ผมเบื่อมากที่ต้องอยู่ตรงกลางและรองรับอารมณ์ของทั้ง 2 คน ผมเป็นลูกคนเดียว แต่ครอบครัวผมใจร้อนกันทั้ง 3 คนเลย ซึ่งเรื่องของเรื่องคือพ่อกับแม่ไม่ได้รักกันแต่แรก แต่เพราะผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายอยากให้คบกัน เลยจำใจต้องคบกัน 1 เดือน ซึ่งพ่อกับแม่ก็รู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็กัดกันตั้งแต่เด็ก เหมือนลิ้นกับฟัน แต่พอหลังแต่งจริงๆเนี่ย พสกพื้นหลังนิสัยส่วนตัวที่ถูกเลี้ยงมาคนล่ะแบบ มันไม่ลงรอยเอาซะเลย ซึ่งมันเริ่มจากปัญหาเล็กๆ แต่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ถึงข้อเสียของตัวเอง แล้วมักจะพยายามยัดความคิดเห็นของตัวเองให้คนอื่นเสมอ ซึ่งมันส่งผลให้คนกลางอย่างผม เพราะผมก็ถูกยัดเยียดความรู้สึกต่างๆไปด้วย แต่ผมว่ามันถ่ายทอดมาจากพันธุกรรมอยู่แล้วล่ะ แต่ผมรู้สึกว่าผมถูกกดดัน และติดอยู่ในกรอบของกฏระเบียบต่างๆ ซึ่งไม่เถียงว่าไม่ดี แต่ทุกคนย่อมมีเหตุผล ถูกมั้ยคับ มันทำให้ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรมาพันรอบตัวไปหมด ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกับผมมีสิทธิ์ตัดสินใจได้มากกว่าผม ซึ่งเหตุการณ์พวกนี้เป็นตั้งแต่พ่อแม่แต่งงาน จนถึงปัจจุบัน(จขกท. อายุ 18 แล้ว)
ขอยกตัวอย่างล่าสุด ****เนื่องจากผมได้สนใจไปเข้าค่ายกับโรงเรียน ซึ่งเป็นค่ายเกี่ยวกับการทำกราฟิกเพื่อการสร้างสื่อ ซึ่งค่ายนี้ฟรี มีอุปกรณ์ให้ แต่ใจนึง อยากเอาโน๊ตบุ๊คไปเอง เพราะคิดว่าน่าจะใช้ประโยชน์ได้ แล้วทางผู้จัดค่าย ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้นำของไป ซึ่งเพื่อนผมเท่าที่คุยกัน หลายคนมีกล้อง DSLR ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเอาไปกัน แต่ผมบอกแม่ลอยว่าอาจจะเอาโน๊ตบุ๊คไป สิ่งที่ได้กลับมา คือ "ถ้าเอาไปกูไม่ให้ออกจากบ้าน หรือถ้าออกไปได้ไม่ต้องมาเรียกว่าแม่อีก" แล้วเหตุผลที่ห้ามเอาไป คือ "รักษาของไม่ได้ ขี้เกียจซื้อให้ใหม่" แล้วทุกครั้งที่เถียงกันแบบนี้ มันจะจบด้วยคำว่ากูเป็นแม่น่ะ ถ้าไม่เชื่อฟังก็ไม่ใช่ลูกกู มันทำให้ผมอึดอัดมาก ผมควรจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่มีประโยชน์จริงมั้ย ทำไมต้องปิดกั้นด้วย ผมเองถูกตีเส้นแบบตรงเป๊ะมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ผมรู้ว่าผลที่จะเกิดตามมาอยู่แล้ว ตัวอย่างจากหนังละครมันก็มี เขาก็เคยเล่าให้ฟัง ซึ่งผมรู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี แต่สังคมปัจจุบันสอนให้เราเอาตัวรอด ไม่ต้องดีทุกอย่าง แต่ให้ทำดี ถ้าเลือกได้ แล้วทำไมต้องห้ามผมขนาดนี้******
ส่วนพ่อก็เหมือนคนมีปม ตอนเด็กๆ พ่อเคยโดนปู่กับย่าเอาหนังสือการ์ตูนกับของเล่นไปทิ้ง เพราะการเรียนไม่ค่อยดี แล้วเวลาที่ของหาย โดนขโมย หรือถูกเอาเปรียบ พ่อจะถูกด่าเสมอว่า "โง่!!! ทำไมปล่อยให้โดนเอาเปรียบ ทำไมรักษาของตัวเองให้ดี..." เลยส่งผลถึงผมแบบนี้
****ผมให้เพื่อนยืมยางลบ สมัยนั้นก้อนล่ะ 5 บาท ยางลบสีขาวธรรมดานี่แหละ แต่เผอิญว่าเพื่อนผมก็ยืมกันหลายคนแล้วมันหาย ก็เลยขอตังไปซื้อใหม่ แล้วก็เป็นเหมือนเดิมคือยืมแล้วหาย พอหลายรอบเข้าพ่อ เริ่มไม่ยอม บอกว่าของแค่นี้ทำไมรักษาไม่ได้ แล้วก็พาลมาขุดเรื่องเก่าๆมาด่าผมจนบ้านแตก****
ผมเลยอยากขอคำปรึกษาว่าผมควรจะแก้ปัญหายังไดี เริ่มจากปัญหาที่คิดว่าผมแก้เองได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนพวกท่านน่ะ เพราะที่ผ่านมาต่อให้พูดกันยังไง ถ้าคนๆนั้นไม่ยอมรับมันก็ไม่เกิดประโยชน์ ผมพยายามปล่อยวางมากๆแล้วแต่ผมไม่ไหวจริงคับ ขอบคุณที่อ่านจนจบน่ะคับ
พ่อกับแม่ไม่ค่อยลงรอยกัน แลัวเถียงกันบ่อยๆควรทำยังไงดี
ขอยกตัวอย่างล่าสุด ****เนื่องจากผมได้สนใจไปเข้าค่ายกับโรงเรียน ซึ่งเป็นค่ายเกี่ยวกับการทำกราฟิกเพื่อการสร้างสื่อ ซึ่งค่ายนี้ฟรี มีอุปกรณ์ให้ แต่ใจนึง อยากเอาโน๊ตบุ๊คไปเอง เพราะคิดว่าน่าจะใช้ประโยชน์ได้ แล้วทางผู้จัดค่าย ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้นำของไป ซึ่งเพื่อนผมเท่าที่คุยกัน หลายคนมีกล้อง DSLR ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเอาไปกัน แต่ผมบอกแม่ลอยว่าอาจจะเอาโน๊ตบุ๊คไป สิ่งที่ได้กลับมา คือ "ถ้าเอาไปกูไม่ให้ออกจากบ้าน หรือถ้าออกไปได้ไม่ต้องมาเรียกว่าแม่อีก" แล้วเหตุผลที่ห้ามเอาไป คือ "รักษาของไม่ได้ ขี้เกียจซื้อให้ใหม่" แล้วทุกครั้งที่เถียงกันแบบนี้ มันจะจบด้วยคำว่ากูเป็นแม่น่ะ ถ้าไม่เชื่อฟังก็ไม่ใช่ลูกกู มันทำให้ผมอึดอัดมาก ผมควรจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่มีประโยชน์จริงมั้ย ทำไมต้องปิดกั้นด้วย ผมเองถูกตีเส้นแบบตรงเป๊ะมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ผมรู้ว่าผลที่จะเกิดตามมาอยู่แล้ว ตัวอย่างจากหนังละครมันก็มี เขาก็เคยเล่าให้ฟัง ซึ่งผมรู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี แต่สังคมปัจจุบันสอนให้เราเอาตัวรอด ไม่ต้องดีทุกอย่าง แต่ให้ทำดี ถ้าเลือกได้ แล้วทำไมต้องห้ามผมขนาดนี้******
ส่วนพ่อก็เหมือนคนมีปม ตอนเด็กๆ พ่อเคยโดนปู่กับย่าเอาหนังสือการ์ตูนกับของเล่นไปทิ้ง เพราะการเรียนไม่ค่อยดี แล้วเวลาที่ของหาย โดนขโมย หรือถูกเอาเปรียบ พ่อจะถูกด่าเสมอว่า "โง่!!! ทำไมปล่อยให้โดนเอาเปรียบ ทำไมรักษาของตัวเองให้ดี..." เลยส่งผลถึงผมแบบนี้
****ผมให้เพื่อนยืมยางลบ สมัยนั้นก้อนล่ะ 5 บาท ยางลบสีขาวธรรมดานี่แหละ แต่เผอิญว่าเพื่อนผมก็ยืมกันหลายคนแล้วมันหาย ก็เลยขอตังไปซื้อใหม่ แล้วก็เป็นเหมือนเดิมคือยืมแล้วหาย พอหลายรอบเข้าพ่อ เริ่มไม่ยอม บอกว่าของแค่นี้ทำไมรักษาไม่ได้ แล้วก็พาลมาขุดเรื่องเก่าๆมาด่าผมจนบ้านแตก****
ผมเลยอยากขอคำปรึกษาว่าผมควรจะแก้ปัญหายังไดี เริ่มจากปัญหาที่คิดว่าผมแก้เองได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนพวกท่านน่ะ เพราะที่ผ่านมาต่อให้พูดกันยังไง ถ้าคนๆนั้นไม่ยอมรับมันก็ไม่เกิดประโยชน์ ผมพยายามปล่อยวางมากๆแล้วแต่ผมไม่ไหวจริงคับ ขอบคุณที่อ่านจนจบน่ะคับ