ขอพักจากความวุ่นวาย แล้วไปผ่อนคลายกับชีวิตเรียบง่ายที่บ้านกกกอด จ.กาญจนบุรี [3 วัน 2 คืน ขับรถชิวๆไปเอง]

ยิ้ม เริ่มจากการหาที่เที่ยวช่วงสงกรานต์ ที่ไหนก็ได้ขอให้ได้ไปพักผ่อนช่วงวันหยุดยาวโดยไม่ต้องนอนแก่ว นอนเหงาเขาไม่รักอยู่ที่บ้านเฉยๆ ตั้งหลายวัน และทันใดนั้น "บ้านกกกอด" ที่พักในใจที่เคยอยากไปมานาน ก็แว๊บเข้ามาในหัว ก็เลยติดต่อไปทาง Facebook Messenger โอ๊วววแม่เจ้า ช่างโชคดีเหลือเกิน ยังมีห้องว่างเป็นห้องแอร์ 1 ห้อง ชื่อบ้านพฤกษา และห้องพัดลม 1 ห้องชื่อบ้านวิวเขื่อน ปกติไม่เคยจองที่นี่ทันเลย!! จองดิครัช รออะไร โดยเราไปช่วงสงกรานต์วันที่ 14-16 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา...แน่นอนไหมหละ กาญจนบุรีคือจังหวัดที่ร้อนที่สุดในช่วงนั้น แต่เราไม่กลัวววว ลุยยย หนีร้อนไปเจอร้อนกว่าระดับ 36 องศา..เท่

     อมยิ้ม02 ทริปนี้เนื่องจากอยากไปแบบชิวๆ เลยขับรถไปเอง 3 คนกับเพื่อน แบบไม่ค่อยรู้เส้นทางมากนัก gps ล้วนๆ โดยเลือกทางที่ผ่านนครปฐม แอบกลัวในใจว่าจะเจอรถติดไหม แต่รอด ไม่ติดเลยซักนิด สงสัยเพื่อนๆจะกลับบ้านกันตั้งแต่วันที่ 12 และ 13 แล้ว การขับรถไปเองทำให้เราได้พบกับเส้นทางรอบข้าง และ ถนนสวยๆมากมายที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะมีดอกไม้ ต้นไม้นานาพันธ์ตลอดสองข้างทางที่ไป...(ปกตินั่งรถโดยสารก็หลับตลอดสิ จะไปเห็นอะไร)

     เมื่อถึงเมืองกาญจนบุรี ร้านแรกที่พวกเราได้ไปลิ้มลองคือ "ร้านผัดไทยไร้เส้น ชื่อร้านซุ่นเฮง" คือ จขกท ก็ไม่รู้จักหรอกแต่คนท้องที่เค้าแนะนำมาว่าเด็ด เป็นของดีเมืองกาญ...อ๊ะต้องไปโดน จัดไปอย่าให้เสีย จุ๊บๆ
  
แต่ปัญหาคือ โอ้โห้ คนเยอะมว๊าก รออาหารประมาณ 1 ชั่วโมง รอจนหิวแล้วหิวอีก แต่สิ่งที่มาดับหิวของพวกเราได้คือ การบริการที่ดีเหลือเกิน ไม่มีผิดคิว และมีการจัดการที่ดีเลิศ รสชาตินี่ไม่ต้องพูดถึง สมคำล่ำลือจริงๆ อร่อยมว๊ากกกกกกก ใครไปกาญขอให้ไปลอง ของเค้าดีจริง

     จบเรื่องกินก็มาถึง แผนเที่ยวในวันแรก อย่าเรียกว่ามีแผนเลยดีกว่า เพราะเราเปิดหาที่เที่ยวกันตอนขับรถนั่นแหละ แน่นอนไปกาญทั้งที ต้องน้ำตกสิ  เราตั้งใจกันว่าจะไปเที่ยวเล่นน้ำตกให้ชื่นนนใจก่อนค่อยไปที่พัก แน่หละมีอยู่ 2 ตัวเลือก คือ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น และ น้ำตกเอราวัณ ไม่ต้องเลือกให้เสียเวลาเพราะตอนนั้นก็บ่ายแก่ๆแล้ว มีตัวเลือกเดียวคือเอราวัณเพราะใกล้กว่า...ลุยยย!! โดยหวังในใจ และมโนภาพในหัวว่าจะได้แช่น้ำ ถ่ายรูปซัก 1 ชั่วโมง ก็น่าจะกำลังดี

      เมื่อไปถึงเอราวัณ สิ่งที่คิด กับความเป็นจริงที่เห็น เหมือนโดนเอาฆ้อนทุบหัวใจดังๆ 3 ที อกหักอย่างแรง ใจร้าว ด้วยจำนวนคนที่มหาศาล และน้ำตกที่เคยเห็นใน web ว่าเป็นสีฟ้าใสเห็นตัวปลาแหวกว่าย ขุ่นพระ!!!! มีคนคิดเหมือนๆกันกับเราเยอะมากก (ก ไก่ล้านตัว) จนไม่มีแม้แต่ที่ว่างให้ได้แหย่นิ้วลงไปสัมผัสน้ำว่าเย็นไหม  T_T

หลังจากภาพนี้ เลยมีคำพูดติดตลกกันเล่นๆว่า "อย่ามาเอราวัณ" แปลว่า "อย่ามาเยอะ" 555 แต่เราก็ไม่ได้โทษใครนะ เข้าใจว่ามาช่วงเทศกาล ไว้โอกาสเหมาะ หรือโอกาสหน้าฟ้าใหม่ จะมาเยือนใหม่นะจ๊ะ

    ร้องไห้ หมดแรงแล้ว...กลับที่พัก บ้านกกกอดของเรา กันดีกว่า....การเดินทางไม่ยากลำบาก เปิด gps นำไปโล๊ดด...ทางไม่ซับซ้อน
เมื่อมาถึงที่พัก ก็จะพบกับจุดต้อนรับที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย น่ารัก มี welcome drink ให้บริการ วันที่เราไปพักได้กินน้ำฝาง อร่อยดี รสชาติคล้ายๆน้ำกระเจี๊ยบ หวานเย็นชื่นนนใจ
โดยจากที่บอกไปตอนแรก คืนแรก จขกท ได้นอนห้องแอร์ มีความไฮโซวว กิ๊บเกร๋ยูเรก้า ภายในห้องตกแต่งสวย เปิดม่านออกมาจะเห็นวิวภูเขา โอ๊วววววววแม่เจ้าโว๊ย ธรรมชาติฝุดๆ กรี๊ด!!! กรีดร้อง ประหลาดใจ

ชื่นชมกับบ้านพักพอหอมปากหอมคอ ก็ไปเดินเล่นที่สะพานกัน ซึ่งเป็นจุดแลนด์มาร์คที่ใครมาก็ต้องมาถ่ายรูป เช็คอินที่นี่ โดยระหว่างทางก็จะเดินผ่านบ้านพักอื่นๆด้วย ทุกที่จะเดินถึงกันหมดเป็นวงกลม
สวยงาม เงียบสงบ น่าจดจำสมคำล่ำลือจริงๆ สะพานไม้ไผ่ ต้นกก (ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กกกอด)  ภูเขา สายน้ำ ช่างดึงดูดใจให้ได้หยุดมอง หยุดถ่ายรูป ตอนนี้บอกได้คำเดียวเลยว่า หลงรักที่นี่เลย เหมือนรักแรกพบ มีสเน่ห์ดึงดูดมากจริงๆ
ในขณะที่กำลังเดินถ่ายรูปที่ท่าน้ำ ก็เห็นคุณลุง กับ คุณป้าชวนกันออกไปพายเรือด้วยความมุ้งมิ้ง เห็นแล้วอยากตะโกนดังๆว่า อิจฉามากค่ะ 555
ที่บ้านกกกอดจะมี 2 สะพานให้ได้มาเดินเล่นและถ่ายรูป เลือกได้เลยตามใจชอบบบ ทางที่ดี เดินให้ครบทั้ง 2 สะพาน
ที่ราวสะพาน จะมีไม้ไผ่ให้เขียนบอกรัก บอกเลิกไว้ด้วย คล้ายๆที่เกาหลี แต่ที่นี่กกกอด!!ตึ่ง
>> สวัสดีเช้าวันที่ 2 นัดแนะกับเพื่อนร่วมทริปว่า จะตื่นแต่เช้าเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ปกติเวลาทำงาน จขกท ตื่นสายมาก แต่เวลามาเที่ยวนี่นาฬิกาดังปุ๊บ เด้งปั๊บเลย เพื่อนร่วมห้องไม่มีใครตื่นเลย 555
เมื่อสัญญากับตัวเองไว้แล้ว ต้องลุก!!!! โดยวันนี้ตั้งใจจะเดินไปที่สะพานอีกฝั่ง เพราะยังไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้มากนัก
โอ๊วว อากาศ บรรยากาศ ทุกอย่างรอบตัวดีมาก ณ จุดนี้ เช้านี้มีเราคนเดียวทั้งสะพาน เหมือนได้อยู่คนเดียวจริงๆ เลยหยุดนิ่งฟังเสียงธรรมชาติคุยกันบ้าง คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจและมีพลังอย่างบอกไม่ถูก คงจะจริงอย่างที่เค้าว่า ธรรมชาติเติมพลังให้เราได้
และอีกมุมที่ต้องรีบมาจับจองยามเช้าคือ เก้าอี้รูปไข่ ที่จะทำให้เราได้เห็นวิวพาโนราม่าแบบเต็มๆ สวยเข้าไปอีก แนะนำว่าต้องมาแต่เช้า เพราะถ้าพระอาทิตย์ขึ้นจะร้อนและย้อนแสงมากๆ
พอหอมปากหอมคอกันแล้วสำหรับที่พักวันแรก เราก็มาดูแผนท่องเที่ยวกันต่อ โดยที่ตัดแน่ๆคือน้ำตกทั้งหลาย ก็ลองถามพี่ๆที่บ้านกกกอด เค้าแนะนำให้ไปวัดพุหว้า (ตอนแรกได้ยินเป็นผู้ว่า) ยังคิดในใจว่าทำไมชื่อแปลกจัง วิวระหว่างทางที่ไปวัดสวยมากๆ มีภูเขาโอบล้อม สวยจนต้องหยุดรถเพื่อถ่ายรูปกันเลยทีเดียว เมื่อเราไปถึงต้องตะลึงกับความเว่อร์วังของวัด ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีวัดแบบนี้ที่กาญ บริเวณส่วนหนึ่งของวัดเป็นถ้ำ โดยได้มีรูปปั้นของเกจิอาจารย์ดังๆมากมายให้สักการะบูชา
และในวัดยังมีการจุดเทียนหอมเพื่อบูชาพระประจำวันเกิดด้วย ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก
     เสร็จจากการทำบุญไหว้พระก็เลยหาที่เทียวต่อ แต่ขอตัดที่ที่ไปแล้วไม่ประทับใจทิ้งละกันเนอะ...เราไปต่อกันที่หาร้านอาหารอร่อยตอนเย็นเลยดีกว่า ร้านนี้ จขกท อ่านรีวิวมาอย่างดี ต้องมาให้ได้ "ร้านคีรีมันตรา" อยู่ติดถนนใหญ่หาไม่ยาก จะมีมุมถ่ายรูปด้วย โดยจะแบ่งเป็น 2 โซนคือ โซนรับแสงแดดรำไรและสายลม กับ โซนห้องแอร์ แน่นอนมาเหนื่อยๆขอนั่งในห้องแอร์ก่อนเลย พนักงานที่นี่บริการดีมากถึงมากที่สุด อันนี้ต้องขอชื่นชม ยิ้มแย้มแจ่มใส ดูแลแขกทุกโต๊ะอย่างทั่วถึง โดยขอเอารูปอาหารที่สั่งมาให้ดูพอหอมปากหอมคอละกัน อร่อยทุกอย่าง เสียดายกุ้งแม่น้ำหมด อยากกินมากก ร้องไห้
โดยส่วนตัว จขกท ชอบน้ำพริกปลาดุกฟู เด็ดดวงงงง แซ่บ ราคาอาหารที่นี่ราคาไม่เแพงเว่อร์มาก สั่ง 6 อย่าง น้ำปั่นอีก ราคาอยู่ที่หัวละประมาณ 500 บาท ถือว่าคุ้มกับทุกๆอย่างที่ได้รับ
หนังท้องตึง แดดร่มลมตกพอดี ก็เดินไปถ่ายรูปเล่นกัน เอาให้คุ้มก็ต้องไปวิวพันล้านก่อนเลย สะพานอีกแล้วครัช ได้รูปแล้วกลับบ้านได้ 555

>>คืนที่ 2 เราย้ายมาพักที่บ้านวิวเขื่อน เป็นห้องน้ำรวมที่บอกตอนแรก อยู่ไม่ไกลและสะอาดมาก ห้องนี้ไม่มีทีวี ได้หลีกหนีความวุ่นวายที่แท้จริงมาใช้ชีวิตเรียบง่ายตามเจตนารมย์
เตียงในห้องเปลี่ยนไปจากวันแรกนิดนึง อารมณ์เหมือนโดนปลดจากเมียเอกมาเป็นนางสนม 555

โชคดีที่นี่ยังมีสัญญาณ 3G ให้ได้เล่น ได้แชร์รูปก่อนจะเผลอหลับไป...ZZzzZZ

>> สวัสดีวันสุดท้าย วันนี้ตั้งใจตื่น 6:30 น. เพื่อมาสัมผัสความสวยงามตามท้องเรื่องยามเช้าและภาพแรกที่เห็นเมื่อเปิดประตูห้องพัก...แม่เจ้าโว๊ยยยยย สวยระเบิดระเบ้อ นี่ธรรมชาติเล่นใหญ่ได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่...ตะลึงเลย

เตรียมอาบน้ำและออกไปเดินเล่นที่สะพานครั้งสุดท้าย เลยเก็บภาพมาฝากต่อ
ต้นกก ที่กอดล้อมที่นี่ไปทั่วเลยเป็น "กกกอด"
มุมเก้าอี้ไข่ที่บอก ด้านล่างจะเป็นจุดทานอาหารเช้า และห้องน้ำรวม
สัตว์เลี้ยงของที่นี่ ดุใช่เล่น มีวิ่งตามด้วย ส่งเสียงทั้งวันเลย
จบแล้ว ทริปการเดินทางแบบชิวๆของ จขกท อาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวแบบชิวๆในวันหยุดพักผ่อน
ที่กาญจนบุรี ลองไปหยุดใจที่นี่ดู...

ปล. ก่อนกลับ จขกท ได้แวะไปหาดทรายชุกโดน และไปกินของหวานที่ร้านอบอุ่นเฮาส์ ในตัวเมืองกาญ เอาภาพมาฝาก

หาดทรายชุกโดน น่าจะเป็นบริเวณแม่น้ำแม่กลองที่ตื้นเขินพอดี เลยทำให้เหมือนหายทรายก็สวยไปอีกแบบ แถวนี้มีร้านชุกโดนด้วย เราไม่ได้แวะเพราะอิ่มมากแล้ว 555
ร้านอบอุ่นเฮาส์ ร้านนี้มีรายการทีวีมาถ่ายทำเยอะเหมือนกัน ตกแต่งน่ารัก อาหารรสชาติดี น่ามาลอง
บ๊ายยบาย... ไม่ได้อ่อย แต่อยากให้ลองไปดู ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ ^^
รูปสดไม่ได้แต่งเพิ่ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่