สวัสดีคร้าบบบบ กลับมาอีกครั้งกับพาร์ทที่ 3 ครับ
สำหรับคนที่เข้ามาอ่านใหม่
Part I กดที่ลิ้งนี้เลยครับ :
https://ppantip.com/topic/36338644
Part II กดที่ลิ้งนี้เลยครับ :
https://ppantip.com/topic/36345492
Part III กดที่ลิ้งนี้เลยครับ :
https://ppantip.com/topic/36356544 -----> (กำลังดูอยู่)
Part IV กดที่ลิ้งนี้เลยครับ :
https://ppantip.com/topic/36376690
แล้วก็ฝากเพจด้วยครับ เอาไว้ลงรูปสวยๆนอกรอบ :
https://www.facebook.com/murmurontheway
2 Apr (½) : Bergen
ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากลงมาจากเรือแล้วเราก็ เข้าไปฝากของที่โรงแรม หลังจากนั้นก็เดินครับ!!
เดินไปที่สถานีรถราง Floibanen เพื่อขึ้นไปยังยอดเขา Floyen กันครับ ค่าขึ้นถ้าเป็นเที่ยวเดียว 45 NOK , ถ้าไปกลับราคา 90 NOK
แต่วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินชมป่าคอนกรีตหลายๆวัน มาเป็นการเดินชมป่าจริงๆกันบ้าง อิอิ เลยซื้อตั๋วเที่ยวเดียวครับ
วิธีเดินทาง ดูตามแผนที่เลยครับลูกศรแสดงจุดเริ่มต้น อยู่ใกล้ๆตลาดปลา
พอไปอยู่ที่จุดเริ่มต้นแล้วก็จะเห็นวิวตามนี้ เข้าซอยที่ลูกศรชี้เลยครับ
เดินเข้ามาสุดซอย จะเจอตึกน่ารักๆเขียนป้ายว่า Floibanen เดินเข้าไปซื้อตั๋วได้เลยจ้า
อยู่บนเคเบิ้ลคาร์ จะได้วิวมุมสูงประมาณนี้ (พยายามอยู่ด้านหน้าสุด จะได้เห็นวิวชัดๆครับ)
พอขึ้นมาจนสุดแล้วก็จะเห็นวิวเมือง และบรรยากาศดีม๊ากมากกกก สูด O2 ของนอร์เวย์ให้เต็มปอดเลยครับ 5555
ข้างบนมีร้านอาหารด้วยนะครับ
หลังจากขึ้นไปชมวิว ข้างบนเสร็จเราจะเดินข้ามเขาเพื่อใช้ทางลงของเขาอีกลูก นั่นก็คือเขา Sandviksfjellet (ชื่อเหมือนกำลังนั่งทับคีย์บอร์ด แต่จริงๆอ่านว่า ซันด์วิกเฟียเล่ต์ ประมาณนี้แหละ 55555) ระยะทางการเดินทางระหว่างยอดเขาประมาณ 6 กิโลเมตร แต่ไม่รวมทางลงนะ มันพีคกว่านั้นเดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ อิอิ ;)
ระหว่างทางเดินไปข้างทางก็มีคนมาวิ่งออกกำลังกายเป็นพักๆ ไม่ต้องกลัวเป็นอะไรจะไม่มีใครช่วย ครับ
ในช่วงแรกจากยอดเขา Floyen จะยังไม่มีป้ายไปยัง Sandviksfjellet นะครับ ให้ดูป้าย Ulriken เพราะในช่วงแรกๆจะไปทางเดียวกัน
เดินไปตามทางเรื่อยๆครับ
เดินมาได้ซักพักถ้าเจอป้าย Sandviksfjellet ถือว่ามาถูกทางแล้วครับ ไม่ต้องเดินตามป้าย Ulriken ไปต่อนะครับ ลูกนั้นมันไกลมาก ประมาณ 12km แต่ถ้าใครว่างหรือแข็งแรงดีก็ตามสบายเลยครับ อิอิ ระหว่างทางสวยจริงๆนะ ถ้าขึ้นมาแล้ว นั่งกระเช้าลงนี่ก็ถือว่า พลาดพอสมควรเลยแหละ สปอยซะเลย ฮิฮิฮิ
บรรยากาศข้างทางสวยมากๆ แต่ช่วงที่ไปหมอกลงเยอะเหมือนกันครับ เลยได้ภาพที่ค่อนข้างน่ากลัวนิดนิง
ทางค่อนข้างดีครับ เป็นทางราบโดยส่วนใหญ่ มีเนินเล็กน้อย เดินสบายๆไม่เหนื่อยมาก
เดินมาเจอทะเลสาบ แสดงว่าใกล้ถึงแล้ววววว
มาถึงสุดทะเลสาบตรงนี้ ไม่ต้องเดินข้ามทางหินอันนี้ไปนะ หันไปอีกทางจะเจอศาลาให้นั่งพัก ให้เดินไปทางนั้นแทนครับ แถวๆนั้นจะมีป้ายบอกทางไป Sandviksfjellet อยู่นั่นแหละ เดินไปโล้ดดดด
ขึ้นมาถึงยอด Sandviksfjellet แล้วถึงกับร้อง โอ้โหวววว วิวสวยงามคู่ควรแก่ความเหน็ดเหนื่อย
พอเดินมาถึงยอด Sandviksfjellet แล้วก็ไปเจอทางลงครับ หลังจากที่อ่านข้อมูลมาคร่าวๆ เหมือนเขาจะบอกว่า เขาลูกนี้หน่ะมันขึ้นง่ายยย พวกนักกีฬาเขาแข่งกันขึ้น ใช้เวลา 8-10 นาทีเท่านั้น เราก็ใจชื้นเลยครับ ขึ้นแค่ 8 นาที ตอนลงสบายแน่นอน แต่เมื่อมาเจอทางลงจริงๆแล้วกลับพบว่ามหาหินพอสมควรเลยครับ หินมากมายถูกเอามาก่อขึ้นเป็นบันได ซึ่งบางก้อนจะชันและลื่นพอสมควร
โปรดเดินด้วยความระมัดระวัง และผู้เดินที่มีอายุมากกว่า 60 ปีควรได้รับคำแนะนำ - -*
หลังจากลงมาอย่างยากลำบาก ก็พบว่า เราไม่ได้ใช้เวลา 8 นาที ครับ เราทำลายสถิติของชาตินอร์เวย์ไปอย่างราบคาบด้วยเวลา 2 ชม. ตามเวลาท้องถิ่น 5555555
เอ่อ เส้นทางที่เราเดินลงกันเนี่ย เขามีชื่อด้วยนะ ชื่อ
Stoltzekleiven (สตอทเซเคลเว่น)
พอลงมาถึงก็เดินตามทางมาเรื่อยๆจะเจอป้ายรถเมล์ชื่อ
Ludebryggen ครับ นั่งรถบัส 3 ป้ายก็จะถึงตัวเมือง ครับ ที่เคยอ่านมาในเวปเขาบอกว่าสามารถจ่ายเงินสดเพื่อซื้อตั๋วรถเมล์จากคนขับได้เลย
พอก่อนลงก็เลยถามพี่คนขับว่า 3 Stop How much? พี่เค้าก็แบบ It’s ok, free อ่าว งงไปสิ เดินลงแบบเงิบๆ O_o
สำหรับแผนที่การเดินเขาก็ตามนี้เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พยายามเดินตามเส้นทางใหญ่ๆ และตามป้ายครับ ไม่หลงแน่นอน ถ้าไม่แน่ใจก็ถามคนที่เดินผ่านมาได้ครับ คนเดินเส้นทางนี้เยอะ
พอมาถึงเมืองแล้วก็เดินมายังตลาดปลาเลยครับ มีร้านอาหารให้เลือกนั่งมากมาย
อันนี้เมนูแซลมอนย่าง กับ ฟิชแอนด์ชิพ ครับ ร้านอยู่ในตลาดปลา ตามแผนที่ตอนเริ่มเลยครับ
วิวฝั่งตรงข้ามเป็น Bryggen ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เห็นตามเว็ปเที่ยวบ่อยๆเวลาพูดถึง Norway ครับ
ชักภาพกับ Bryggen ซัก 2-3 ภาพ อิอิ
หลังจากนั้นฝนก็ลงเม็ดมา เราก็เดินเที่ยวช็อปปิ้งในเมือง และไม่ได้ถ่ายรูปมาเท่าไหร่ ขอข้ามเรื่องช็อปปิ้งไปครับ สรุปคือไม่เหนื่อยมากนะ สามารถเดินเล่นในเมืองได้โดยไม่ต้องใช้รถเมล์ แต่เดินข้ามเขาเหนื่อยจริงครับโดยเฉพาะทางลง เรียกได้ว่ามานอร์เวย์แบบถึงนอร์เวย์จริงๆ
[CR] 13 Days of Scandinavia - หนีร้อนไปนอนสแกนดิเนเวีย : Part III
สำหรับคนที่เข้ามาอ่านใหม่
Part I กดที่ลิ้งนี้เลยครับ : https://ppantip.com/topic/36338644
Part II กดที่ลิ้งนี้เลยครับ : https://ppantip.com/topic/36345492
Part III กดที่ลิ้งนี้เลยครับ : https://ppantip.com/topic/36356544 -----> (กำลังดูอยู่)
Part IV กดที่ลิ้งนี้เลยครับ : https://ppantip.com/topic/36376690
แล้วก็ฝากเพจด้วยครับ เอาไว้ลงรูปสวยๆนอกรอบ : https://www.facebook.com/murmurontheway
2 Apr (½) : Bergen
ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากลงมาจากเรือแล้วเราก็ เข้าไปฝากของที่โรงแรม หลังจากนั้นก็เดินครับ!!
เดินไปที่สถานีรถราง Floibanen เพื่อขึ้นไปยังยอดเขา Floyen กันครับ ค่าขึ้นถ้าเป็นเที่ยวเดียว 45 NOK , ถ้าไปกลับราคา 90 NOK
แต่วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินชมป่าคอนกรีตหลายๆวัน มาเป็นการเดินชมป่าจริงๆกันบ้าง อิอิ เลยซื้อตั๋วเที่ยวเดียวครับ
วิธีเดินทาง ดูตามแผนที่เลยครับลูกศรแสดงจุดเริ่มต้น อยู่ใกล้ๆตลาดปลา
พอไปอยู่ที่จุดเริ่มต้นแล้วก็จะเห็นวิวตามนี้ เข้าซอยที่ลูกศรชี้เลยครับ
เดินเข้ามาสุดซอย จะเจอตึกน่ารักๆเขียนป้ายว่า Floibanen เดินเข้าไปซื้อตั๋วได้เลยจ้า
อยู่บนเคเบิ้ลคาร์ จะได้วิวมุมสูงประมาณนี้ (พยายามอยู่ด้านหน้าสุด จะได้เห็นวิวชัดๆครับ)
พอขึ้นมาจนสุดแล้วก็จะเห็นวิวเมือง และบรรยากาศดีม๊ากมากกกก สูด O2 ของนอร์เวย์ให้เต็มปอดเลยครับ 5555
ข้างบนมีร้านอาหารด้วยนะครับ
หลังจากขึ้นไปชมวิว ข้างบนเสร็จเราจะเดินข้ามเขาเพื่อใช้ทางลงของเขาอีกลูก นั่นก็คือเขา Sandviksfjellet (ชื่อเหมือนกำลังนั่งทับคีย์บอร์ด แต่จริงๆอ่านว่า ซันด์วิกเฟียเล่ต์ ประมาณนี้แหละ 55555) ระยะทางการเดินทางระหว่างยอดเขาประมาณ 6 กิโลเมตร แต่ไม่รวมทางลงนะ มันพีคกว่านั้นเดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ อิอิ ;)
ระหว่างทางเดินไปข้างทางก็มีคนมาวิ่งออกกำลังกายเป็นพักๆ ไม่ต้องกลัวเป็นอะไรจะไม่มีใครช่วย ครับ
ในช่วงแรกจากยอดเขา Floyen จะยังไม่มีป้ายไปยัง Sandviksfjellet นะครับ ให้ดูป้าย Ulriken เพราะในช่วงแรกๆจะไปทางเดียวกัน
เดินไปตามทางเรื่อยๆครับ
เดินมาได้ซักพักถ้าเจอป้าย Sandviksfjellet ถือว่ามาถูกทางแล้วครับ ไม่ต้องเดินตามป้าย Ulriken ไปต่อนะครับ ลูกนั้นมันไกลมาก ประมาณ 12km แต่ถ้าใครว่างหรือแข็งแรงดีก็ตามสบายเลยครับ อิอิ ระหว่างทางสวยจริงๆนะ ถ้าขึ้นมาแล้ว นั่งกระเช้าลงนี่ก็ถือว่า พลาดพอสมควรเลยแหละ สปอยซะเลย ฮิฮิฮิ
บรรยากาศข้างทางสวยมากๆ แต่ช่วงที่ไปหมอกลงเยอะเหมือนกันครับ เลยได้ภาพที่ค่อนข้างน่ากลัวนิดนิง
ทางค่อนข้างดีครับ เป็นทางราบโดยส่วนใหญ่ มีเนินเล็กน้อย เดินสบายๆไม่เหนื่อยมาก
เดินมาเจอทะเลสาบ แสดงว่าใกล้ถึงแล้ววววว
มาถึงสุดทะเลสาบตรงนี้ ไม่ต้องเดินข้ามทางหินอันนี้ไปนะ หันไปอีกทางจะเจอศาลาให้นั่งพัก ให้เดินไปทางนั้นแทนครับ แถวๆนั้นจะมีป้ายบอกทางไป Sandviksfjellet อยู่นั่นแหละ เดินไปโล้ดดดด
ขึ้นมาถึงยอด Sandviksfjellet แล้วถึงกับร้อง โอ้โหวววว วิวสวยงามคู่ควรแก่ความเหน็ดเหนื่อย
พอเดินมาถึงยอด Sandviksfjellet แล้วก็ไปเจอทางลงครับ หลังจากที่อ่านข้อมูลมาคร่าวๆ เหมือนเขาจะบอกว่า เขาลูกนี้หน่ะมันขึ้นง่ายยย พวกนักกีฬาเขาแข่งกันขึ้น ใช้เวลา 8-10 นาทีเท่านั้น เราก็ใจชื้นเลยครับ ขึ้นแค่ 8 นาที ตอนลงสบายแน่นอน แต่เมื่อมาเจอทางลงจริงๆแล้วกลับพบว่ามหาหินพอสมควรเลยครับ หินมากมายถูกเอามาก่อขึ้นเป็นบันได ซึ่งบางก้อนจะชันและลื่นพอสมควร โปรดเดินด้วยความระมัดระวัง และผู้เดินที่มีอายุมากกว่า 60 ปีควรได้รับคำแนะนำ - -*
หลังจากลงมาอย่างยากลำบาก ก็พบว่า เราไม่ได้ใช้เวลา 8 นาที ครับ เราทำลายสถิติของชาตินอร์เวย์ไปอย่างราบคาบด้วยเวลา 2 ชม. ตามเวลาท้องถิ่น 5555555
เอ่อ เส้นทางที่เราเดินลงกันเนี่ย เขามีชื่อด้วยนะ ชื่อ Stoltzekleiven (สตอทเซเคลเว่น)
พอลงมาถึงก็เดินตามทางมาเรื่อยๆจะเจอป้ายรถเมล์ชื่อ Ludebryggen ครับ นั่งรถบัส 3 ป้ายก็จะถึงตัวเมือง ครับ ที่เคยอ่านมาในเวปเขาบอกว่าสามารถจ่ายเงินสดเพื่อซื้อตั๋วรถเมล์จากคนขับได้เลย
พอก่อนลงก็เลยถามพี่คนขับว่า 3 Stop How much? พี่เค้าก็แบบ It’s ok, free อ่าว งงไปสิ เดินลงแบบเงิบๆ O_o
สำหรับแผนที่การเดินเขาก็ตามนี้เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พยายามเดินตามเส้นทางใหญ่ๆ และตามป้ายครับ ไม่หลงแน่นอน ถ้าไม่แน่ใจก็ถามคนที่เดินผ่านมาได้ครับ คนเดินเส้นทางนี้เยอะ
พอมาถึงเมืองแล้วก็เดินมายังตลาดปลาเลยครับ มีร้านอาหารให้เลือกนั่งมากมาย
อันนี้เมนูแซลมอนย่าง กับ ฟิชแอนด์ชิพ ครับ ร้านอยู่ในตลาดปลา ตามแผนที่ตอนเริ่มเลยครับ
วิวฝั่งตรงข้ามเป็น Bryggen ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เห็นตามเว็ปเที่ยวบ่อยๆเวลาพูดถึง Norway ครับ
ชักภาพกับ Bryggen ซัก 2-3 ภาพ อิอิ
หลังจากนั้นฝนก็ลงเม็ดมา เราก็เดินเที่ยวช็อปปิ้งในเมือง และไม่ได้ถ่ายรูปมาเท่าไหร่ ขอข้ามเรื่องช็อปปิ้งไปครับ สรุปคือไม่เหนื่อยมากนะ สามารถเดินเล่นในเมืองได้โดยไม่ต้องใช้รถเมล์ แต่เดินข้ามเขาเหนื่อยจริงครับโดยเฉพาะทางลง เรียกได้ว่ามานอร์เวย์แบบถึงนอร์เวย์จริงๆ