ในสมัยที่ผมเรียน ม. ชั้น ปีที่ 3 ในสมัยนั้น ทุก ๆ วันพุธ จะเป็นวันที่เรียนหนักที่สุด คือ เรียนวิชาแรกเริ่ม 8.30 น. และวิชาสุดท้าย 20.30 น. เรื่องมันมีอยู่ว่า เหตุการณ์ มันเริ่มเกิด วันพุธแรก ของการเปิดเทอม ๆ แรก ของ ชั้นปี 3 หลักจากเลิกเรียนวิชาสุดท้าย ก็เป็นเวลา 20.30 น. แล้ว ผมกับเพื่อนก็ทะยอยเดินออกจากห้องเรียน เพื่อนผมส่วนหนึ่ง พักที่หอพักนอก ม. ซึ่งอยู่ห่างจาก ม. ไม่ใกลนัก พวกเขาจึงพากันขี่รถจักรยานยนต์กันออกไป ส่วนผมนั้นพักอยู่บ้านพักซึ่งห่างออกไปไกลมากกว่านั้น ก็คือ ถ้ายามเวลาปกติ ผมจะเดินออกจากหน้าตึกคณะ ตรงไปจนถึงป้อมยามหน้า ม. เป็นระยะทาง 2 กิโล เพื่อจะรอรถโดยสาร ไปส่งยังสี่แยกถนนใหญ่ แล้วก็เดินทางต่อด้วยรถบัสอีกทีหนึ่ง ซึ่งสำหรับผมแล้วถือว่าไม่ได้หนักหนาอะไร เพราะผมนั้นผ่านการเรียนนักศึกษาวิชาทหารมาแล้วก็เคยเดินไกลกว่านั้นมาก แต่ถึงแม้ว่ายามนี้จะไม่ปกติ คือมันเป็นเวลามืดแล้ว ผมก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร ในขณะที่ผมกำลังเดินออกจากหน้าดึก พลอย เพื่อนของผมคนหนึ่งก็ถามว่า "นี่เอก จะกลับด้วยกันใหม วันนี้เราเอารถยนต์มา พอดีไปทางเดียวกัน" "เออดีเลย ขอไปด้วย" ผมรีบรับคำทันที "แต่เราต้องไปส่งส้มก่อนนะ เพราะมันมืดแล้ว เขาก็ไม่มีรถกลับ" ผมก็ตอบพลอยว่าไม่เป็นไร แล้วก็บอกเธอว่า ถ้าอย่างนั้นผมจะเดินไปรอที่ป้อมยามหน้า ม. ก่อน หลังจากนั้นพลอยก็ขับรถพาส้มออกไป ส่วนผมก็เดินเล่นตามริมถนนไปเรื่อย ๆ โดยมีแสงไฟจากหลอดไฟบนเสาไฟฟ้าสาดส่องให้แสงสว่างเป็นระยะ ๆ แล้วในขณะนั้น เองผมก็เห็นหญิงสาวในชุดนักศึกษาคนหนึ่ง เดินอยู่นำหน้าผมประมาณสองช่วงเสาไฟฟ้า ในตอนนั้นผมไม่คิดอะไร คิดแต่เพียงว่าดีจริง อย่างน้อยก็มีเพื่อนเดินคุยกันไประหว่างทาง ผมพยายามเดิน จนแทบจะเกือบวิ่ง เพื่อจะให้ทันหญิงสาวคนนั้น แต่ผมก็งงมาก เพราะเดินยังไงก็ไม่ทัน มารีบเดินจำ้อ้าว จนปากกาในเหน็บไว้ในกระเป๋าเสื้อหล่นลงที่พื้น ผมจึงก้มไปหยิบ แต่เมื่อเงิยหน้าขึ้นมา หญิงสาวคนนั้นหายไปแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นอะไร คิดแต่เพียงว่า หญิงสาวคนนี้เดินเร็วจริง ๆ ผมเดินมาจนถึงป้อมยาม เห็นลุงยามคนหนึ่ง กำลังนั่งดูทีวีอยู่ ผมจึงถามลุงยามไปว่า เห็นหญิงสาวนักศึกษาคนหนึ่งเดินมาที่นี่ หรือ เปล่า ลุงยามก็บอกผมว่าไม่เห็นจะมี นี่ ก็มีแต่ผมคนแรกนี่แหล่ะ ผมคิดในแง่ดีว่า หญิงสาวคนนั้นคงจะเดินแอบไปทางอื่นก็ได้ ผมนั่งรอที่ป้อมยามหน้าทางเข้า ม. สักพัก พลอยก็ขับรถยนต์ผ่านมา บีบแตรเรียก ผมจึงรีบวิ่งขึ้นรถยนต์ ไปทันที พลอยพาผมมาส่งที่จุดรถรถบัส แล้วเธอก็ขับรถยนต์จากไป ผมก็กลับบ้านพักตามปกติ
ข้ามมาถึงวันพุธต่อมา คราวนี้ ผมขอติดรถยนต์กลับบ้านกับพลอยอีก แต่ว่าในวันนี้ พลอยไม่ได้ไปส่งส้ม เนื่องจากส้มนั้นมีพี่ชายของเธอมารอรับ แต่นอกจากผมที่ขอเดินทางกลับกับพลอยแล้วก็ยังมี พี เพื่อนตัวกวนของผม ขอกลับด้วย ในขณะรถยนต์วิ่งออกจากหน้าตึกคณะ ผมก็เห็นหญิงสาวคนเดิม ชุดเดิม เดินอยู่ริมถนน ไปพร้อม ๆ กับรถยนต์ ผมจึงมีความคิดว่าจะให้พลอยจอดรับ เผื่อหญิงสาวคนนี้อยากจะเดินทางไปด้วย แต่ไม่ทันที่ผมจะพูด พลอยก็พูดว่า "จะเร่งความเร็วหล่ะนะ พอดีเรารีบกลับ" แล้วเธอก็เหยียบคันเร่งทันที พอรถยนต์ขับผ่าน ป้อมยาม ออกจากหน้า ม. มา ผมก็ถามพลอยทันที "นี่เธอ เห็นผู้หญิงที่เดินริมถนนใน ม. ใหม มันมืดแล้ว ทำไมไม่จอดรับเขา พาไปด้วยหล่ะ" "เห็นสิ แล้วนายคิดว่าตอนนั้น เราขับเร็วเท่าไหร่" ทันที่ที่พลอยตอบกลับมาผมถึงกลับสะอึก เพราะในตอนนั้นผมดูเข็มบอกความเร็วแล้ว เธอนั้น ขับ 60 กม ต่อ ชม. "แล้วนายคิดว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะเดินคู่ขนานกันไปพร้อม ๆ กับรถยนต์ที่ขับเร็วถึง 60 กม ต่อ ชม. เป็นระยะทางสองกิโล ได้ใหมหล่ะ" พลอยพูดยำ้ขึ้นมาอีก ทำให้ผมนั้นต้องเงียบไปทันที พร้อมกับคิดในใจว่าโดนแล้วแน่ ๆ
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผมจึงเลือกที่จะยืนรอที่หน้าตึกคณะให้พลอยมารับดีกว่าเดินไปรอที่ป้อมยาม เรื่องก็มีแค่นี้ครับ
หลอนยามเลิกเรียน
ข้ามมาถึงวันพุธต่อมา คราวนี้ ผมขอติดรถยนต์กลับบ้านกับพลอยอีก แต่ว่าในวันนี้ พลอยไม่ได้ไปส่งส้ม เนื่องจากส้มนั้นมีพี่ชายของเธอมารอรับ แต่นอกจากผมที่ขอเดินทางกลับกับพลอยแล้วก็ยังมี พี เพื่อนตัวกวนของผม ขอกลับด้วย ในขณะรถยนต์วิ่งออกจากหน้าตึกคณะ ผมก็เห็นหญิงสาวคนเดิม ชุดเดิม เดินอยู่ริมถนน ไปพร้อม ๆ กับรถยนต์ ผมจึงมีความคิดว่าจะให้พลอยจอดรับ เผื่อหญิงสาวคนนี้อยากจะเดินทางไปด้วย แต่ไม่ทันที่ผมจะพูด พลอยก็พูดว่า "จะเร่งความเร็วหล่ะนะ พอดีเรารีบกลับ" แล้วเธอก็เหยียบคันเร่งทันที พอรถยนต์ขับผ่าน ป้อมยาม ออกจากหน้า ม. มา ผมก็ถามพลอยทันที "นี่เธอ เห็นผู้หญิงที่เดินริมถนนใน ม. ใหม มันมืดแล้ว ทำไมไม่จอดรับเขา พาไปด้วยหล่ะ" "เห็นสิ แล้วนายคิดว่าตอนนั้น เราขับเร็วเท่าไหร่" ทันที่ที่พลอยตอบกลับมาผมถึงกลับสะอึก เพราะในตอนนั้นผมดูเข็มบอกความเร็วแล้ว เธอนั้น ขับ 60 กม ต่อ ชม. "แล้วนายคิดว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะเดินคู่ขนานกันไปพร้อม ๆ กับรถยนต์ที่ขับเร็วถึง 60 กม ต่อ ชม. เป็นระยะทางสองกิโล ได้ใหมหล่ะ" พลอยพูดยำ้ขึ้นมาอีก ทำให้ผมนั้นต้องเงียบไปทันที พร้อมกับคิดในใจว่าโดนแล้วแน่ ๆ
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผมจึงเลือกที่จะยืนรอที่หน้าตึกคณะให้พลอยมารับดีกว่าเดินไปรอที่ป้อมยาม เรื่องก็มีแค่นี้ครับ