เพิ่งเขียน pantip ครั้งแรกผิดพลาดประการใด ขอโทษ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ต้องการผู้รู้ ด้านกฎหมายครอบครัว และบุคคลที่สอนให้รู้หลักในการพูดที่สามารถฟันธง โช๊ะ โช๊ะ โช๊ะ เลย
เริ่มเลยนะค่ะ..เรื่องมีอยู่ว่า เรามีลูก 2 ชายคน,หญิงคน แต่ตอนนี้ไปอยู่กับย่าเขาแล้วค่ะ
ย่าเขามารับไปเมื่อ 2เดือนที่แล้ว
เรากับพ่อของน้องเลิกกันมาจะปีกว่าแล้วค่ะ ซึ่งตอนเลิกทั้งสองฝ่ายไม่มีปัญหาอะไรกันค่ะ เพราะฝ่ายชายแอบมีใหม่ก่อนติดทหาร
เราก็ได้หนีจากฝันร้าย มาหางานทำ กลับมาสู่บ้านพ่อแม่....ทางแม่ฝ่ายชายไม่อนุญาติให้เรานำลูกกลับมาด้วยเพราะลูกเราเรียนอยู่
เราเลยเคลียกันลงตัวค่ะ จนลูกชายปิดเทอมใหญ่เขาก็เอาลูกเรากลับมาให้เราเลี้ยง เนื่องจากแม่ฝ่ายชายเลิกกับแฟนของเขา ก็เอาลูกเรามาวางแหมะไว้แล้วบอกแค่ว่า วันไหนว่างจะเข้ามารับไปเล่น ทางพ่อของน้องติดทหารอยู่ 3เดือน แม่เขาก็ใช้เงินยัดออกมาจากการติดทหาร
แต่ออกมาแล้วไม่เคยมาดูลูกเลยสักครั้ง คือทางแม่ฝ่ายชาย เขาบอกว่า ลูกเขามีชีวิตใหม่แล้ว
เราก็ยินดีค่ะ เหตุการณ์ดูเหมือนจะปกติทุกอย่าง แต่วันนึงกลับกลายมาเป็นละครหลังข่าว
เดือนมีนาคมย่าของน้องมารับ เขาได้บอกกับตา ยายของน้องว่าจะพาไปเที่ยว 2 อาทิตย์ ( เราไปทำงานค่ะ ไม่มีโอกาสได้พูดคุย )
เราก็ตั้งน่า ตั้งตารอ เมื่อไหร่จะเอามาส่งน้อ ตายายก็ได้แต่ชะเง้อคอมอง เมื่อไหร่หลานจะมา
โทรหาย่าก็ไม่รับสาย ....เช้าอีกวันเขาโทรกลับมาหายายของน้องว่า
ย่า : พี่ต้องทำใจ และเข้าใจหนูนะ หนูรับไม่ได้ที่หลานหนู กินหมูและเข้าวัด
ยาย : ????? (เงียบ ..ไม่ได้ตอบอะไร)
ย่า : พี่น่ะพาหลานเข้าวัด เห็นลงรูปในเฟส
ยาย : อ่อ พี่พาหลานไปไหว้ พ่อหลวง มา
ย่า : และพี่ก็ให้หลานกินหมู เด็กๆบอก
ยาย : แล้วเมื่อไหร่จะพาหลานมาส่ง
ย่า : ไม่มีกำหนดพี่ เพราะ แชร์ ( ปู่ทวดน้องซึ่งเคร่งศาสนามาก) รู้เรื่องหลานกินหมู
ยาย : แล้วแชร์ว่ายังไง
ย่า : เขาไม่ให้เอาหลานกลับมาแล้ว ไม่งั้นจะไม่ได้มรดก (นี่คือความคิดของตัวย่าเขา ) เขาบอกว่าเราจะตัดสิทธิ์ลูกหรอ จะเอาลูกคืน
ทั้งๆที่ตัวเอง ไม่มีปัญญาหาให้ลูก
สรุป คือ เขาหาข้ออ้างเอาลูกเราไปเพื่อรับมรดก จากปู่ทวด ซึ่งเราไม่ได้อยากได้แม้พ่อ แม่เราจะเป็นคนอีสาน แต่ไม่ได้ต่ำต้อย
ย่าเขามักพูดเสมอว่าเรา เป็นลาวไม่มีสมบัติ เลี้ยงลูกไม่ได้ดี ( แม่ศรีสะเกษ พ่อยโสธร ) บ้านปู่ทวดน้องมีเงิน มีสมบัติแต่บ้านย่าน้องไม่มี
ค่ะแต่ชอบเหยียบย่ำคนอื่นให้ดูดี ทุกอย่างที่มีล้วนแล้วแต่เป็นของ ปู่ทวดหมด
เราจะขอพูดข้อความข้างต้นว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงแบบไหน
1.พ่อของน้องหนีทหาร ออกมาใช้ชีวิตเสเพลให้แม่เลี้ยงและมีเมียใหม่
2.ทางบ้านพ่อของน้อง เป็นอิสลามแต่พ่อน้องกินหมูและทั้งครอบครัวพ่อน้องก็กินข้าวบ้านเราตั้งแต่ที่อยู่กันมาเพราะบ้านเราขายอาหาร
(drag free ) กินมาตั้งนานไม่มีปัญหา เลิกกันปุ๊บเอาเรื่องนี้มาพูด ซึ่งมันไร้สาระ
3. ย่าน้องกินเบียร์ เที่ยวผับ คบทอม มีลูก ของตนเองอีก 3 คนที่ต้องเลี้ยง
4 .เด็กๆอยู่กับน้าชายที่อายุ16 ปี เลี้ยงดูในช่วงเวลาย่าไปทำงาน
5. โทรไปหาเด็กๆ ได้คุยเป็นบางครั้ง บางคราว
6.เด็กๆทั้งสอง ได้พูดว่า ม่าม๊า เมื่อไหร่จะมารับหนูสักที ( มันหมายความว่าเด็กไม่มีความสุข ใช่ หรือ ไม่ )
7. เราอยากได้ลูกคืน เราต้องทำยังไง
ช่วยเราทีนะค่ะ เราใจจะขาดแล้ว
คำถามอาจมีหลายข้อ บางคำถามำยายามหาใน กูเกิลแล้วค่ะแต่ไม่ค่อยตรงอยากได้ผู้รู้จริง เราเชื่อว่าจะหาได้จากกระทู้นี้
คำถามที่ 1.ย่าเขามีสิทธิ์ที่จะนำหลานไปแบบนี้หรือไม่ โดยเราไม่ได้ยินยอม
" 2.ลูกนามสกุลพ่อ ต้องการเปลี่ยนต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ไม่ได้จดทะเบียนสมรส จำเป็นต้องให้ฝ่ายพ่อเด็กยินยอมหรือไม่
" 3.ทะเบียนบ้านลูกชาย อยู่ในบ้านของปู่ทวด จะย้ายมาบ้านเราได้มั้ยเอกสารอย่างอื่นมีครบ
" 4. ส่วนคนเล็ก เราเพิ่งรู้ตอนจะพาเข้า ร.ร ว่าลูกสาวอยู่ทะเบียนกลาง เราสามารถย้ายบ้านเราเลยได้มั้ย แต่เอกสารคนเล็กย่าเขาย้ายบ้านทำหาย
หมดเลย เรามีแค่สมุดสีชมพู ที่เขามีไว้ให้เด็กไปฉีดยาตามอายุแค่นั้นของคนเล็ก เราจะแก้ไขส่วนนี้ยังไง
" 5.บ้านย่าเขามีอำนาจพอที่จะทำร้ายครอบครัวเราด้านมืด เราแจ้งความไว้ก่อนได้มั้ย เพราะย่าเขามักจะข่มขู่ครอบครัวเราอยู่เสมอว่าใครมีปัญหา
เดี๋ยวเจอดี
" 6.ถ้าเรื่องจำเป็นต้องขึ้นศาลจริงๆ มรดกทางบ้านปู่ทวดเขาเกี่ยวข้องหรือไม่ กับการมีสิทธิ์รับเลี้ยงหลาน
" 7.ศาลจะตัดสินอะไรกับการมีสิทธิ์เลี้ยงดูเด็ก
" 8.ถ้าขึ้นศาลพ่อของเด็กจะมีความผิด คดีหนีทหารด้วยหรือไม่ถ้ามีสิทธิ์จะเอนเอียงไปทางย่ามั้ย(กลัวเรื่องมรดกจริงๆเพราะเราไม่มีสมบัติอะไรไป
สู้เขา บ้านก็มีอยู่ที่ต่างจังหวัด พ่อแม่เราก็เปิดร้านขายอาหารธรรมดา มีรายได้พอประมาณ เราก็เป็นแค่มนุษย์เงินเดือน )
คำถามก็มีเพียงเท่านี้ เราต้องการคำพูดที่จะนำไปโต้วาทีอย่างมีสติกับ ปู่ทวดเขาเพราะเป็นผู้พิพากษาเก่า ซึ่งแน่นอนเราเปรียบเสมือนลูกไก่ในกำมือ ส่วนตัว ย่าของน้องเผาไล่ที่ก็เห็นมาแล้ว กระทืบผู้มาเช่าอาศัยในที่ดินก็เห็นมาแล้ว( เบี้ยวค่าเช่า ) มีอีกหลายๆอย่างด้านมืดที่ ย่าของน้องทำได้
......คือ....เรากลัวว่าการกระทำที่เราจะทำ คือ พ่อแม่เราจะเดือดร้อนภายหลังมั้ย เราเลยอยากเอาชนะเขาให้อยู่หมัด พ่อกับแม่เราก็ได้แต่บอกว่าไปเอามาเลยไปเอาหลานมาเลย ( พ่อ แม่เรายังไม่เคยรู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ทำอะไรได้บ้าง ) ผลีผลามไปเอาคืนมาไม่ได้ ร่างกายเราได้ปะทะแน่นอน
เพราะสิ่งที่ย่า เขากำลังทำอยู่นี่คือ การเอาหลานไปเป็นประกันในการรับมรดก ถ้าเราไปขัดขวางซึ่งๆหน้า มันมาถอนหงอกพ่อแม่เราแน่ๆ
ความต้องการของย่าเขา แค่อยู่รอ มรดกอีกไม่กี่ปี ได้แล้วก็จะเอาหลานมาคืนเอง เพราะเลี้ยงเด็กภาระมันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เขาคงไม่อยากมีภาระหรอก
เขายังสาวอยู่ แต่ พ่อ แม่ และเราสงสารลูก รอไม่ไหวถึงตอนนั้น
น้ำเสียงวันก่อนไป ลูกสาวเราพูดว่า " ยายหนูไม่อยากไป " จนตอนนี้ก็ยังพูดอยู่ เมื่อไหร่ ยายกับม่าม๊า จะมารับหนู
ขอจบกระทู้เพียงเท่านี้นะค่ะ พิมไปร้องไห้ไป
ขอความกรุณากับผู้รู้ นักกฎหมาย หรือใครก็ได้ มาชี้แจงให้เราไปต่อกลอน กับบุคคลแบบนี้ที
และขอขอบคุณ ผู้ที่เข้ามาอ่านกระทู้จนจบนะค่ะ
คุณย่าที่คลั่งอำนาจ กับ หัวอกคนเป็นแม่ต้องการลูกคืน
ต้องการผู้รู้ ด้านกฎหมายครอบครัว และบุคคลที่สอนให้รู้หลักในการพูดที่สามารถฟันธง โช๊ะ โช๊ะ โช๊ะ เลย
เริ่มเลยนะค่ะ..เรื่องมีอยู่ว่า เรามีลูก 2 ชายคน,หญิงคน แต่ตอนนี้ไปอยู่กับย่าเขาแล้วค่ะ
ย่าเขามารับไปเมื่อ 2เดือนที่แล้ว
เรากับพ่อของน้องเลิกกันมาจะปีกว่าแล้วค่ะ ซึ่งตอนเลิกทั้งสองฝ่ายไม่มีปัญหาอะไรกันค่ะ เพราะฝ่ายชายแอบมีใหม่ก่อนติดทหาร
เราก็ได้หนีจากฝันร้าย มาหางานทำ กลับมาสู่บ้านพ่อแม่....ทางแม่ฝ่ายชายไม่อนุญาติให้เรานำลูกกลับมาด้วยเพราะลูกเราเรียนอยู่
เราเลยเคลียกันลงตัวค่ะ จนลูกชายปิดเทอมใหญ่เขาก็เอาลูกเรากลับมาให้เราเลี้ยง เนื่องจากแม่ฝ่ายชายเลิกกับแฟนของเขา ก็เอาลูกเรามาวางแหมะไว้แล้วบอกแค่ว่า วันไหนว่างจะเข้ามารับไปเล่น ทางพ่อของน้องติดทหารอยู่ 3เดือน แม่เขาก็ใช้เงินยัดออกมาจากการติดทหาร
แต่ออกมาแล้วไม่เคยมาดูลูกเลยสักครั้ง คือทางแม่ฝ่ายชาย เขาบอกว่า ลูกเขามีชีวิตใหม่แล้ว
เราก็ยินดีค่ะ เหตุการณ์ดูเหมือนจะปกติทุกอย่าง แต่วันนึงกลับกลายมาเป็นละครหลังข่าว
เดือนมีนาคมย่าของน้องมารับ เขาได้บอกกับตา ยายของน้องว่าจะพาไปเที่ยว 2 อาทิตย์ ( เราไปทำงานค่ะ ไม่มีโอกาสได้พูดคุย )
เราก็ตั้งน่า ตั้งตารอ เมื่อไหร่จะเอามาส่งน้อ ตายายก็ได้แต่ชะเง้อคอมอง เมื่อไหร่หลานจะมา
โทรหาย่าก็ไม่รับสาย ....เช้าอีกวันเขาโทรกลับมาหายายของน้องว่า
ย่า : พี่ต้องทำใจ และเข้าใจหนูนะ หนูรับไม่ได้ที่หลานหนู กินหมูและเข้าวัด
ยาย : ????? (เงียบ ..ไม่ได้ตอบอะไร)
ย่า : พี่น่ะพาหลานเข้าวัด เห็นลงรูปในเฟส
ยาย : อ่อ พี่พาหลานไปไหว้ พ่อหลวง มา
ย่า : และพี่ก็ให้หลานกินหมู เด็กๆบอก
ยาย : แล้วเมื่อไหร่จะพาหลานมาส่ง
ย่า : ไม่มีกำหนดพี่ เพราะ แชร์ ( ปู่ทวดน้องซึ่งเคร่งศาสนามาก) รู้เรื่องหลานกินหมู
ยาย : แล้วแชร์ว่ายังไง
ย่า : เขาไม่ให้เอาหลานกลับมาแล้ว ไม่งั้นจะไม่ได้มรดก (นี่คือความคิดของตัวย่าเขา ) เขาบอกว่าเราจะตัดสิทธิ์ลูกหรอ จะเอาลูกคืน
ทั้งๆที่ตัวเอง ไม่มีปัญญาหาให้ลูก
สรุป คือ เขาหาข้ออ้างเอาลูกเราไปเพื่อรับมรดก จากปู่ทวด ซึ่งเราไม่ได้อยากได้แม้พ่อ แม่เราจะเป็นคนอีสาน แต่ไม่ได้ต่ำต้อย
ย่าเขามักพูดเสมอว่าเรา เป็นลาวไม่มีสมบัติ เลี้ยงลูกไม่ได้ดี ( แม่ศรีสะเกษ พ่อยโสธร ) บ้านปู่ทวดน้องมีเงิน มีสมบัติแต่บ้านย่าน้องไม่มี
ค่ะแต่ชอบเหยียบย่ำคนอื่นให้ดูดี ทุกอย่างที่มีล้วนแล้วแต่เป็นของ ปู่ทวดหมด
เราจะขอพูดข้อความข้างต้นว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงแบบไหน
1.พ่อของน้องหนีทหาร ออกมาใช้ชีวิตเสเพลให้แม่เลี้ยงและมีเมียใหม่
2.ทางบ้านพ่อของน้อง เป็นอิสลามแต่พ่อน้องกินหมูและทั้งครอบครัวพ่อน้องก็กินข้าวบ้านเราตั้งแต่ที่อยู่กันมาเพราะบ้านเราขายอาหาร
(drag free ) กินมาตั้งนานไม่มีปัญหา เลิกกันปุ๊บเอาเรื่องนี้มาพูด ซึ่งมันไร้สาระ
3. ย่าน้องกินเบียร์ เที่ยวผับ คบทอม มีลูก ของตนเองอีก 3 คนที่ต้องเลี้ยง
4 .เด็กๆอยู่กับน้าชายที่อายุ16 ปี เลี้ยงดูในช่วงเวลาย่าไปทำงาน
5. โทรไปหาเด็กๆ ได้คุยเป็นบางครั้ง บางคราว
6.เด็กๆทั้งสอง ได้พูดว่า ม่าม๊า เมื่อไหร่จะมารับหนูสักที ( มันหมายความว่าเด็กไม่มีความสุข ใช่ หรือ ไม่ )
7. เราอยากได้ลูกคืน เราต้องทำยังไง
ช่วยเราทีนะค่ะ เราใจจะขาดแล้ว
คำถามอาจมีหลายข้อ บางคำถามำยายามหาใน กูเกิลแล้วค่ะแต่ไม่ค่อยตรงอยากได้ผู้รู้จริง เราเชื่อว่าจะหาได้จากกระทู้นี้
คำถามที่ 1.ย่าเขามีสิทธิ์ที่จะนำหลานไปแบบนี้หรือไม่ โดยเราไม่ได้ยินยอม
" 2.ลูกนามสกุลพ่อ ต้องการเปลี่ยนต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ไม่ได้จดทะเบียนสมรส จำเป็นต้องให้ฝ่ายพ่อเด็กยินยอมหรือไม่
" 3.ทะเบียนบ้านลูกชาย อยู่ในบ้านของปู่ทวด จะย้ายมาบ้านเราได้มั้ยเอกสารอย่างอื่นมีครบ
" 4. ส่วนคนเล็ก เราเพิ่งรู้ตอนจะพาเข้า ร.ร ว่าลูกสาวอยู่ทะเบียนกลาง เราสามารถย้ายบ้านเราเลยได้มั้ย แต่เอกสารคนเล็กย่าเขาย้ายบ้านทำหาย
หมดเลย เรามีแค่สมุดสีชมพู ที่เขามีไว้ให้เด็กไปฉีดยาตามอายุแค่นั้นของคนเล็ก เราจะแก้ไขส่วนนี้ยังไง
" 5.บ้านย่าเขามีอำนาจพอที่จะทำร้ายครอบครัวเราด้านมืด เราแจ้งความไว้ก่อนได้มั้ย เพราะย่าเขามักจะข่มขู่ครอบครัวเราอยู่เสมอว่าใครมีปัญหา
เดี๋ยวเจอดี
" 6.ถ้าเรื่องจำเป็นต้องขึ้นศาลจริงๆ มรดกทางบ้านปู่ทวดเขาเกี่ยวข้องหรือไม่ กับการมีสิทธิ์รับเลี้ยงหลาน
" 7.ศาลจะตัดสินอะไรกับการมีสิทธิ์เลี้ยงดูเด็ก
" 8.ถ้าขึ้นศาลพ่อของเด็กจะมีความผิด คดีหนีทหารด้วยหรือไม่ถ้ามีสิทธิ์จะเอนเอียงไปทางย่ามั้ย(กลัวเรื่องมรดกจริงๆเพราะเราไม่มีสมบัติอะไรไป
สู้เขา บ้านก็มีอยู่ที่ต่างจังหวัด พ่อแม่เราก็เปิดร้านขายอาหารธรรมดา มีรายได้พอประมาณ เราก็เป็นแค่มนุษย์เงินเดือน )
คำถามก็มีเพียงเท่านี้ เราต้องการคำพูดที่จะนำไปโต้วาทีอย่างมีสติกับ ปู่ทวดเขาเพราะเป็นผู้พิพากษาเก่า ซึ่งแน่นอนเราเปรียบเสมือนลูกไก่ในกำมือ ส่วนตัว ย่าของน้องเผาไล่ที่ก็เห็นมาแล้ว กระทืบผู้มาเช่าอาศัยในที่ดินก็เห็นมาแล้ว( เบี้ยวค่าเช่า ) มีอีกหลายๆอย่างด้านมืดที่ ย่าของน้องทำได้
......คือ....เรากลัวว่าการกระทำที่เราจะทำ คือ พ่อแม่เราจะเดือดร้อนภายหลังมั้ย เราเลยอยากเอาชนะเขาให้อยู่หมัด พ่อกับแม่เราก็ได้แต่บอกว่าไปเอามาเลยไปเอาหลานมาเลย ( พ่อ แม่เรายังไม่เคยรู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ทำอะไรได้บ้าง ) ผลีผลามไปเอาคืนมาไม่ได้ ร่างกายเราได้ปะทะแน่นอน
เพราะสิ่งที่ย่า เขากำลังทำอยู่นี่คือ การเอาหลานไปเป็นประกันในการรับมรดก ถ้าเราไปขัดขวางซึ่งๆหน้า มันมาถอนหงอกพ่อแม่เราแน่ๆ
ความต้องการของย่าเขา แค่อยู่รอ มรดกอีกไม่กี่ปี ได้แล้วก็จะเอาหลานมาคืนเอง เพราะเลี้ยงเด็กภาระมันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เขาคงไม่อยากมีภาระหรอก
เขายังสาวอยู่ แต่ พ่อ แม่ และเราสงสารลูก รอไม่ไหวถึงตอนนั้น
น้ำเสียงวันก่อนไป ลูกสาวเราพูดว่า " ยายหนูไม่อยากไป " จนตอนนี้ก็ยังพูดอยู่ เมื่อไหร่ ยายกับม่าม๊า จะมารับหนู
ขอจบกระทู้เพียงเท่านี้นะค่ะ พิมไปร้องไห้ไป
ขอความกรุณากับผู้รู้ นักกฎหมาย หรือใครก็ได้ มาชี้แจงให้เราไปต่อกลอน กับบุคคลแบบนี้ที
และขอขอบคุณ ผู้ที่เข้ามาอ่านกระทู้จนจบนะค่ะ