ต้องบอกนิสัยพี่ชายเราก่อนว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน ใครพูดอะไรขัดใจก็โมโหแล้วค่ะ ยิ่งใครมาติ มาบ่นแฟนเค้ายิ่งโมโหหนักเลยค่ะ
เข้าเรื่องเลยนะคะ พี่ชายเรามีลูก 1 คนแล้วพาครอบครัวซึ่งมีแฟนกับแม่ยายเค้ามาอยู่บ้านเดียวกันกับเรา แรกๆ ก็ยังไม่มีปัญหาหรอกค่ะ หลังๆ นี่คือมาอยู่แล้วไม่ค่อยช่วยเหลือทั้งงานบ้าน ค่าใช้จ่ายพวกค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเลี้ยงดูซึ่งปัญหาพวกนี้เราโมโหแค่ไหนก็ต้องทนค่ะ เพราะไม่อยากมีปัญหา พี่ชายเราเป็นลูกติดแม่ค่ะ เคยมีปัญหากับพ่อเรา (พ่อเลี้ยงของเค้า) มาแล้วครั้งนึง แม่เราก็ทำได้แค่พูดว่าให้เราอดทน เดี๋ยวปีหน้าเค้าก็ไปกันแล้ว ซึ่งเราก็พยายามเข้าใจกับสิ่งที่แม่บอกนะคะเพราะตอนพี่ชายเรายังเด็ก แม่เราแทบไม่ได้ดูแลใส่ใจเค้าเลย ให้ยายเลี้ยงดูมาตลอด คือเราเข้าใจสิ่งที่เค้ากำลังทำอยู่นะคะประมาณว่าต้องการแก้ไขอดีต ซึ่งเราก็รู้ว่ามันไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องหรอกค่ะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนมีวันนึงที่เราก็ทนไม่ไหว ปัญหาก็คือพี่ชายเรากับแฟนเค้าทำงานคนละที่ ปกติอยู่โรงงานเดียวกันเลยกลับพร้อมกันประมาณ 5 โมงเย็นก็ถึงบ้านแล้วค่ะ พอเป็นแบบนี้เราเลยต้องมาช่วยดูหลานกับแม่ทุกเย็น ได้พักก็ตอนที่ครอบครัวพี่เราหยุดงาน (1 วัน/สัปดาห์) เพราะแฟนพี่ชายเราเลิกงานแล้วไม่กลับมาดูแลลูกค่ะ รอให้พี่ชายเราไปรับอย่างเดียว พี่เราเลิกงานก็ 2 ทุ่มแล้วค่ะ ส่วนแฟนพี่เราเลิกงานประมาณ 4 โมงเย็นได้ เป็นแบบนี้ก็อาทิตย์นึงแล้ว ญาติคนอื่นๆ ที่เห็นเค้าก็เห็นใจพูดกับแม่เรานะคะว่าทำไมแฟนพี่เราไม่กลับมาดูลูก เลิกงานก็นั่งรถกลับมาเองก็ได้ ง่ายกว่ารอพี่เรามารับอีก จนป้าเราก็ไปบอกแม่ยายของพี่ชายเราให้ไปเตือนลูกสาว (พี่สะใภ้เรา) แต่ก็ยังเหมือนเดิมค่ะ คิดว่าเค้าคงยังไม่ได้ไปบอกลูกสาวเค้า จนเราแชทส่วนตัวไปบอกพี่ชายเราเอง ซึ่งเราก็ไม่ได้ด่าแม้แต่คำเดียว แค่ถามว่าพี่...เลิกงานกี่โมง? แล้วเราก็ขอร้องให้แฟนเค้ามาดูลูกหลังเลิกงานหน่อย... คำตอบที่ได้คือแฟนเค้ากลับเองไม่ได้ค่ะ อ้างว่าไม่มีรถ ซึ่งแถวนั้นรถสองแถวผ่านประจำ แล้วคำถามที่พี่เราถามเรากลับมาคือ "แค่นี้ดูไม่ได้หรอ?" เรานี่จุกเลยค่ะ เลยอธิบายให้เค้าฟังดีๆ นะคะว่าเราก็อยากพักผ่อนบ้าง ปิดเทอมทั้งทีอยากทำอะไรที่เราอยากทำ แค่งานบ้านเราก็เหนื่อยพอแล้ว เท่านั้นล่ะค่ะ หลังพี่เราเลิกงานกลับบ้านมาก็ขึ้นเสียง ด่าเราฉอดๆ ขึ้นอีขึ้นกูมึ* (ตอนนั้นพ่อเราไม่อยู่ เรายืนล้างจานอยู่คนเดียว ถ้าอยู่คงมีปัญหากันแน่ค่ะ)
นี่คือคำพูดที่พี่เราพูดกับเราตอนนั้นเท่าที่จำได้นะคะพี่: อี....! มึ*เหนื่อยมากนักหรอ? เดี๋ยวแม่แฟนกูก็มาเลี้ยงแล้ว รอหน่อยไม่ได้หรอ?
เรา: (เถียงไปด้วยความโมโหเพราะก่อนหน้านี้เราก็อธิบายให้เค้าเห็นใจเราดีๆ แล้ว) ใช่หน้าที่กูหรอ? กูแค่ช่วยดู จะให้กูมาดูตลอดทุกเย็นมันก็ใช่เรื่องไหม? เด็กมันก็ต้องการความอบอุ่นจากพ่อแม่มันไหม?
พี่: อย่างกับมึ*ดูงั้นอ่ะ กูเห็นแม่ดูตลอด (ซึ่งสิ่งที่พี่เห็นคือตอนที่แม่ดูค่ะ ตอนพี่เราไม่อยู่หรือตอนแม่เรายุ่งๆ เราต้องช่วยดูตลอด ส่วนพี่เราหรอ ตั้งแต่ลูกเค้าลืมตาดูโลกไม่เคยเห็นอาบน้ำลูกเลยค่ะ)
เรา: มึ*ไม่สงสารกูก็สงสารแม่บ้างนะ เย็นมากับข้าวก็ต้องทำ ลูกมึ*ก็ต้องดู
พี่: กับข้าวทำนาน 3 ชม. เลยหรอ? ทำเป็นสงสารแม่ ถามจริงมึ*มีลูก มึ*จะให้ใครเลี้ยง? สุดท้ายก็ไม่พ้นพ่อแม่ (อย่างน้อยถ้าเรามีลูก เราบอกกับตัวเองแน่ๆ ว่าจะส่งเงินให้พ่อแม่ไม่ขาดมือ)
แล้วพี่เราก็ด่าเรายาวเลยค่ะ จับใจความประมาณได้ว่าเราไม่อยากเลี้ยงลูกเค้า เหนื่อยกับการเลี้ยงหลานมาก รังเกียจลูกเค้า จนได้ยินประโยคนึงที่ทำให้เราจุกถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่
พี่: กูมาอยู่นี่แค่อาศัยให้ลูกกูโตแค่นั้นแหละ ลูกกูโตเมื่อไหร่จะไม่ให้มาเหยียบที่นี่อีกเลย แล้วกูจะบอกกับลูกว่ามึ*ไม่ได้เป็นอา เป็นแค่คนใช้
ส่วนแฟนพี่เรานึกว่าจะเข้าใจนะคะ เปล่าเลยค่ะ นิ่งเงียบ แถมพูดอีกค่ะว่าแม่เราไม่เคยให้อะไรเค้าสองคนเลย (หรอ???)
คือที่เราร้องไห้ไม่ใช่เพราะด่ากลับไม่ได้นะคะ แต่เพราะเราเสียใจกับคำพูดพี่เรามากกว่า มันจุก มันเจ็บใจมาก ณ วินาทีนั้นไม่คิดว่านี่คือคำพูดจากคนที่เป็นพี่ คนที่เราเคยให้ความนับถือ เค้าอยากได้อะไรก็ให้เราเป็นสื่อกลางอ้อนแม่ให้ซื้อให้เค้า แต่เราซึ่งแค่ขอร้องให้แฟนเค้ากลับมาดูลูกแค่นี้ ซึ่งมันไม่ใช่ภาระเราเลยด้วยซ้ำ กลับด่าเราเหมือนเราทำผิดฆ่าคนมายังไงยังงั้น จนตอนนี้เรากับพี่เราไม่ได้คุยกันมาเกือบจะเดือนนึงได้แล้วค่ะ คือเราผิดมากเลยหรอคะที่พูดไปแบบนั้น? สมควรต้องไปง้อคุยกับเค้าก่อนมั้ยคะ? ปกติเรากับพี่จะพูดคุย หยอกล้อกันตลอด เวลาพี่เราไปไหนก็จะชวนเราเป็นคนแรก มีเงินก็เลี้ยงเราบ้างบางครั้ง (นานๆๆๆ ที) แต่พอเป็นแบบนี้ก็รู้สึกอึดอัดค่ะ แต่เราก็ยังรู้สึกเสียใจกับคำพูดพี่เราวันนั้นไม่หาย เหมือนมันติดหัวเราตลอด ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะคะ
ทะเลาะกับพี่ชายเรื่องปัญหาภายในครอบครัว สมควรต้องง้อมั้ยคะ?
เข้าเรื่องเลยนะคะ พี่ชายเรามีลูก 1 คนแล้วพาครอบครัวซึ่งมีแฟนกับแม่ยายเค้ามาอยู่บ้านเดียวกันกับเรา แรกๆ ก็ยังไม่มีปัญหาหรอกค่ะ หลังๆ นี่คือมาอยู่แล้วไม่ค่อยช่วยเหลือทั้งงานบ้าน ค่าใช้จ่ายพวกค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเลี้ยงดูซึ่งปัญหาพวกนี้เราโมโหแค่ไหนก็ต้องทนค่ะ เพราะไม่อยากมีปัญหา พี่ชายเราเป็นลูกติดแม่ค่ะ เคยมีปัญหากับพ่อเรา (พ่อเลี้ยงของเค้า) มาแล้วครั้งนึง แม่เราก็ทำได้แค่พูดว่าให้เราอดทน เดี๋ยวปีหน้าเค้าก็ไปกันแล้ว ซึ่งเราก็พยายามเข้าใจกับสิ่งที่แม่บอกนะคะเพราะตอนพี่ชายเรายังเด็ก แม่เราแทบไม่ได้ดูแลใส่ใจเค้าเลย ให้ยายเลี้ยงดูมาตลอด คือเราเข้าใจสิ่งที่เค้ากำลังทำอยู่นะคะประมาณว่าต้องการแก้ไขอดีต ซึ่งเราก็รู้ว่ามันไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องหรอกค่ะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนมีวันนึงที่เราก็ทนไม่ไหว ปัญหาก็คือพี่ชายเรากับแฟนเค้าทำงานคนละที่ ปกติอยู่โรงงานเดียวกันเลยกลับพร้อมกันประมาณ 5 โมงเย็นก็ถึงบ้านแล้วค่ะ พอเป็นแบบนี้เราเลยต้องมาช่วยดูหลานกับแม่ทุกเย็น ได้พักก็ตอนที่ครอบครัวพี่เราหยุดงาน (1 วัน/สัปดาห์) เพราะแฟนพี่ชายเราเลิกงานแล้วไม่กลับมาดูแลลูกค่ะ รอให้พี่ชายเราไปรับอย่างเดียว พี่เราเลิกงานก็ 2 ทุ่มแล้วค่ะ ส่วนแฟนพี่เราเลิกงานประมาณ 4 โมงเย็นได้ เป็นแบบนี้ก็อาทิตย์นึงแล้ว ญาติคนอื่นๆ ที่เห็นเค้าก็เห็นใจพูดกับแม่เรานะคะว่าทำไมแฟนพี่เราไม่กลับมาดูลูก เลิกงานก็นั่งรถกลับมาเองก็ได้ ง่ายกว่ารอพี่เรามารับอีก จนป้าเราก็ไปบอกแม่ยายของพี่ชายเราให้ไปเตือนลูกสาว (พี่สะใภ้เรา) แต่ก็ยังเหมือนเดิมค่ะ คิดว่าเค้าคงยังไม่ได้ไปบอกลูกสาวเค้า จนเราแชทส่วนตัวไปบอกพี่ชายเราเอง ซึ่งเราก็ไม่ได้ด่าแม้แต่คำเดียว แค่ถามว่าพี่...เลิกงานกี่โมง? แล้วเราก็ขอร้องให้แฟนเค้ามาดูลูกหลังเลิกงานหน่อย... คำตอบที่ได้คือแฟนเค้ากลับเองไม่ได้ค่ะ อ้างว่าไม่มีรถ ซึ่งแถวนั้นรถสองแถวผ่านประจำ แล้วคำถามที่พี่เราถามเรากลับมาคือ "แค่นี้ดูไม่ได้หรอ?" เรานี่จุกเลยค่ะ เลยอธิบายให้เค้าฟังดีๆ นะคะว่าเราก็อยากพักผ่อนบ้าง ปิดเทอมทั้งทีอยากทำอะไรที่เราอยากทำ แค่งานบ้านเราก็เหนื่อยพอแล้ว เท่านั้นล่ะค่ะ หลังพี่เราเลิกงานกลับบ้านมาก็ขึ้นเสียง ด่าเราฉอดๆ ขึ้นอีขึ้นกูมึ* (ตอนนั้นพ่อเราไม่อยู่ เรายืนล้างจานอยู่คนเดียว ถ้าอยู่คงมีปัญหากันแน่ค่ะ)
นี่คือคำพูดที่พี่เราพูดกับเราตอนนั้นเท่าที่จำได้นะคะพี่: อี....! มึ*เหนื่อยมากนักหรอ? เดี๋ยวแม่แฟนกูก็มาเลี้ยงแล้ว รอหน่อยไม่ได้หรอ?
เรา: (เถียงไปด้วยความโมโหเพราะก่อนหน้านี้เราก็อธิบายให้เค้าเห็นใจเราดีๆ แล้ว) ใช่หน้าที่กูหรอ? กูแค่ช่วยดู จะให้กูมาดูตลอดทุกเย็นมันก็ใช่เรื่องไหม? เด็กมันก็ต้องการความอบอุ่นจากพ่อแม่มันไหม?
พี่: อย่างกับมึ*ดูงั้นอ่ะ กูเห็นแม่ดูตลอด (ซึ่งสิ่งที่พี่เห็นคือตอนที่แม่ดูค่ะ ตอนพี่เราไม่อยู่หรือตอนแม่เรายุ่งๆ เราต้องช่วยดูตลอด ส่วนพี่เราหรอ ตั้งแต่ลูกเค้าลืมตาดูโลกไม่เคยเห็นอาบน้ำลูกเลยค่ะ)
เรา: มึ*ไม่สงสารกูก็สงสารแม่บ้างนะ เย็นมากับข้าวก็ต้องทำ ลูกมึ*ก็ต้องดู
พี่: กับข้าวทำนาน 3 ชม. เลยหรอ? ทำเป็นสงสารแม่ ถามจริงมึ*มีลูก มึ*จะให้ใครเลี้ยง? สุดท้ายก็ไม่พ้นพ่อแม่ (อย่างน้อยถ้าเรามีลูก เราบอกกับตัวเองแน่ๆ ว่าจะส่งเงินให้พ่อแม่ไม่ขาดมือ)
แล้วพี่เราก็ด่าเรายาวเลยค่ะ จับใจความประมาณได้ว่าเราไม่อยากเลี้ยงลูกเค้า เหนื่อยกับการเลี้ยงหลานมาก รังเกียจลูกเค้า จนได้ยินประโยคนึงที่ทำให้เราจุกถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่
พี่: กูมาอยู่นี่แค่อาศัยให้ลูกกูโตแค่นั้นแหละ ลูกกูโตเมื่อไหร่จะไม่ให้มาเหยียบที่นี่อีกเลย แล้วกูจะบอกกับลูกว่ามึ*ไม่ได้เป็นอา เป็นแค่คนใช้
ส่วนแฟนพี่เรานึกว่าจะเข้าใจนะคะ เปล่าเลยค่ะ นิ่งเงียบ แถมพูดอีกค่ะว่าแม่เราไม่เคยให้อะไรเค้าสองคนเลย (หรอ???)
คือที่เราร้องไห้ไม่ใช่เพราะด่ากลับไม่ได้นะคะ แต่เพราะเราเสียใจกับคำพูดพี่เรามากกว่า มันจุก มันเจ็บใจมาก ณ วินาทีนั้นไม่คิดว่านี่คือคำพูดจากคนที่เป็นพี่ คนที่เราเคยให้ความนับถือ เค้าอยากได้อะไรก็ให้เราเป็นสื่อกลางอ้อนแม่ให้ซื้อให้เค้า แต่เราซึ่งแค่ขอร้องให้แฟนเค้ากลับมาดูลูกแค่นี้ ซึ่งมันไม่ใช่ภาระเราเลยด้วยซ้ำ กลับด่าเราเหมือนเราทำผิดฆ่าคนมายังไงยังงั้น จนตอนนี้เรากับพี่เราไม่ได้คุยกันมาเกือบจะเดือนนึงได้แล้วค่ะ คือเราผิดมากเลยหรอคะที่พูดไปแบบนั้น? สมควรต้องไปง้อคุยกับเค้าก่อนมั้ยคะ? ปกติเรากับพี่จะพูดคุย หยอกล้อกันตลอด เวลาพี่เราไปไหนก็จะชวนเราเป็นคนแรก มีเงินก็เลี้ยงเราบ้างบางครั้ง (นานๆๆๆ ที) แต่พอเป็นแบบนี้ก็รู้สึกอึดอัดค่ะ แต่เราก็ยังรู้สึกเสียใจกับคำพูดพี่เราวันนั้นไม่หาย เหมือนมันติดหัวเราตลอด ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะคะ