หลังจากที่ห่างหายไปนาน เนื่องจากภาระกิจส่วนตัว จึงไม่ได้ทำการรีวิวของเล่นใหม่ๆ เพิ่มเติม แต่การใช้งาน และการเปลี่ยน Smartwatch รุ่นใหม่ๆ ของผม ยังมีใหม่เข้ามาเรี่อยๆ ตามความอยากและปัจจัยทางการเงินพี่พอจะหาซื้อได้

โดยยังโฟกัสกลุ่มที่ราคาไม่แพงระดับ 800-2,000 บาทเป็นหลัก ซึ่งน่าจะเหมาะกับหลายๆท่านที่อยากเริ่มใช้งาน หรือเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่กำลังอยากเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ๆ
โดยช่วงเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มใช้ ตั้งแต่ปี 2558 หลายๆ รุ่น ตามรีวิว
Moov X6 https://ppantip.com/topic/33893936
DZ09 https://ppantip.com/topic/34026414  
Moov i5 Plus https://ppantip.com/topic/34461323

พอช่วงปี 2559 ทางเจ้าของแบร์น Moov  ผู้ใจดีได้ส่ง Moov i7 ซึ่งเป็น Smartwatch กลุ่ม Activity Tracker ที่มี Heart Rate  รุ่นแรกๆ ที่ไม่แพงมาก เข้ามาในไทย มาให้ทำการทดสอบ โดยส่วนตัวชอบมากๆ
ใช้อยู่เกือบๆ ปี ใส่ใช้งานจริงทุกวัน ถูกใจมากครับ แต่ราคาก็สูงอยู่พอสมควรสำหรับผม
ผมขอสรุป Timeline Smartwatch ของผมให้ดู ถูกบ้าง แพงบ้าง แต่ราคาที่แพงจัดคงยังไม่มี รายการ ตามนี้เลย

*ราคาแตกต่างไปตามช่วงเวลาและโปรโมชั่นนะครับ

รายการที่โชว์นี้ยังไม่รวมถึง นาฬิกาที่ผมสั่งมาจาก Ebay,Gearbest และนาฬิกาใส่ซิมสำหรับเด็ก ให้ลูกใส่ไป โรงเรียนอีกหลายเรือน ไว้พอมีเวลามารีวิวให้ทราบกัน

รีวิวนี้เกิดจากทางเจ้าของแบร์น Moov และผู้นำเข้าได้ส่งนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุด Moov i6HR มาให้ทดสองใช้ และประทับใจอย่างมาก จึงได้ทำรีวิวนี้ตอบแทนและชดเชยที่ได้ห่างหายไปนาน

โฟกัสของรีวิวนี้จะพูดถึงจุดเด่น จุดด้อย โดยยึด Moov i6HR เป็นหลัก โดยจะนำไปเปรียบเทียบกับ Smartwatch รุ่นอื่นๆ ที่ผมเคยใช้มา เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นนะครับ

- รูปลักษณ์ภายนอก

ตัวสาย Moov i6HR จะผลิตจากยาง TPU ที่ Smartwatch เกือบทุกรุ่นในตลาดนิยมใช้  ทั้ง Moov X6, Moov i7, Moov i5 Plus ,Mi Band 2 ก็ใช้วัสดุเดียวกันนี้เช่นกัน สามารถถอดตัวเรือนออกเปลี่ยนสายได้ ตามต้องการ จะมี Moov i7 ที่สามารถใช้สายนาฬิกาทั่วไป ในการเปลี่ยนทดแทนได้เลย
ยาง TPU ให้สัมผัสที่ดี ความนุ่มของแต่ละรุ่นแตกต่างกันนิดหน่อย Mi band2 จะนุ่มสุด แต่ไม่นุ่มขนาด U8 ที่เป็น Silicone ข้อดีของ TPU ตรงที่ไม่ระคายเคืองผิวหนัง ไม่คัน ไม่จับฝุ่น สามารถ ล้างด้วยน้ำยาล้างจาน แล้วเอาผ้าเช็ดๆ ก็แห้ง ใช้งานต่อได้เลย ตัวเรือนของ Moov i6HR ด้านหน้าเป็นอะคลีลิกใสเต็มตัว มีขอบเป็นพลาสติกเล็กๆ รอบจอ ด้านหลัง เป็นโลหะอัลลอยด์ ตัวเครื่องสามารถถอดออกจากสายได้ ดูแข็งแรงทนทานดี

น้ำหนักรวมสาย 20 กรัม ความกว้าง 2 ซม. สายยาวประมาณ 23 ซม. ใส่ได้ทั้ง ผู้ชายและผู้หญิง คนที่ข้อมือใหญ่ น้ำหนักตัวประมาณ 100 ก.ก. สามารถใส่ได้ครับ แต่ถ้าแขนใหญ่ๆ แบบชาวต่างชาติเลย อาจจะต้องลองวัดรอบวงข้อมือดูก่อนครับ

-  มาตรฐานการกันน้ำ
เป็นมาตรฐานปัจจุบันไปแล้วที่ Smartwatch รุ่นใหม่ๆ จะต้องกันน้ำได้ดีขึ้น โดย Moov i6HR จะเป็นแบบ IP67 ซึ่งอุปกรณ์ Smartwatch ส่วนใหญ่ จะพยายามให้กันน้ำที่ระดับนี้กันเกือบทุกรุ่น
ท่านอาจจะได้ยิน IP67 กับ iPhone 7 รุ่นล่าสุดมาแล้ว ใช่ครับกันน้ำที่มาตรฐานเดียวกันเลย มาตรฐานนี้กันน้ำได้ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร และแช่อยู่ในน้ำได้นาน 30 นาที หากลึกและนานเกินนั้นไม่แนะนำครับ อุปกรณ์อาจเสียหายได้ เนื่องจากมีแรงดันน้ำมาเกี่ยวข้อง ทำให้น้ำอาจเข้าไปได้ ระดับ IP67 ส่วนตัวผมคิดว่าเพียงพอกับการใช้งานทั่วไปแบบไม่ต้องระวังเรื่องน้ำเลย แม้แต่ใส่ Moov i6HR ว่ายน้ำปกติ ที่ผมลองมาแล้วก็ไม่เสียหายครับ ซึ่ง Mi Band 2 ก็ได้มาตรฐานนี้เช่นกัน
ส่วน IP65 นั่นจะกันได้แต่ระดับน้ำผ่านเท่านั้น ถ้าจุ่มลงน้ำเลย ก็มีโอกาสเดี้ยงนะจ๊ะ หากตัวไหนไม่ได้ระบุ IP67 แนะนำอย่าไปเสี่ยงดีกว่าครับ
ผมนำข้อมูล มาตรฐานการป้องกันฝุ่นและน้ำมาเป็นข้อมูลเพิ่มเติม ตามรูปเลยครับ

- การชาร์จและระยะเวลาการใช้งาน
ปัจจัยสำคัญข้อนึงของผม ในการเลือกซื้อ เลือกใช้ Smartwatch คือระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จในแต่ละครั้ง รุ่นที่ผมพอใจเรื่องระยะเวลามากที่สุดคือ Mi Band 2 ที่ชาร์จครั้งนึงจะได้ประมาณ 10 วัน ส่วนกลุ่ม Moov i5 Plus, i7, i6 HR  จะใช้งานได้ 5 วัน ผมจึงตัดสินใจเลือกซื้อ Mi Band 2 มาใช้งานสักระยะ แต่สุดท้ายแล้วผมก็ใช้งาน Mi Band 2 ได้ไม่นาน เนื่องจากหน้าจอที่เล็ก ไม่สะดวกต่อการใช้งานจริงๆ เพราะแสดงข้อความไม่ได้ (แสดงแต่ icon ทำให้ยิ่งสงสัย ต้องงัดโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีก) ผมเองอาจจะชินเพราะใช้แบบแสดงข้อความมาตลอดด้วยล่ะมั้ง
ข้อด้อยของ Mi Band 2 อีกอย่างคือต้องใช้สายชาร์จเฉพาะของตัวมันเอง เช่นเดียวกับ Moov i7,X6 ที่ใช้สายแบบแม่เหล็ก ต้องพกพาไปด้วยและหากเกิดหาไม่เจอหรือทำหายไปก็งานเข้าเลย หาซื้อใหม่ยากอีกด้วย
แต่ Moov i5 Plus, i6 HR  จะเป็นแบบถอดออกจากสาย แล้วเสียบชาร์จกับช่อง USB ได้เลยถือว่าสะดวก และออกแบบมาได้ดีทีเดียว ชอบๆ

- จอแสดงผล
Moov i6HR เป็นหน้าจอแบบสัมผัส ขนาด 0.96 นิ้ว หรือประมาณ 2.5 ซม. ความละเอียดสูง 128*64 pixel แบบ OLED ที่เปล่งแสงออกมาค่อนข้างสว่าง สู้แสงภายนอกได้ดีว่า X6, Mi Band2 และ i5 Plus แต่ยังสู้ Moov i7 ที่เป็นแบบ Memory LED ไม่ได้ จอใหญ่กว่า i5 Plus และใหญ่กว่า Mi Band 2 กว่า 2 เท่าเลยทีเดียว

Moov i6HR เปลี่ยนหน้าจอแสดงผลนาฬิกาได้หลากหลายรูปแบบ เหมาะกับทั้งชายหญิง บางหน้าจอแสดงอุณหภูมิแวดล้อมจากข้อมูลที่ส่งมาจาก Smartphone ด้วยนะ

การตอบสนองของ Moov i6HR ต่อการสัมผัสไวมากๆ แม้จะเปียกน้ำก็ยังใช้งานได้  ด้วยจอที่ใหญ่ ทำให้แสดงผลได้ข้อมูลมาก กว่า i5 Plus, Mi Band2 รองรับการแสดงภาษาไทยได้สมบูรณ์ สระไม่ลอยแล้วด้วย ทำให้อ่านง่าย ได้ข้อมูลมากขึ้น ตัวอักษรคมชัด รองรับ Line, Messenger ,SMS ,Email  อันนี้เป็นฟังก์ชั่นหลักที่ผมใช้งานเลย จะได้ไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเช็คข้อความบ่อยๆ อันไหนสำคัญค่อยหยิบมือถือขึ้นมาดู ความเสถียรต่อการใช้งานดี แทบไม่ค่อยหลุดในระยะเชื่อมต่อ หากลืมและการเชื่อมต่อหลุด ก็สามารถกลับเชื่อมต่อได้ไว ส่วนนี้ความเสถียรดีมาก เทียบเท่า Mi Band2 ซึ่งมีชื่อเสียงด้านความสเถียรอยู่แล้ว

ข้อมูลทั่วไป

- ฟังก์ชั่นหลักต่างๆ ด้าน Activity Tracker
ทั้ง Moov i6HR และ Mi Band 2 มีฟังก์ชั่นหลักๆ ในด้าน Activity Tracker คล้ายๆกัน Mi Band2 จะเหนือกว่าริดหน่อยเรื่องโหมดกีฬาที่เยอะกว่ามีการเก็บข้อมูลเป็นรายวันส่งไปยังแอพพลิเคชั่นบนมือถือเพื่อแสดงข้อมูลและสถิติ ประกอบไปด้วย
- บันทึกจำนวนก้าวการเดิน/วิ่ง
- คำนวณระยะทาง
- คำนวณพลังงานที่ใช้
- อัตราการเต้นของหัวใจ
- โหมดกีฬา เพื่อบันทึกข้อมูลการเล่นกีฬาต่างๆ ให้แม่นยำมากขึ้น
- การนอน
ภาพรวมด้าน Activity Tracker ของ Moov i6HR มี Sensor ที่บันทึกได้แม่นยำมากขึ้น กว่ารุ่นก่อนๆ ไม่พบการจับการก้าวที่ผิดเพี้ยนมากนัก ทำให้คำนวณระยะทางได้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น

อีกฟังก์ชั่นที่น่าสนใจคือ GPS Sport เป็นการบันทึกข้อมูลกิจกรรม การวิ่ง การปั่นจักรยาน ร่วมกับ GPS สมาร์ทโฟนแสดงเส้นทางกิจกรรมบนแผนที่ด้วย มีการแสดงความเร็ว สูงสุด และค่าเฉลี่ยต่างๆ ซึ่งแม่นยำและเหมาะกับ นักวิ่ง นักปั่นอีกด้วย

และที่พิเศษคือ หากเราทำกิจกรรม เช่น วิ่ง หรือ ปั่นจักรยาน Moov i6HR จะเข้าโหมดโดยอัตโนมัติเลย แม้กระทั่งผมขี่มอเตอร์ไซต์ ตัวนาฬิกาเองก็จะเข้าโหมดจักรยานให้เอง ถือว่า  Sensor จับพฤติกรรมได้ดีทีเดียว ชอบๆ

ด้านการบันทึกการนอน สามารถจับข้อมูลการนอน ได้ใกล้เคียงกับเวลาที่นอน และตื่นนอน ส่วนผลการนอนแบบหลับลึกหรือหลับปกติ ก็แสดงผลบนแอพได้เข้าใจง่ายขึ้น

- แอพพลิเคชั่น
Moov i6HR ใช้แอพลิเคชั่นเดียวกับ Moov รุ่นอื่นๆ โดยเวอร์ชั่นปัจจุบันจะใช้ Zeroner Health ซึ่งปรับปรุงจากแอพเดิม (Zeroner) ดีขึ้นมากพอสมควร แสดงผลได้ดี เข้าใจง่าย แสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจ ได้แบบ Zone พร้อมคำแนะนำในแต่ละ Zone ด้วย

หากจะเทียบกับ Mi Fit ที่ใช้ร่วมกับ Mi Band2 ส่วนตัวผมคิดว่า Mi Fit ออกแบบ UI ของแอพพลิเคชั่นได้ดีกว่า Zeroner Health นิดหน่อย โหมดกีฬา Mi Fit เองก็มีหลากหลายกว่า หาก  Mi ทำ Smartwatch จอใหญ่ๆ ออกมา ก็จะน่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะแอพดีอยู่แล้ว
แอพทั้ง 2 ยี่ห้อรองรับทั้ง iOS และ Android โดย Bluetooth ของ Smartphone ต้องเป็น Version 4 ด้วยนะ โดยเครื่อง Smartphone เดี๋ยวนี้ก็รองรับหมดแล้วล่ะครับ

- การแจ้งเตือนจากโทรศัพท์
หัวข้อนี้เป็นประเด็นหลักในการตัดสินใจของผมเอง ว่าจะเลือก Smartwatch รุ่นไหนติดตัว โดยก่อนที่จะใช้ i6 HR นั้น Smartwatch ที่ผมใช้งานนานที่สุดเกือบ 1 ปี คือ Moov i7 เนื่องจากเป็นรุ่นที่หน้าจอใหญ่ แสดงผลข้อความได้เยอะ จอใหญ่ ใช้งานได้นาน จนมาปลดประจำการ และมาใช้ Mi Band2 อยู่ประมาณ 1 เดือน ซึ่งยังไม่ประทับใจนักกับ Mi Band2 จนเมื่อได้ของใหม่ที่พอทดแทน Moov i7 ได้ นั่นคือ Moov i6 HR ตัวนี้รองรับการแสดงข้อความ 8 ข้อความย้อนหลัง หน้าจอใหญ่ แสดงข้อความได้เยอะ และวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้เหมือนๆกับ Moov i7 แม้จอเล็กกว่าพอสมควร ได้ได้ข้อมูลต่างกันไม่มาก จึงประทับใจกับ Moov i6 HR มากมาย

ในหัวข้อนี้ Mi Band2 แพ้แบบหลุดลุ่น ไม่เห็นฝุ่นเลย เนื่องจาก Mi Band2 แสดงแต่ Icon ว่ามี Line มี Messenger หรือ Facebook Notification เข้ามา ยิ่งทำให้กระวนกระวายใจ เพราะอยากรู้ว่าใครส่งข้อความอะไรมา -*- ไม่ประทับใจเลยจริงๆ

- บทสรุปจากการใช้งาน
ผมขอสรุปจากความเห็นส่วนตัว หลังจากที่ผมใช้ Smartwatch มาหลายรุ่น รุ่นที่ประทับใจและใช้งานที่สุดคือ Moov i7 ถัดมาก็เป็น Moov i6 HR รองลงมาจะเป็น Moov i5 Plus ส่วน Mi Band2 ใส่จริงไม่ถึงเดือนจริงๆ ไม่ประทับใจมากนัก
Smartwatch ทุกเรือนของผมเก็บไว้สะสมเป็นคอเล็คชั่นตั้งแต่เรืนแรก X6 เป็นต้นมา ไม่ยกให้ใครด้วยครับ หวงมาก จริงๆ แล้ว Gadget แต่ละตัวของผม มันเหมือนเครื่องประดับเสมือนที่ผู้หญิงชอบซื้อ มันสนองความอยากรู้อยากลอง ความสงสัยส่วนตัว ทำให้แค่ละอันมีมูลค่ามากกว่าที่ซื้อจริง และหากใครอยากให้รีวิวรุ่นแพงๆ ติดต่อมาได้ครับ แต่ผมไม่คืนให้นะ รีวิวเสร็จยึดเลย อิอิ

ตารางเปรียบเทียบแบบคร่าวๆ
นน
Moov i7 ได้ 9 คะแนน
Moov i6 HR ได้ 8 คะแนน
Mi Band2 ได้ 7 คะแนน

ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว ลำเอียงบ้าง ตรงไปตรงมาบ้างตามความชอบส่วนตัว แต่ทั้งหมดรับรองออกมาจากความรู้สึกจริงครับ

หากมีประเด็นอื่นสงสัย สอบถาม ทาง Line ที่ QR ด้านล่าง

ยินดีตอบทุกคำถาม หากตอบช้าไปบ้าง อย่าถือโทษโกรธกันนะครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าเข้าที่
Video รีวิวสินค้าดูที่ http://bit.ly/YoutubeMoovI6HR
Facebook Page https://www.facebook.com/MoovStoreThailand/  ได้เลยครับ
ขอบคุณ เจ้าของแบร์น Moov ที่ส่ง Smartwatch ดีๆ มาให้ใช้งาน

ขอบคุณครับ
ปัญญานิ่ม