*Fun Fact* วิธีแก้ความขัดแย้งใน Civil War 2006

หลังงานศพของบุรุษแห่งตำนาน กัปตันอเมริกา สตีฟโรเจอร์ จบลง โทนี่สตาร์คยังคงยืนอาลัยอาวรณ์ท่ามกลางสายฝน ทันใดนั้นก็มีบุรุษนิรนามเดินเข้ามา สิ่งที่เจ้าอาลัยอาวรณ์ไม่ใช่การจากไปของเพื่อน หรือสัญลักษณ์ของชาติ หากแต่เป็นความผิดพลาดของตนเองใช่ไหม โทนี่ถามแกเป็นใครพูดบ้าอะไร เขาทำผิดตรงไหนไม่ทราบ



ชายนิรนามบอกโทนี่กำลังคิดถึงคำพูดที่ตนเองควรจะพูด ไม่ใช่แค่คำที่พูดต่อหน้าศพของสตีฟในท้ายอีเวนต์ Civil War แต่เป็นคำที่ควรจะพูดตั้งแต่สงครามยังไม่ถึงขั้นแตกหัก โทนี่เถียง ใครจะไปตรัสรู้ล่วงหน้าได้ว่าควรจะพูดอะไรเล่า ที่สำคัญคือสตีฟไม่ควรจะอยู่คนละฟากฝั่งความคิดกับเขาเลย เขาควรจะชักจูงหมอนั่นได้สำเร็จ ชายนิรนามบอกจะลองไปดูให้เห็นกับตามั้ยล่ะ ถ้าทำ “สิ่งนั้น” ซะตั้งแต่ตอนนั้น…จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เขาสามารถทำให้เห็นได้



ชายนิรนามนำโทนี่ไปยังเหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มการต่อสู้ครั้งแรกระหว่างฮีโร่ด้วยกันเอง ตอนที่พวกโทนี่หลอกให้พวกสตีฟมายังโรงงานร้าง โทนี่พยายามพูดโน้มน้าวให้สตีฟยอมเห็นด้วยกับฝ่ายลงทะเบียน เขายื่นมือออกมา โทนี่ที่ดูเหตุการณ์ในฐานะบุคคลที่สามบอกชายนิรนามว่าจำได้สิ ตอนนั้นแทนที่สตีฟจะจับมือตกลงกันด้วยดี กลับใช้ EMP ขนาดจิ๋วแปะที่ฝ่ามือเขาซะนี่



ชายนิรนามบอก แต่ถ้าตอนนั้นโทนี่พูดต่ออีกซักนิด ด้วยความสัตย์จริงว่า

โทนี่: สตีฟ ขอบคุณที่ยอมเข้าใจนะ อย่างที่บอก ชั้นเชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำ
โทนี่: แต่ชั้นต้องการทำให้แน่ใจว่าทำมันในทางที่ถูกต้องแล้ว
โทนี่: ชั้นต้องการคนที่ไว้วางใจให้คอยดูว่าชั้นทำถูกต้อง
โทนี่: ชั้นต้องการความช่วยเหลือจากนาย กัปตัน

แค่ไม่กี่ประโยคที่โทนี่พูดในระหว่างจับมือนั่น สตีฟเปลี่ยนใจ เขาไม่ใช้ EMP  และพร้อมจะยอมฟังแนวคิดของโทนี่ต่ออย่างจริงจัง



ทว่า เจ้าหน้าที่ชิลด์คนหนึ่งตรวจพบว่าสตีฟมี EMP อยู่ในมือ จึงสั่งใช้งานแร็กนาร็อค และอย่างที่รู้กันว่าแร็กนาร็อคในตอนนั้นไม่สมบูรณ์ ยั้งมือไม่เป็น มันกำลังจะฆ่าโกไลแอท แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือ…โทนี่เข้าขวางการโจมตีของมัน



ผู้ที่รู้รหัสหยุดการทำงานของแร็กนาร็อคมีแค่โทนี่กับรี้ด แต่ทั้งคู่ก็โดนเล่นงานไปแล้ว (ไมโครโฟนของชุดเกราะโทนี่เสีย ส่วนรี้ดนอนสลบ) โทนี่กำลังจะถูกฆ่าแทนที่โกไลแอท แต่มันไม่เป็นแบบนั้น เพราะสตีฟเข้าปกป้อง



และเมื่อชุดเกราะซ่อมแซมตัวเองได้บ้าง ทั้งคู่ก็ร่วมมือกัน



เพื่อนพ้องของทั้งสองฝ่ายก็ทำตามผู้นำของพวกเขา ลืมความแตกต่างที่ผ่านมา เข้ารุมสกรัมศัตรูที่มีร่วมกัน (เอ่อ ตูชักสงสารแร็กนาร็อคแล้วนะ)



แต่ไม่ได้หมายความว่าการต่อสู้ร่วมกันครั้งเดียวจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมาได้ ผู้นำของทั้งสองฝ่าย โทนี่กับสตีฟจึงคุยกันอีกครั้ง โทนี่บอกเดิมทีสตีฟไม่ได้ปฏิเสธแนวคิดของกฎหมายลงทะเบียนและควบคุมฮีโร่อะไรหรอก ตอนยังก์อเวนเจอร์สปรากฏตัวนายก็สั่งให้พวกนั้นรับการฝึกไม่ก็รีไทร์ไปซะ ที่นายไม่เห็นด้วยคือการที่รัฐบาลจะเป็นผู้ควบคุมสังคมซูเปอร์ฮีโร่ต่างหาก ถ้าอย่างนั้น…นายก็ทำเองเลยสิ นายเป็นฮีโร่คนเดียวบนโลกที่เปิดเผยตัวตนแต่แรก และผู้คนยอมรับนับถือมากที่สุด ใครจะเหมาะไปกว่านี้เล่า หลังจากนี้ก็ปฏิบัติกับรัฐบาลเหมือนที่ผ่านมา เพียงแต่ให้หลักสูตรอบรมพวกฮีโร่หน้าใหม่อย่างจริงจัง ให้ใช้พลังอันยิ่งใหญ่ด้วยความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่งไงล่ะ ส่วนเรื่องเปิดเผยตัวตน จะมีแต่นายเท่านั้นที่รู้ความลับนั่น



สตีฟถาม แล้วถ้าเขาถูกฆ่าล่ะ หรือถูกควบคุมจิตใจ ถูกเด็กเปรตตัวนึงเปลี่ยนเป็นไฮดร้าล่ะ โทนี่บอกไม่ต้องห่วง เดี๋ยวมีมาตรการความปลอดภัยรองรับ ให้ผู้มีพลังจิตที่ไว้ใจช่วยเช็กสมองเป็นประจำก็ยังได้ ถ้าห่วงเรื่องตายนักก็กำหนดผู้สืบทอดที่เชื่อใจสิ อย่างเช่นชารอนคาร์เตอร์หรือฟอลค่อนเงี้ย และแล้วสตีฟก็ยอมตกลง โทนี่แถลงการณ์ออกสื่อไปตามนั้น สร้างความตกตะลึงแก่ทุกคน



มันไม่ใช่ทางออกที่ใครก็ตามจะยินดี แต่มันเป็นทางออกเดียวที่ทุกคนจำต้องอยู่กับมันให้ได้ เพื่อเลี่ยงการสูญเสียให้มากที่สุด ประธานาธิบดีจึงจำต้องยอมรับ



หลังจากนั้น คือยุคทองของสังคมฮีโร่ ไม่มีวายร้ายหน้าไหนทำอะไรพวกเขาได้ และพวกเขาก็สามารถซื้อใจประชาชนได้สำเร็จอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน



เป็นแฮปปี้เอนดิ้งอย่างแท้จริง



แต่เรื่องดี ๆ พรรค์นั้นไม่เคยเกิดขึ้นใน Earth-616 โทนี่เสียใจอย่างสุดซึ้ง ถ้าตอนนั้นเขาพูดอีกไม่กี่คำนั่นล่ะก็... แล้วทำไม...ทำไมถึงพาเขาไปดูเรื่องชวนช้ำใจพรรค์นั้นด้วย เจ้าคนแปลกหน้า!!



ชายนิรนามตอบก็แค่แสดงให้ดูว่าการกระทำแม้เพียงเล็กน้อยส่งผลลูกโซ่ได้มากแค่ไหน ชีวิตคนเราสามารถก่อเกิดผลกระทบต่าง ๆ ได้ร้อยแปดพันเก้า ถึงกระนั้นก็ไม่อาจควบคุมมันได้ แต่จงดีใจเถอะ…เพราะใครบางคนก็ทำได้เพียงแค่ดูและเฝ้ารอ ไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้เลย (เอ็งคือวอชเชอร์ปลอมตัวมาเรอะ!!)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่