นั่งแคปได้แล้ว สำหรับรถกระบะแคป เผื่อท่านใดยังไม่ทราบข่าวครับ
แนวทางการแก้ไขปัญหา "ความจำเป็นในการใช้รถกระบะของประชาชน"
1. ตรงแคป..นั่งได้ แต่ให้ไปติดตั้งเข็มขัดนิรภัยที่แคป 2-3จุดแล้วแต่ความเหมาะสมตามขนาดของรถ และให้ติดเข็ขัดนิรภัยที่ผู้โดยสารตอนหน้าด้วย
(ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยที่แคป 2-3จุดที่แคป โดยไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงลักษณะรถ เป็นประเภท :"รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน"/กระบะ4ประตู << ไม่ต้องจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง)
2. สามารถบรรทุกผู้โดยสารที่บริเวณกระบะหลังได้ หากจำเป็น บรรทุกได้ไม่เกิน 6 คน ถ้าติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเพิ่มที่ท้ายกระบะได้ก็ดี หรือทำราวจับได้ก็ยิ่งดี
3. หากบรรทุกผู้โดยสารที่กระบะหลัง ต้องจำกัดความเร็วที่ไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
จะบังคับใช้ยาวๆเลย หลังสงกรานต์ก็จะเป็นกฎนี้
เท่ากับว่าไม่ต้องเปลี่ยนประเภทรถ ไม่ต้องซื้อรถเพิ่ม รถกระบะแคปจะไม่ใช่มอเตอร์ไซค์อีกต่อไป นั่งได้เกิน2คนแน่นอน
ตำรวจเสนอกรมขนส่ง ส่งเรื่องไปที่กรมขนส่งทางบกเรียบร้อย เพื่อไปเพิ่มเติมกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก
##นั่งแคปได้แล้ว สำหรับรถกระบะแคป แนวทางการแก้ไขปัญหา 3 ข้อ?
แนวทางการแก้ไขปัญหา "ความจำเป็นในการใช้รถกระบะของประชาชน"
1. ตรงแคป..นั่งได้ แต่ให้ไปติดตั้งเข็มขัดนิรภัยที่แคป 2-3จุดแล้วแต่ความเหมาะสมตามขนาดของรถ และให้ติดเข็ขัดนิรภัยที่ผู้โดยสารตอนหน้าด้วย
(ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยที่แคป 2-3จุดที่แคป โดยไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงลักษณะรถ เป็นประเภท :"รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน"/กระบะ4ประตู << ไม่ต้องจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง)
2. สามารถบรรทุกผู้โดยสารที่บริเวณกระบะหลังได้ หากจำเป็น บรรทุกได้ไม่เกิน 6 คน ถ้าติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเพิ่มที่ท้ายกระบะได้ก็ดี หรือทำราวจับได้ก็ยิ่งดี
3. หากบรรทุกผู้โดยสารที่กระบะหลัง ต้องจำกัดความเร็วที่ไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
จะบังคับใช้ยาวๆเลย หลังสงกรานต์ก็จะเป็นกฎนี้
เท่ากับว่าไม่ต้องเปลี่ยนประเภทรถ ไม่ต้องซื้อรถเพิ่ม รถกระบะแคปจะไม่ใช่มอเตอร์ไซค์อีกต่อไป นั่งได้เกิน2คนแน่นอน
ตำรวจเสนอกรมขนส่ง ส่งเรื่องไปที่กรมขนส่งทางบกเรียบร้อย เพื่อไปเพิ่มเติมกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก