อยากให้เป็นแค่ฝันร้าย... (((เรื่อง พี๊คคค พีคคค ของคนอ่อนต่อโลก)))

ที่ตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ เพราะอยากจะขอความเห็นจากเพื่อนๆพี่ๆ ว่ามีความเห็นอย่างไร แล้วแนะนำเรายังไงกันบ้าง อาจจะเกริ่นยาวหน่อย แต่มีความพีคใช้ได้เลยค่ะในตอนท้าย..

ป.ล.
- เป็นนามสมตินะคะ เคคือ แฟนเรา ส่วนเราขอชื่อ น้อง ค่ะ
- ถ้าใครขี้เกียจอ่านตอนแรกๆ ใต้**** คือความเรื่มพีคนะคะ
- เขียนรวดเดียวจบยันหว่างเลย อาจจะเบลอๆในตอนท้ายนะคะ

เรากับแฟน คบและรู้จักกันมาก็เกือบ 3 ปีกว่าๆแล้ว เราเคยทำงานที่เดียวกัน พี่เคเป็นคน ขี้เล่น อารมณ์ดี หน้าตาใช้ได้ บุคคลิกดี และที่สำคัญคือเป็นคนเก่ง เลยทำให้ตัวเค้าเป็นที่รู้จักของทุกคนที่ออฟฟิศ ส่วนเรา เข้าไปทำงานหลังเค้า ก็รู้จักพี่เค เพราะเค้าสนิทกับกลุ่มพี่ๆที่ออฟฟิศเดียวกับน้อง มีทักทายบ้าง ทานข้าวร่วมโต๊ะด้วยกันบ้างแล้วแต่โอกาส

ตอนนั้นน้องก็มีคนคุยด้วยค่ะ แต่ยังไม่คบเป็นแฟน คุยประมาณ 3 เดือน ก็เลิกคุยไปเพราะ เค้าไม่ได้จริงจัง เค้าคุยหลายคน น้องเสียใจมาก ไม่มีประสบการณ์ความรักเลย ((เพราะน้องไม่เคยมีความรักมาก่อน ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย ก็อยู่แต่กับเพื่อนๆซึ่งในคณะมีแต่ผู้หญิง แล้วเพื่อนที่คบก็มีแฟนกันหมด พอเรียนเสร็จต่างคนก็ต่างกลับบ้าน เพื่อนก็ไปหาแฟนไรงี้ น้องก็เหงาบ้าง แต่ไม่ได้ได้รีบอะไร)) พอจบไปไม่ได้คุยต่อ น้องก็มีร้องไห้เสียใจบ้าง คนในออฟฟิศก็เห็น ก็รับรู้ว่าน้องอกหัก

มีอยู่วันหนึ่ง มีโอกาสได้ทานข้าวกลางวันกับกลุ่มพี่ที่ออฟฟิศ ซึ่งพี่เคก็สนิทด้วย เค้าก็เชิงยุๆให้พี่เคจีบน้องกัน ยุจนได้แลกไลน์ไอดีกัน ซึ่งตอนนั้นน้องรู้สึกพึ่งอกหัก กลัว ยังไม่อยากคุยกับใคร ก็ให้ไลน์ไอดีไปด้วยความรู้สึกเฉยๆ คิดแค่ว่า ให้ไป ไม่เป็นไร เค้าก็เป็นพี่ที่ร่วมงานกันคนหนึ่ง... ตอนแรกก็คุยๆปกติ ถามนั่นนี่ น้องก็ไม่ได้โฟกัส บางทีตอบช้าด้วยซ้ำ เพราะก็ยังไม่ลืมคนคุยก่อนหน้า กว่าจะลืม กว่าจะเปิดใจจริงๆก็เกือบสองเดือนค่ะ

เราก็คุยกันทุกวัน เจอหน้ากันทุกวัน ช่วงที่จีบกันเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุดแล้ว โทรมาหยอดที่เบอร์โต๊ะ ซื้อน้ำ ซื้อขนมมาให้ ทานข้าวกลางร่วมกันบ่อยขึ้น จนเกิดเป็นความชอบในตัวพี่เค้าเมื่อไหร่ไม่รู้.... วันนึงพี่คนหนึ่งในกลุ่มเค้า ก็มาถามว่า “เห้ย เรากับพี่เคอะ เป็นยังไง คบกันยัง” เราก็เขิลๆตอบไปว่า “ก็รู้สึกดีน้า แต่พี่เคยังไม่ได้ขอคบ” เค้าก็บอกอีกว่า ดีแล้ว ค่อยๆดูกัน อย่าพึ่งเทใจมาก เพราะบางทีเคมันอาจจะไปต่างประเทศรึเปล่า ก็ไม่แน่ใจ มันเก่ง อนาคตไกล” น้องก็งงๆค่ะ ตอนนั้นจำไม่ได้ว่ารู้มาได้ยังงไงนะคะว่า พี่เคได้ทุน ต้องไปเรียนต่อเมืองนอก 2 ปี น้องก็คิด อ่าวววววเฮ้ยยยย เมิงคุยกะกุ ไม่คิดจะบอกกันเลยหรอ เราก็รู้แล้วก็เสียใจค่ะ แต่ก็เงียบ รอดูว่า เค้าจะบอกเราตอนไหน ตอนนั้น เราก็คุยกันได้ประมาณสามเดือนกว่าแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้ขอคบเป็นแฟนนะคะ จนวันนึงเค้าก็โทรหา บอก มีเรื่องจะบอก ก็เป็นไปตามคาดค่ะ พี่เคต้องไปเรียนต่อ 2 ปี เราก็รู้สึก โอเค ยังดีที่บอกนะ ยังมีเวลา 1 – 2 เดือนก่อนเค้าจะไป เราก็คุยกันไปเรื่อยๆค่ะ จนเย็นวันนึง... พี่เคก้ชวนเราไปทานข้าวค่ะ แล้วก็บอกว่า เดี๋ยวไปดื่มกันนิดนึงนะ แล้วค่อยกลับเนาะ เราก็อ่าวหรอ คิดเสียดายที่วันนั้น ไม่แต่งหน้า แต่งตัวสวยๆ พี่เคพาเราไปดื่มที่ Rooftop ของ โรงแรมแห่งหนึ่งค่ะ บรรยากาศดีมาก เราก็นั่งคุยเล่นๆกันไป จนพี่เคพูดมาว่า เป็น แฟน กัน นะ เราอึ้งเลยค่ะ เพราะตอนนั้น มันก็ใกล้เวลาที่พี่เคเค้าจะต้องลาออกและเดินทางแล้ว น้องไม่คิดนะคะ เค้าจะขอเป็นแฟนก่อนที่จะไป ยังคิดและพูดกับเพื่อนอยู่เลยว่า คงคุยๆไปเรื่อยจนเค้าไป แล้ววันนึงก็คงห่างไป...

น้องจำบรรยากาศ จำคำพูดที่เราต่างขอเป็นแฟนกันและกันได้ดีค่ะ วันนั้นน้องมีความสุขมาก เหมือนฝันเลย จากเราก็คบกันปกติ จนวันที่พี่เคลาออก พี่เคก็กลับบ้านไปหาครอบครัวที่ต่างจังหวัดค่ะ ประมาณ 10 กว่าวันได้ กลับมาเจอกันอีกทีก็คืนก่อนที่พี่เคจะต้องบินไปเรียนต่อ... เราไม่ได้ไปส่งเพราะ น้องก็ทำงานค่ะ แต่จำได้ว่า ก่อนขึ้นเครื่อง ก็โทรลากันปกติ น้องก็ร้องไห้นิดนึง เพราะเราจะไม่เจอกันเลย ไม่รู้นานเท่าไหร่....

น้องขอรวบรัดช่วงที่พี่เคเรียนอยู่เมืองนอกนะคะ... ด้วยระยะห่างและด้วยเวลาที่เราไม่ตรงกัน คนนึงตื่น อีกคนกำลังจะนอน เราก้มีงอแงบ้างค่ะ เพราะเราพิมพ์คุยกันในไลน์ซะส่วนใหญ่ เดือนแรกๆที่พี่เคอยู่ที่นั่น ก็มี วีดีโอกันบ้างค่ะ 4-5 ครั้งต่อเดือน หลังๆเริ่มน้อยลง 2-3 ครั้งต่อเดือน พี่เคก้จะบอกตลอดค่ะว่า ยุ่งมาก เรียนหนัก เครียด ไม่ค่อยมีเวลา น้องก็อดทนตั้งใจรอ แต่ก็มีเผลองอแงจนบอกเลิก เพราะทนความไม่มีเวลาไม่ได้ แต่เราก็คุยกันจนเข้าใจและดีกันคบกันต่อ... พี่เคกลับมาไทย 1 เดือนหลังจากที่ไปเรียนประมาณ 1 ปี 3 เดือน เพื่อที่มาเก็บข้อมูลทำทีสิส น้องก็เจอกันบ้าง ทานข้าวบ้าง เวลา 1 เดือน เรา เจอกัน ไม่ถึง 1 อาทิตย์เลย เพราะพี่เคมีเพื่อนหลายกลุ่ม เดินสายเจอ ไหนจะต้องเก็บข้อมูล น้องก็น้อยใจค่ะ ว่า ทำไมเราเจอกันน้อยจัง พี่เคชอบเป็นคนใช้เหตุผลค่ะ เค้าก็บอกว่า เค้ากลับบมา หลักๆคือเก็บข้อมูลนะ ไม่ได้มาเพื่อเจอเราทุกวัน น้องก็เงิบค่ะ ก็โอเคค่ะ จะพยายามเข้าใจ จน 2 ปีที่รอคอยจะจบแล้ว แต่...การรอคอยของน้องยังไม่สิ้นสุดค่ะ....

ขอแทรกนิดนึงค่ะ มีอยู่วันนึง คือน้องไม่เคยคบใคร พี่เคเป็นแฟนคนแรกของน้อง น้องก็ถามเพื่อนว่า เห้ย เมิงนับครบรอบที่คบกันยังไงวะ เพื่อนก็บอก ก็ฉลอง ทานข้าวพิเศษๆกันทุกเดือนอะเมิง แต่ก็แล้วแต่คู่ บางคู่ก็ฉลองเป็นปีๆนึงไปงี้ พอผ่านวันครบรอบแต่ละเดือน น้องก็ไป Happy Anniversary ทุกเดือนในทวิตเตอร์ ซึ่งไม่ค่อยมีคนตามน้องและพี่เคก็ไม่ได้ตามด้วย55555+((เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันใน Facebook นะคะ จะมีทางเดียวที่ดูการอัพเดทได้คือ Instagram ค่ะ)) น้องจะเล่นเพื่อเอาไว้บ่น เอาไว้เป็นไดอารี่ ซึ่งน้องนับจาก Day 1 ต้องแต่วันที่เค้าบินไปเรียน อยู่ๆ เดือนที่ 4 พี่เคก็ถามมาว่า เราคบกันมาเท่าไหร่แล้ว เราก็บอก 4 ค่ะ เราไม่เคยลืม ก็แคปที่ทิวตเตอร์ไปให้ดู ว่าเราไม่ลืมนะ ทุกๆเดือน เราก็จะ พูด  Happy Anniversary แล้วก็บอกรัก บอกคิดถึงกันและกัน พูดถึงเดือนที่ผ่านมาว่า เราเป็นยังไงกัน ผ่านไรมาบ้าง พี่เคน่ารักค่ะ เค้าก็ไม่เคยลืมวันสำคัญ ครบรอบปีแรก เค้าส่งดอกไม้มาที่ออฟฟิศค่ะ วาเลนไทน์ก้ดอกไม้อีก ส่วนปีที่สองพี่เคทำวีดีโอให้ค่ะ วันเกิดก็ส่งดอกไม้อีก เรียกได้ว่า ดอกไม้แห็งเต็มห้องน้องเลย ทั้งหมดก็ 4 ช่อที่เคยได้จากพี่เค ก็เป็นอีกมุมน่ารักๆของคู่เราค่ะ

พอพี่เคเรียนจบ แต่การรอคอยของน้องยังไม่จบค่ะ!!! นางเลือกไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเครือเดียวกับที่น้องทำงานอยู่ น้องก็อะๆ พยายามทำใจให้ได้ค่ะ ก็คิดซะว่า อย่างน้อยก็ใกล้กันมากขึ้น  ใช้เวลาเดียวกัน ถ้าเดินทางไปหา ก็บินประมาณ 1 ชั่วโมง กว่าๆค่ะ พี่เคเรียนจบ ก็กลับไทย มีเวลา แค่ 9 วัน ที่ไทย แล้วต้องไปทำงานเลย ซึ่งใน 9 วันนี้ เค้าอยู่กับน้องแค่ 1 คืน ซึ่งเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ไม่ถึง 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แค่ได้ดินเนอร์ 1 มื้อ อยู่ด้วยกัน 1 คืน เข้ารุ่งขึ้นเค้าก็ต้องบินไปหาครอบครัวค่ะ ก็ถือว่าเป็นความทรงจำดีๆที่เราได้เก็บไว้...

เราเริ่มห่างกันอีก ก็ตามประสาค่ะ มีงอแงบ้าง ทะเลาะบ้าง เรื่องเดิมๆค่ะ ไม่มีเวลา... จนวันนึง น้องตัดสินใจบอกเลิกพี่เคค่ะ เราก็อดทนมาตลอด แต่กลับได้ยินแต่คำว่า ไม่ว่าง ไม่มีเวลา นู้นนี่นั่น เราก็พยายามตัดให้ได้ เลยพิมพ์ไปบอกเลิกทางไลน์ พิมพ์ยาวมากกกกก แล้วบล๊อคไลน์เลย ไม่รู้แม้กระทั่งเค้าเปิดอ่านอะไรยังไงตอนไหน เราก็หายไปจากชีวิตกันและกันเกือบ 2 อาทิตย์ได้

วันหนึ่ง.. น้องคิดถึงพี่เคมาก เลยส่งเมลไปหา ส่งเพลง ไปให้ ก็เพ้อๆอะค่ะ ว่า คิดถึง ยังทำใจไม่ได้เลย บลาๆๆๆ... เค้าก็ไม่ตอบนะคะ เราก็ไม่หวังอะไรแล้ว คงไม่ตอบหรอก หลังจากนั้น 5 วัน นางตอบมาจ้า!!!! ตื่นเต้นมาก ตอนที่อ่าน ส่งมายาวมากเหมือนกัน ก็ทำให้เราได้รู้ความรู้สึกเค้าบ้าง นึกว่าจะหายจากกันไปเลย เนื้อหาประมาณว่า เค้าก็ยังทำใจไม่ได้ เค้าโกรธที่เราทำแบบนี้ ไม่ยอมคุยกันก่อน บอกเลิกแล้วบล็อคไลน์ไปเลย เค้าไม่โอเค เหมือนเค้าถูกบังคับให้เลิก ให้ออกจากชีวิตน้อง เค้าก็จะทำแบบนั้น เค้าก็ขอโทษน้องค่ะ ว่า เค้าเห็นแก่ตัวที่น้องรอเค้าแล้ว เค้ายังเลือกไปทำงานไกลอีก บลาๆๆๆ พี่เคเป็นคนไม่ค่อยง้ออยู่แล้วค่ะ ในเมล ก็ไม่มีประโยคที่ง้อเลย55555555+ แต่นางบอกว่า เค้าก็จะขออยู่คนเดียว ไม่อยากดึงใครมาเสียใจด้วยอีก เพราะเค้าไม่มีเวลา น้องอ่านแล้วก็คิดค่ะ เห้ยย เอาไงดีวะ เรารู้ความรู้สึกเค้าบ้างแล้ว เค้าก็เสียใจนี่หว่า เค้าก็บอกว่ายังรักนี่หว่า....

น้องเลยตัดสินใจค่ะ อยากคุยมากกว่านี้ เลยไลน์ไป... พอคุยกัน ก็หลุดพูดไปค่ะว่า เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม น้องพึ่งรู้ความรู้สึกพี่เคจากเมล น้องขอโอกาสอีก อีพี่เคมันก็งงค่ะ อ่าวววว เห้ยยยย งั้นถ้าเค้าไม่ส่งเมลกลับ ก็คือ เลิกกันไปงี้ดิ แล้วกลับมาขอโอกาสทำไม ในเมื่อน้องเลือกที่จะเดินไปเอง น้องก็คิดตื้นๆค่ะว่า ยังรัก แล้วน้องก็ไม่อยากมีใคร น้องอดทนอยู่กับการรอคอยมาได้ตั้งนาน ทำไมจะมีเค้าต่อไปไม่ได้ ในเมื่อเราก็ไม่ได้อยากมีใครใหม่ ก็คบกับเค้าต่อไม่ดีกว่าหรอ เลยง้อพี่เค พี่เคก็บอกว่า ไม่กลับค่ะ!!!!!!!! เพราะพี่เคทำใจไปแล้วว่าเราไม่มีกันแล้ว เห้ยยยๆๆ แค่ 2 อาทิตย์เองนะ เราก็เอาไงดีวะ ตัดสินตื๊อค่ะ ตื๊อเท่านั้นที่จะครองโลกได้555555555+ พยายามชวนพี่เคคุยค่ะ 2 - 3 วันก้แล้ว เย็นชามาก อยู่ๆเราก็ตัดสินใจค่ะ จะไปหาเลย ไหนๆก็ไม่ไกล โผล่ไปเลยยยยย....

ตอนนั้น เดินทางศุกร์เย็น ไปแบบ เป้นการเดินทางไกลครั้งแรกคนเดียว กลัวมาก แต่ใจไปค่ะ ขอแค่ไปให้ถึงก่อน จากนั้นผลเป็นไงว่ากันอีกที พอถึง เราด็โทรหาเลยจ้าาา พี่เคก็งงค่ะ มาได้ไง เราไปลงที่หน้าตึกที่ทำงานเค้าเลย สรุปนางไม่อยู่ค่า ไปแฮงค์เอ้ากับเพื่อน เราร้องไห้เลยค่ะ คือบ้านเมืองก้ไม่เจริญเท่าเรา หารถเดินทางยาก เดินร้องไห้เลยค่ะ เดินไปเรื่อยๆไม่รู้จะไปไหน เพราะอิพี่เค คุยๆอยู่นางก็หายไปพักนึงค่ะ สุดท้ายตอบมาว่า กำลังเรียกรถคล้ายอูเบ้อบ้านเราให้มารับไปที่ร้านอาหารที่เค้าอยู่กับเพื่อนค่ะ....

พอถึงร้านอาหาร ก็ทักทายเพื่อนๆเค้า นั่งกินนั่งดื่มกันไป ไม่ค่อยได้คุยกันส่วนตัวเท่าไหร่ค่ะ ก็มีบอกว่า วันอาทิตย์ อยู่ห้องไปนะ เค้าต้องไปเอ้าติ้งกับแผนก มาแบบไม่บอกเอง มาใช่ว่าจะคืนดีนะ บลาๆๆ น้องก็หน้าเจื่อนเลยค่ะ หวังมาก ว่า มาครั้งนี้แหล่ะ จะต้องคืนดี พอกลับห้อง แทนที่จะได้คุยกัน มาถึงห้องพี่เคก็นอนทันทีเลยค่ะ ดื่มเยอะ เมา... น้องล่ะคะ นั่งน้อยใจไปอีกค่ะ มาถึงห้อง แทนที่จะคุยจะอะไรกันบ้าง น้อยใจจนไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำ... กว่าจะหลับก็เกือบ ตีสาม ตีสี่...

พี่เคต้องทำงานวันเสาร์ค่ะ ช่วงเช้าเราก็คุยกันนิดหน่อย ว่าเดินทางมายังไง วันนี้จะไปไหนรึเปล่า เราก็ออกไปทานข้าวเช้ากับพี่เคค่ะ แล้วก็เดินเล่นในเมือง อยู่ร้านกาแฟ รอพี่เคเลิกงาน พอเลิกก็ไปทานข้าวค่ะ ก็ได้ยินเค้าคุยโทรศัพท์ว่า พรุ่งนี้ไปไม่ได้แล้ว พอดีแฟนมาหาแบบไม่ได้บอก ต้องขอโทษด้วย เราได้ยินก็ดีใจจจจจจจจจจจจจจมากกกกกกกกกกกกกค่ะ เพราะพี่เคไม่ได้พูดเลยว่าจะแคนเซิลเพื่อมาอยู่กับเรา แล้วโทรศัพท์พี่เคก็ดังอีกค่ะ พี่คนเดิม เค้าโทรมาบอกว่า เอาแฟนไปเที่ยวก็ได้นะ พอวาง พี่เคก็บอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปด้วยกันน เราแบบบบ เย้ๆๆๆๆ ได้ไปเที่ยวด้วย ได้ไปเจอเพื่อนๆที่ทำงานเค้าด้วย คิคิ ทานข้าวเสร็จเราก็กลับห้องค่ะ คืนนี้แหล่ะ น้องจะง้อเค้า จะถาม จะพูด จะคุย จะขอให้เรากลับมารักกัน กลับมาคืนดีกันนนนนนนนน!!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่