[CR] อาดัง-หลีเป๊ะ-ตะรุเตา 4 วัน 3 คืน แบบไม่ซื้อทัวร์

สวัสดีครับ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกทาง Pantip ของผม (ปกติรีวิวเป็นอัลบั้มทางเฟซบุ๊ค) เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศครับ เพราะเมืองไทยของเรายังมีที่เที่ยวสวยงามอีกมากมาย และเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นบ้านเราด้วยครับ ไม่พูดมากนะครับ เข้าเรื่องกันเลย
อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล ประกอบด้วยเกาะใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงคือ ตะรุเตา หลีเป๊ะ อาดัง ราวี และเกาะเล็กเกาะน้อยอีก รวม 51 เกาะ (ตามเอกสารของทางอุทยานฯ)
ที่จริงเกาะหลีเป๊ะอาจจะเป็นที่รู้จักมากกว่า แต่ผมรู้จักเกาะตะรุเตามาก่อนตั้งแต่เรียนภูมิศาสตร์-ประวัติศาสตร์ตอนเด็กๆ ว่าเป็นที่คุมขังนักโทษการเมือง หลายคนมียศ มีบรรดาศักดิ์ ...แถมผมยังได้เคยดูหนังไทยเรื่อง "นรกตะรุเตา" อีกด้วย เลยทำให้ผมอยากมาจะเที่ยวที่เกาะตะรุเตานานแล้ว แต่ในเขตของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ยังมีเกาะที่สวยงามอีกหลายเกาะด้วย ผมจึงเริ่มวางแผนการท่องเที่ยวของผมเอง โดยไม่ซื้อทัวร์ ผมหาข้อมูลทางเน็ท และโทรมาสอบถามทางอุทยานฯ ซึ่งได้รับคำแนะนำและการช่วยเหลือเป็นอย่างดีน่าประทับใจมากครับ
ทริปนี้ 4 วัน 3 คืน 6-9 เม.ย.60 (ที่จริงน่าจะถือว่า 5 วัน เพราะเดินทางบ่ายๆก่อนลงเรือ 1 วัน) ..โดยผมวางแผนว่าคืนแรกนอนพักที่เกาะอาดัง  วันรุ่งขึ้นไปดำน้ำ ดูปะการัง แล้วมาพักที่หลีเป๊ะ เช้าอีกวันนั่งเรือากหลีเป๊ะมาแค่ตะรุเตา เที่ยวและพักที่นั่น พอเช้าอีกวันก็นั่งเรือจากตะรุเตากลับท่าเรือปากบารา กลับ กทม. ผมวางแผนเสร็จก็หาข้อมูลที่พักตามแผน หาเที่ยวเรือ เส้นทางตามแผน  ส่วนการเดินทางจาก กทม ไปท่าเทียบเรือปากบารา อ.ละงู จ.สตูล นั้น
ผมจะใช้การขับรถ เพราะเคยขับรถไปสตุลมาสองครั้งแล้ว แต่ปกติคนส่วนใหญ่เขาจะนั่งเครื่องบินมาลงที่หาดใหญ่ หรือตรัง แล้วต่อรถมาที่ปากบารา  ประเภทขับรถแบบผมนี่มีน้อยมาก แต่ผมชอบขับรถ ...การวางแผนมาแวะตะรุเตาคืนสุดท้ายนั่นก็ทำให้ยากในการหาเรือนิดนึง เพราะเรือที่นั่นส่วนใหญ่เที่ยวกลับจะวิ่งตรงจากหลีเป๊ะ-ปากบาราเลย แต่ด้วยความช่วยเหลือของพี่นาง(เจ้าหน้าที่อุทยานฯ) ทำให้ผมหาเรือได้ตามแผน มารู้ทีหลังว่ามีเที่ยวกลับมีแวะตะรุเตาแค่ 3 เจ้า ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวรอขึ้น(เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่เกาะ ว.ไปบอก) หรือซื้อตั๋วไว้ก่อนก็จะไม่แวะ  ...เราไปกันแค่สองคน โดยวันก่อนหน้านั้นจะเดินทางไปเกาะ ผมออกจาก กทม บ่ายสาม ขับรถไปเรื่อยๆ จากสุราษฎร์ วิ่งไปทางทุ่งสง จากทุ่งสงไปตรัง ถึงตรังประมาณ 01.30 น. เราแวะนอนพักรีสอร์ทแถวตรัง(ไม่นอนเลยคงไม่ไหว) พอเช้าก็ขับต่อไปอีกประมาณ 100 โล ผ่านย่านตาขาว - ทุ่งหว้า -ถึงท่าเรือปากบารา อ.ละงู จ.สตูล
ช่วงก่อนเราจะไป มีฝนตกลงมาบ้าง ทำให้มีหมอกในตอนเช้าๆ บรรยากาศดีมาก
หลังจากแวะกินข้าวกันที่ อ.ละงู เรามาถึงท่าเรือปากบาราเวลาประมาณ 08.30 น.  ค่าเรือไปกลับคนละ 1,200 บาท เพราะผมแยกการเดินทางเป็น 3 ท่อน ไป 1 ท่อน กลับ 2 ท่อน ค่าธรรมเนียมอุทยานคนละ 40 บาท เที่ยวได้ทุกที่ในหมู่เกาะในระยะเวลา 5 วัน  เรือออก 11.30 หลังจากติดต่อการเดินทางเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปหากาแฟกิน ได้ข้อมูลจากร้านกาแฟว่า มีเวลาระหว่างรอน่าจะไปเดินเล่นชายทะเลแถวอุทยานฯหมู่เกาะเภตรา แต่ก็ไกลอยู่พอควร ผมลองโบกรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างคันนึง เขาก็จอด ถามว่าพาไปที่นั่นได้ไหม เขาก็พาไป ..มารู้ทีหลังว่า แกรับจ้างขนของ พอดีว่างเลยไป (แกคิด 100 นึง ไป-กลับ) ริมทะเลแถวนั้นก็บรรยากาศดี  ในอุทยานฯ มีสะพานใม้เดินเลาะเขาริมทะเล แต่ถามเจ้าหน้าที่ฯ บอกว่าทางขาดอยู่ เดินได้ไม่ตลอด บวกกับเวลาของเรามีไม่มากพอ ก็เลยเดินเล่นริมทะเลตรงแถวนั้น
11.00 น.เรากลับมาถึงท่าเรือ เข้าในอาคารท่าเรือ เสียอีกคนละ 10 บาท (น่าจะทางเทศบาลเก็บ)
ลงทะเบียนกับเรือบริษัทที่เราจะไป(สตาร์เจ็ท) แล้วก็รอเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่เราจะไปมาเรียกตามสีบัตร ลงเรือตามหมายเลขในบัตร  เรือช้ากว่ากำหนดไปครึ่งชั่วโมงได้ แต่ที่สุดก็ได้ลงเรือ
เรือสปีดโบ๊ท 4 เครื่องยนต์วิ่งเร็วมาก เรือมาแวะที่ตะรุเตาเป็นที่แรก ให้ขึ้นไปเที่ยวได้ 15 นาที ใครยังไม่จ่ายค่าธรรมเนียมอุทยาน ก็ซื้อตรงนี้เลย ใครซื้อมาจากปากบาราแล้วก็นำออกมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู
                 เดินเล่นได้ 15 นาที แต่อย่าไปไหนไกลนะ
จากเกาะตะรุเตา เรือพาเรามาแวะที่เกาะไข่ สวยงามสมคำร่ำลือ ให้เราเดินเที่ยว ถ่ายรูปได้ 15 นาที
15 นาทีก็เพียงพอที่นางแบบจะเกิดขึ้นได้  หุหุ
ตรงที่มีหินเป็นซุ้มประตูอันเป็นมุมสุดฮิตของเกาะไข่ คนเป็นหนอน 555  เรือจอดรอ พอครบ 15 นาทีเขาก็เรียกลงเรือไปต่อ
ไปก่อนนะเกาะไข่แสนสวย  ที่หมายต่อไป เกาะหลีเป๊ะ
เรือมาจอดตรงหน้าหาดบันดาหยา หรือหาดพัทยา (ผมชอบชื่อบันดาหยามากกว่า) แต่เข้าไม่ได้ เห็นว่าน้ำลง ยังไงไม่รู้ แต่สรุปว่าต้องต่อเรือหางยาวไปขึ้นฝั่ง ต้องเสียอีกคนละ 50 (มีบางคนโวยว่าไม่ได้แจ้งไว้ก่อน)  ผมถามว่าไปเกาะอาดังยังไง คนเรือหางยาวบอกว่าไปเลย คนละ 100 ...ผมต้องต่อไปอยู่แล้ว เลยไม่รู้สึกเหมือนคนที่โวย
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่นะ หลีเป๊ะ
เกาะอาดัง สวยงามและสงบมากๆ
บ้านพักบนอุทยานบนเกาะอาดัง วิวหลักแสนหลักล้านเชียว มองเห็นเกาะหลีเป๊ะ ด้านหาดซันไรซ์
บนเกาะอาดังมีบ้านพักอุทยานอยู่ไม่มาก และมีลานกางเต๊นท์ในป่าสนด้วย
เก็บของเสร็จ เราไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า รีบออกมาเดินเที่ยวกันเลย ดูตามป้ายเดินไปจุดชมวิวผาชะโด เป็นทางเดินขึ้นเขา ไม่มีระยะบอก บอกแต่ว่ามีจุดชมวิว 3 จุด (คือ 3 ระดับ)  ผมกะเอาว่าระยะทางน่าจะประมาณ 700 -800 เมตรได้
วิวบนนี้สวยงามขั้นเทพ ใครท้อถอยก่อน เดินไม่ถึงจุดชมวิว 3 ถือว่าน่าเสียดายมากๆๆๆ
มองเห็นเกาะหลีเป๊ะทั้งเกาะเลย
ดื่มด่ำกับวิวที่งดงามแล้วก็ลงกันเถอะ หิวแล้ว
ร้านอาหารของอุทยานมีเวลาปิด-เปิด เป็นช่วงๆ (เหมือนกันกับบนเกาะตะรุเตา เมนูและราคาเหมือนกัน) ถ้าคุณสั่ง กุ้ง หมึก หรือปลากะพงเป็นชิ้น (ไม่ได้สั่งเป็นตัว) คุณจะได้กินของ CP ...5555
วันที่สอง --ตื่นมาตอนเช้า ท้องฟ้าครึ้มและมีฝนพรำๆ ดีแทคสัญญาณหายไปตั้งแต่ประมาณ 3 ทุ่มเมื่อคืน เราก็นึกว่าที่เกาะสัญญาณจะดับตอนกลางคืน มารู้ทีหลังว่าเฉพาะดีแทคที่ล่ม เพราะเหตุขัดข้อง ผมชะล่าใจไม่ได้โทรนัดคอนเฟิร์มเรือหางยาวที่จะพาไปดำน้ำ แต่ก็หวังว่าเขาจะมาถามหา เพราะตอนที่โทรคุยกันหลายวันก่อน บอกแล้วว่าให้มารับที่อาดัง ตอนเย็นส่งที่หลีเป๊ะ... เช้าก็ไปเดินเล่นกันก่อน รอเวลาร้านอาหารเปิด
ขอให้เมฆฝนลอยห่างไปๆๆ นะ .... กินอาหารเสร็จผมก็สั่งข้าวกล่องเตรียมไว้สำหรับไปเรือกัน แต่เรือก็ไม่มา ตัดสินใจถามเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพราะรู้ชื่อเรือ(เขามีรูปในไลน์) ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่รู้จัก เขาเลยใช้โทรศัพท์เครือข่ายอื่นโทรให้ ปรากฏว่าเรือนั้นติดต่อผมไม่ได้ เลยรับลูกค้าคนอื่นไปแล้ว...อ้าววว เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็ ว.ไปบอกที่หลีเป๊ะให้ช่วยหาเรือให้ผมใหม่ แต่บนเกาะใช้ดีแทคมากกว่าเครือข่ายอื่น พอสัญญาณล่ม การติดต่อบนเกาะก็ลำบากเลย
มีเรือลำหนึ่งเล่นมาจากหลีเป๊ะ มาที่เกาะอาดัง ผมนึกว่าเรือที่เจ้าหน้าที่ฯ ติดต่อให้ ก็เลยไปถาม ได้ความว่า เขาไปรอลูกค้าที่หลีเป๊ะ แต่ติดต่อกันไม่ได้ เลยกลับมา ผมก็เลยจ้างไปเลย (พอดีกัน)
ออกจากเกาะมา เห็นเมฆฝนติดอยู่บนเขาที่เกาะอาดัง สวยงามไปอีกแบบ
มาถึงเกาะหินตั้ง เหมือนประตูออกสู่โซนนอก
มาถึงจุดดำน้ำ(สน็อคเกิ้ล) เพื่อชมปะการังน้ำตื้นจุดแรกที่เกาะดง ..จุดที่ให้ดำน้ำได้ ทางอุทยานจะล้อมทุ่นเชือกไว้ เรือเข้ามาต้องดับเครื่องก่อนเข้าในเขต
น้ำใส ปะการังน้ำตื้น ถึงไม่ต้องดำน้ำก็มองเห็น ภาพนี้ถ่ายเหนือน้ำ เพราะผมไม่มีกล้องกันน้ำหรอก ดังนั้นไม่ต้องหวังเห็นภาพใต้น้ำ 5555 (กล้องที่ถ่ายทุกภาพ ถ่ายจากมือถือ Samsung J7 Prime และ Nokia N8)
ปกติแว่นดำน้ำจะต้องเช่า วันละ 50 แต่บังริเหมารวมให้เลย ไม่ต้องเสียอีก ...ปะการังตรงจุดนี้มีหลากหลาย แต่มากที่สุดคือแบบนี้ เขาบอกว่า "ปะการังไฟ" พร้อมด้วยปลาสวยงามว่ายอยู่ในหมู่ปะการัง ตอดแขน-ขาเราบ้าง มีปลาดาว ปลิงทะเล ล๊อบเสตอร์ หอยเม่น ฯลฯ ...คุณต้องมาเห็นด้วยตาเองจะดีกว่า
จากจุดดำน้ำเกาะดง ก็มาที่เกาะรอ-กลอย สวยงามมาก ที่นี่มีเจ้าหน้าที่อุทยานตรวจบัตรค่าธรรมเนียมด้วย (คือคุณซื้อไว้แล้วต้องพกติดตัวไปด้วยตลอด)
หลายคนอ่านผิดเป็น "รอก-ลอย"  ก็ขนาดภาษาอังกฤษยังน่าจะทำให้อ่านผิดได้เลย 555มีทางเดินขึ้นเขาเตี้ยๆ เพื่อมาชมวิวด้านหลังเกาะ สวยงามเช่นกัน  ด้านหลังเกาะมองเห็นปะการังน้ำตื้นมากมาย
เดินต่อจากด้านหลังเกาะ ก็มาที่จุดชมวิวด้านหน้าเกาะ เห็นวิวมุมสูง
ชื่อสินค้า:   อุทยานแห่งชาติตะรุเตา (ตะรุเตา-หลีเป๊ะ-อาดัง-ราวี)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่