สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
กฎของจักรวาลบอกว่า
ถ้าใจข้างในของเรารู้สึกสิ่งใดซ้ำๆบ่อยๆ มันจะเกิดเป็นพลังงาน แล้วไปดึงดูดสิ่งที่คู่ควรเหมาะสมมาให้เราได้เจอ คลื่นเหมือนกันจะดึงดูดให้มาหากัน แสดงว่า แม่และพี่สาวต้องเป็นคนขี้บ่น รำคาญ หงุดหงิด เซ็ง รู้สึกแย่ รู้สึกลบๆ สะสมในใจมานานหลายปีแล้ว มันก่อเกิดเป็นพลังลบๆส่งออกไปยังจักรวาล จักรวาลก็จะสรรหาคนที่ทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นมากขึ้นไปอีก เลยส่งน้องสาวมาให้พวกคุณยังไงล่ะ เห็นมั๊ยล่ะ ได้บ่น ได้รำคาญ ได้หงุดหงิด โกรธ เกลียด ฯลฯ มากขึ้นไปอีก เพราะคลื่นความรู้สึกในใจเป็นอย่างไร มันจะไปดึงดูดสิ่งที่เหมือนกันมาให้เราครับ
ผมลองมาแล้ว ใครว่าไม่จริงก็แล้วแต่นะครับ
คุณภาพในใจของเราเป็นยังไง สิ่งแวดล้อมภายนอกของเราจะเป็นอย่างนั้น ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบก็แล้วแต่ สมองส่วนจิตใต้สำนึกของคนเราไม่รู้ว่า เราชอบหรือไม่ชอบ แต่มันจะตีความหมายว่า อะไรก็ตามที่เรารู้สึกบ่อยๆซ้ำๆ ทุกวันทุกเวลา แปลว่าเราชอบ แล้วมันจะส่งคลื่นออกไปดึงดูดผู้คน เหตุการณ์ต่างๆ ที่ตรงกับกับความรู้สึกในใจเรามาให้เราได้เจอ ได้รู้สึกแบบนั้นอีก ถ้าคุณเอาแต่บ่น ด่า โกรธ ฯลฯ น้องสาวตัวเองทุกวันทุกเวลาซ้ำๆ ในหัวใจของคุณก็จะเต็มไปด้วยความรู้สึกแย่ๆ จิตใต้สำนึกมันก็จะเก็บความรู้สึกนั้นไว้ แล้วตีความว่าเราชอบแบบนี้ เพราะรู้สึกแบบนี้บ่อยๆ พอมันมีพลังมากพอ มันก็จะไปดึงดูดผู้คนหรือน้องสาวของคุณทำอะไรบางอย่างให้คุณรู้สึกโกรธเกลียดมากขึ้นไปอีก คุณลองสังเกตเหตุการณ์ที่ผ่านมาดูสิ ว่าจริงอย่างที่ผมพูดรึป่าว
วิธีแก้ก็คือ
อย่ารู้สึกหรือคิดอะไรที่เราไม่ต้องการ แต่ให้คิดถึงแต่สิ่งที่เราต้องการ ให้กลับด้านรู้สึกเป็นบวกให้หมดหรือให้ได้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น รู้สึกดี สนุกสนาน มีความสุข ร่ำรวย สดใส ร่าเริง ฯลฯ พอความรู้สึกนี้มันเต็มในหัวใจ มันก็จะส่งคลื่นออกไปดึงดูดสิ่งที่คู่ควรกับใจเรามาให้เรา
ส่วนกรณีน้องสาว ลองให้คุณมองเห็นข้อดีของเขาว่ามีอะไรบ้าง คุณอาจจะบอกว่าไม่มี แต่ผมเชื่อว่ายังไงก็ต้องมีบ้างล่ะ พอคุณเห็นข้อดีของเขา ให้คุณลองชมเขาจากใจจริงๆ (จากใจจริงๆนะครับ ไม่เสแสร้งทำนะ) เช่น น้องคุณผมสวยมาก หน้าตาดี ผิวพรรณดี หรืออะไรก็ตามที่คุณพอจะหาที่ชมเขาได้ ให้คุณชมเขาจากใจจริงๆ เช่น เออ แกก็ผมสวยนะ ใช้แชมพูอะไร สระผมยังไงกี่นาทีบอกพี่หน่อย แม่ว่ามั๊ย น้องมันก็ผมสวยนะ หุ่นก็ดีนะ แบบนี้เป็นต้น น้องคุณจะรู้สึกแบบว่า เฮ้ย อะไรอะ อยู่ดีๆก็มาชม บ้ารึป่าว แต่เชื่อเถอะว่า ในใจลึกๆของเขาจะเริ่มเปลี่ยนแล้ว และในทุกๆวัน ให้คุณหาข้อดีของน้องให้ได้และชมเขาบ่อยๆ ซ้ำๆ จากใจจริง ความรู้สึกดีที่คุณมีให้เขามันจะส่งพลังออกไปในใจของน้องคุณ พอมันมากขึ้นๆ ทุกๆวันมันจะไปกระตุ้นจิตใต้สำนึกของน้องคุณให้มีความรู้สึกว่าตัวเองก็มีค่าในสายตาคนอื่นนะ มีคนรักฉันนะ มีความอบอุ่นขึ้นในหัวใจ มีความรู้สึกดีๆค่อยๆเกิดขึ้น ความรู้สึกลบๆเริ่มน้อยลงไป ทำให้พลังงานบวกส่งพลังออกมาให้เขาอยากทำอะไรที่ดี มีประโยชน์ขึ้น 3-4วันผ่านไป คุณอาจจะทึ่งก็ได้ ที่อยู่ดีๆก็เห็นน้องสาวตื่นเช้ามานั่งล้างจาน รดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านก็ได้
อยากให้ จขกท ลองทำดูนะครับ คลื่นในใจเราที่ส่งออกไปแบบไหน มันจะดึกดูดคนแบบนั้นมาให้เรา คุณส่งแต่อารมณ์ลบๆไปให้น้อง คุณก็จะได้ลบกลับมาเช่นกันทั้งสองฝ่าย ถ้าคุณส่งความรู้สึกโกรธๆๆๆๆออกไป คุณก็จะได้รับความโกรธกลับมาเพิ่มอีก เปลี่ยนเป็นส่งความรัก ชื่นชมสิ่งที่คนอื่นมีแม้เพียงน้อยนิด อาจจะเป็นพลังงานบวกที่คุณส่งให้เขา มันอาจจะเปลี่ยนแปลงเขาก็ได้นะครับ ส่วนสิ่งที่แย่ของน้องเป็นที่มีร้อยๆอย่าง คุณอย่าเก็บมาไว้ในใจ หรืออย่าเอาใจไปขยายครับ เพราะถ้าคุณเอาใจไปขยาย มันก็จะยิ่งสะท้อนกลับมาหาคุณครับ แค่ให้รู้ไว้และเข้าใจว่า เออ มันเป็นแบบนี้นี่เอง ช่างมัน มันไม่ดีแต่มันก็ผมสวย หุ่นดี ผิวสวย ฉันจะพูดจะชมจะมองเห็นแต่เรื่องดีๆของมันก็แล้วกัน ลองทำดูนะครับ แรกๆจะฝืนๆหน่อย แต่พอทำไปสักพัก คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแน่นอน
ไหนๆก็ลองมาหลายวิธีแล้ว
ลองวิธีของผมดูจะเป็นไร ผมลองมาแล้ว และก็ได้ผลมาแล้วครับ ชีวิตดีมีความสุขรอบด้านเลยครับ อย่าลืมนะครับ สิ่งแวดล้อมในใจเราเป็นยังไง มันจะดึงดูดสิ่งที่เหมือนกันมาให้เราครับ ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็แล้วแต่
ตัวอย่างคลิปนะครับ ดูแล้วจะรู้สึกเปลี่ยนความรู้สึกทันที จริงๆผมดูคลิปลักษณะนี้มาเยอะมากครับทั้งไทยและเทศ อันนี้เป็นคลิปของครูอ้อยครับ
ถ้าใจข้างในของเรารู้สึกสิ่งใดซ้ำๆบ่อยๆ มันจะเกิดเป็นพลังงาน แล้วไปดึงดูดสิ่งที่คู่ควรเหมาะสมมาให้เราได้เจอ คลื่นเหมือนกันจะดึงดูดให้มาหากัน แสดงว่า แม่และพี่สาวต้องเป็นคนขี้บ่น รำคาญ หงุดหงิด เซ็ง รู้สึกแย่ รู้สึกลบๆ สะสมในใจมานานหลายปีแล้ว มันก่อเกิดเป็นพลังลบๆส่งออกไปยังจักรวาล จักรวาลก็จะสรรหาคนที่ทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นมากขึ้นไปอีก เลยส่งน้องสาวมาให้พวกคุณยังไงล่ะ เห็นมั๊ยล่ะ ได้บ่น ได้รำคาญ ได้หงุดหงิด โกรธ เกลียด ฯลฯ มากขึ้นไปอีก เพราะคลื่นความรู้สึกในใจเป็นอย่างไร มันจะไปดึงดูดสิ่งที่เหมือนกันมาให้เราครับ
ผมลองมาแล้ว ใครว่าไม่จริงก็แล้วแต่นะครับ
คุณภาพในใจของเราเป็นยังไง สิ่งแวดล้อมภายนอกของเราจะเป็นอย่างนั้น ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบก็แล้วแต่ สมองส่วนจิตใต้สำนึกของคนเราไม่รู้ว่า เราชอบหรือไม่ชอบ แต่มันจะตีความหมายว่า อะไรก็ตามที่เรารู้สึกบ่อยๆซ้ำๆ ทุกวันทุกเวลา แปลว่าเราชอบ แล้วมันจะส่งคลื่นออกไปดึงดูดผู้คน เหตุการณ์ต่างๆ ที่ตรงกับกับความรู้สึกในใจเรามาให้เราได้เจอ ได้รู้สึกแบบนั้นอีก ถ้าคุณเอาแต่บ่น ด่า โกรธ ฯลฯ น้องสาวตัวเองทุกวันทุกเวลาซ้ำๆ ในหัวใจของคุณก็จะเต็มไปด้วยความรู้สึกแย่ๆ จิตใต้สำนึกมันก็จะเก็บความรู้สึกนั้นไว้ แล้วตีความว่าเราชอบแบบนี้ เพราะรู้สึกแบบนี้บ่อยๆ พอมันมีพลังมากพอ มันก็จะไปดึงดูดผู้คนหรือน้องสาวของคุณทำอะไรบางอย่างให้คุณรู้สึกโกรธเกลียดมากขึ้นไปอีก คุณลองสังเกตเหตุการณ์ที่ผ่านมาดูสิ ว่าจริงอย่างที่ผมพูดรึป่าว
วิธีแก้ก็คือ
อย่ารู้สึกหรือคิดอะไรที่เราไม่ต้องการ แต่ให้คิดถึงแต่สิ่งที่เราต้องการ ให้กลับด้านรู้สึกเป็นบวกให้หมดหรือให้ได้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น รู้สึกดี สนุกสนาน มีความสุข ร่ำรวย สดใส ร่าเริง ฯลฯ พอความรู้สึกนี้มันเต็มในหัวใจ มันก็จะส่งคลื่นออกไปดึงดูดสิ่งที่คู่ควรกับใจเรามาให้เรา
ส่วนกรณีน้องสาว ลองให้คุณมองเห็นข้อดีของเขาว่ามีอะไรบ้าง คุณอาจจะบอกว่าไม่มี แต่ผมเชื่อว่ายังไงก็ต้องมีบ้างล่ะ พอคุณเห็นข้อดีของเขา ให้คุณลองชมเขาจากใจจริงๆ (จากใจจริงๆนะครับ ไม่เสแสร้งทำนะ) เช่น น้องคุณผมสวยมาก หน้าตาดี ผิวพรรณดี หรืออะไรก็ตามที่คุณพอจะหาที่ชมเขาได้ ให้คุณชมเขาจากใจจริงๆ เช่น เออ แกก็ผมสวยนะ ใช้แชมพูอะไร สระผมยังไงกี่นาทีบอกพี่หน่อย แม่ว่ามั๊ย น้องมันก็ผมสวยนะ หุ่นก็ดีนะ แบบนี้เป็นต้น น้องคุณจะรู้สึกแบบว่า เฮ้ย อะไรอะ อยู่ดีๆก็มาชม บ้ารึป่าว แต่เชื่อเถอะว่า ในใจลึกๆของเขาจะเริ่มเปลี่ยนแล้ว และในทุกๆวัน ให้คุณหาข้อดีของน้องให้ได้และชมเขาบ่อยๆ ซ้ำๆ จากใจจริง ความรู้สึกดีที่คุณมีให้เขามันจะส่งพลังออกไปในใจของน้องคุณ พอมันมากขึ้นๆ ทุกๆวันมันจะไปกระตุ้นจิตใต้สำนึกของน้องคุณให้มีความรู้สึกว่าตัวเองก็มีค่าในสายตาคนอื่นนะ มีคนรักฉันนะ มีความอบอุ่นขึ้นในหัวใจ มีความรู้สึกดีๆค่อยๆเกิดขึ้น ความรู้สึกลบๆเริ่มน้อยลงไป ทำให้พลังงานบวกส่งพลังออกมาให้เขาอยากทำอะไรที่ดี มีประโยชน์ขึ้น 3-4วันผ่านไป คุณอาจจะทึ่งก็ได้ ที่อยู่ดีๆก็เห็นน้องสาวตื่นเช้ามานั่งล้างจาน รดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านก็ได้
อยากให้ จขกท ลองทำดูนะครับ คลื่นในใจเราที่ส่งออกไปแบบไหน มันจะดึกดูดคนแบบนั้นมาให้เรา คุณส่งแต่อารมณ์ลบๆไปให้น้อง คุณก็จะได้ลบกลับมาเช่นกันทั้งสองฝ่าย ถ้าคุณส่งความรู้สึกโกรธๆๆๆๆออกไป คุณก็จะได้รับความโกรธกลับมาเพิ่มอีก เปลี่ยนเป็นส่งความรัก ชื่นชมสิ่งที่คนอื่นมีแม้เพียงน้อยนิด อาจจะเป็นพลังงานบวกที่คุณส่งให้เขา มันอาจจะเปลี่ยนแปลงเขาก็ได้นะครับ ส่วนสิ่งที่แย่ของน้องเป็นที่มีร้อยๆอย่าง คุณอย่าเก็บมาไว้ในใจ หรืออย่าเอาใจไปขยายครับ เพราะถ้าคุณเอาใจไปขยาย มันก็จะยิ่งสะท้อนกลับมาหาคุณครับ แค่ให้รู้ไว้และเข้าใจว่า เออ มันเป็นแบบนี้นี่เอง ช่างมัน มันไม่ดีแต่มันก็ผมสวย หุ่นดี ผิวสวย ฉันจะพูดจะชมจะมองเห็นแต่เรื่องดีๆของมันก็แล้วกัน ลองทำดูนะครับ แรกๆจะฝืนๆหน่อย แต่พอทำไปสักพัก คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแน่นอน
ไหนๆก็ลองมาหลายวิธีแล้ว
ลองวิธีของผมดูจะเป็นไร ผมลองมาแล้ว และก็ได้ผลมาแล้วครับ ชีวิตดีมีความสุขรอบด้านเลยครับ อย่าลืมนะครับ สิ่งแวดล้อมในใจเราเป็นยังไง มันจะดึงดูดสิ่งที่เหมือนกันมาให้เราครับ ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็แล้วแต่
ตัวอย่างคลิปนะครับ ดูแล้วจะรู้สึกเปลี่ยนความรู้สึกทันที จริงๆผมดูคลิปลักษณะนี้มาเยอะมากครับทั้งไทยและเทศ อันนี้เป็นคลิปของครูอ้อยครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไงกับน้องสาวคนนี้ดีค่ะ เราสุดจะทนแล้ว ไม่เหลือความเป็นคนอยู่ละมั้ง
พฤติกรรมของน้องสาวเรา คือสุดจะทน ไม่มีใครรับได้ แม้แต่ตัวแม่เราเอง ญาติพี่น้องทุกคนเห็นก็เอือมละอาสามีที่ย้ายมาอยู่กับบ้านกับเรา เขาทั้งอึดอัดใจ รำคาญ เบื่อ ทุกสิ่งทุกอย่าง ปัญหาต่างๆนานา ก็สาเหตุมาจากน้องสาวเราคนนี้คนเดียว
(ถ้าใครจะบอกให้เราย้ายออกครอบครัวเราเองออกมา เราไม่สามารถทำได้ค่ะ เพราะแม่ไม่ค่อยสบาย และเราเป็นที่พึ่งคนเดียวของแม่)
1.น้องสาวเรามีนิสัยชอบลักขโมย อย่าไปถามถึงเรื่องเงินทองนะคะ เอาวางไว้ไม่ได้เลย นางจะหยิบไป ขโมยไป คนในบ้านทุกคนต้องเก็บไว้อย่างดี ต้องล็อคประตูห้องของเราทุกครั้งที่ออกมา แม้แต่เราลืมจะไปหยิบของอะไรนอกห้อง จะออกห้องมา ก็ต้องล็อคทันที ห้ามลืม ไม่อย่างนั้น มีสิทธิ์ของหายได้ค่ะ รองเท้าเรา เราใส่เบอร์เดียวกับน้องสาว ก็เอาของเราไปใส่ รองเท้าผ้าใบงี้ เราไม่ชอบใส่ร่วมกับใคร น้องเราเวลามันใส่ผ้าใบ ถุงเท้าก็ไม่ใส่ รองเท้าตะเหม็นได้ค่ะ เราไม่ชอบ เครื่องสำอางยิ่งไปกันใหญ่ เราใช้แต่ละอย่างมันไม่ใช่ถูกๆ เรากลัวหายมากค่ะ เคยโดนขโมยลิปไปแล้ว นอกจากนี้ น้องเรายัง ขโมยเสื้อในกางเกงใน คนอื่นมาใส่อีกด้วย เราเคยเห็นเสื้อผ้าในตระกร้าน้องเรา มันเอาลงมาซัก เราเห็นกางเกงในแม่เราที่เราซื้อให้อยู่ในตระกร้ามัน และของๆเราก็เคยหาย ไม่รู้จะทำยังไง ซักผ้าแต่ละที ตากผ้าเสร็จ ต้องถ่ายรูปไว้ จะได้มาดูทีหลังว่าทุกอย่างยังครบไหม ระแวงไปหมดทุกอย่าง
2.ห้องน้องสาวกับห้องเราติดกันค่ะ เมื่อก่อนเคยเป็นห้องใหญ่ แล้วให้ช่างมาทำผนังแบ่งครึ่งห้อง แต่อย่างว่าช่างชาวบ้าน แกทำไม่ค่อยดีค่ะ ผนังตรงเพดาน ยังมีช่องว่างเหลืออยู่ ทำให้เวลาน้องเรามันจะทำอะไร ในช่วงเวลาที่คนปกติเขาควรนอน มันก็ได้ยินมาถึงห้องเราหมด เช่น กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง เสียงแชท เสียงโทรศัพท์ ทุกอย่างเลย แม้แต่กลิ่น อยากบอกว่าทุเรศมากค่ะ ผ้าอนามัย สัก2เดือนคงเอาไปทิ้งที กลิ่นนี้คาวๆลอยมาเลย ไม่รู้มันอยู่ในห้องมันได้ยังไง ขนาดเราข้างห้องยังจะเหม็นเน่าขนาดนี้
3.กินอะไรไม่เคยเก็บ ไม่เคยล้าง จะล้างที ต้องมีปัญหากับคนในบ้าน โดยเฉพาะเรา เราจะทำอาหาร ก็เห็นกระทะเอย ถ้วยจานเอย วางกองเต็มเตา เต็มอ่างล้างจานไปหมด ทุกครั้งที่น้องเราเอาอะไรไปกินในห้องนอน มันคงรอให้เห็ดงอกถึงจะเอาลงมาล้าง บางครั้งมีนเอาลงมาล้าง แล้วคราบมันแน่น ล้างไม่ค่อยออก มันก็เอาแช่ไว้ แล้วเรามาเจอ คิดออกไหมค่ะ ถ้วยจานที่เราใช้กินทุกวัน แต่ราขึ้นเต็ม เขียวม่วงเหลืองกำลังบานสะพรั่งเชียว คิดดูเอามาใช้ต่อ กำลังจะกิน "เห้ย! จานนี้ แม่ววันนั้นเห็นราเต็มเลย" คงอิ่มก่อนกินไปเลย
4.ไม่ทำการทำงานอะไรสักอย่าง ย้ำนะคะ ไม่สักอย่าง งานบ้านไม่เคยทำ ไม้กวาดไม้ถูไม่เคยแตะ ทำแต่ห้องตัวเอง ซึ่งชาติหนึงเห็นทำทีหนึง วันก่อนเห็นเก็บห้อง ขยะที่มีเกือบจะเต็มถุงดำ นางลาก ขอใช้คำว่า ลาก นะคะ ลากถุงขยะนั้นออกมาจากห้องนอน ไอ้น้ำเน่าๆก็ย้อยออกมาจากถุงขยะที่นางากไปตามทาง จากปากประตูห้องนอน น้ำเน่าลากยาวไปจนถึงประตูเข้าบ้าน เรียกให้ออกมาถู 3 รอบ ไม่ออกมา บอกว่าเดี๋ยว คือน้ำเน่าต้องเดี๋ยวได้ด้วยเหรอ เช้ามาถามบอกว่าถูแล้ว บอกให้ออกมาดูที่ถู ไม่ยอมออกมา เลยขอป้าแม่บ้านมาถูอีกรอบ
5.ต่อจากไม่ทำการทำงาน ข้อ4คือไม่ทำงานบ้าน ข้อนี้คือไม่หางานทำ กินๆนอนๆ ออกมาหากินตอนกลางคืน ช่วงทุกคนเข้านอนแล้ว มันก็หากินของเหลือๆจากที่ทุกคนใส่ตู้ไว้ บางทีเราก็ไม่ได้จะเหลือให้ เรากะจะเอาอุ่นป้อนลูกก่อนไป รร ก็สายไปแล้วววว นางเอาไปกินเรียบ น้องเราเรียนจบ ม.6 ค่ะ ซึ่งกว่าจะจบได้ แม่เราไปร้องไห้อ้อนวอนครูไม่ให้เขาไล่ออกไม่รู้กี่ล้านรอบ งานแก้0 ก็มีแม่กับเราที่ทำให้ ที่ทำให้เพราะอยากให้มันเสร็จๆไป จบๆไป ตอนแรกบอกไม่อยากเรียนต่อมหาลัย เออ ตามใจ พอเขาใกล้เปิดเทอมอ้อนแม่อยากจะไปเรียนเหมือนเพื่อน แม่ก็ต้องวิ่งเต้นหาทางเข้าเรียน หมดไปไม่รู้กี่แสน เรียนไปสัก 2-3 เดือน ไม่เอาแล้ว ทะเลาะกับเพื่อน ไม่อยากเรียนด้วย อยากเรียนสายอาชีพ แม่ส่งไปเรียนทำอาหาร น้องเราบอกจะขายก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เออค่ะ ตั้งใจเรียนตั้งใจขายได้สักอาทิตย์ ก็ไม่เอาแล้ว ผักเน่า น้ำพริกเน่า ทุกอย่างเน่า คนก็น่าจะเน่าไปด้วยซะเลย ตอนนี้เลยกินๆนอนๆ ไม่ทำหาเหวไรสักอย่าง
6.แม่เราบอกว่าเราชอบเกี่ยงไม่ล้างจานให้น้อง เวลาเราล้างจะล้างเฉพาะของเรา เราบอกตรงๆเลย ค่ะ ล้างเฉพาะของตัวเองแน่นอน เพราะถ้าน้องทำงานสักนิดจะไม่เกี่ยงเลย นี่ชีวิตมีแค่กินกับนอน ช้อนใบเดียวก็จะไม่ล้างให้ ล้างให้10รอบก็จะได้ล้างให้10รอบ 100รอบก็100รอบ ใครไม่อยากล้าง ก็ไปให้จานถ้วยโฟมนู้น เราเห็นแก่ตัวไปไหม?
7.ชีวิตอยู่แต่มนห้องนอน ไม่ออกมาเจอ มาคุย มาพบปะคนในบ้านเลยยยยยย! ได้ยินแต่เสียงทำนั่นทำนี่ และซากเน่าๆที่นางชอบทิ้งไว้ในครัวให้ดูต่างหน้า อยู่บ้านเดียวกัน บางครั้งไม่ได้เห็นหน้าเป็น 3-4วันก็มีค่ะ
8.น้องสาวเราบอกว่า ไม่อยากอยู่นักหรอกบ้านหลังนี้ ถ้ามีเงินไม่อยู่แน่นอน คืออะไร?? ไม่ทำงานสีกอย่าง มาถามหาเงิน ไม่รู้อยู่ในห้องนั้นจะนั่งภาวนาให้เงินมันงอกออกรูตูดมารึเปล่า
9.คบผู้ชาย แค่ปีนี้ เห็นพามาบ้าน3คนได้ละมั้ง ไม่รวมไอ่อีที่ไม่พาเข้าบ้านอีก เรื่องนี้เรื่องส่วนตัว ไม่ค่อยอยากยุ่ง เราห่วงก็แต่โรค กับท้อง
10.ชอบไปด่าว่าคนอื่น แม้แต่ป้าแท้ๆ คือตอนนั้นแม่เราไม่อยู่ และเรายังไม่ได้ย้ายมาอยู่กับแม่ แม่เลยฝากบ้านไว้กับป้า(พี่สาวแท้ๆของแม่) สั่งไว้ว่าห้ามน้องเราพาใครมาบ้านในระหว่างที่แม่ไม่อยู่เด็ดขาด ป้าเราก็คอยดูให้ แต่น้องเราก็พาผู้ชายมาบ้านจริงๆ เอาเข้าไปในห้องนอน ป้าบอกว่าได้ยินเสียงเขาคุยกัน มีเสียงน้องเรากับผู้ชาย เลยเคาะหน้าต่างเรียก และโทรไปฟ้องแม่ น้องเราเขียนในเฟสด่าป้า อิควายนั่นโน้นนี่ เปรต เจือก เกลียดยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ ลูกสาวป้าก็เห็น เพราะเป็นเพื่อนกันในเฟส แต่เขาบอก เขาไม่ถือสาคนบ้า =,.=! อีกครั้งน้องเราไปขโมยเครื่องหนีบผมป้าคนเดิมนี้มา (มีคนเห็นน้องเราเดินออกมาจากห้องนอนป้า) พอป้าเรามาถามหาเครื่องหนีบผม น้องเราบอกไม่รู้ไม่เห็น ป้าเราก็เลยบอกช่างมัน แล้วหลังจากนั้น 4-5วัน พ่อมาล้างแอร์ให้ที่บ้านเรา(พ่อกับแม่เลิกกัน) แต่ไม่มีใครอยู่สักคน พี่เราคือลูกสาวป้าก็เลยมาเปิดประตูให้พ่อ พ่อก็เข้ามาล้าวแอร์ในห้องน้องเราก่อน พี่เราก็เข้ามาส่ง ก็คุยกันทักทายปกติ แล้วพี่เราก็เหลือบไปเห็น เครื่องหนีบผมของแม่เขา พี่เราเลยเอากลับบ้านไปเลย และโทรบอกแม่เรา แม่เรามาว่าให้น้อง มันมาด่าพี่ว่าไม่มีมารยาทค้นห้องคนอื่นไม่ได้รับอนุญาต งืดกันไปเป็นแถว ตัวเองไม่ผิดกว่ารึไง =,.=!
11.ชอบด่าแม่ ด่าเรา แรงๆ เสียๆหายๆ ทั้งอิสาส อิเห้ บลาๆ ทุกอย่างพรั่งพรูออกมาจากปากได้ทุกอย่าง หยาบคายหยาบโลน มีทุกอย่าง ยิ่งเวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อนมันนะ โอ้โห มันยิ่งใหญ่มาก เก่งกล้าไม่มีใครเท่า สั่งแม่หุบปากต่อหน้าเพื่อนๆ ปรบมือรัวๆ👏🏻👏🏻👏🏻
12.เวลาน้องเราคุยโทรศัพท์กับเพื่อน หรือเพื่อนมาบ้านนะคะ ตัวเห้ เต็มบ้านเลยค่ะ วันหนึ่งลูกเราเดินมา ม่าแม่ๆ อิเห้! อิสาส! เราตกใจมาก ถามลูกไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากไหน ลูกบอก ได้ยินน้า(น้องสาวเรา)พูด สุดยอดไหมคะ!!
อีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ที่บ้านรับไม่ได้ ทั้งด่าทั้ใตักเตือน พูดดี ตะล่อม ทุกอย่างสารพัดวิธีที่จะทำก็เอามาทำแล้ว แต่ไม่เคยได้ผลกับน้องเราสักครั้ง จนไม่รู้จะทำยังไงกันแล้ว ใครพอมีวิธีไหนบ้างไหมคะ อย่างน้อยเราทำ ก็เพื่อแม่เรา ที่จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจ ตรอมใจอย่างทุกวันนี้