สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
หวัดดี คุณโอ้ ...
ทู้รายละเอียด ครบถ้วน จนน่าจะเอาไปต้มน้ำให้พวกสลิ่มมันกินกัน
ส่วนตัว ผมเฉยๆกับการเลือกตั้งแล้วล่ะ
กับ โมเดล และกติกา ที่เค้า ดีไซน์กันมาซะขนาดนี้ คิดว่า เลือกไปก็เท่านั้น ....
ยิ่งมี สลิ่ม เป็นยาดำ ในหมู่ปชช.ด้วยกัน จนขาดความเป็นเอกภาพด้วยเนี่ย ยิ่งวังเวงหมดหวัง
สส. พวกนี้ ไม่มีใครกล้ารื้อนั่งร้านของตัวเองหรอกครับ ...... มีแต่จะแย่งกันเข้าไปกอบโกย ระยะสั้น
เละตุ้มเป๊ะ ยิ่งกว่าเดิม ด้วยซ้ำ
ส่วนพระเอกของเราก็หลบไปนั่งหลังฉาก ควบคุมความสงบเรียบร้อย ด้วยหนังท้องที่เต่งตึง .....
เอวัง ก็เป็นด้วยประการล่ะฉะนี้ .......
ทู้รายละเอียด ครบถ้วน จนน่าจะเอาไปต้มน้ำให้พวกสลิ่มมันกินกัน
ส่วนตัว ผมเฉยๆกับการเลือกตั้งแล้วล่ะ
กับ โมเดล และกติกา ที่เค้า ดีไซน์กันมาซะขนาดนี้ คิดว่า เลือกไปก็เท่านั้น ....
ยิ่งมี สลิ่ม เป็นยาดำ ในหมู่ปชช.ด้วยกัน จนขาดความเป็นเอกภาพด้วยเนี่ย ยิ่งวังเวงหมดหวัง
สส. พวกนี้ ไม่มีใครกล้ารื้อนั่งร้านของตัวเองหรอกครับ ...... มีแต่จะแย่งกันเข้าไปกอบโกย ระยะสั้น
เละตุ้มเป๊ะ ยิ่งกว่าเดิม ด้วยซ้ำ
ส่วนพระเอกของเราก็หลบไปนั่งหลังฉาก ควบคุมความสงบเรียบร้อย ด้วยหนังท้องที่เต่งตึง .....
เอวัง ก็เป็นด้วยประการล่ะฉะนี้ .......
ความคิดเห็นที่ 9
กติกาที่กำหนดไว้ ตามที่คุณ Mario อธิบาย นั้นก็เป็นแค่ล็อคด่านที่ 1
ต่อให้ตัวแทนประชาชนสามารถสร้างอภินิหาร ฝ่าด่านไปได้โดยไม่ติดกับดัก สว.แต่งตั้ง ก็จอดป้ายที่อำนาจรัฐซ้อนรัฐ ของ คสช.อยู่ดี
เพราะ คสช. ไม่มีกำหนดหมดวาระ พูดง่ายๆก็อยู่ไปจนกว่าจะตราบเท่าที่ตนเองจะพอใจ และมีอำนาจเหนือ นายกและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแน่นอน เพราะ คสช.กุมอำนาจวิเศษอยู่ในมือ อำนาจที่ว่านั้น คือ มาตรา 44 ที่มีเนื้อหาขอบเขตของอำนาจดังนั้น
บทบัญญัติในมาตรา 44 นั้น ระบุว่า ในกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเห็นเป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์ ในการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ การส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทําอันเป็นการบ่อนทําลายความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร ให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีอํานาจสั่งการ ระงับยับยั้ง หรือกระทําการใด ๆ ได้ ไม่ว่าการกระทํานั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ และให้ถือว่าคําสั่งหรือการกระทํา รวมทั้งการปฏิบัติตามคําสั่งดังกล่าว เป็นคําสั่ง หรือการกระทํา หรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนี้และเป็นที่สุด ทั้งนี้เมื่อได้ดําเนินการดังกล่าวแล้ว ให้รายงานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
ซึ่งแปลง่ายๆว่า ต่อให้มีตัวแทนประชาชนเข้ามาทำหน้าที่บริหาร ก็ไม่อาจคานอำนาจ คสช.ได้
แล้วแบบนี้ จะเลือกตั้งไปทำไมล่ะครับ...?
ต่อให้ตัวแทนประชาชนสามารถสร้างอภินิหาร ฝ่าด่านไปได้โดยไม่ติดกับดัก สว.แต่งตั้ง ก็จอดป้ายที่อำนาจรัฐซ้อนรัฐ ของ คสช.อยู่ดี
เพราะ คสช. ไม่มีกำหนดหมดวาระ พูดง่ายๆก็อยู่ไปจนกว่าจะตราบเท่าที่ตนเองจะพอใจ และมีอำนาจเหนือ นายกและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแน่นอน เพราะ คสช.กุมอำนาจวิเศษอยู่ในมือ อำนาจที่ว่านั้น คือ มาตรา 44 ที่มีเนื้อหาขอบเขตของอำนาจดังนั้น
บทบัญญัติในมาตรา 44 นั้น ระบุว่า ในกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเห็นเป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์ ในการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ การส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทําอันเป็นการบ่อนทําลายความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร ให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีอํานาจสั่งการ ระงับยับยั้ง หรือกระทําการใด ๆ ได้ ไม่ว่าการกระทํานั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ และให้ถือว่าคําสั่งหรือการกระทํา รวมทั้งการปฏิบัติตามคําสั่งดังกล่าว เป็นคําสั่ง หรือการกระทํา หรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนี้และเป็นที่สุด ทั้งนี้เมื่อได้ดําเนินการดังกล่าวแล้ว ให้รายงานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
ซึ่งแปลง่ายๆว่า ต่อให้มีตัวแทนประชาชนเข้ามาทำหน้าที่บริหาร ก็ไม่อาจคานอำนาจ คสช.ได้
แล้วแบบนี้ จะเลือกตั้งไปทำไมล่ะครับ...?
ความคิดเห็นที่ 15
จะได้อยู่สั้นหรืออยู่ยาว ส่วนตัวผมว่าต้องให้ประชาชนเลือกแบบแฟร์ๆ
ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายที่ไม่มีบางฝ่ายได้เปรียบ ไม่มีบางฝ่ายเสีย
เปรียบ ในสภาวะที่ไม่ได้มีการล็อกสเปคไว้แล้ว ว่าหวยต้องออกที่ฝ่ายตน
แต่ดูกติกาวันนี้แล้ว ได้แต่ส่ายหน้าเป็นพัดลมในหน้าร้อน
ส่วนตัวผมจึงคิดว่าระยะสั้นๆนี้ ประชาชนคงได้ผู้บริหารมาตามกติกาแปลกๆ
นี้ไปก่อนแหละครับ หวังอย่างเดียวคือสิทธิเสรีภาพอาจจะมีได้มากขึ้น สัก
วันหากมากพอจนประชาชน สามารถแก้ไขกฏกติกา ไม่ให้มันแปลกหรือเอน
ไปเข้าฝ่ายใดจนไม่เหมาะ วันนั้น หากกล้าลงมาให้ประชาชนเลือก และ
ประชาชนเลือก นั้นแหละจึงค่อยภูมิใจว่า ชนะใจประชาชนแบบใสสอาด
ไม่ต้องอาศัยตัวช่วย เหมือนนักมวยที่ชกชนะใสสอาด โดยไม่ต้องมีกติกา
หรือกรรมการช่วย แบบนี้จึงน่าภูมิใจ
ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายที่ไม่มีบางฝ่ายได้เปรียบ ไม่มีบางฝ่ายเสีย
เปรียบ ในสภาวะที่ไม่ได้มีการล็อกสเปคไว้แล้ว ว่าหวยต้องออกที่ฝ่ายตน
แต่ดูกติกาวันนี้แล้ว ได้แต่ส่ายหน้าเป็นพัดลมในหน้าร้อน
ส่วนตัวผมจึงคิดว่าระยะสั้นๆนี้ ประชาชนคงได้ผู้บริหารมาตามกติกาแปลกๆ
นี้ไปก่อนแหละครับ หวังอย่างเดียวคือสิทธิเสรีภาพอาจจะมีได้มากขึ้น สัก
วันหากมากพอจนประชาชน สามารถแก้ไขกฏกติกา ไม่ให้มันแปลกหรือเอน
ไปเข้าฝ่ายใดจนไม่เหมาะ วันนั้น หากกล้าลงมาให้ประชาชนเลือก และ
ประชาชนเลือก นั้นแหละจึงค่อยภูมิใจว่า ชนะใจประชาชนแบบใสสอาด
ไม่ต้องอาศัยตัวช่วย เหมือนนักมวยที่ชกชนะใสสอาด โดยไม่ต้องมีกติกา
หรือกรรมการช่วย แบบนี้จึงน่าภูมิใจ
แสดงความคิดเห็น
รธน. ประกาศใช้แล้ว หากรัฐบาลพร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์นายกฯลุงตู่ครับ ท่านยังอยู่อีกนาน (The Mario)
กระทู้นี้ขออนุญาตใช้สิทธิตาม มาตรา ๓๔ บุคคลยอมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจํากัดเสรีภาพดังกลาวจะกระทํามิได เวนแตโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุมครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบรอยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชาชน หรือเพื่อปองกันสุขภาพของประชาชน เสรีภาพทางวิชาการยอมไดรับความคุมครอง แตการใชเสรีภาพนั้นตองไมขัดตอหนาที่ของปวงชนชาวไทยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และตองเคารพและไมปดกั้นความเห็นตางของบุคคลอื่น
สำหรับท่านนายกฯลุงตู่ การทำงาน การปรากฏตัวต่อหน้าสื่อให้เห็นเกือบทุกวัน การมีกิจกรรมต่างๆร่วมกันกับคณะทำงานของท่าน กับประชาชนหลายภาคส่วน หลากหลายปัจจัยล้วนก่อให้เกิดความผูกพันอันแน่นแฟ้นขึ้นระหว่างตัวท่านเองกับกลุ่มผู้ที่สนับสนุนท่านให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่เริ่มก้าวเข้ามาจวบจนถึงปัจจุบัน ผมเองก็เข้าใจตรงนี้ ในทางตรงข้ามกลุ่มผู้ที่ไม่สนับสนุนท่านก็มี อยากให้ท่านไปไวๆก็มี ประชาชนที่ได้รับผลกระทบหรือไม่ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากการทำงานของรัฐบาลก็มี เช่นกัน นายกฯเปรียบเสมือนบุคคลสาธารณะ มีคนรักก็ต้องมีคนไม่รัก เป็นธรรมดาของมนุษย์ที่อยู่รวมกันเป็นหมู่มาก
ก่อนที่เราจะโหวตรับร่างรัฐธรรมนูญในปีที่แล้ว ประชาชนหลายคนคงไม่ปฏิเสธว่า การโหวตรับร่างรัฐธรรมนูญนี้ การได้อำนาจของประชาชนกลับคืนมา การมีโอกาสได้กลับเข้าไปมีสิทธิ์มีเสียงในการเลือกผู้บริหารประเทศเป็นของตนเอง สิ่งนี้คืออีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้คนตัดสินใจรับร่าง รธน ฉบับล่าสุดนี้ ประกอบกับมีการแจกจุลสารที่ออกมาจาก กกต และ กรธ ให้กับประชาชนอ่านก่อนตัดสินใจลงประชามติ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ข้อดีของ รธน ฉบับนี้เพียงอย่างเดียว มีการรณรงค์เดินขบวนของจังหวัดต่างๆให้ไปลงประชามติพร้อมกับแจกจุลสารฉบับดังกล่าวให้กับผู้ร่วมเดินขบวนรณรงค์
ในเมื่อผลของประชามติออกมาว่ารับไปแล้ว เราลองมาเข้าเรื่องที่ว่าหลายท่านยังมีความอาลัยอาวรณ์ในตัวท่านนายกฯลุงตู่ อยากให้ท่านบริหารประเทศต่อไป อยากให้ท่านแก้ไขปัญหาประเทศต่อไปเรื่อยๆ ตราบนานเท่านาน ไม่อยากให้มีเลือกตั้งเลย เพราะเลือกตั้งไปก็จะได้นายกฯคนใหม่ที่ไม่ใช่ลุงตู่ เราจะมาลองวิเคราะห์กันดูครับ ว่านายกฯลุงตู่ท่านจะมีโอกาสได้ไปหรือได้อยู่ต่อมากกว่ากัน
หากประเทศไทยได้เข้าสู่การเลือกตั้งจริง ในเนื้อหาของ รธน ฉบับนี้ ระบุว่า เราจะมี ส.ส. ที่ผ่านการเลือกตั้งในระบบแบ่งเขต จำนวน 350 คน ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่ออีก 150 คน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 500 คน จำนวน ส.ส. ทั้งหมด 500 คนนี้ เบื้องต้นจะทำการโหวตหานายกฯรัฐมนตรีก่อน จากรายชื่อที่เสนอใหสภาผูแทนราษฎรเพื่อพิจารณาใหความเห็นชอบแตงตั้งเปนนายกรัฐมนตรี มาตรา 88
แต่เรามีตัวแปรสำคัญที่จะทำให้การโหวตหาตัวนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จากมาตรา 88 ไม่ได้ จนต้องมาหานายกฯตามมาตรา 272 แทน เนื้อหาของมาตรา 272 มีดังนี้ครับ
ตัวแปรสำคัญที่ผมว่านั่นคือ 250 สว. ที่มาจากการโหวตรับคำถามพ่วงร่วมกับการโหวตรับร่าง รธน ว่าด้วยการโหวตเลือกนายกฯได้ จุลสารที่ กกต และ กรธ ได้ทำการแจกให้กับประชาชนก่อนโหวตรับร่าง ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ดังภาพ
จากภาพดังกล่าว เราจะเห็นเจตนาของคำถามพ่วงชัดเจนว่าเพราะอะไรจึงมีคำถามพ่วงเพิ่มเติม คำตอบจากจุลสารคือ "เพราะนายกฯรัฐมนตรีคือหัวหน้าทีมที่ทำให้การปฏิรูปประเทศประสบผลสำเร็จ เพราะตามยุทธศาสตร์ชาติจึงจะวางรากฐานการปฏิรูปประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม .... "
ในเมื่อ สว. สามารถโหวตเลือกตัวนายกฯได้ตามมาตรา 272 จึงมีแนวโน้มสูงมากที่ สว.250 เสียง จะเป็นตัวแปรสำคัญในการโหวตเลือกตัวนายกรัฐมนตรี ถามว่า สว. 250 คนนี้มาจากไหน คำตอบคือ มาจาก คสช ทั้งคณะตามมาตรา 269 ครับ
ในเมื่อ สว. ทั้งหมด 250 เสียง ที่มีโอกาสโหวตเลือกนายกฯได้ มาจาก คสช ทั้งหมด มีความเป็นไปได้สูงที่จะโหวตบุคคลที่มาจาก คสช เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ณ เวลานี้ คงไม่มีตัวเลือกไหนที่มีโอกาสเป็นไปได้มากกว่านายกฯลุงตู่ครับ 250 เสียงนี้ อาจจะมีโหวตให้พรรคอื่นบ้างพอไม่ให้น่าเกลียด แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงมีความเป็นไปได้สูงที่จะโหวตให้กับนายกฯที่มาจาก คสช อยู่ดี เพราะตัวเองทั้งคณะก้ได้รับการแต่งตั้งมาจาก คสช
คราวนี้เราลองมามองกันในเชิงตัวเลขกันบ้าง ผมจะลองสมมุติว่า
จาก จำนวน ส.ส. ที่ผ่านการเลือกตั้งมาจากประชาชน 500 ที่นั่ง
พรรค A ได้ไป 200 ที่นั่ง
พรรค B ได้ไป 150 ที่นั่ง
พรรคทางเลือกที่สาม สนับสนุนลุงตู่แบบชัดเจน เช่น พรรคประชาชนปฏิรูปของนายไพบูลย์ นิติตะวัน และแนวร่วม กปปส บางส่วนที่จะตามมาเสริม 75 ที่นั่ง
พรรคทางเลือกที่สี่ ห้า หก ที่พร้อมจะจับมือทางการเมืองกับใครก็ได้ อีก 75 ที่นั่ง
จำนวน ส.ส. มีทั้งหมด 500 เสียง แต่เสียงที่โหวตเลือกนายกฯรัฐมนตรีได้กลับมีถึง 750 เสียง แน่นอนว่า พรรค A กับ พรรค B ยากที่จะจับมือกัน และถึงแม้จะจับมือกันก็ได้เพียง 350 เสียง ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของ 750 เสียง หากพรรคทางเลือกที่ สาม สี่ ห้า หก + เสียงจาก สว. รวมกันก็ชนะ 2 พรรคแรกอยู่ดี
หรือแม้พรรคใดพรรคหนึ่งชนะแบบถล่มทลาย ได้ถึง 300+ เสียงขึ้นไป แต่พรรคอื่นๆที่เหลือหากจับมือร่วมกับ สว. ก็สามารถโดดเดี่ยวพรรคที่ชนะแบบถล่มทลายได้ในทันทีเช่นกัน นอกเสียจากพรรคหนึ่งพรรคใดนั้นจะได้เกิน 375+ เสียง จาก 500 เสียงทั่วประเทศ 2 ระบบ ซึ่งโอกาสแทบไม่มีทางเป็นไปได้เลยในทางปฏิบัติ
เพราะฉะนั้นแล้วท่านที่ห่วงกังวลว่านายกฯลุงตู่จะไม่อยู่ เพราะมีการเลือกตั้ง ท่านลองย้อนกลับมาคิดเองเสียใหม่ครับ ไม่ใช่การมีเลือกตั้งทำให้ท่านนายกฯอยู่ไม่ได้ แต่จะอยู่ได้หรือไม่อยู่มันแล้วแต่ตัวท่านเองต่างหากครับ เพราะกติกาเอื้อต่อการดำรงตำแหน่งต่อของท่านอยู่แล้ว เพียงแค่เปลี่ยนคณะทำงานร่วมเป็น ส.ส. ที่ได้รับคัดเลือกจากประชาชนเข้ามาทำงานร่วมเพิ่มเท่านั้นเอง
สิ่งที่พวกท่านควรจะห่วงนั่นก็คือ ความสง่างามในการดำรงตำแหน่งของท่านต่างหากว่าจะมีข้อครหาอะไรตามมาหรือไม่ สง่างามเพียงใดกับการดำรงตำแหน่งต่อภายใต้คำว่า "ปฏิรูปประเทศไทยเพื่อประชาธิปไตยที่ยั่งยืน"
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรจะห่วงนั่นคือ เสถียรภาพในการดำรงตำแหน่งของตัวท่านเองว่าถ้าเป็นนายกฯต่อแล้ว กลุ่มแนวร่วมพรรคแนวร่วมที่เข้าร่วมรัฐบาลของท่านมันเป็นคนคบได้แค่ไหน เอาไปร่วมแล้วจะทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้เต็มเม้ดเต็มหน่วยหรือเอาไปเพิ่มปัญหาให้กับท่าน และท่านเองจะตกไปอยู่เป็นเบี้ยล่างเป็นเพียงหนังหน้าไฟให้ผู้สนับสนุนท่านมาบังหน้าเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ชาติหรือไม่ ท่านต้องทนุถนอมน้ำใจคนพวกนี้อีกเท่าไหร่ อย่าลืมว่าท่านมีโอกาสเป็นนายกฯสูงกว่าคนอื่นก็จริง แต่เมื่อท่านได้เป็นจริงๆ เสถียรภาพในการดำรงตำแหน่งของตัวท่านเองมีมากน้อยแค่ไหนเพราะ สว.250 เสียงนั้นโหวตท่านเป็นนายกฯได้ แต่โหวตไว้วางใจท่านในสภาไม่ได้ หากมีการหักหลังกันขึ้นเช่นแบ่งสรรผลประโยชน์หรือตำแหน่งให้ไม่เป็นที่น่าพอใจ หรือเกิดกรณีงูเห่าขึ้นมา ท่านก็อาจถูกหักหลังโหวตไม่ไว้วางใจตกเก้าอี้ในสภาได้
จะทำอย่างไรให้ท่านดูสง่างามและมีเสถียรภาพในการดำรงตำแหน่งต่อหลังจากมีเลือกตั้ง ผมเองยังมองเห็นนอกจากตัวท่านเองจัดทีมลงมาสมัครเลือกตั้งด้วยตัวท่านเองเลย จะมากจะน้อยยังไงก็มี สว. 250 เสียงที่เป็นตัวแปรสำคัญ ที่แน่ๆคนที่คิดจะเลือกท่านนั้นก็มีไม่ใช่ไม่มี จะได้พูดได้เต็มปากว่าการปฏิรูปประเทศไทยสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในครั้งนี้ไม่เสียเปล่า
และจะสง่างามมากที่สุดคือโปรดพิจารณาเรื่องการบรรจุตัวบทของคำถามพ่วงนี้เข้าไปในรัฐธรรมนูญ เพราะจะสร้างปัญหาในเชิงปฏิบัติจริง และลดทอนค่าของเสียงประชาชนที่ต้องการเลือกตัวบุคคลหนึ่งบุคคลใดมาบริหารประเทศด้วยเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ดูแล้วขัดกับการปฏิรูปประเทศว่าด้วยเรื่องประชาธิปไตย และเป็นสิ่งที่ทั้งลดทอนความสง่างามและความน่าเชื่อถือของตัวนายกรัฐมนตรีที่ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งภายใต้กฏกติกานี้
ในนาม จขกท ขออนุญาต WM ตั้งกระทู้นี้เพื่ออยากแสดงความเห็นให้ผู้อ่านทราบถึงมุมมองของตนเองว่าสำหรับกลุ่มก้อนที่สนับสนุนท่าน ยังไม่ต้องอาลัยอาวรณ์นายกฯลุงตู่ครับ ท่านยังมีโอกาสอยู่อีกนานครับขึ้นอยู่กับตัวของท่านเอง ภายใต้ รธน ฉบับล่าสุดนี้ ที่หลายคนรับร่างเพราะอยากสนับสนุนท่านอยู่ต่อก็มี หลายคนรับร่างเพราะอยากเลือกตั้งโดยยังไม่ทบทวนเนื้อหาที่แท้จริงของ รธน. อ่านแค่จุลสารที่ กกต และ กรธ ทำแจกแล้วโหวตรับร่างก็มีครับ
The Mario 17 เมษายน 2560