ช่างเป็นช่วงเย็นที่สดชื่นและสวยงามเสียเหลือเกินในความรู้สึกของผม หลังจากที่ผ่านการวิ่งระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร และแน่นอนว่าสถานที่สวยๆ แบบนี้คือ “บุ่งตาหลั่ว” ที่โคราชนี้เอง ชื่ออาจจะดูแปลกๆ หน่อย บุ่งตาหลั่วเป็นสวนสาธารณะที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ มีลานดนตรีลานสำหรับวาดภาพ และลู่สำหรับวิ่งและปั่นจักรยานระยะทางต่อรอบ 3.2 กิโลเมตร ถ้าคุณมาที่แห่งนี้คุณจะพบกับครอบครัวที่แสนอบอุ่น เจอกับน้องๆ นักศึกษาที่มาหัดถ่ายภาพกัน
สวนสาธารณะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคู่รักที่หาสถานที่ไปเดินเล่นในตอนกลางวัน และอยากสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมกับทำกิจกรรมสนุก ๆ เช่น ปั่นจักรยาน ให้อาหารปลา หรือเดินจับมือกัน นึกแล้วสุดแสนโรแมนติก อาจจะเป็นคู่ที่เพิ่งคบกันหรือคู่แต่งงานแล้ว
สมมุติว่ามีคู่รักคู่หนึ่งอาจจะมาดูสถานที่แห่งนี้สำหรับถ่ายพรีเวดดิ้ง สมมุติว่าชื่อต้นกับเนยแล้วกัน ทั้งคู่เดินคุยกันเรื่องการจัดงานแต่งงาน โดยวางแผนไว้ที่จะใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่สำหรับถ่ายพรีเวดดิ้ง จริงๆ แล้วต้นอยากได้แนวสตีทๆ ลุยๆ มากว่า แต่เค้าไม่อยากขัดใจเนยที่อยากใส่ชุดเจ้าสาวหางยาวๆ ปลิวไสวเวอร์วัง ต้นและเนยเข้าสู่งวัยกลางคน อายุทั้งคู่เท่ากันคือ 30 ปี ทั้งคู่เป็นแฟนกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย จริงๆ แล้วต้นและเนยเป็นเพื่อนกันมาก่อน เพราะตอนนั้นเนยมีแฟนอยู่แล้วคนหนึ่ง ซึ่งแฟนเนยคนนั้นวันๆ ไม่ค่อยทำอะไรเลยนอกจากเล่นเกมส์ ส่วนต้นก็ไม่เคยมีแฟนเลย ชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในวงเหล้ากับเพื่อนฝูงมากกว่า พอช่วงปี 4 ต้นและเนยมีโอกาสได้คุยกันมากขึ้นเนื่องจากมีโอกาสฝึกงานที่เดียวกัน ประสบกับจังหวะที่เนยเลิกกับแฟนพอดี ทั้งคู่เลยคลิ๊กกัน
ระหว่างที่ต้นและเนยเดินคุยกันเรื่องงานแต่งงาน ผมสังเกตุเห็นและได้ยินว่าทั้งสองเริ่มมีปากเสียงกัน ต้นมีความคิดว่าควรจะจัดงานแต่งแบบเรียบง่าย ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมาย เพราะเค้าคิดว่าการแสดงออกซึ่งความรักของเค้าสำหรับการแต่งงานไม่ใช่ที่สุด ส่วนเนยอยากให้งานออกมาดีและประทับใจ เพราะครอบครัวของเธอก็ไม่ได้เรียกร้องค่าสินสอดสักบาทเดียว ถ้าจัดงานดีๆ มันก็เป็นการให้เกียรติครอบครัวฝ่ายหญิงเช่นกันและมันคือครั้งเดียวในชีวิตลูกผู้หญิง
ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกันดังขึ้นขณะเดินผ่านผมไป ผมก็ได้แต่ยืนยืดเหยียดกล้ามเนื้อไปพลางๆ เพื่อแอบฟัง จริงๆ แล้วในความคิดของผมการแต่งงานมันคือครั้งหนึ่งในชีวิตก็จริง แต่มันไม่ใช้ที่สุดของชีวิต ทั้งคู่จะต้องมาเลิกกันเพราะเรื่องงานแต่งอย่างนี้เลยเหรอ ผมได้ยินแล้วรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก ได้แต่แอบฟังทั้งคู่เดินผ่านไป ซึ่งการเดินรอบสวนบุ่งตาหลั่วแห่งนี้ แบบช้าๆ เลยน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ผมได้แต่ภาวนาว่าทั้งคู่จะตกลงกันได้และเดินจับมือคู่กันพร้อมรอยยิ้มเช่นเดิม
สำหรับขาเผือกอย่างผมนั่งรอสิครับเล่นมือถือไปพลางๆ พร้อมกับเดินไปซื้อน้ำมะพราว น้ำมะพร้าววันนี้รสชาติค่อยข้างออกเปรี้ยวๆ นิดหน่อย ไม่หวานเหมือนเช่นทุกวัน ผมดูดน้ำมะพร้าวไปใจผมก็ยังระทึกกับสิงที่เฝ้ารอ ผ่านไปยังไปถึง 30 นาที ผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมจะมานั่งรออะไร เมื่อต้นกับเนยมันไม่มีอยู่จริง...
บุ่งตาหลั่ว
ช่างเป็นช่วงเย็นที่สดชื่นและสวยงามเสียเหลือเกินในความรู้สึกของผม หลังจากที่ผ่านการวิ่งระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร และแน่นอนว่าสถานที่สวยๆ แบบนี้คือ “บุ่งตาหลั่ว” ที่โคราชนี้เอง ชื่ออาจจะดูแปลกๆ หน่อย บุ่งตาหลั่วเป็นสวนสาธารณะที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ มีลานดนตรีลานสำหรับวาดภาพ และลู่สำหรับวิ่งและปั่นจักรยานระยะทางต่อรอบ 3.2 กิโลเมตร ถ้าคุณมาที่แห่งนี้คุณจะพบกับครอบครัวที่แสนอบอุ่น เจอกับน้องๆ นักศึกษาที่มาหัดถ่ายภาพกัน
สวนสาธารณะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคู่รักที่หาสถานที่ไปเดินเล่นในตอนกลางวัน และอยากสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมกับทำกิจกรรมสนุก ๆ เช่น ปั่นจักรยาน ให้อาหารปลา หรือเดินจับมือกัน นึกแล้วสุดแสนโรแมนติก อาจจะเป็นคู่ที่เพิ่งคบกันหรือคู่แต่งงานแล้ว
สมมุติว่ามีคู่รักคู่หนึ่งอาจจะมาดูสถานที่แห่งนี้สำหรับถ่ายพรีเวดดิ้ง สมมุติว่าชื่อต้นกับเนยแล้วกัน ทั้งคู่เดินคุยกันเรื่องการจัดงานแต่งงาน โดยวางแผนไว้ที่จะใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่สำหรับถ่ายพรีเวดดิ้ง จริงๆ แล้วต้นอยากได้แนวสตีทๆ ลุยๆ มากว่า แต่เค้าไม่อยากขัดใจเนยที่อยากใส่ชุดเจ้าสาวหางยาวๆ ปลิวไสวเวอร์วัง ต้นและเนยเข้าสู่งวัยกลางคน อายุทั้งคู่เท่ากันคือ 30 ปี ทั้งคู่เป็นแฟนกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย จริงๆ แล้วต้นและเนยเป็นเพื่อนกันมาก่อน เพราะตอนนั้นเนยมีแฟนอยู่แล้วคนหนึ่ง ซึ่งแฟนเนยคนนั้นวันๆ ไม่ค่อยทำอะไรเลยนอกจากเล่นเกมส์ ส่วนต้นก็ไม่เคยมีแฟนเลย ชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในวงเหล้ากับเพื่อนฝูงมากกว่า พอช่วงปี 4 ต้นและเนยมีโอกาสได้คุยกันมากขึ้นเนื่องจากมีโอกาสฝึกงานที่เดียวกัน ประสบกับจังหวะที่เนยเลิกกับแฟนพอดี ทั้งคู่เลยคลิ๊กกัน
ระหว่างที่ต้นและเนยเดินคุยกันเรื่องงานแต่งงาน ผมสังเกตุเห็นและได้ยินว่าทั้งสองเริ่มมีปากเสียงกัน ต้นมีความคิดว่าควรจะจัดงานแต่งแบบเรียบง่าย ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมาย เพราะเค้าคิดว่าการแสดงออกซึ่งความรักของเค้าสำหรับการแต่งงานไม่ใช่ที่สุด ส่วนเนยอยากให้งานออกมาดีและประทับใจ เพราะครอบครัวของเธอก็ไม่ได้เรียกร้องค่าสินสอดสักบาทเดียว ถ้าจัดงานดีๆ มันก็เป็นการให้เกียรติครอบครัวฝ่ายหญิงเช่นกันและมันคือครั้งเดียวในชีวิตลูกผู้หญิง
ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกันดังขึ้นขณะเดินผ่านผมไป ผมก็ได้แต่ยืนยืดเหยียดกล้ามเนื้อไปพลางๆ เพื่อแอบฟัง จริงๆ แล้วในความคิดของผมการแต่งงานมันคือครั้งหนึ่งในชีวิตก็จริง แต่มันไม่ใช้ที่สุดของชีวิต ทั้งคู่จะต้องมาเลิกกันเพราะเรื่องงานแต่งอย่างนี้เลยเหรอ ผมได้ยินแล้วรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก ได้แต่แอบฟังทั้งคู่เดินผ่านไป ซึ่งการเดินรอบสวนบุ่งตาหลั่วแห่งนี้ แบบช้าๆ เลยน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ผมได้แต่ภาวนาว่าทั้งคู่จะตกลงกันได้และเดินจับมือคู่กันพร้อมรอยยิ้มเช่นเดิม
สำหรับขาเผือกอย่างผมนั่งรอสิครับเล่นมือถือไปพลางๆ พร้อมกับเดินไปซื้อน้ำมะพราว น้ำมะพร้าววันนี้รสชาติค่อยข้างออกเปรี้ยวๆ นิดหน่อย ไม่หวานเหมือนเช่นทุกวัน ผมดูดน้ำมะพร้าวไปใจผมก็ยังระทึกกับสิงที่เฝ้ารอ ผ่านไปยังไปถึง 30 นาที ผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมจะมานั่งรออะไร เมื่อต้นกับเนยมันไม่มีอยู่จริง...