สวัสดีครับ วันนี้จะมานำเสนอการท่องเที่ยวและนำเสนอมุมมองภาพถ่ายของตัวผมเองครับ
สำหรับช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2560
ผมเลือกที่จะหลีกหนีความวุ่นวายช่วงวันที่ 13-16 เมษายน 2560 ไปเสพธรรมชาติและพักผ่อน ที่เกาะเต่า

จริงๆแล้ว เกาะเต่านี้เป็นพื้นที่ของจ.สุราษฎร์ธานีครับ แต่จะขึ้นเรือที่ท่าเรือชุมพร ส่วนการจะเดินทางไปนั้น ผมเลือกขึ้นเรือที่ท่าเรือ จ.ชุมพร ครับ เอาละเกริ่นคร่าวๆแล้วกันนะครับ มาเริ่มท่องเที่ยวไปด้วยกันครับ

..........................................

การเดินทางครั้งนี้ผมเลือกที่จะขับรถไปครับ จากกรุงเทพวิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข35 วิ่งยาวๆไปเลยครับ

เนื่องด้วยเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนเลยพร้อมอกพร้อมใจกันออกไปทางเดียวกันจริงๆ ฮ่าๆ ประชดดดดด

จนไปเจอแยกที่มีป้ายบอกว่าเลี้ยวซ้ายไปเพชรบุรี นั่นก็คือทางหลวงหมายเลข4 หรือเพชรเกษมนั่นเอง เส้นทางนี้ยาวมากๆขับรถด้วยความปลอดภัยด้วยนะครับ ยาวจนง่วง ฮ่าๆ ก็เลยแวะปั๊มน้ำมันดื่มกาแฟซักแก้ว แล้วลุยต่อ

ผ่านจังหวัดเพชรบุรี แล้วก็ผ่านจังหวัดที่คนอาบน้ำน้อยที่สุด นั่นคือ ประจวบทีละขัน แฮ่!!! ประจวบคีรีขันธ์ครับ ขับมายาวๆก็มาถึงชุมพร

จริงๆแล้ววันแรกนี้จะนอนค้างในตัวเมืองก่อน1คืน เพราะต้องขึ้นเรือรอบเช้า ก็เลยเลือกที่พักคือ Hop Inn Hotel ครับ เก็บของเสร็จแล้วไม่รู้จะทำอะไร เลยไปถ่ายรูปแสงเย็นเล่นที่จุดชมวิวเขามัทรี ซึ่งด้านบนนั้นจะเห็นตัวเมืองชุมพร และท่าเรือเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว

วันที่ 2 ตื่นแต่เช้าเก็บข้าวของเตรียมตัวเดินทางไปท่าเรือชุมพร หรือ คนแถวนั้นเรียกว่า ท่าเรือทุ่งมะขามน้อย มาถึงก็เช็คอินแล้วขึ้นเรือกันได้เลยครับ คนอาจจะเยอะนิดนึงเพราะว่าเป็นช่วงเทศกาล

ทริปนี้ผมเลือกซื้อทัวร์ของสยามคาตามารัน เป็นทัวร์เรือไปและกลับ ที่พักและอาหารเช้า และที่พีคก็คือ ทัวร์ดำน้ำด้วยนี่เลยที่ต้องการ เรือที่ขึ้นก็เป็นเรือเร็วมี3ชั้น มีเครื่องดื่มขนมขาย มีห้องน้ำสะอาดมาก  ชั้นที่1จะเป็นห้องแอร์นั่งสบาย ชั้น2จะเป็นตากอากาศมีร่มรับลมเย็น ฮ่าๆ ส่วนชั้นที่3หรือภาษาบ้านๆเลยก็ดาดฟ้าเรือนี่แหละ ผมเลือกนั่งชั้นบนสุดเลยครับ รับลมชมธรรมชาติและแสงแดดเต็มๆ การนั่งเรือข้ามไปเกาะเต่านั้นใช้เวลาประมาณ2ชั่วโมง ระหว่างรอก็ถ่ายรูปเล่น

เดินทางมา 2ชั่วโมงโดยประมาณก็มาถึงแล้ว เกาะเต่า เง่า เง่า

ก็เข้าไปเช็คอินที่ที่พักก่อนเลย เลือกใช้บริการที่พักที่ อนันดาวิลล่า

แต่เนื่องจากวิลล่าเต็ม เลยได้พักที่เดียวกันแต่เป็นบังกะโลซึ่งใกล้ๆกัน ก็เข้าเก็บของอาบน้ำพักผ่อน

อะไรเสร็จแล้วก็ออกมาทานข้าว ราคาข้าวหรืออาหารที่นี่ไม่แพงมากมายอยู่ในระดับโอเคเลย ราคาอาหารจานเดียวที่นี่จะเริ่มต้นตั้งแต่ 60บาทขึ้นไป อย่างผัดกะเพราะทะเลจานนี้ก็90บาทไทยครับ

หลังจากทานข้าวแล้ว ก็ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ครับ ราคาก็200บาท + ค่ามัดจำ3,000บาท รถมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นล้อหนามหรือล้อวิบากครับ เนื่องจากมีทางดินแล้วทางปูนสลับกับ และทางชันมากๆด้วย แต่ที่ต้องระวังมากที่สุดคือห้ามรถล้มห้ามรถเป็นรอยใดใดทั้งสิ้นไม่งั้นโดนบวกแน่ๆครับ แนะนำให้ก่อนเอารถออกให้ถ่ายรูปทุกจุดที่หน้าร้านไว้เลยครับ พอเช่ารถเสร็จก็จะไปตะเวนถ่ายรุปจุดต่างๆและแสงเย็นของวันนี้กันครับ พร้อมแล้วไปแว้นกันเลย !!!!

จุดชมวิว เลิฟเกาะเต่า

อ่าวลึก

อ่าวโตนด

หาดทรายรี

วันที่2 วันนี้มีกิจรรมดำน้ำดูประการัง ปลา และธรรมชาติใต้ท้องทะเล จริงๆแล้วต้องดำน้ำถึง5จุด แต่เนื่องจากมี2จุดที่คลื่นแรงทำให้ไปจอดเรือไม่ได้ เอาเป็นว่าให้ภาพเล่าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ

มาเซลฟี่กันเจ้าปลาน้อย มองกล้องหน่อย ^^

เสร็จจากการดำน้ำทุกจุดแล้ว ที่สุดท้ายที่เจ้าหน้าที่จะมาจอดเรือคือ เกาะนางยวนนั่นเอง นักท่องเที่ยวสามารถไปถ่ายรูป กิน ดื่ม พักผ่อนได้ตามอัธยาศัย ไปชมภาพกันครับ

หลังจากทำกิจกรรมมาทั้งวันแล้ว ก็กลับสู่เกาะเต่าและเข้าที่พัก ผมก็ออกมาเก็บแสงเย็น แสงสุดท้ายที่จะได้อยู่ ณ ที่นี่ ให้ภาพเล่าเรื่องครับ

วันสุดท้ายตื่นขึ้นมาก็ไม่มีอะไรแล้วครับ เช็คเอาท์ออกจากที่พักเวลา 11.00น. และรอเวลาขึ้นเรือกลับชุมพรและเดินทางกลับบ้าน ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามหรือเข้ามาดูภาพผ่านๆผมก็ดีใจแล้วครับ กระทู้อาจจะยาวไปนิดนึงแต่ผมไม่ขี้เกียจที่จะทำมันและนำเสนอให้คนได้รับชมเลยครับ สุดท้ายนี้ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ แล้วพบกันกับการเดินทางครั้งหน้า