ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะอยู่คอนโดเลยคะ หากไม่ติดขัดเรื่องที่จอดรถที่จอดตากแดดทุกวัน และบางทีฝนตก (ที่พักไกลจากที่จอดมาก ต้องเช่ารายเดือน)
พอซื้อคอนโด ... คิดว่าอย่างน้อย ๆ ก็มีที่จอดไม่ต้องเดินไกลอยู่ในร่ม และยอมรับได้ กับการที่ได้ที่จอดเพียง 40% ของคอนโด ที่มีที่พัก 300+ ห้อง
ตอนนี้พอเข้าไปอยู่ได้เพียง 5-6 เดือน เริ่มเบื่อหน่าย กับ สิ่งที่เราไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น
"เหตุการ์ณ" คือ ตลอดเวลาที่อยู่มา แรก ๆ ยังไม่มีคนย้ายเข้าที่จอดก็ยังโอเค พอผ่านไปนาน ๆ คนเริ่มมาอยู่กันเต็ม และเริ่มเห็นความเห็นแก่ตัวของคนที่อาศัยอยู่ด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูดบุหรี่ ลงจากระเบียงห้อง ลงบนหลังคารถ (ที่จอดไม่ได้คลุมทุกส่วนของรถจะมีส่วนที่เกินมาบ้าง) ดูดแล้วก็ทิ้งลงมาเลย
เรื่องสระว่ายน้ำ (ที่ยังไม่เคยใช้บริการ) ที่มีคน เอาคนนอกมาว่าย มาทีเป็น 10 คน เฮฮาเต็มสระ (แอบงง เขาจ่ายค่าส่วนกลางให้เราตอนไหน)
เรื่องที่จอดรถ ที่เห็นกันชัด ๆ ว่า 1 ห้อง บางห้องจอดกัน 2 คัน พอสุดท้าย แน่นสิคะ จากที่พอจอดกันได้ ช่วย ๆ กัน ก็กลายเป็น ไม่รู้คันนี้ของใคร ไม่มีสติ๊กเกอร์ แถม ตามหายากบางคนจอดกด P ไว้จะออกก็ออกกันไม่ได้ วุ่นวายกันไปหมด
เรื่อง รปภ เอื้อให้คนไม่มีคีย์ เปิดที่ไม้กั้นให้เข้ามาจอดได้ตามอำเภอใจ ทั้ง ๆ ที่คนจะเข้าได้ต้องมีคีย์การ์ดสำหรับเข้าออก จอดรถเท่านั้น (แอบคิดโจรเข้ามาก็ไม่รู้เลยนะเนี้ยะ)
ทั้งหมดตอนแรกก็สงสัย เราทำอะไรได้ไหม หลักการณ์แรก โทรไปปรึกษาโครงการที่ขายให้เรา เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เขาแจ้งว่า "ต้องจัดตั้งกรรมการคอนโด เดียวจะมีประชุม เราก็อ่อ ๆ รอประชุม หลังจากนั้นก็มีประชุมใหญ่ของลูกบ้าน ... 19 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา มติออกมาหมดเรียบร้อย" ด้วยนิติชุดแรกเข้าประชุมด้วย
ผลออกมาผ่านไป 20 มีนาคม 2560 ประกาศออกมาเป็นข้อ ๆ บลา ๆ นิติประกาศ แปะ ลูกบ้านเห็นกันหมดทุกคนคะ เซ็นยอมรับข้อตกลงกันหมด
แรก ๆ ก็ปกติ เหมือนยอมทำข้อตกลง ผ่านไปเพียง 1 อาทิตย์
และแล้วววววววววววว สิ่งที่ไม่คิดก็เกิดขึ้น
ทุกอย่างแย่ลงเหมือนเดิม และดูจะหนักหน่วงมากขึ้น รวมถึง ทางนิติก็รู้ปัญหาว่าลูกบ้าน หลังไหน แต่ก็ไม่เคยเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ได้ คอนนี้เป็นคอนโดที่ใหม่ คนเพิ่งเริ่มเข้ามาอยู่กันได้ เต็ม ๆ ประมาณเดือนที่ 6 คะ เปิดให้อยู่จริงตั้งแต่พฤศจิกายน 2559 (คอนโดเราอยู่แถว ลาดพร้าว- วังหิน ระหว่าง 41-43 ติดตลาดนัดเลยคะ) **โครงการของ พ .....ษ!!! ชื่อคอนโด (มีคำว่าส่วนตัว)
คือทุกอย่าง...อาจฟังดู เหมือนไม่มีอะไร ในเมื่อเราได้จัดการประชุมลูกบ้าน ทำข้อตกลงกันไปแล้ว แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่เราเองไม่เข้าใจ
ที่จอดรถแน่นกว่าปกติ และรถที่เคยจอด 2 คันต่อ 1 ห้อง ก็กลับมาเหมือนเดิม รปภ เปิดให้เข้าออกเหมือนเดิม (มีคนบอกว่า เขาอาจจะยอมจ่ายให้ รปภ ที่ดูแลโครงการเลยทำให้เข้าออกได้) เราก็อ้าว เขาทำกันแบบนี้ได้ด้วยหรอ ... แล้วทำอะไรไม่ได้เลยหรอ สอบถามไปยังนิติ เขาก็เอาแต่อ้างว่า เราได้แจ้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีการลงเวลาจอดรถ ที่มาจอด (ตกลงไปว่าจะคิดเป็นค่าใช้จ่าย) ก็ไม่ลงแต่โกหกลูกบ้านอย่างเราว่าลงแล้ว และก็ไม่มีการเรียกเงินใด ๆ ทั้งสิ้น (ห่วยขั้นเทพ นิติชุดนี้)
ตามมาด้วยเรื่อง สระว่ายน้ำ หลังประชุมก็ผ่อนปรนให้จาก 2 คนเป็น 3 คนบางห้องมี (พ่อแม่และลูก) กลายว่าคนที่ 4 ต้องชำระเงิน แต่ก็ไม่มีการเรียกเก็บกับบุคคลที่ 4 นะ แปลกใจกับนิติอีกเช่นเคย
ข้อต่อมาคือ การใช้ห้องฟิสเนส งง กับบางคน ไปหนีบผมไดร์ผมส่วนกลาง "เราก็ห๊ะ ไม่ได้ใช้บริการแต่ไดร์และหนีบผม ผมร่วงเป็นกระจุกๆ ไม่เคยเก็บ เหมือนประหยัด ค่าไฟห้องตัวเองไปใช้ส่วนกลางงั้นแหละ ตรงนั้นจะเปิดแอร์ตลอดเวลาคะ สไตส์ห้องสมุด"
ตามมด้วยเรื่องที่ตกลงกันไปแล้วอีกเช่นกัน เรื่องการใช้สระว่ายน้ำแล้วหลังจากขึ้นแล้วให้อาบน้ำหรือเช็ดตัวให้แห้งก่อนขึ้นลิฟ โอ๊วววววววววววววววว ตกลงกันแต่..............ตัวเปียกขึ้นลิฟ เดินออกจากลิฟเข้าชั้น น้ำท่วมหน้าลิฟ ทำให้เกือบลื่นล้มหัวแตกกันไปเลยทีเดียว ลูกบ้านท่านอื่น ๆ ก็ร้องเรียนกันในกลุ่ม (เรามีกลุ่มไลน์ลูกบ้านด้วยกันคะ ประมาณ 140 คน จากทั้งหมด 300+ ห้อง) ก็คุยกันตลอดเวลา และให้กรรมการไปคุยและขอให้นิติ จัดการแก้ไข และแล้วววววววววว ก็เหมือนเดิม ตัวเปียก ขึ้นลิฟ เดินออกจากลิฟ เช่นเคย (สงสารแม่บ้าน ที่ต้องคอยเรียกมาทำความสะอาดดึกๆ)
ซึ่งทุกอย่างนิติรับทราบทั้งหมดคะ และก็เปลี่ยนนิติชุดนี้เป็นชุดที่ 3 แล้วสำหรับคอนโดนี้ แต่ก็ยังแก้ไขไม่ได้ จนลูกบ้านหลาย ๆ คนสงสัย ว่าทำไม ทำให้กฏเป็นกฏไม่ได้ บังคับลูกบ้านไม่ได้ เอาแต่อ้างว่าต้องขอเงินไปจัดซื้อนั่นนี้ก่อน แต่ถามว่าทำไหม ก็ไม่เห็นมีอะไรที่เปลี่ยนไป ยังจะออกแนวเดิม ๆ ไม่เคยเปลี่ยนด้วยซ้ำ
ตอนนี้ทุกข์ใจมากกับการซื้อโครงการคอนโดนี้ เหมือนเราเองก็เริ่มทบทวนว่าเราคิดผิด คิดว่า โครงการนี้ดี กลายว่าก็เริ่มจะสมกับที่หลาย ๆ คนบอกว่า พอขายให้แล้วก็ทิ้งเราไปเลยไม่มาสนใจและดูแล ว่าจะยังไง ขายจบ ทิ้งกันเลยว่างั้น นี่ ยังไม่ถึง 2 ปี ของการประกันห้องเลย ระบบเริ่มแย่ไปหมด และบริหารก็ออกแนว ไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น .... เริ่มจะอยากขาย ไม่อยากอยู่ ทน แบบนี้อีกหละ (เครียดอ่ะ) เหมือนเราโดนคนเอาเปรียบ (เพราะค่าส่วนกลางก็แพงมากคะ) และทุกเรื่องเรารู้สึกว่านิติเป็นคนหนุนหลัง ทำให้เกิดเครสพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ยอมทำอะไรให้เป็นไปตามกฏ (ทั้ง ๆ ที่ กรรมการก็ลงชื่อสั่งงานออกมาทั้งหมดแล้ว แต่ก็ไม่ยอมทำ)
บางทีก็อยากถามเพื่อน ๆ ที่ไม่ใช่ของโครงการเครือนี้ขาย อย่างที่อื่นได้ยินมาที่เพื่อน ๆ ซื้อ กลับบอกว่า ของเขานิติ เข้มสุด ๆ แถมไม่ผ่อนปรน แต่ก็ทำให้เขาอยู่กันแบบมีกฏระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นของ เครื่อง A... หรือ L...N (อันนี้ของเพื่อนที่เขาไปซื้ออยู่คะ เขาชมกันตลอดว่า ของเขานิติดูแลดีมาก กฏคือกฏ ไม่มีใครแหกกฏ แหกกฏคือปรับ ไม่ปรับคือล็อค หรือบังคับจ่ายให้เป็นไปตามกฏ) แล้วหันมามองของเรา โครงการที่เราซื้อหละ ทำไม จัดการห่วยขนาดนี้เลย แง ๆ เครียดจัง
จขกท ไม่เคยตั้งอะไรแบบนี้ วันนี้ขอระบายนิดนึง ไม่ไหวแล้ว อยากฟังจากท่านอื่น ๆ ด้วยว่าเจอปัญหาแบบเราไหม เผื่อจะทำให้เรายิ่งตัดสินใจง่ายมากขึ้น ว่าควรอยู่ต่อ หรือขายทิ้งไปซื้อโครงการใหม่ ที่ฟิกค่าจอดรถ (หึหึ พูดเหมือนรวย รวยหนี้นะคะ ก็พูดไปงั้น ๆ แหละทำไม่ได้หรอก จะเอาเงินที่ไหน 555+) หากใครมีไอเดียดี ๆ ก็บอกมั่งนะ เผื่อจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ในความทุกข์ใจในครั้งนี้ของเรา / ขอบคุณคะ
ปล อยากรู้โครงการไหน หลังไมค์นะคะ จะได้เป็นตัวเลือกควรซื้อหรือไม่ซื้อโครงการของที่นี้ไหมคะ
อึดอัดใจกับการอยู่คอนโดที่เพิ่งซื้อ เพราะนิติ รปภ และลูกบ้านที่เห็นแก่ตัว
พอซื้อคอนโด ... คิดว่าอย่างน้อย ๆ ก็มีที่จอดไม่ต้องเดินไกลอยู่ในร่ม และยอมรับได้ กับการที่ได้ที่จอดเพียง 40% ของคอนโด ที่มีที่พัก 300+ ห้อง
ตอนนี้พอเข้าไปอยู่ได้เพียง 5-6 เดือน เริ่มเบื่อหน่าย กับ สิ่งที่เราไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น
"เหตุการ์ณ" คือ ตลอดเวลาที่อยู่มา แรก ๆ ยังไม่มีคนย้ายเข้าที่จอดก็ยังโอเค พอผ่านไปนาน ๆ คนเริ่มมาอยู่กันเต็ม และเริ่มเห็นความเห็นแก่ตัวของคนที่อาศัยอยู่ด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูดบุหรี่ ลงจากระเบียงห้อง ลงบนหลังคารถ (ที่จอดไม่ได้คลุมทุกส่วนของรถจะมีส่วนที่เกินมาบ้าง) ดูดแล้วก็ทิ้งลงมาเลย
เรื่องสระว่ายน้ำ (ที่ยังไม่เคยใช้บริการ) ที่มีคน เอาคนนอกมาว่าย มาทีเป็น 10 คน เฮฮาเต็มสระ (แอบงง เขาจ่ายค่าส่วนกลางให้เราตอนไหน)
เรื่องที่จอดรถ ที่เห็นกันชัด ๆ ว่า 1 ห้อง บางห้องจอดกัน 2 คัน พอสุดท้าย แน่นสิคะ จากที่พอจอดกันได้ ช่วย ๆ กัน ก็กลายเป็น ไม่รู้คันนี้ของใคร ไม่มีสติ๊กเกอร์ แถม ตามหายากบางคนจอดกด P ไว้จะออกก็ออกกันไม่ได้ วุ่นวายกันไปหมด
เรื่อง รปภ เอื้อให้คนไม่มีคีย์ เปิดที่ไม้กั้นให้เข้ามาจอดได้ตามอำเภอใจ ทั้ง ๆ ที่คนจะเข้าได้ต้องมีคีย์การ์ดสำหรับเข้าออก จอดรถเท่านั้น (แอบคิดโจรเข้ามาก็ไม่รู้เลยนะเนี้ยะ)
ทั้งหมดตอนแรกก็สงสัย เราทำอะไรได้ไหม หลักการณ์แรก โทรไปปรึกษาโครงการที่ขายให้เรา เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เขาแจ้งว่า "ต้องจัดตั้งกรรมการคอนโด เดียวจะมีประชุม เราก็อ่อ ๆ รอประชุม หลังจากนั้นก็มีประชุมใหญ่ของลูกบ้าน ... 19 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา มติออกมาหมดเรียบร้อย" ด้วยนิติชุดแรกเข้าประชุมด้วย
ผลออกมาผ่านไป 20 มีนาคม 2560 ประกาศออกมาเป็นข้อ ๆ บลา ๆ นิติประกาศ แปะ ลูกบ้านเห็นกันหมดทุกคนคะ เซ็นยอมรับข้อตกลงกันหมด
แรก ๆ ก็ปกติ เหมือนยอมทำข้อตกลง ผ่านไปเพียง 1 อาทิตย์
และแล้วววววววววววว สิ่งที่ไม่คิดก็เกิดขึ้น
ทุกอย่างแย่ลงเหมือนเดิม และดูจะหนักหน่วงมากขึ้น รวมถึง ทางนิติก็รู้ปัญหาว่าลูกบ้าน หลังไหน แต่ก็ไม่เคยเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ได้ คอนนี้เป็นคอนโดที่ใหม่ คนเพิ่งเริ่มเข้ามาอยู่กันได้ เต็ม ๆ ประมาณเดือนที่ 6 คะ เปิดให้อยู่จริงตั้งแต่พฤศจิกายน 2559 (คอนโดเราอยู่แถว ลาดพร้าว- วังหิน ระหว่าง 41-43 ติดตลาดนัดเลยคะ) **โครงการของ พ .....ษ!!! ชื่อคอนโด (มีคำว่าส่วนตัว)
คือทุกอย่าง...อาจฟังดู เหมือนไม่มีอะไร ในเมื่อเราได้จัดการประชุมลูกบ้าน ทำข้อตกลงกันไปแล้ว แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่เราเองไม่เข้าใจ
ที่จอดรถแน่นกว่าปกติ และรถที่เคยจอด 2 คันต่อ 1 ห้อง ก็กลับมาเหมือนเดิม รปภ เปิดให้เข้าออกเหมือนเดิม (มีคนบอกว่า เขาอาจจะยอมจ่ายให้ รปภ ที่ดูแลโครงการเลยทำให้เข้าออกได้) เราก็อ้าว เขาทำกันแบบนี้ได้ด้วยหรอ ... แล้วทำอะไรไม่ได้เลยหรอ สอบถามไปยังนิติ เขาก็เอาแต่อ้างว่า เราได้แจ้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีการลงเวลาจอดรถ ที่มาจอด (ตกลงไปว่าจะคิดเป็นค่าใช้จ่าย) ก็ไม่ลงแต่โกหกลูกบ้านอย่างเราว่าลงแล้ว และก็ไม่มีการเรียกเงินใด ๆ ทั้งสิ้น (ห่วยขั้นเทพ นิติชุดนี้)
ตามมาด้วยเรื่อง สระว่ายน้ำ หลังประชุมก็ผ่อนปรนให้จาก 2 คนเป็น 3 คนบางห้องมี (พ่อแม่และลูก) กลายว่าคนที่ 4 ต้องชำระเงิน แต่ก็ไม่มีการเรียกเก็บกับบุคคลที่ 4 นะ แปลกใจกับนิติอีกเช่นเคย
ข้อต่อมาคือ การใช้ห้องฟิสเนส งง กับบางคน ไปหนีบผมไดร์ผมส่วนกลาง "เราก็ห๊ะ ไม่ได้ใช้บริการแต่ไดร์และหนีบผม ผมร่วงเป็นกระจุกๆ ไม่เคยเก็บ เหมือนประหยัด ค่าไฟห้องตัวเองไปใช้ส่วนกลางงั้นแหละ ตรงนั้นจะเปิดแอร์ตลอดเวลาคะ สไตส์ห้องสมุด"
ตามมด้วยเรื่องที่ตกลงกันไปแล้วอีกเช่นกัน เรื่องการใช้สระว่ายน้ำแล้วหลังจากขึ้นแล้วให้อาบน้ำหรือเช็ดตัวให้แห้งก่อนขึ้นลิฟ โอ๊วววววววววววววววว ตกลงกันแต่..............ตัวเปียกขึ้นลิฟ เดินออกจากลิฟเข้าชั้น น้ำท่วมหน้าลิฟ ทำให้เกือบลื่นล้มหัวแตกกันไปเลยทีเดียว ลูกบ้านท่านอื่น ๆ ก็ร้องเรียนกันในกลุ่ม (เรามีกลุ่มไลน์ลูกบ้านด้วยกันคะ ประมาณ 140 คน จากทั้งหมด 300+ ห้อง) ก็คุยกันตลอดเวลา และให้กรรมการไปคุยและขอให้นิติ จัดการแก้ไข และแล้วววววววววว ก็เหมือนเดิม ตัวเปียก ขึ้นลิฟ เดินออกจากลิฟ เช่นเคย (สงสารแม่บ้าน ที่ต้องคอยเรียกมาทำความสะอาดดึกๆ)
ซึ่งทุกอย่างนิติรับทราบทั้งหมดคะ และก็เปลี่ยนนิติชุดนี้เป็นชุดที่ 3 แล้วสำหรับคอนโดนี้ แต่ก็ยังแก้ไขไม่ได้ จนลูกบ้านหลาย ๆ คนสงสัย ว่าทำไม ทำให้กฏเป็นกฏไม่ได้ บังคับลูกบ้านไม่ได้ เอาแต่อ้างว่าต้องขอเงินไปจัดซื้อนั่นนี้ก่อน แต่ถามว่าทำไหม ก็ไม่เห็นมีอะไรที่เปลี่ยนไป ยังจะออกแนวเดิม ๆ ไม่เคยเปลี่ยนด้วยซ้ำ
ตอนนี้ทุกข์ใจมากกับการซื้อโครงการคอนโดนี้ เหมือนเราเองก็เริ่มทบทวนว่าเราคิดผิด คิดว่า โครงการนี้ดี กลายว่าก็เริ่มจะสมกับที่หลาย ๆ คนบอกว่า พอขายให้แล้วก็ทิ้งเราไปเลยไม่มาสนใจและดูแล ว่าจะยังไง ขายจบ ทิ้งกันเลยว่างั้น นี่ ยังไม่ถึง 2 ปี ของการประกันห้องเลย ระบบเริ่มแย่ไปหมด และบริหารก็ออกแนว ไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น .... เริ่มจะอยากขาย ไม่อยากอยู่ ทน แบบนี้อีกหละ (เครียดอ่ะ) เหมือนเราโดนคนเอาเปรียบ (เพราะค่าส่วนกลางก็แพงมากคะ) และทุกเรื่องเรารู้สึกว่านิติเป็นคนหนุนหลัง ทำให้เกิดเครสพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ยอมทำอะไรให้เป็นไปตามกฏ (ทั้ง ๆ ที่ กรรมการก็ลงชื่อสั่งงานออกมาทั้งหมดแล้ว แต่ก็ไม่ยอมทำ)
บางทีก็อยากถามเพื่อน ๆ ที่ไม่ใช่ของโครงการเครือนี้ขาย อย่างที่อื่นได้ยินมาที่เพื่อน ๆ ซื้อ กลับบอกว่า ของเขานิติ เข้มสุด ๆ แถมไม่ผ่อนปรน แต่ก็ทำให้เขาอยู่กันแบบมีกฏระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นของ เครื่อง A... หรือ L...N (อันนี้ของเพื่อนที่เขาไปซื้ออยู่คะ เขาชมกันตลอดว่า ของเขานิติดูแลดีมาก กฏคือกฏ ไม่มีใครแหกกฏ แหกกฏคือปรับ ไม่ปรับคือล็อค หรือบังคับจ่ายให้เป็นไปตามกฏ) แล้วหันมามองของเรา โครงการที่เราซื้อหละ ทำไม จัดการห่วยขนาดนี้เลย แง ๆ เครียดจัง
จขกท ไม่เคยตั้งอะไรแบบนี้ วันนี้ขอระบายนิดนึง ไม่ไหวแล้ว อยากฟังจากท่านอื่น ๆ ด้วยว่าเจอปัญหาแบบเราไหม เผื่อจะทำให้เรายิ่งตัดสินใจง่ายมากขึ้น ว่าควรอยู่ต่อ หรือขายทิ้งไปซื้อโครงการใหม่ ที่ฟิกค่าจอดรถ (หึหึ พูดเหมือนรวย รวยหนี้นะคะ ก็พูดไปงั้น ๆ แหละทำไม่ได้หรอก จะเอาเงินที่ไหน 555+) หากใครมีไอเดียดี ๆ ก็บอกมั่งนะ เผื่อจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ในความทุกข์ใจในครั้งนี้ของเรา / ขอบคุณคะ
ปล อยากรู้โครงการไหน หลังไมค์นะคะ จะได้เป็นตัวเลือกควรซื้อหรือไม่ซื้อโครงการของที่นี้ไหมคะ