สำหรับเด็กเวิร์คที่ต้องเก็บเงินมาคืนพ่อกับแม่การหา Second Job นั้นเรียกได้ว่าเป็นทางออกทางหนึ่งเลย เนื่องจากถ้าเราอยู่ในตัวเมืองที่ใครหลายๆคนเห็นว่ามันสะดวกสบาย ซึ่งก็ไม่เถียงค่ะ แต่ในความสบายนั้นก็มีข้อเสียตรงที่ค่าใช้จ่ายมันเพิ่มขึ้นเท่าตัวเทียบกับการไปเวิร์คเแถบรัฐในชนบท ก่อนอื่นมาดูกันก่อนเลยว่าระหว่างเราอยู่ที่อเมริกาเราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ยกตัวอย่างเช่น เราทำงานอยู่ใน Washington DC ค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบคือ
- ค่าบ้าน: $300/เดือน
- ค่าเน็ต: $84/เดือน
- ค่าเดินทาง: $140/เดือน
- ค่ากิน: $480/เดือน
รวม $1004 ต่อเดือน ส่วน Paycheckที่ออกนั้นตก $800-$1100ต่อเดือน คือแค่ทำมาใช้ไปก็แทบจะไม่พอ ถ้าไม่หา Second Job มีหวังไม่เหลือเงินกลับบ้านแน่นอน
เราก็เลยสรรหาสารพัดวิธีเพื่อหา Second Job เลยคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหางานอยู่ ซึ่งที่เราจดไว้มีอยู่6วิธีด้วยกัน คือ
1.
เข้าไปในตัวเมือง : ในตัวเมืองมักมีงานหลากหลายที่นายจ้างเปิดรับสมัคร เช่น ร้านอาหาร, โรงแรม, ห้างสรรพสินค้า
2.
Now Hiring : มองหาคำนี้เลยค่ะ เพราะมันหมายความว่าทางร้านกำลังรับสมัครงานอยู่ค่ะ ให้เราเดินเข้าไปถามนายจ้างเลยว่าเขากำลังเปิดรับสมัครตำแหน่งไหนอยู่
3.
ประสบการณ์: ในการกรอกใบสมัคร จะมีให้กรอกตรงประสบการณ์การทำงาน แนะนำให้พรีเซ้นตัวเองไปเลยว่าเราทำได้แน่นอน
4.
Stand by : เราควรแนบเบอร์โทรที่ถูกต้องหรือถ้าใครยังไม่มีอาจจะแนบอีเมล์แทน เพื่อสะดวกต่อการติดต่อกับของนายจ้าง
5.
Searching: มีหลายเว็บไซต์ที่ประกาศรับสมัครพนักงาน เช่น
https://th.indeed.com/?r=us ซื่งรายละเอียดการหาเราแนบไว้ในวิดิโอด้านล่าง ลองไปเช็คดูนะค่ะ
6.
ถามคนอื่น: ลองถามเพื่อนหรือพี่เจ้าของบ้านที่เราไปเช่าว่า พอจะรู้จักหรือเห็นร้านไหนที่ต้องการคนทำงานเพิ่มเติมมั้ย ตอนเราไปข้อร้องพี่เขาเราก็บอกถึงเหตุผลที่เราต้องการ Second Job และบอกเขาว่ามันจำเป็นสำหรับเราขนาดไหน(วิธีนี้เราใช้ได้ผลสุด สรุปคือเราได้จ๊อบเป็นเด็กเสริฟ2วัน เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งได้เงินมากกว่างานหลักสะอีก5555)
ส่วนด้านล่างนี้เป็นวิดิโอที่เราทำไว้ก่อนหน้านี้ เป็นการสรุปสั้นๆถึงการหา Second Job และวิธีใช้เว็บเสริชหา ลองดูนะค่ะ
ถ้าใครมีวิธีหา Second Job เพิ่มเติมรบกวนแนะนำน้องๆในคอมเม้นนะค่ะ ขอบคุณมากค่าาา
จะหา Second Jobยังไงระหว่างไป Work and Travel
ยกตัวอย่างเช่น เราทำงานอยู่ใน Washington DC ค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบคือ
- ค่าบ้าน: $300/เดือน
- ค่าเน็ต: $84/เดือน
- ค่าเดินทาง: $140/เดือน
- ค่ากิน: $480/เดือน
รวม $1004 ต่อเดือน ส่วน Paycheckที่ออกนั้นตก $800-$1100ต่อเดือน คือแค่ทำมาใช้ไปก็แทบจะไม่พอ ถ้าไม่หา Second Job มีหวังไม่เหลือเงินกลับบ้านแน่นอน
เราก็เลยสรรหาสารพัดวิธีเพื่อหา Second Job เลยคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหางานอยู่ ซึ่งที่เราจดไว้มีอยู่6วิธีด้วยกัน คือ
1. เข้าไปในตัวเมือง : ในตัวเมืองมักมีงานหลากหลายที่นายจ้างเปิดรับสมัคร เช่น ร้านอาหาร, โรงแรม, ห้างสรรพสินค้า
2. Now Hiring : มองหาคำนี้เลยค่ะ เพราะมันหมายความว่าทางร้านกำลังรับสมัครงานอยู่ค่ะ ให้เราเดินเข้าไปถามนายจ้างเลยว่าเขากำลังเปิดรับสมัครตำแหน่งไหนอยู่
3. ประสบการณ์: ในการกรอกใบสมัคร จะมีให้กรอกตรงประสบการณ์การทำงาน แนะนำให้พรีเซ้นตัวเองไปเลยว่าเราทำได้แน่นอน
4. Stand by : เราควรแนบเบอร์โทรที่ถูกต้องหรือถ้าใครยังไม่มีอาจจะแนบอีเมล์แทน เพื่อสะดวกต่อการติดต่อกับของนายจ้าง
5. Searching: มีหลายเว็บไซต์ที่ประกาศรับสมัครพนักงาน เช่น https://th.indeed.com/?r=us ซื่งรายละเอียดการหาเราแนบไว้ในวิดิโอด้านล่าง ลองไปเช็คดูนะค่ะ
6. ถามคนอื่น: ลองถามเพื่อนหรือพี่เจ้าของบ้านที่เราไปเช่าว่า พอจะรู้จักหรือเห็นร้านไหนที่ต้องการคนทำงานเพิ่มเติมมั้ย ตอนเราไปข้อร้องพี่เขาเราก็บอกถึงเหตุผลที่เราต้องการ Second Job และบอกเขาว่ามันจำเป็นสำหรับเราขนาดไหน(วิธีนี้เราใช้ได้ผลสุด สรุปคือเราได้จ๊อบเป็นเด็กเสริฟ2วัน เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งได้เงินมากกว่างานหลักสะอีก5555)
ส่วนด้านล่างนี้เป็นวิดิโอที่เราทำไว้ก่อนหน้านี้ เป็นการสรุปสั้นๆถึงการหา Second Job และวิธีใช้เว็บเสริชหา ลองดูนะค่ะ
ถ้าใครมีวิธีหา Second Job เพิ่มเติมรบกวนแนะนำน้องๆในคอมเม้นนะค่ะ ขอบคุณมากค่าาา