สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เราคิดอยู่นานว่าจะปรึกษาชาว pantip ดีไม จนตอนนี้เรื่องราวมันเริ่มบานปลายถึงขั้นเราเองยังเครียดและไม่รู้จะแก้ไขมันยังไง เลยต้องลองมาขอคำปรึกษาจากชาว pantip ดูค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้เราเป็นนักศึกษาของมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เรามีเพื่อนสนิทรวมเราแล้ว 5 คน ทุกคนก็นิสัยดีค่ะถือว่าโชคดีมากที่เราได้เพื่อนที่เข้าใจและช่วยเหลือกันตลอด ตอนปี 1 เทอม 1 เราอยู่หอในกัน จนมาตอนนี้เทอม 2 เรากับเพื่อนอีก 3 คน ย้ายมาอยู่หอนอกกัน โดยมีเรากับเพื่อนที่ชื่อว่า L (นามสมมติ) มาอยู่ด้วยกัน 2 คน ส่วนอีก 2 คนก็อยู่คนละห้อง แรกๆมันก็ดีนะคะ หลังๆ L เริ่มไม่ค่อยช่วยทำงานบ้าน ไม่ช่วยเก็บของ ชอบวางของกินที่กินเสร็จทิ้งไว้เป็นวันๆ ไม่ยอมเอาไปล้าง จนเราต้องว่าต้องบ่นต้องจี้เขาตลอด แต่เขาก็ยังไม่เลิกนิสัยพวกนี้ค่ะ ปกติทุกๆวันคนกวาดห้องคือเราคนเดียว เราก็เคยคุยกับเขาว่ามาจัดเวรทำความสะอาดห้องกันไม เขาก็ตกลง แต่ทำได้แค่วันเดียวนางก็ไม่ทำแล้วค่ะ เรื่องแบบนี้เราก็พอรับได้อยู่ค่ะ แต่ก็ไม่คิดจะรับมันเลยซะทีเดียว คิดว่าคงต้องใช้เวลา เพราะเรารู้ว่าเขาติดเป็นนิสัยไปแล้ว เราเลยค่อยๆบ่น ค่อยๆว่าเขาอยู่เรื่อยค่ะ เรื่องแรกผ่านไป เรื่องต่อมาคือ
L ได้เจอกับผู้ชายคนนึง เขาสองคนก็ชอบกันจนได้มาคบกัน ซึ่งคนที่ทำให้เขาได้คบกันและเป็นแม่สื่อให้ก็คือเราเองค่ะ ตั้งแต่ที่เขาคบกัน ผู้ชายก็จะชอบมาหามาคุยกับ L ในห้องเราทุกๆวัน บางคืนก็นอนในห้องแต่นอนเตียงเดียวกับ L นะคะ จนพักหลังๆเขาสองคนก็มานอนด้วยกันที่ห้องเราทุกๆคืน ทั้งที่ยังไม่ใช่แฟนกันนะคะพอเริ่มมีข่าวที่รุ่นพี่มาเตือน เรื่องนี้
ว่าเขาสองคนไม่ใช่แฟนกัน แต่มันนอนด้วยกันแล้ว มันน่าอาย เขาสองคนเลยตัดสินใจเป็นแฟนกันวันนั้นเลยค่ะ ตอนนี้เขาสอคนก็มานอนด้วยกันที่ห้องเราทุกคืน ไม่มีวันเว้น จนเราเองก็เริ่มรำคาญเพราะเขาสองคนคุยกันทั้งคืนยันตี 2 - ตี 3 จนเราต้องคุยกับเขาว่า
"เราไม่ไหวนะแบบนี้ เราเป็นคนตื่นยาก พวกเธอคุยกันเสียงดังเรานอนไม่หลับ"
เขาสองคนเลยบอกว่าจะออกไปคุยข้างนอกแล้วกลับเข้ามานอนที่ห้องเหมือนเดิม โดยจะไม่คุยกันในห้องเลย เราก็ OK นะ แต่เราคิดว่ามันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งหลังจากวันนั้นเราก็บอกกับเขาประมาณว่า
"ความรักของเธอมันเลือกหนทางได้เสมอ ความรักที่ไม่เบียดเบียนใคร ความรักที่ไปเรื่อยๆ แต่รักกันเสมอ หรือความรักแบบอื่นๆ เราเลือกได้นะขึ้นอยู่กับตัวเรา"
L ก็ตอบเรามาว่า
"เค้าไม่เลือกหรอก ให้มันเป็นไปเอง"
เราก็เลยไม่พูดอะไรอีก เพราะไม่รู้ว่าจะพูดยังไงต่อ เลยบอกไปแค่ว่า
"แล้วแต่"
เรารู้เลยว่าเขาไม่ฟังเราแล้ว เริ่มตาบอด ไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องกับความรักของเขาง่ายๆ เราเลยตัดสินใจว่าจะปล่อยๆไป เพราะเรื่องแบบนี้ต้องโดนทำให้เจ็บถึงจะเข้าใจค่ะ
เราได้เล่าให้พ่อแม่ของเราฟัง เพราะท่านถาม เราเองก็ไม่กล้าโกหก เลยเล่าให้ฟังทั้งเรื่องที่นางเอาแฟนมานอนด้วยทุกๆคืน จนพ่อแม่เราเขาเองก็รับไม่ได้ บอกเราว่าถ้าไม่รีบเครียล์ปัญหาพวกนี้จะให้เราออกไปอยู่คนเดียว แล้วทิ้ง L ให้อยู่กับแฟนไป เราก็คิดว่าดีนะคะ เราเองก็ 50-50 อยากอยู่คนเดียวเหมือนกันค่ะ แต่เราก็ไม่อยากทิ้ง L เพราะสงสารพ่อแม่เขา คือพ่อแม่เขาเชื่อใจเรามาก แถมฝากลูกของเขาไว้กับเรา พ่อแม่ของ L ชอบเรา และเขาบอกว่าเขาอุ่นใจที่ L มีเราเป็นเพื่อน เพราะเราค่อนข้างจะเก่งเรื่องใช้ชีวิต ซึ่งพ่อแม่ของ L ก็ไม่รู้เรื่องที่ L นอนกับแฟนในห้อง เพราะ L โกหกแม่ไปว่าแค่คุยกันเสร็จแล้วผู้ชายก็กลับไปนอนห้องของผู้ชาย เราก็เคยบอก L นะคะ ว่าพ่อแม่เธอเป็นห่วงนะ เขารักเธอมากถึงไม่อยากให้เธอทำไรผิดพลาดไป L ก็ไม่ฟัง บอกว่า
"ก็รู้ แต่ก็ไม่อยากให้พ่อแม่มายุ่งกับชีวิตเพราะเราโตแล้ว"
เราเลยไม่พูดอะไรอีกค่ะ
ตอนนี้เรารู้สึกกดดันมาก เพราะพ่อแม่เราก็ดูเหมือนจะอยากให้อยู่คนเดียวมากกว่า เขาก็รับไม่ได้ที่มีผู้ชายมานอนด้วยในห้อง เราเองก็ไม่ชอบค่ะ เราเคยคุยกับ L เมื่อล่าสุดนี้ว่า
"ความลับนี้มันปิดไปไม่ได้ตลอดหรอกนะ L ยังไงเขาก็ต้องรู้ และเขาก็ควรรู้ด้วย"
L ก็บอกเราว่า
"ให้เขามาถามเอง"
เราก็คิดในใจว่า ก็เขาไม่รู้ เขาจะถามได้ยังไง เราเอือมมากเลยไม่อยากคุยด้วยแล้ว เราเลยไมาพูดเรื่องนี้อีก คือตอนนี้เราเริ่มจนมุมแล้วค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดี คืออยากจะคุยกันให้รู้เรื่องมากกว่าที่จู่ๆ ก็ย้ายออกไปเลย เพราะเราเองก็ชินกับการอยู่ห้องนี้ไปแล้วค่ะ และพ่อแม่เราเขาก็บอกว่าถ้าย้ายออกเมื่อไร จะบอกพ่อแม่ของ L หมดว่า L นอนกับแฟนทุกคืน และถึงตอนนั้นเราคิดว่า L คงโกรธเรามาก และเราคงต้องตัดความเป็นเพื่อนกันไปแน่ๆ เราก็ไม่อยากเป็นแบบนั้นค่ะ ช่วยให้คำปรึกษาเราหน่อยนะคะ เราเครียดจริงๆค่ะ
เพื่อนพาแฟนมานอนในห้องค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้เราเป็นนักศึกษาของมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เรามีเพื่อนสนิทรวมเราแล้ว 5 คน ทุกคนก็นิสัยดีค่ะถือว่าโชคดีมากที่เราได้เพื่อนที่เข้าใจและช่วยเหลือกันตลอด ตอนปี 1 เทอม 1 เราอยู่หอในกัน จนมาตอนนี้เทอม 2 เรากับเพื่อนอีก 3 คน ย้ายมาอยู่หอนอกกัน โดยมีเรากับเพื่อนที่ชื่อว่า L (นามสมมติ) มาอยู่ด้วยกัน 2 คน ส่วนอีก 2 คนก็อยู่คนละห้อง แรกๆมันก็ดีนะคะ หลังๆ L เริ่มไม่ค่อยช่วยทำงานบ้าน ไม่ช่วยเก็บของ ชอบวางของกินที่กินเสร็จทิ้งไว้เป็นวันๆ ไม่ยอมเอาไปล้าง จนเราต้องว่าต้องบ่นต้องจี้เขาตลอด แต่เขาก็ยังไม่เลิกนิสัยพวกนี้ค่ะ ปกติทุกๆวันคนกวาดห้องคือเราคนเดียว เราก็เคยคุยกับเขาว่ามาจัดเวรทำความสะอาดห้องกันไม เขาก็ตกลง แต่ทำได้แค่วันเดียวนางก็ไม่ทำแล้วค่ะ เรื่องแบบนี้เราก็พอรับได้อยู่ค่ะ แต่ก็ไม่คิดจะรับมันเลยซะทีเดียว คิดว่าคงต้องใช้เวลา เพราะเรารู้ว่าเขาติดเป็นนิสัยไปแล้ว เราเลยค่อยๆบ่น ค่อยๆว่าเขาอยู่เรื่อยค่ะ เรื่องแรกผ่านไป เรื่องต่อมาคือ
L ได้เจอกับผู้ชายคนนึง เขาสองคนก็ชอบกันจนได้มาคบกัน ซึ่งคนที่ทำให้เขาได้คบกันและเป็นแม่สื่อให้ก็คือเราเองค่ะ ตั้งแต่ที่เขาคบกัน ผู้ชายก็จะชอบมาหามาคุยกับ L ในห้องเราทุกๆวัน บางคืนก็นอนในห้องแต่นอนเตียงเดียวกับ L นะคะ จนพักหลังๆเขาสองคนก็มานอนด้วยกันที่ห้องเราทุกๆคืน ทั้งที่ยังไม่ใช่แฟนกันนะคะพอเริ่มมีข่าวที่รุ่นพี่มาเตือน เรื่องนี้
ว่าเขาสองคนไม่ใช่แฟนกัน แต่มันนอนด้วยกันแล้ว มันน่าอาย เขาสองคนเลยตัดสินใจเป็นแฟนกันวันนั้นเลยค่ะ ตอนนี้เขาสอคนก็มานอนด้วยกันที่ห้องเราทุกคืน ไม่มีวันเว้น จนเราเองก็เริ่มรำคาญเพราะเขาสองคนคุยกันทั้งคืนยันตี 2 - ตี 3 จนเราต้องคุยกับเขาว่า
"เราไม่ไหวนะแบบนี้ เราเป็นคนตื่นยาก พวกเธอคุยกันเสียงดังเรานอนไม่หลับ"
เขาสองคนเลยบอกว่าจะออกไปคุยข้างนอกแล้วกลับเข้ามานอนที่ห้องเหมือนเดิม โดยจะไม่คุยกันในห้องเลย เราก็ OK นะ แต่เราคิดว่ามันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งหลังจากวันนั้นเราก็บอกกับเขาประมาณว่า
"ความรักของเธอมันเลือกหนทางได้เสมอ ความรักที่ไม่เบียดเบียนใคร ความรักที่ไปเรื่อยๆ แต่รักกันเสมอ หรือความรักแบบอื่นๆ เราเลือกได้นะขึ้นอยู่กับตัวเรา"
L ก็ตอบเรามาว่า
"เค้าไม่เลือกหรอก ให้มันเป็นไปเอง"
เราก็เลยไม่พูดอะไรอีก เพราะไม่รู้ว่าจะพูดยังไงต่อ เลยบอกไปแค่ว่า
"แล้วแต่"
เรารู้เลยว่าเขาไม่ฟังเราแล้ว เริ่มตาบอด ไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องกับความรักของเขาง่ายๆ เราเลยตัดสินใจว่าจะปล่อยๆไป เพราะเรื่องแบบนี้ต้องโดนทำให้เจ็บถึงจะเข้าใจค่ะ
เราได้เล่าให้พ่อแม่ของเราฟัง เพราะท่านถาม เราเองก็ไม่กล้าโกหก เลยเล่าให้ฟังทั้งเรื่องที่นางเอาแฟนมานอนด้วยทุกๆคืน จนพ่อแม่เราเขาเองก็รับไม่ได้ บอกเราว่าถ้าไม่รีบเครียล์ปัญหาพวกนี้จะให้เราออกไปอยู่คนเดียว แล้วทิ้ง L ให้อยู่กับแฟนไป เราก็คิดว่าดีนะคะ เราเองก็ 50-50 อยากอยู่คนเดียวเหมือนกันค่ะ แต่เราก็ไม่อยากทิ้ง L เพราะสงสารพ่อแม่เขา คือพ่อแม่เขาเชื่อใจเรามาก แถมฝากลูกของเขาไว้กับเรา พ่อแม่ของ L ชอบเรา และเขาบอกว่าเขาอุ่นใจที่ L มีเราเป็นเพื่อน เพราะเราค่อนข้างจะเก่งเรื่องใช้ชีวิต ซึ่งพ่อแม่ของ L ก็ไม่รู้เรื่องที่ L นอนกับแฟนในห้อง เพราะ L โกหกแม่ไปว่าแค่คุยกันเสร็จแล้วผู้ชายก็กลับไปนอนห้องของผู้ชาย เราก็เคยบอก L นะคะ ว่าพ่อแม่เธอเป็นห่วงนะ เขารักเธอมากถึงไม่อยากให้เธอทำไรผิดพลาดไป L ก็ไม่ฟัง บอกว่า
"ก็รู้ แต่ก็ไม่อยากให้พ่อแม่มายุ่งกับชีวิตเพราะเราโตแล้ว"
เราเลยไม่พูดอะไรอีกค่ะ
ตอนนี้เรารู้สึกกดดันมาก เพราะพ่อแม่เราก็ดูเหมือนจะอยากให้อยู่คนเดียวมากกว่า เขาก็รับไม่ได้ที่มีผู้ชายมานอนด้วยในห้อง เราเองก็ไม่ชอบค่ะ เราเคยคุยกับ L เมื่อล่าสุดนี้ว่า
"ความลับนี้มันปิดไปไม่ได้ตลอดหรอกนะ L ยังไงเขาก็ต้องรู้ และเขาก็ควรรู้ด้วย"
L ก็บอกเราว่า
"ให้เขามาถามเอง"
เราก็คิดในใจว่า ก็เขาไม่รู้ เขาจะถามได้ยังไง เราเอือมมากเลยไม่อยากคุยด้วยแล้ว เราเลยไมาพูดเรื่องนี้อีก คือตอนนี้เราเริ่มจนมุมแล้วค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดี คืออยากจะคุยกันให้รู้เรื่องมากกว่าที่จู่ๆ ก็ย้ายออกไปเลย เพราะเราเองก็ชินกับการอยู่ห้องนี้ไปแล้วค่ะ และพ่อแม่เราเขาก็บอกว่าถ้าย้ายออกเมื่อไร จะบอกพ่อแม่ของ L หมดว่า L นอนกับแฟนทุกคืน และถึงตอนนั้นเราคิดว่า L คงโกรธเรามาก และเราคงต้องตัดความเป็นเพื่อนกันไปแน่ๆ เราก็ไม่อยากเป็นแบบนั้นค่ะ ช่วยให้คำปรึกษาเราหน่อยนะคะ เราเครียดจริงๆค่ะ