การเดินทางครั้งนี้เกิดจาก
การเรียนวิชาท่องเที่ยวของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านฝั่งธน
โจทย์คือ " Low Price...High Experience"
.......................................................................................................
การเดินทางนี้ เราจะเดินทางด้วยเครื่องบิน รวมทั้งหมด 7 คน
ซึ่งชื่อ “ไม่ทำแล้วโปรเจคขอไปเช็คอินที่สิงคโปร์” ก็ได้มาจากที่เราเรียนอยู่ปี 4 และกำลังต้องทำโปรเจค
จึงได้กำเนิดชื่อกลุ่มนี้ขึ้นมาครับผม
การเดินทางคือ ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 27 มีนาคม พ.ศ.2560
ออกเดินทางคืนวันที่ 24 และ กลับในคืนวันที่ 27 รวมเวลาเป็น 3 วัน 3 คืน
โดยสถานที่ๆ จะไปนะครับก็มี
มัสยิดจาเมย์, วัดพระศรีมารีอัมมัน, วันพระเขี้ยวแก้ว, วัดเซียนฮกเก๋ง, Merlion park, Helix bridge,
Garden by the bay, MacRitchie Reservoirs, Bugis, Clarke Quay,
Sentosa (ไม่ได้เข้า Universal Studio), Singapore national museums
สิ่งที่ควรรู้คร่าวๆ ก่อนไปเยือนเมืองสิงโตพ่นน้ำ
1. เวลาที่สิงคโปร์เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
2. สกุลเงินใช้เป็นดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) อัตราแลกเปลี่ยน 1 SGD=24.85 THB (ประมาณ 25 THB)
3. สกุลเงินย่อยเรียกว่าเซ็น 100 เซ็น = 1 SGD
4. ปลั๊กไฟเป็นแบบ Universel แนะนำให้เตรียม Adaptor ไปด้วย
5. การเดินทางในประเทศมี 4 แบบหลักๆ คือ การเดินเท้า, MRT, รถเมย์, แท็กซี่
6. เวลาข้ามถนนจะมีสัญญาณไฟคนข้าม กดแล้วรอไฟเขียวถึงจะข้ามได้
7. ขึ้นลงบันไดชิดซ้าย ทางเดินบางที่ก็ชิดซ้าย เพราะต้องเว้นที่ให้คนที่รีบสามารถเดินทางขวาผ่านไปได้
8. ราคาน้ำเปล่าแบบเดียวกันไม่เท่ากันขึ้นกับ Location บางที่ 2 SGD บางที่ 0.3 SGD ทั้งที่ยี่ห้อเดียวกันแท้ๆ TT
9. ประเทศนี้ค่าปรับในการทผิดกฎหมายแพงมาก ควรศึกษาว่าอะไรควรทำไม่ควรทำดีๆ
สรุปค่าใช้จ่ายหลักต่อคน (บาท)
เอาละครับมาเข้าเรื่องเลยดีกว่า ทริปนี้เกิดจากคอนเซปที่ว่า “Low price high Experience” ที่เราได้เรียนในมหาวิทยาลัย เป็นวิชาที่ใช้การท่องเที่ยวเป็นสื่อกลางในการเรียนรู้ ตอนแรกชื่อประเทศนี้ไม่ได้อยู่ในหัวเลย เพราะค่าครองชีพก็สูงมากจะไป Low price ได้ไงแต่คิดดูอีกทีก็น่าท้าทายไม่น้อยกับการไปเที่ยวที่เมืองสิงโตพ่นน้ำในราคาประหยัด ที่เลือกมาสิงคโปร์ก็เพราะ เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างแต่ก็อนุรักษ์ธรรมชาติไว้อย่างดี และเป็นประเทศเล็กๆ ที่ผสมผสานความหลากหลายทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม แต่ก็สามารถอยู่รวมกันได้อย่างลงตัว
ก่อนเดินทางเราได้จองตั๋วเครื่องบินกับเว็ป Traveloka ซึ่งสะดวกและรวดเร็ว เราเลือกบินกับ Jetstar ขามา และกลับด้วย AirAsia ได้ราคาที่ 3800 บาท ซึ่งจองช้าไปนิด ถ้าตัดสินใจเร็วกว่านี้จะได้ในราคา ไป-กลับ ประมาณ 3500 เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนๆอยากไปก็ต้องรีบจองเครื่องบินนะครับ อิอิ และได้จองที่พักผ่าน Agoda เป็นที่พักแบบโฮสเทล เพราะเน้นราคาประหยัด ราคาคนละประมาณ 400 บาทต่อคืนเท่านั้น แน่ะๆ อยากไปกันแล้วใช่ม่ายย ตามมาเลยครับผม....
Day 0: Start = คืนวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2560
เริ่มจากขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไฟล์นี้เป็นไฟล์ดึก ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง แต่เมื่อตอนช่วงเย็นสายการบินก็ส่ง E-mail
มาบอกว่าเครื่องบินดีเลย์ 1 ชม. แต่มันก็เป็นขอดีครับ ที่ให้เราได้มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้นด้วย
ก็มาถึงสนามบิน Changi ของสิงคโปร์ที่ Terminal 1 มาถึงก็เวลาประมาณตี 2
ของประเทศสิงคโปร์ครับ รถเมย์หรือ MRT ก็ไม่มี เราก็เลยตัดสินใจไปถาม Graoud Transportation
ของสนามบินที่เค้าจะบริการพวกรถรับส่งนักท่องเที่ยว
เค้าก็แนะนำให้นั่งรถแทกซี่แบบลีมูซีนเพราะนั่งได้ 7 คนพอดี ลีมูซีนนี่ไม่ใช่คันสีดำๆแบบในหนังฝรั่งนะจะอารมณ์รถตู้หรูๆหน่อยแบบ
บ้านเราแหละ ราคา 60 SGD หาร 7 แล้วก็ไม่เท่าไร ซึ่ง 60 SGD จะแบ่งเป็นค่าบริการ 8 SGD และค่าคนชับ 52 SGD นั่งสบายดี
ที่สำคัญมารับตรงเวลามากๆๆๆ ส่วนคนขับก็เป็นกันเองคุยกันได้ตลอดทางเลยครับ
ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีก็มาถึงที่พัก ที่นี่เป็นแบบโฮสเทลชื่อว่า City backpacker อยู่ที่ย่าน Clarke Quay ทำเลดีมากๆ ลง
มาข้างล่างมี 7-11 เดินจากที่พักไม่ถึง 500 เมตรก็เจอสถานนี MRT สายสีม่วง สถานนี Clarke Quay (NE5) และป้ายรถเมย์
Hong Lim Pk และ Clarke Quay Stn ราคาต่อคนตกคืนละ 400 บาท ที่สำคัญมีอาหารเช้า และตู้กดน้ำให้ ซึ่งดีมาก เพราะ
ประเทศสิงคโปร์เป็นเกาะต้องนำเข้าน้ำดื่มจากประเทศเพื่อนบ้านน้ำจึงราคาแพง
แต่การพักโฮสเทลอาจต้องทำใจเรื่องการนอนรวมกับคนอื่นและห้องน้ำรวม สำหรับคนที่ไม่คิดอะไรมากก็แนะนำที่นี่เลยเดินทาง
ไปที่เที่ยวต่างๆสะดวก และราคาถูก
อีกอย่างที่เราต้องทำก็คือ ซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์นั้นเองครับ มีตัวเลือกให้เลือกว่าเราจะใช้กี่วันเราเลือกซื้อซิมการ์ดที่ร้านสะดวกซื้อเลขเจ็ด
ซิมการ์ดนี้ใช้ได้ 5 วันครับ ได้เน็ต 4 GB โทรภายในประเทศ 500 นาที โทรต่างประเทศได้ 30 นาที และส่งข้อความได้ 100 ข้อความ
เลยครับ ราคาก็อยู่ที่ 15 SGD หรือประมาณ 375 บาทของไทยนั้นเองครับ
หลังจากนั้นเราก็เก็บของเข้าที่พักก็เตรียมตัวอาบน้ำนอนพร้อมรับวันใหม่
[CR] Journey in Singapore “ไม่ทำแล้วโปรเจคขอไปเช็คอินที่สิงคโปร์”
การเรียนวิชาท่องเที่ยวของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านฝั่งธน
โจทย์คือ " Low Price...High Experience"
.......................................................................................................
ซึ่งชื่อ “ไม่ทำแล้วโปรเจคขอไปเช็คอินที่สิงคโปร์” ก็ได้มาจากที่เราเรียนอยู่ปี 4 และกำลังต้องทำโปรเจค
จึงได้กำเนิดชื่อกลุ่มนี้ขึ้นมาครับผม
การเดินทางคือ ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 27 มีนาคม พ.ศ.2560
ออกเดินทางคืนวันที่ 24 และ กลับในคืนวันที่ 27 รวมเวลาเป็น 3 วัน 3 คืน
โดยสถานที่ๆ จะไปนะครับก็มี
มัสยิดจาเมย์, วัดพระศรีมารีอัมมัน, วันพระเขี้ยวแก้ว, วัดเซียนฮกเก๋ง, Merlion park, Helix bridge,
Garden by the bay, MacRitchie Reservoirs, Bugis, Clarke Quay,
Sentosa (ไม่ได้เข้า Universal Studio), Singapore national museums
สิ่งที่ควรรู้คร่าวๆ ก่อนไปเยือนเมืองสิงโตพ่นน้ำ
1. เวลาที่สิงคโปร์เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
2. สกุลเงินใช้เป็นดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) อัตราแลกเปลี่ยน 1 SGD=24.85 THB (ประมาณ 25 THB)
3. สกุลเงินย่อยเรียกว่าเซ็น 100 เซ็น = 1 SGD
4. ปลั๊กไฟเป็นแบบ Universel แนะนำให้เตรียม Adaptor ไปด้วย
5. การเดินทางในประเทศมี 4 แบบหลักๆ คือ การเดินเท้า, MRT, รถเมย์, แท็กซี่
6. เวลาข้ามถนนจะมีสัญญาณไฟคนข้าม กดแล้วรอไฟเขียวถึงจะข้ามได้
7. ขึ้นลงบันไดชิดซ้าย ทางเดินบางที่ก็ชิดซ้าย เพราะต้องเว้นที่ให้คนที่รีบสามารถเดินทางขวาผ่านไปได้
8. ราคาน้ำเปล่าแบบเดียวกันไม่เท่ากันขึ้นกับ Location บางที่ 2 SGD บางที่ 0.3 SGD ทั้งที่ยี่ห้อเดียวกันแท้ๆ TT
9. ประเทศนี้ค่าปรับในการทผิดกฎหมายแพงมาก ควรศึกษาว่าอะไรควรทำไม่ควรทำดีๆ
สรุปค่าใช้จ่ายหลักต่อคน (บาท)
เริ่มจากขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไฟล์นี้เป็นไฟล์ดึก ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง แต่เมื่อตอนช่วงเย็นสายการบินก็ส่ง E-mail
มาบอกว่าเครื่องบินดีเลย์ 1 ชม. แต่มันก็เป็นขอดีครับ ที่ให้เราได้มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้นด้วย
ก็มาถึงสนามบิน Changi ของสิงคโปร์ที่ Terminal 1 มาถึงก็เวลาประมาณตี 2
ของประเทศสิงคโปร์ครับ รถเมย์หรือ MRT ก็ไม่มี เราก็เลยตัดสินใจไปถาม Graoud Transportation
ของสนามบินที่เค้าจะบริการพวกรถรับส่งนักท่องเที่ยว
เค้าก็แนะนำให้นั่งรถแทกซี่แบบลีมูซีนเพราะนั่งได้ 7 คนพอดี ลีมูซีนนี่ไม่ใช่คันสีดำๆแบบในหนังฝรั่งนะจะอารมณ์รถตู้หรูๆหน่อยแบบ
บ้านเราแหละ ราคา 60 SGD หาร 7 แล้วก็ไม่เท่าไร ซึ่ง 60 SGD จะแบ่งเป็นค่าบริการ 8 SGD และค่าคนชับ 52 SGD นั่งสบายดี
ที่สำคัญมารับตรงเวลามากๆๆๆ ส่วนคนขับก็เป็นกันเองคุยกันได้ตลอดทางเลยครับ
ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีก็มาถึงที่พัก ที่นี่เป็นแบบโฮสเทลชื่อว่า City backpacker อยู่ที่ย่าน Clarke Quay ทำเลดีมากๆ ลง
มาข้างล่างมี 7-11 เดินจากที่พักไม่ถึง 500 เมตรก็เจอสถานนี MRT สายสีม่วง สถานนี Clarke Quay (NE5) และป้ายรถเมย์
Hong Lim Pk และ Clarke Quay Stn ราคาต่อคนตกคืนละ 400 บาท ที่สำคัญมีอาหารเช้า และตู้กดน้ำให้ ซึ่งดีมาก เพราะ
ประเทศสิงคโปร์เป็นเกาะต้องนำเข้าน้ำดื่มจากประเทศเพื่อนบ้านน้ำจึงราคาแพง
แต่การพักโฮสเทลอาจต้องทำใจเรื่องการนอนรวมกับคนอื่นและห้องน้ำรวม สำหรับคนที่ไม่คิดอะไรมากก็แนะนำที่นี่เลยเดินทาง
ไปที่เที่ยวต่างๆสะดวก และราคาถูก
อีกอย่างที่เราต้องทำก็คือ ซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์นั้นเองครับ มีตัวเลือกให้เลือกว่าเราจะใช้กี่วันเราเลือกซื้อซิมการ์ดที่ร้านสะดวกซื้อเลขเจ็ด
ซิมการ์ดนี้ใช้ได้ 5 วันครับ ได้เน็ต 4 GB โทรภายในประเทศ 500 นาที โทรต่างประเทศได้ 30 นาที และส่งข้อความได้ 100 ข้อความ
เลยครับ ราคาก็อยู่ที่ 15 SGD หรือประมาณ 375 บาทของไทยนั้นเองครับ
หลังจากนั้นเราก็เก็บของเข้าที่พักก็เตรียมตัวอาบน้ำนอนพร้อมรับวันใหม่
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น