[Workpoint] ‘ชไวไกรเตอร์’ โผล่ไทยหาสาว โดนขโมยเงินสองแสน กลับประเทศบ้านเกิดไม่ได้

[Workpoint] ‘ชไวไกรเตอร์’ โผล่ไทยหาสาว โดนขโมยเงินสองแสน กลับประเทศบ้านเกิดไม่ได้

คลอส ชไวไกรเตอร์ ชายวัย 51 ปีชาวออสเตรีย กำลังเดือดร้อนหนักหลังจากถูกขโมยเงินกว่าสองแสนบาท (5,000 ยูโร) เดินทางกลับบ้านเกิดไม่ได้

คลอส ทำงานเป็นการ์ดอยู่ในประเทศออสเตรีย เดินทางมาประเทศไทยเพื่อมาพบกับสาวไทยที่จังหวัดสุรินทร์ แต่ระหว่างการเดินทางได้ถูกขโมยกระเป๋าตังค์ ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ และตอนนี้วีซ่าก็ขาดแล้ว ที่ผ่านมาพยายามไปติดต่อสถานทูตออสเตรียประจำประเทศไทยก็ไม่เป็นผล แถมถูกปฏิเสธไม่ให้ความช่วยเหลือ

คลอสเคยไปนอนหน้าสถานีตำรวจ เนื่องจากไม่มีที่พึ่ง ตอนนี้ได้รับความช่วยเหลือจากวัดคลองเตยนอกแล้ว

ทุกวันนี้คลอส ได้รับความช่วยเหลือจากวัดคลองเตยนอกในการให้ที่พักอาศัยนอนกุฏิวัด ทุกเช้าจะตื่นไปบิณฑบาตกับพระ และช่วยเหลือกิจกรรมในวัดตามกำลังที่ทำได้ คลอสบอกกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่าตอนนี้เขาอยากกลับบ้านมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตนเองพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง ได้แค่ภาษาเยอรมัน ร้องขอให้สถานทูตช่วยเหลือประสานงานเรื่องเอกสาร


ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ วัดคลองเตยนอก ที่ได้ใกล้ชิดกับคลอส เล่าว่าคลอสเครียดมาก เนื่องจากทุกคนมองว่าเป็นคนขาดสติเพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ตอนนี้กลัวว่าจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย เพราะเคยทำท่าเอาปืนยิงที่ศีรษะหลายครั้ง ตอนนี้ก็ภาวนาให้มีคนยื่นมามาช่วยเหลือโดยไว

ที่มา http://workpointtv.com/news/29590



สรุปเรื่องราวการจัดการช่วยเหลือที่ผ่านมา

1. เสาร์ 8 เม.ย. ตำรวจสน.ท่าเรือนำตัวมาประสานให้ช่วยสื่อสารกับชาวออสเตรียเพื่อทำการสอบถามและช่วยเหลือ โทรไปให้ตำรวจท่องเที่ยวมารับตัว ตำรวจท่องเที่ยวไม่มา โทรไปสถานทูต สถานทูตปิดทำการ ตอนแรกจึงตกลงว่าจะให้ไปนอนที่โรงพัก แต่สถานที่ไม่สะดวก จึงประสานหลวงพี่ให้มานอนที่วัดคลองเตยนอก 2 คืน เสาร์-อาทิตย์

2. วันจันทร์ 10 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่สน.ท่าเรือพาไปส่งสถานทูตออสเตรีย จนท.สถานทูตรับเรื่องแต่ไม่รับตัว ตำรวจงงจึงต้องนำตัวกลับมานอนที่วัดคลองเตยนอก

3. วันอังคาร 11 เม.ย. หลวงพี่พาไปสถานทูต เจ้าหน้าที่ไม่ให้ความสนใจ โทรติดต่อตำรวจท่องเที่ยวให้มารับตัวอีกครั้ง ตำรวจท่องเที่ยวไม่มาอีก

4. วันพุธ 12 เม.ย. หลวงพี่พาไปสถานทูตอีกครั้ง สถานทูตไล่ออกมา จึงนำไปส่ง ตม.ที่ซอยสวนพลู ตม.กักตัวไว้ประมาณ 2 วัน เพราะวีซ่าขาด 2 วัน (น่าจะถูกกักแทนค่าปรับ)

5. วันศุกร์ที่ 14 เม.ย. ช่วงบ่าย Klaus ติดต่อผ่านไลน์ให้ช่วยเหลือเขาด้วย พอสื่อสารกันรู้เรื่องจึงรู้ว่าเขาถูกนำตัวไปปล่อยที่หน้าตึกสถานทูต จึงไปรับตัวกลับมานอนที่วัดคลองเตยนอกอีกครั้ง

6. ตั้งแต่วันที่ 8-บัดนี้ พยายามติดต่อคนที่เขารู้จักทั้งในไทยและต่างประเทศ ผู้หญิงสุรินทร์ปฏิเสธให้ความช่วยเหลือแล้ว เหลือเพื่อนบ้านชาวไทยที่พยายามประสานกับพี่สาวที่อยู่ต่างประเทศให้ ซึ่งทุกคนเข้าใจตรงกันว่า ถ้านำตัวส่งสถานทูตก็จบ แต่มันไม่จบ เพราะสถานทูตไม่ได้ช่วยอะไร ทำแค่รับเรื่องอย่างเดียว

7. เพื่อนบ้านชาวไทยที่ออสเตรียให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก เพิ่งติดต่อได้ 2 วันที่ผ่านมา นาย Klaus เป็นคนสื่อ ไม่กินเหล้า เบียร์ กินแต่น้ำอัดลม ขยันทำงาน เดินทางมาเพื่อหาหญิงไทยเพื่อคบหา แต่ถูกหลอก จนมาพบกับตำรวจสน.ท่าเรือจนได้เริ่มมีการช่วยเหลือ และตอนนี้พยายามให้คนไทยเพื่อนบ้านและพี่สาวเขาติดต่อทางการเขาเพื่อให้ทำการช่วยเหลือเขาอีกทางหนึ่งครับ

ผมก็งงครับกับการที่สถานทูตเขาไม่ให้ความช่วยเหลือ

สุดท้ายผมอยากให้มีหน่วยงานใดก็ได้มาช่วยเป็นธุระประสานงานและให้ความช่วยเหลือเขาได้กลับบ้านทีครับ หลังจากที่ตำรวจท่องเที่ยว ตม. และสถานทูตออสเตรียไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเลย

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่