[CR] [PanGeataround] พาเดินลัดตรอก ไปเที่ยวตลาดน้อย ย่านเก่าเล็กๆ ในกรุงเทพ

พาไปเดินเล่นย่านตลาดน้อยกันค่ะ เคยไปกินข้าวแถวท่าน้ำสี่พระยา ระหว่างรอเพื่อน ลองเดินเล่นแถวๆนั้น ก็เลยรู้ว่าแถวนั้นมีน่าไปหลายแห่ง
แหล่งของกินก็มีเยอะ แต่ตอนไปตอนนั้น เป็นวันอาทิตย์ ร้านรวงปิดหมด เลยขอติดไว้ก่อนไว้ต้องกลับไปอีกแน่

วันเมษาวันหยุดเยอะ เราเลยไป 6 เมษา ซะเลยเมษาพาสุกของแท้ด้วย ปีนี้ ไปเดินเล่นในเมืองกันค่ะ

ทริปเดินเล่นตลาดน้อยในหนึ่งวัน  ก็ต้องมา


ย่านตลาดน้อยจากประวัติเป็นชุมชนชาวจีนที่ขยายมาจากสำเพ็ง ธุรกิจหลักแถวนี้สมัยก่อน  ก็เป็นเชียงกง ที่ตอนนี้ยังมีร้านเหลือพอให้เห็นบ้างค่ะ


แผนที่ตลาดน้อยจากเวบชิลไปไหน


ไม่คุ้นเคยย่านนี้เลย ถ้าต้องไปแถวนั้นก็ใช้รถสาธารณะตลอดนั่งรถต่อเรือเอา อย่างครั้งนี้ จอดรถไว้ที่ทำงานแล้วก็นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีตากสินเพราะเพื่อนอยากลงเรือด่วนเจ้าพระยาบ้าง เพิ่งรู้ว่าเรือด่วนเจ้าพระยาคนแน่น รอ2รอบถึงจะได้ขึ้นจากท่าน้ำสาทร เราไปกับเรือธงส้ม 2 ป้ายถึงแหละ


ค่าเรือจากท่าสาทร ไปสี่พระยา 15 บาท สองป้ายเอง



คนใช้บริการเยอะเลย รอสองรอบถึงได้ขึ้นค่ะ



ดูวิวได้แป๊ปเดียว ก็ถึงสี่พระยาแล้ว


และแล้วก็ถึงท่าน้ำสี่พระยา จากท่าน้ำสี่พระยา ก็เดินเลาะมาตรงถนนเจริญกรุง ก็ถึงเป้าหมายแรกที่เราหมายตาไว้
ร้านก๋วยเตี๋ยว เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง อิอิ ร้านก๋วยเตี๋ยวรู

ร้านก๋วยเตี๋ยวรู



แค่เห็นหน้าร้านกับเครื่องก็เห็นถึงความอร่อย ที่ชื่อก๋วยเตี๋ยวรูเพราะมาจาก ร้านที่เหมือนอยู่ในตรอกแคบๆ
แต่ว่าพอเดินเข้าไปร้าน ข้างหลังมีห้องแอร์ ที่นั่งเยอะอยู่นะคะ ไม่ได้เล็กเหมือนปากทางเข้า ระหว่างเดินเข้าร้านแอบดูโต๊ะข้างๆว่าเขากินอะไรกัน
เลยเล็งกันไว้ว่าอยากกินบะหมี่ พวกเราสั่งบะหมี่ต้มยำแห้ง กับ ต้มยำน้ำ รสชาติต้มยำธรรมดาไม่ได้จัดจ้านมาก
แต่ที่เราชอบเป็นเครื่องเขา เครื่องโดยเฉพาะลูกชิ้นกุ้งอร่อย เครื่องให้เยอะอยู่ค่ะ


บะหมี่แห้งต้มยำ



บะหมี่ต้มยำน้ำ



เกี๊ยวทอดเขาเสริฟมากับน้ำจิ้มที่น่าจะทำมาจากมะขามเปียกับน้ำพริกเผา รสชาติเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ อร่อยดีค่ะ
แล้วก็ชอบกินพร้อมก๋วยเตี๊ยวด้วย  

ออกจากร้าน ก๋วยเตี๋ยวรูเดินไปได้ไม่เท่าไหร่ก็เจอร้านขนมปังปิ้ง ที่น่าลองอีกแล้ว ขนมปังปิ้งรถเข็น ที่ปิ้งแบบเตาถ่านด้วย
เขามีหลายหน้าให้เลือก  เผลอสั่งเป็น สองแผ่น ช๊อคโกแลตกับเนยนม ได้ข่าวว่าเพิ่งกินข้าวไป


ขนมปิ้งหอมๆ เกรียม ๆ กรอบๆ มาแล้ววววววว




พวกเราก็เดินดูบ้านดูตึกไป เพราะเป็นวันหยุดร้านก็ไม่ได้เปิดเยอะเท่าไหร่ เราก็ไม่ค่อยได้ผ่านแถวนั้นก็เลยไม่รู้ว่า แถวนั้นวันธรรมดาคึกคักแค่ไหนห้องแถวแบบเก่าๆ ยังมีให้เห็นเยอะนะคะ


มุมนี้นึกถึงภูเก็ตเลย


พวกเราเดินมาถึงถนนทรงวาด  ถนนทรงวาดสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ที่ท่านให้สร้างขึ้น หลังจากสำเพ็งถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่
เป็นถนนสายเศรษฐกิจในสมัยนั้นเลย


เดินมาเรื่อยก็มาเจอร้านกาแฟปากซอยเจริญพานิชย์ ที่เป็นเกสเฮาส์ด้วย เพิ่งเปิดได้ 1 ปี

Bangkok Story





เขาให้ดูรูปเกสเฮาส์ด้วย เป็นเกสเฮาส์ที่เป็น Dorm แยก หญิง ชาย  ราคาไม่แพงมาก
ต่างชาติน่าจะชอบเพราะย่านนี้ก็มีที่เที่ยวเยอะอยู่ค่ะ แล้วจากที่นี่ก็เดินไป MRT หัวลำโพงไม่ไกล



เขามีกาแฟ อาหาร แล้วก็พวกเครื่องดื่มขาย เมนูอาจจะไม่เยอะมาก แต่ร้านน่ารักดี นั่งกินเพลินดูคนผ่านไปผ่านมา


ฺBangkok Story Coffee



แล้วเขาก็มีเบียร์ของไทยแปลกๆ เยอะเลยค่ะ เค้าขอหน่อย อยากลองชิม


Beer Phuket ใน Bangkok




หลังจากพักจนหายร้อนแล้ว ก็ไปอีกร้านที่เป็นร้านเก่าแก่คู่ตลาดน้อยมา

ขนมเปี๊ยเฮียบเตียง



ร้านที่อยู่คู่ตลาดน้อยมา 60 ปี เจ้าของร้านเป็นอากงอาม่าใจดี ตอนเราไปให้ลองชิมหลายอย่างเลยค่ะ ขนมก็เป็นพวกถั่วตัด ขนมเปี๊ยะ
ที่ทำสดใหม่ๆ ตลอด พี่ข้างบ้านไปตอนเราอยู่บอกว่า ลูกหลานอยากให้อยู่บ้านเฉยๆ ก็ไม่ยอม แกอยากทำ จะได้แข็งแรง แต่อากงอาม่าแข็งแรงแล้วก็คุยเก่งจริงๆค่ะ




อันนี้เป็นถั่ว น้ำตาล ทำน่ารักก



เขาบอกช่วงตรุษจีนทำแทบไม่ทันเลย



ทำด้วยความชำนาญ




เราซื้อขนมติดไม้ติดมือมาคนละถุงสองถุง ก็ลาอาม่ากลับ น่ารัก

ที่หมายต่อไป ที่จากรีวิวต้องไป หลงบ้าง ถามเขาบ้าง ทางมันซับซ้อนจริงๆ ค่ะ ระว่างทางเราก็ทึ่งไปกับถนนแคบๆ ว่าเขาเอารถเข้ารถออกกันยังไงฝีมือการขับรถของคนแถวนี้ต้องไม่เป็นสองรองใคร

บ้านโซวเฮงไถ่ หรือ บ้านดวงตะวัน


เป็นคฤหาสน์จีนอายุมากกว่า 200 ปี เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ฮกเกี้ยน  ที่สร้างขึ้น โดยต้นตระกูล โปษจินดา
บ้านมี 4 หลัง ประกอบกัน เขาบอกตัวเรือนบ้านไม่ได้ใช้ตะปูในการเชื่อมกันเลย  สมัยก่อนแถวนี้คงรุ่งเรืองมากจริงๆ
สมัยก่อนบ้านตรงกลางจะเป็นต้นไม้ใหญ่ (อ่านมา) แต่ตอนนี้เขาสร้างเป็นสระน้ำ เพราะที่บ้านได้เปิดเป็นโรงเรียนสอนดำน้ำด้วย


แค่ประตูเขาก็เหมือเรากำลังหลุดเข้าไปในหนังจีนเลย


เราสามารถเข้าชมบริเวณบ้านได้ เพราะเขาเปิดเป็นร้านขายน้ำด้วย ค่าบำรุงรักษาบ้านสูงมากก็
อย่าลืมอุดหนุนเขานะคะ






ตอนไปมีสอนเรียนดำน้ำพอดี เห็นแล้วก็อยากเรียนขึ้นมาอีก  


เมนูเขามีพวกกาแฟ น้ำปั่น โซดา นั่งพักกินให้หายร้อน ดูเขาสอนดำน้ำไปเพลินๆ ด้วย  ค่าเรียนดำน้ำหมื่นกว่าบาท
สอนจนได้ในประกาศ



เราก็ถ่ายมุมนู้นนี่ของเขา ไปเรื่อยๆ มีบ้างมุมที่เขาไม้ให้ถ่ายอย่างมุมทีเป็นภาพบรรพบุรุษเขาหนะคะ






แล้วเราก็เดินไปท่าน้ำ เริ่มเย็นแล้ว ระหว่างทางก็มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเลย


รถคันนี้ใครมาก็ถ่ายกันทุกคนเลย



แถวนี้ มี Street Art เยอะ



ก่อนถึงท่าเรือ เราก็แวะ ธนาคารไทยพานิชย์สาขาตลาดน้อยกันหน่อย แต่ว่าเป็นวันหยุดเขาก็เลยไม่เปิดให้เข้าไปข้างหน้า ได้แต่ถ่ายข้างๆ


ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย ถือเป็นสำนักงานแห่งแรก หลังจากที่มีการก่อตั้ง “บริษัทแบงก์สยามกัมมาจลทุนจำกัด”  ในปี พ.ศ. 2451  เสียดายไม่ได้เข้าไป เห็นแต่ข้างๆ อยากเห็นต้นไกรที่สวยๆ กับเขาบ้าง

ถัดจาก ธนาคารก็เป็น โบสถ์กาลหว่าร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ รัชกาลที่ 1 ตอนเราไป เขามีกิจกรรมเลยได้ดูแต่ข้างนอก




โบสถ์แห่งนี้มีจุดเด่นที่สำคัญคือ รูปปั้น 2 รูปซึ่งเป็นสมบัติเก่าแก่ตั้งแต่การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ได้แก่ "รูปแม่พระลูกประคำ" และ "รูปพระศพของพระเยซูเจ้า" โดยทั้งหมดนี้ยังคงเก็บรักษาและใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาจนถึงปัจจุบันนี้ (วิกิพีเดีย)

ก่อนกลับขอทิ้งท้ายด้วยข้ามเรือไปท่าเรือคลองสานขอไปกินบัวลอยหน่อย บัวลอยไข่หวาน

อิ่มท้องด้วยความเพลิดเพลิน รีวิวให้เพื่อนเป็นทางเลือกอีกทางนะคะ  

ชื่อสินค้า:   ตลาดน้อย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่