เราเรียนวิศวะค่ะ ตอนนี้ปี3 แล้ว สาขาวิศวกรรมเคมี มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
เราไม่อยากพูดถึงว่าที่นี่(มหาลัยเรา)เรียนหนักยังไง เพราะคิดว่ามหาลัยอื่นๆก็คงจะหนักเหมือนกัน (ถ้าพูดไปมันจะดูเหมือนเป็นการเปิดประเด็นว่าอวดที่เรียนไรงี้เนาะ กันดราม่า)
เราเป็นเด็กที่ไม่ได้เก่งแต่ก็ไม่ได้แย่ค่ะ เราอ่านหนังสือนะ เผื่อบางคนเข้ามาแล้วคิดว่าเราไม่ตั้งใจ เราเข้าเรียนทุกครั้งค่ะ นั่งแถวที่2จากด้านหน้าตลอด เราจดและฟอลโล่อาจารย์ตลอด เราอ่านหนังสืออาจจะไม่ตลอด เพราะเอกเรา เรียนวันละอย่างน้อย6ชม.ค่ะ อาจจะเหมือนบางที บางคนอาจคิดว่า ก็ปกติป่ะ แต่นอกเหนือจากเรียนตามตาราง เด็กที่นี่มักจะมีแลปที่ต้องคุยกับอาจารย์ค่ะ ซึ่งทุกๆวันของสัปดาห์ ตารางเต็ม ดังนั้น เราต้องทำแลปอาทิตย์ละครั้งใช่ไหม ก่อนทำแลปเราจึงต้องรับเคสและคุยกันในกลุ่มแลปของเราก่อน ซึ่งมันก็จะได้คุยแค่ หลัง6โมงเย็นค่ะ.. กว่าจะได้กลับห้อง บางที ตี2-3 และพอคุยกันเองเสร็จ ต้องนัดอาจารย์มาพรูฟค่ะว่าที่เราออกแบบแลปมา มันทำได้ไหม อาจารย์อนุญาติให้ทำหรือเปล่า และการนัดอาจารย์ ก็มันจะได้ตอน 6โมงเย็นจนถึงตอนเช้าของอีกวันเท่านั้นค่ะ (อาจารย์สาขาเรา(บางคน) นอนอยู่ที่ภาควิชาเลยค่ะเลยนัดกลางคืนถึงเช้าได้ตลอด เพราะท่านก็มีเวลาว่างแค่นั้น ช่วงกลางวันท่านมีสอน) ตอนสอบไม่เคยคิดจะเทค่ะ อ่านเอาตายเหมือนกัน แต่มันก็เหนื่อยแบบ อ่านไปร้องไห้ไปเหมือนกัน ..
ประเด็นคือ พอเราอ่านเอาตาย แต่คะแนนที่เราได้ มันเป็นเหมือนเศษเลขค่ะ 555 เราเจ็บและเฟลทุกครั้งหลังคะแนนออก
เรารู้สึกว่าตัวเองห่วย..
ตอนมปลายเราเป็นคนสอนเพื่อนวิชาวิทย์-คณิตตลอดนะ แต่ทำไมตอนมหาลัยกลับดูเหมือนหัวไม่ไปทางวิทย์-คณิตเลย ไม่รู้ แต่เรากลับเด่นเรื่อง ภาษา กว่าคนอื่นๆในสาขา (เราสอบโทอิกได้ 700+) ทั้งๆที่เราไม่ได้พยายามอ่านมันมากมาย
เราพยายามยอมรับสภาพตัวเองว่าแบบ เราไม่ได้เก่งเหมือนมอปลายละอ่ะ เรากำลังรู้สึกว่าตัวเองโง่..
ตอนนี้รู้สึกเจ็บที่ต้องยอมรับว่าตัวเองห่วยค่ะ แต่ในใจก็คิดว่ามันต้องยอมรับให้ได้ จะได้ไม่เจ็บ อยู่กับคำว่าห่วย จะได้ไม่ประมาท จะได้อ่านมันมากขึ้น ไรงี้ แต่มันยากจัง ที่จะยอมรับ
เราอาจจะไม่จบ4ปีละค่ะ เทอมหน้า เราต้องเรียนตัวเอก 8 ตัว บังคับต้องซีขึ้นทุกตัวเพราะมีด็อก-ด้อกบวกมาบางวิชา(เด็กวิดวะรู้นะว่าแค่ไม่เอฟ ก็จะตายแล้ววว) ถึงเราไม่เคยเอฟ แต่เกรดรวมสาขาเรายังไม่จบค่ะ ปีหน้าเราไม่มีสิทธิพลาดเลย บวกกับมันมีโปรเจค และเป็นตัวบิ๊กๆ ปราบเซียนทั้นนั้น เราอยู่ที่มอมากกว่าอยู่หอตัวเองค่ะ คุยงาน คุยกับอาจารย์ ทำแลป ทำพรีเซ้น เรากลับหอมาแค่ อาบน้ำ นอน และเอาของค่ะ บางทีนอนที่ภาควิชาค่ะ บางทีไม่ได้นอนค่ะ สว่างคาตาบ่อยๆ แต่ต่อให้หนักยังไง เราก็ยังเห็นเพื่อนที่ได้ เอ บี ค่ะ .. นั่นเป็นสิ่งที่เราคิดว่า ทำไมเราก็อ่านมาด้วยกัน ทำงานหนักด้วยกันแต่เรากลับ เกรดแย่ คะแนนเเย่ มันทำให้เราคิดว่าเราโง่มากเลย ห่วยมากเลย และมันโคต ร ท้อเลยค่ะ เวลาที่เราพยายามอะไร แต่เรากลับไม่ได้ดีในสิ่งนั้นๆ เหมือนอกหักซ้ำแล้วซ้ำอีกทุกเทอม เทอมละ7-8วิชา
มาถึงช่วงที่เราคิดแล้วว่า ถึงเราจบไปนะ เราก็ไม่ได้ดีในอาชีพวิศวะหรอก ดูเกรดเราสิ ดูสมองเราสิ ...ห่วย
เราดูแย่มากไหมคะ เราสงสารตัวเองไงไม่รู้ แต่ยิ่งกว่านั้น สงสารพ่อแม่ค่ะ ถ้าไม่จบ4ปี พ่อแม่ก็ต้อง ทำงาน จ่ายค่ากินค่าอยู่ ค่าหอ ค่าเรียนเราไปอีก ปีนึง
ท้อจังค่ะ เวลานี้ของชีวิต รู้สึกแย่ที่สุดในชีวิตเลย คิดไปหมดว่าอนาคตจะทำไรได้ ความสดใสตอนมอปลยาหายไปเลยค่ะ พลังบวกหายไปหมดเลยค่ะ เราควรทำยังไง ให้กำลังตัวเองยังไง คือเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะตั้งกระทู้ทำไม แต่เเค่คิดว่าอยากระบาย ไม่อยากระบายกับเพื่อน เพราะเรารู้เพื่อนก็เครียดอ่ะ ไม่รู้จะมีใครเข้าใจอารมณ์นี้ของเราไหม มันเฟลสุดๆไปเลย เเค่ขึ้นลิฟไปเรียนบนสาขา ก็หดหู่เเล้วค่ะ..
วิศวะปี4 ที่คิดว่าอาจจะไม่จบ4ปีเหมือนเพื่อนเเล้ว
เราไม่อยากพูดถึงว่าที่นี่(มหาลัยเรา)เรียนหนักยังไง เพราะคิดว่ามหาลัยอื่นๆก็คงจะหนักเหมือนกัน (ถ้าพูดไปมันจะดูเหมือนเป็นการเปิดประเด็นว่าอวดที่เรียนไรงี้เนาะ กันดราม่า)
เราเป็นเด็กที่ไม่ได้เก่งแต่ก็ไม่ได้แย่ค่ะ เราอ่านหนังสือนะ เผื่อบางคนเข้ามาแล้วคิดว่าเราไม่ตั้งใจ เราเข้าเรียนทุกครั้งค่ะ นั่งแถวที่2จากด้านหน้าตลอด เราจดและฟอลโล่อาจารย์ตลอด เราอ่านหนังสืออาจจะไม่ตลอด เพราะเอกเรา เรียนวันละอย่างน้อย6ชม.ค่ะ อาจจะเหมือนบางที บางคนอาจคิดว่า ก็ปกติป่ะ แต่นอกเหนือจากเรียนตามตาราง เด็กที่นี่มักจะมีแลปที่ต้องคุยกับอาจารย์ค่ะ ซึ่งทุกๆวันของสัปดาห์ ตารางเต็ม ดังนั้น เราต้องทำแลปอาทิตย์ละครั้งใช่ไหม ก่อนทำแลปเราจึงต้องรับเคสและคุยกันในกลุ่มแลปของเราก่อน ซึ่งมันก็จะได้คุยแค่ หลัง6โมงเย็นค่ะ.. กว่าจะได้กลับห้อง บางที ตี2-3 และพอคุยกันเองเสร็จ ต้องนัดอาจารย์มาพรูฟค่ะว่าที่เราออกแบบแลปมา มันทำได้ไหม อาจารย์อนุญาติให้ทำหรือเปล่า และการนัดอาจารย์ ก็มันจะได้ตอน 6โมงเย็นจนถึงตอนเช้าของอีกวันเท่านั้นค่ะ (อาจารย์สาขาเรา(บางคน) นอนอยู่ที่ภาควิชาเลยค่ะเลยนัดกลางคืนถึงเช้าได้ตลอด เพราะท่านก็มีเวลาว่างแค่นั้น ช่วงกลางวันท่านมีสอน) ตอนสอบไม่เคยคิดจะเทค่ะ อ่านเอาตายเหมือนกัน แต่มันก็เหนื่อยแบบ อ่านไปร้องไห้ไปเหมือนกัน ..
ประเด็นคือ พอเราอ่านเอาตาย แต่คะแนนที่เราได้ มันเป็นเหมือนเศษเลขค่ะ 555 เราเจ็บและเฟลทุกครั้งหลังคะแนนออก
เรารู้สึกว่าตัวเองห่วย..
ตอนมปลายเราเป็นคนสอนเพื่อนวิชาวิทย์-คณิตตลอดนะ แต่ทำไมตอนมหาลัยกลับดูเหมือนหัวไม่ไปทางวิทย์-คณิตเลย ไม่รู้ แต่เรากลับเด่นเรื่อง ภาษา กว่าคนอื่นๆในสาขา (เราสอบโทอิกได้ 700+) ทั้งๆที่เราไม่ได้พยายามอ่านมันมากมาย
เราพยายามยอมรับสภาพตัวเองว่าแบบ เราไม่ได้เก่งเหมือนมอปลายละอ่ะ เรากำลังรู้สึกว่าตัวเองโง่..
ตอนนี้รู้สึกเจ็บที่ต้องยอมรับว่าตัวเองห่วยค่ะ แต่ในใจก็คิดว่ามันต้องยอมรับให้ได้ จะได้ไม่เจ็บ อยู่กับคำว่าห่วย จะได้ไม่ประมาท จะได้อ่านมันมากขึ้น ไรงี้ แต่มันยากจัง ที่จะยอมรับ
เราอาจจะไม่จบ4ปีละค่ะ เทอมหน้า เราต้องเรียนตัวเอก 8 ตัว บังคับต้องซีขึ้นทุกตัวเพราะมีด็อก-ด้อกบวกมาบางวิชา(เด็กวิดวะรู้นะว่าแค่ไม่เอฟ ก็จะตายแล้ววว) ถึงเราไม่เคยเอฟ แต่เกรดรวมสาขาเรายังไม่จบค่ะ ปีหน้าเราไม่มีสิทธิพลาดเลย บวกกับมันมีโปรเจค และเป็นตัวบิ๊กๆ ปราบเซียนทั้นนั้น เราอยู่ที่มอมากกว่าอยู่หอตัวเองค่ะ คุยงาน คุยกับอาจารย์ ทำแลป ทำพรีเซ้น เรากลับหอมาแค่ อาบน้ำ นอน และเอาของค่ะ บางทีนอนที่ภาควิชาค่ะ บางทีไม่ได้นอนค่ะ สว่างคาตาบ่อยๆ แต่ต่อให้หนักยังไง เราก็ยังเห็นเพื่อนที่ได้ เอ บี ค่ะ .. นั่นเป็นสิ่งที่เราคิดว่า ทำไมเราก็อ่านมาด้วยกัน ทำงานหนักด้วยกันแต่เรากลับ เกรดแย่ คะแนนเเย่ มันทำให้เราคิดว่าเราโง่มากเลย ห่วยมากเลย และมันโคต ร ท้อเลยค่ะ เวลาที่เราพยายามอะไร แต่เรากลับไม่ได้ดีในสิ่งนั้นๆ เหมือนอกหักซ้ำแล้วซ้ำอีกทุกเทอม เทอมละ7-8วิชา
มาถึงช่วงที่เราคิดแล้วว่า ถึงเราจบไปนะ เราก็ไม่ได้ดีในอาชีพวิศวะหรอก ดูเกรดเราสิ ดูสมองเราสิ ...ห่วย
เราดูแย่มากไหมคะ เราสงสารตัวเองไงไม่รู้ แต่ยิ่งกว่านั้น สงสารพ่อแม่ค่ะ ถ้าไม่จบ4ปี พ่อแม่ก็ต้อง ทำงาน จ่ายค่ากินค่าอยู่ ค่าหอ ค่าเรียนเราไปอีก ปีนึง
ท้อจังค่ะ เวลานี้ของชีวิต รู้สึกแย่ที่สุดในชีวิตเลย คิดไปหมดว่าอนาคตจะทำไรได้ ความสดใสตอนมอปลยาหายไปเลยค่ะ พลังบวกหายไปหมดเลยค่ะ เราควรทำยังไง ให้กำลังตัวเองยังไง คือเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะตั้งกระทู้ทำไม แต่เเค่คิดว่าอยากระบาย ไม่อยากระบายกับเพื่อน เพราะเรารู้เพื่อนก็เครียดอ่ะ ไม่รู้จะมีใครเข้าใจอารมณ์นี้ของเราไหม มันเฟลสุดๆไปเลย เเค่ขึ้นลิฟไปเรียนบนสาขา ก็หดหู่เเล้วค่ะ..