The Origin of Captain Hydra
Part 3: Steve Rogers as “Agent of Hydra”
ความเดิมที่ควรรู้
Avengers' STANDOFF
https://ppantip.com/topic/35262447
ปล. ผมแบ่งแบบนี้นะ
Part 1: The End of “Old” Steve Rogers
https://ppantip.com/topic/36368336
Part 2: Steve Rogers as “Hydra Child”
https://ppantip.com/topic/36369582
Part 3: Steve Rogers as “Agent of Hydra”
Part 4: Steve Rogers as “Captain America”
https://ppantip.com/topic/36371133
Part 5: The Beginning of “New” Steve Rogers
https://ppantip.com/topic/36372567
ปี 1934 ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาในโรงเรียนฝึกสอนยุวชนไฮดร้า The Keep ประเทศอังกฤษ สตีฟโรเจอร์สแสดงศักยภาพในการอ่านเขียนหนังสือ วางกลยุทธ์ และมีความมุมานะเป็นอย่างดี ทว่า สิ่งสำคัญที่สุดอย่างกำลังกายกลับต่ำกว่ามาตรฐาน
สตีฟพยายามหนีออกจาก The Keep ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ถูกจับกลับมาทุกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเขาพบกับคราเคน (ก็ไวท์ฮอลล์นั่นแหละมั้ง) คราเคนบอกความปรารถนาในอิสรภาพที่สตีฟมีอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ธรรมชาติของมนุษย์ แต่เป็นสิ่งที่ประเทศชาติอันเสื่อมโทรมอย่างอเมริกาปลูกฝังไว้ การมีปัจเจกบุคคลรังแต่จะทำให้ผู้คนโดดเดี่ยว และนำไปสู่ความกลัว ความโลภ และความรุนแรง ระบบมันเน่าเฟะอย่างนั้นแหละ เหมือนอย่างพวกสลัมที่สตีฟเห็นในบ้านเกิด เหมือนอย่างพ่อของนายไงล่ะ
คราเคนเชื่อว่ามีหนทางอื่นที่ดีกว่า หนทางที่พวกเขาจะอยู่ร่วมกันอย่างเข้มแข็ง ไม่ใช่อยู่เพื่อรักษาระบบอันเน่าเฟะนั่น แต่อยู่ภายใต้ผู้นำที่แข็งแกร่งและผ่านการทดสอบมามากที่สุด นำพาพวกเขาหลุดพ้นจากความเชื่อผิด ๆ ที่เกาะกินจิตใจ ต่อสู้กับภัยคุกคามที่ทำร้ายพวกเขา ต้องเปิดโปงโครงสร้างสังคมอันแสนอ่อนแอนั่นจากภายใน มันอาจจะยากเพราะผู้ที่อยู่ในสังคมแบบนั้นมีเยอะมาก พลังของคนหนุ่มอย่างสตีฟที่สามารถทำในสิ่งที่ต้องทำได้จึงเป็นสิ่งจำเป็นไงล่ะ ซินแคลร์ ผู้หญิงที่เขาติดหนี้บุญคุณอันใหญ่หลวง เชื่อมั่นในตัวสตีฟว่าจะเป็นผู้นำที่เข้มแข็งที่สุดคนนั้น
สตีฟเถียง ซินแคลร์เป็นคนขี้โกหก หล่อนทำอะไรบางอย่างกับแม่ ถึงเขาจะจำไม่ค่อยได้ แต่แม่ไม่มีวันกลับมาแน่นอน คราเคนบอกอย่าด่วนสรุปสิ แค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น งั้นก็เลือกมา จะหนีไปจากที่นี่…หนีจากชะตากรรมของตนเอง หรือกลับไปที่ The Keep พิสูจน์ให้เฟนอห์ฟและเด็กคนอื่นเห็นว่าสตีฟเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ได้ แล้วเขาทั้งคู่…จะสามารถปกป้องโลกร่วมกันได้
หนึ่งปีต่อมา (ปี 1935) วิชาประวัติศาสตร์ (มั้ง) เฟนอห์ฟถามเด็ก ๆ ว่า Zhang Heng พูดท้าทายกับโกลเด้นเซเลสเชี่ยลที่กำลังจะรุกรานโลกว่าอย่างไร ไม่ ไม่ใช่ตัดหนึ่งหัวจะงอกอีกสองหัวนะ โอเค สตีฟตอบถูก This is not how the world ends.
สตีฟสามารถซื้อใจเฟนอห์ฟได้สำเร็จ เฟนอห์ฟฝากฝังให้สตีฟเป็นคนนำทัวร์ให้เด็กใหม่ที่จะย้ายมาเรียนที่นี่ ทว่า เพื่อนร่วมชั้นกำลังอิจฉาตาร้อน เจ้าเด็กมะกันที่ได้มาเรียนเพราะนังแม่มดซินแคลร์เป่าหูครูใหญ่ไวท์ฮอลล์เนี่ยนะ คอยดูเถอะ
ระหว่างที่ครูไม่อยู่ พวกเด็กเกเรขี้อิจฉารุมทำร้ายสตีฟ ทันใดนั้น ใครบางคนก็มาช่วย (คนเดียวอัดสามคนลงไปกองได้ จัดว่าแกร่งทีเดียว)
ชื่อของชายคนนั้นก็คือ เฮลมุทซีโม่ เด็กที่จะย้ายมาเรียนที่นี่นั่นเอง
อีกหนึ่งปีต่อมา (ปี 1936) สตีฟและซีโม่กลายเป็นเพื่อนรักกัน วันหนึ่งทั้งคู่เล่นแผลง ๆ แอบขโมยเหล้าของเฟนอห์ฟจะไปโยนทิ้งทะเลสาบ
แต่เดินชนพ่อของซีโม่ บารอนไฮน์ริชซีโม่ที่ 12 เข้าซะก่อน ซีโม่โผเข้ากอดด้วยความดีใจ
กลางดึกคืนนั้น ซีโม่ปลุกสตีฟให้ย่องไปดูการประชุมลับของพวกผู้ใหญ่ ได้แก่ เฟนอห์ฟ ไฮน์ริช คราเคน (ไวท์ฮอลล์) และซินแคลร์ที่หายหน้าไปซะนาน
ไฮน์ริชเล่าว่าสงครามโลกกำลังจะเกิดในไม่ช้า ไฮดร้าตกลงจะร่วมมือกับเยอรมันและฝ่ายอักษะ และเขามีแผนจะส่งคนแทรกซึมเข้าไป เจรจาร่วมมือกับอดอล์ฟฮิตเลอร์อย่างเป็นทางการ ชายคนนั้นรวบรวมไว้ทั้งไพร่พล อาวุธยุทโธปกรณ์ และศาสตร์มืด ได้ข่าวว่ามีทดลองซูเปอร์โซลเจอร์ด้วย แต่ซินแคลร์ไม่เห็นด้วย หมอนั่นก็แค่คนบ้าอำนาจและกระหายเลือดคนนึง ถ้าไปร่วมมือกับมัน ไฮดร้าจะแปดเปื้อนซะเปล่า ๆ ความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานรออยู่ข้างหน้าถ้าร่วมมือกับมัน ไฮน์ริชบอกความเจ็บปวดของฝ่ายศัตรูน่ะสิ ฮิตเลอร์นี่แหละคือบุคคลที่ไฮดร้ารออยู่ เฟนอห์ฟบอกซินแคลร์ไม่เห็นเป็นไรเลย ร่วมมือกับฮิตเลอร์ซักพักแล้วค่อยตัดหางปล่อยวัดก็ได้นี่ คราเคนเห็นด้วย เอาตามนั้นเลย
จบประชุม ไฮน์ริชกับเฟนอห์ฟเดินกลับ ซินแคลร์บอกคราเคนว่าพวกไฮน์ริชกำลังเข้าใจผิด ฮิตเลอร์ไม่ใช่บุคคลแห่งโชคชะตาที่ไฮดร้าตามหาหรอก สตีฟโรเจอร์สต่างหาก
สี่ปีต่อมา (ปี 1940) สตีฟยังคงมุมานะที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ไฮดร้าที่เข้มแข็ง เฟนอห์ฟยอมรับว่าเขาผิดเองที่ตัดสินว่าเด็กนั่นไม่เหมาะกับไฮดร้า แต่ภารกิจที่ไวท์ฮอลล์กำลังคิดจะส่งเขาไปทำนั่น…อย่าดีกว่า ไวท์ฮอลล์บอกไม่หรอก เพราะเป็นสตีฟนั่นแหละถึงจะเหมาะสมที่สุดสำหรับภารกิจนี้
หลังจบการฝึกภาคสนาม สตีฟคุยกับซีโม่ เขาไม่ได้อยากเป็นผู้บังคับการอยู่หลังฉาก เขาอยากลุยภาคสนามด้วยกันกับเพื่อนพ้องมากกว่า ซีโม่บอกไม่เอาน่า เป็นผู้นำสั่งคนโน้นคนนี้ดีออก จำที่แม่มดซินแคลร์พูดได้ใช่มั้ย นายคือบุคคลแห่งชะตากรรม ผู้ที่จะนำพวกเขาไฮดร้าสู่ความรุ่งโรจน์ไง
ไวท์ฮอลล์เรียกสตีฟมาพบ เขามีภารกิจลับจะมอบให้ เป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดเพื่อความรุ่งเรืองของไฮดร้าเลยก็ว่าได้ ถ้าเข้าใจแล้วก็อ่านเนื้อหาภารกิจแล้วจำให้ขึ้นใจซะ สตีฟจะต้องกลับไปที่อเมริกาบ้านเกิด ตามหาเป้าหมายแล้วกำจัดทิ้ง เป้าหมายคือผู้ที่ริเริ่มโปรเจ็ค REBIRTH
ผู้ที่ทดลองสร้างเซรุ่มซูเปอร์โซลเจอร์สำเร็จก่อนนาซี ด็อกเตอร์เออร์สไคน์!!
Marvel Comics *Short SPOIL* The Origin of Captain Hydra Part 3 (of 5)
Part 3: Steve Rogers as “Agent of Hydra”
ความเดิมที่ควรรู้
Avengers' STANDOFF
https://ppantip.com/topic/35262447
ปล. ผมแบ่งแบบนี้นะ
Part 1: The End of “Old” Steve Rogers https://ppantip.com/topic/36368336
Part 2: Steve Rogers as “Hydra Child” https://ppantip.com/topic/36369582
Part 3: Steve Rogers as “Agent of Hydra”
Part 4: Steve Rogers as “Captain America” https://ppantip.com/topic/36371133
Part 5: The Beginning of “New” Steve Rogers https://ppantip.com/topic/36372567
ปี 1934 ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาในโรงเรียนฝึกสอนยุวชนไฮดร้า The Keep ประเทศอังกฤษ สตีฟโรเจอร์สแสดงศักยภาพในการอ่านเขียนหนังสือ วางกลยุทธ์ และมีความมุมานะเป็นอย่างดี ทว่า สิ่งสำคัญที่สุดอย่างกำลังกายกลับต่ำกว่ามาตรฐาน
สตีฟพยายามหนีออกจาก The Keep ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ถูกจับกลับมาทุกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเขาพบกับคราเคน (ก็ไวท์ฮอลล์นั่นแหละมั้ง) คราเคนบอกความปรารถนาในอิสรภาพที่สตีฟมีอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ธรรมชาติของมนุษย์ แต่เป็นสิ่งที่ประเทศชาติอันเสื่อมโทรมอย่างอเมริกาปลูกฝังไว้ การมีปัจเจกบุคคลรังแต่จะทำให้ผู้คนโดดเดี่ยว และนำไปสู่ความกลัว ความโลภ และความรุนแรง ระบบมันเน่าเฟะอย่างนั้นแหละ เหมือนอย่างพวกสลัมที่สตีฟเห็นในบ้านเกิด เหมือนอย่างพ่อของนายไงล่ะ
คราเคนเชื่อว่ามีหนทางอื่นที่ดีกว่า หนทางที่พวกเขาจะอยู่ร่วมกันอย่างเข้มแข็ง ไม่ใช่อยู่เพื่อรักษาระบบอันเน่าเฟะนั่น แต่อยู่ภายใต้ผู้นำที่แข็งแกร่งและผ่านการทดสอบมามากที่สุด นำพาพวกเขาหลุดพ้นจากความเชื่อผิด ๆ ที่เกาะกินจิตใจ ต่อสู้กับภัยคุกคามที่ทำร้ายพวกเขา ต้องเปิดโปงโครงสร้างสังคมอันแสนอ่อนแอนั่นจากภายใน มันอาจจะยากเพราะผู้ที่อยู่ในสังคมแบบนั้นมีเยอะมาก พลังของคนหนุ่มอย่างสตีฟที่สามารถทำในสิ่งที่ต้องทำได้จึงเป็นสิ่งจำเป็นไงล่ะ ซินแคลร์ ผู้หญิงที่เขาติดหนี้บุญคุณอันใหญ่หลวง เชื่อมั่นในตัวสตีฟว่าจะเป็นผู้นำที่เข้มแข็งที่สุดคนนั้น
สตีฟเถียง ซินแคลร์เป็นคนขี้โกหก หล่อนทำอะไรบางอย่างกับแม่ ถึงเขาจะจำไม่ค่อยได้ แต่แม่ไม่มีวันกลับมาแน่นอน คราเคนบอกอย่าด่วนสรุปสิ แค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น งั้นก็เลือกมา จะหนีไปจากที่นี่…หนีจากชะตากรรมของตนเอง หรือกลับไปที่ The Keep พิสูจน์ให้เฟนอห์ฟและเด็กคนอื่นเห็นว่าสตีฟเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ได้ แล้วเขาทั้งคู่…จะสามารถปกป้องโลกร่วมกันได้
หนึ่งปีต่อมา (ปี 1935) วิชาประวัติศาสตร์ (มั้ง) เฟนอห์ฟถามเด็ก ๆ ว่า Zhang Heng พูดท้าทายกับโกลเด้นเซเลสเชี่ยลที่กำลังจะรุกรานโลกว่าอย่างไร ไม่ ไม่ใช่ตัดหนึ่งหัวจะงอกอีกสองหัวนะ โอเค สตีฟตอบถูก This is not how the world ends.
สตีฟสามารถซื้อใจเฟนอห์ฟได้สำเร็จ เฟนอห์ฟฝากฝังให้สตีฟเป็นคนนำทัวร์ให้เด็กใหม่ที่จะย้ายมาเรียนที่นี่ ทว่า เพื่อนร่วมชั้นกำลังอิจฉาตาร้อน เจ้าเด็กมะกันที่ได้มาเรียนเพราะนังแม่มดซินแคลร์เป่าหูครูใหญ่ไวท์ฮอลล์เนี่ยนะ คอยดูเถอะ
ระหว่างที่ครูไม่อยู่ พวกเด็กเกเรขี้อิจฉารุมทำร้ายสตีฟ ทันใดนั้น ใครบางคนก็มาช่วย (คนเดียวอัดสามคนลงไปกองได้ จัดว่าแกร่งทีเดียว)
ชื่อของชายคนนั้นก็คือ เฮลมุทซีโม่ เด็กที่จะย้ายมาเรียนที่นี่นั่นเอง
อีกหนึ่งปีต่อมา (ปี 1936) สตีฟและซีโม่กลายเป็นเพื่อนรักกัน วันหนึ่งทั้งคู่เล่นแผลง ๆ แอบขโมยเหล้าของเฟนอห์ฟจะไปโยนทิ้งทะเลสาบ
แต่เดินชนพ่อของซีโม่ บารอนไฮน์ริชซีโม่ที่ 12 เข้าซะก่อน ซีโม่โผเข้ากอดด้วยความดีใจ
กลางดึกคืนนั้น ซีโม่ปลุกสตีฟให้ย่องไปดูการประชุมลับของพวกผู้ใหญ่ ได้แก่ เฟนอห์ฟ ไฮน์ริช คราเคน (ไวท์ฮอลล์) และซินแคลร์ที่หายหน้าไปซะนาน
ไฮน์ริชเล่าว่าสงครามโลกกำลังจะเกิดในไม่ช้า ไฮดร้าตกลงจะร่วมมือกับเยอรมันและฝ่ายอักษะ และเขามีแผนจะส่งคนแทรกซึมเข้าไป เจรจาร่วมมือกับอดอล์ฟฮิตเลอร์อย่างเป็นทางการ ชายคนนั้นรวบรวมไว้ทั้งไพร่พล อาวุธยุทโธปกรณ์ และศาสตร์มืด ได้ข่าวว่ามีทดลองซูเปอร์โซลเจอร์ด้วย แต่ซินแคลร์ไม่เห็นด้วย หมอนั่นก็แค่คนบ้าอำนาจและกระหายเลือดคนนึง ถ้าไปร่วมมือกับมัน ไฮดร้าจะแปดเปื้อนซะเปล่า ๆ ความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานรออยู่ข้างหน้าถ้าร่วมมือกับมัน ไฮน์ริชบอกความเจ็บปวดของฝ่ายศัตรูน่ะสิ ฮิตเลอร์นี่แหละคือบุคคลที่ไฮดร้ารออยู่ เฟนอห์ฟบอกซินแคลร์ไม่เห็นเป็นไรเลย ร่วมมือกับฮิตเลอร์ซักพักแล้วค่อยตัดหางปล่อยวัดก็ได้นี่ คราเคนเห็นด้วย เอาตามนั้นเลย
จบประชุม ไฮน์ริชกับเฟนอห์ฟเดินกลับ ซินแคลร์บอกคราเคนว่าพวกไฮน์ริชกำลังเข้าใจผิด ฮิตเลอร์ไม่ใช่บุคคลแห่งโชคชะตาที่ไฮดร้าตามหาหรอก สตีฟโรเจอร์สต่างหาก
สี่ปีต่อมา (ปี 1940) สตีฟยังคงมุมานะที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ไฮดร้าที่เข้มแข็ง เฟนอห์ฟยอมรับว่าเขาผิดเองที่ตัดสินว่าเด็กนั่นไม่เหมาะกับไฮดร้า แต่ภารกิจที่ไวท์ฮอลล์กำลังคิดจะส่งเขาไปทำนั่น…อย่าดีกว่า ไวท์ฮอลล์บอกไม่หรอก เพราะเป็นสตีฟนั่นแหละถึงจะเหมาะสมที่สุดสำหรับภารกิจนี้
หลังจบการฝึกภาคสนาม สตีฟคุยกับซีโม่ เขาไม่ได้อยากเป็นผู้บังคับการอยู่หลังฉาก เขาอยากลุยภาคสนามด้วยกันกับเพื่อนพ้องมากกว่า ซีโม่บอกไม่เอาน่า เป็นผู้นำสั่งคนโน้นคนนี้ดีออก จำที่แม่มดซินแคลร์พูดได้ใช่มั้ย นายคือบุคคลแห่งชะตากรรม ผู้ที่จะนำพวกเขาไฮดร้าสู่ความรุ่งโรจน์ไง
ไวท์ฮอลล์เรียกสตีฟมาพบ เขามีภารกิจลับจะมอบให้ เป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดเพื่อความรุ่งเรืองของไฮดร้าเลยก็ว่าได้ ถ้าเข้าใจแล้วก็อ่านเนื้อหาภารกิจแล้วจำให้ขึ้นใจซะ สตีฟจะต้องกลับไปที่อเมริกาบ้านเกิด ตามหาเป้าหมายแล้วกำจัดทิ้ง เป้าหมายคือผู้ที่ริเริ่มโปรเจ็ค REBIRTH
ผู้ที่ทดลองสร้างเซรุ่มซูเปอร์โซลเจอร์สำเร็จก่อนนาซี ด็อกเตอร์เออร์สไคน์!!