาน่าน ถึงเป็นปัญหาของชาติ
บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่สำหรับผมแล้วมันไม่ไกลตัวเลยนะครับ เราก็ได้รับรู้เรื่องราวป่าต้นน้ำของน่านกันมานานว่าถูกทำลายไปมากแล้ว และถ้าเราปล่อยปละละเลยป่าต้นน้ำไปแบบนี้ สักวันน้ำเค็มอาจมาเยือนแม่น้ำเจ้าพระยาจริงๆ ก็ได้